เขตคุน,เมืองไท่ซวน
ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลกำแพงเมืองเหล็กกล้าตั้งตระหง่านอลังการ
จากระยะไกลเมืองนี้ราวกับอสูรโบราณหมอบนอนเป็ภาพอันยิ่งใหญ่ตระการตา
ในย่านที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง,
คฤหาสน์อันงดงามโอ่อ่าตั้งเด่นโถงเรือนดุจป่าใหญ่ทิวทัศน์งามราวภาพวาดเปล่งรัศมีของตระกูลอันยิ่งใหญ่
นี่คือตระกูลซูหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองไท่ซวน
ในขณะนี้ ณ ส่วนลึกของคฤหาสน์ตระกูลซู
ชายหนุ่มรูปงามแม้ยังไม่อาจเทียบกับผู้อ่านผู้ยิ่งใหญ่นั่งพิงเก้าอี้มือกดขมับพึมพำกับตัวเอง
“หลังจากข้ามมิติมานานนับปีไม่คาดคิดว่าวันนี้จะตระหนักถึงความทรงจำจากชาติก่อน…”
เขาคือซูเซวียนในชาติก่อนเขาเป็เพียงพนักงานออฟฟิศธรรมดาบนดาวสีครามวันหนึ่งขณะเดินอยู่บนถนนเขาถูกกระถางดอกไม้ตกลงมาจากฟากฟ้าโดยตรง
จากนั้นเขาก็ข้ามมาสู่ "โลกเซวียนฮวน"
จนกระทั่งวันนี้เขาเพิ่งได้ความทรงจำจากชาติก่อนมา
ตัวตนปัจจุบันของเขาคือประมุขตระกูลซูหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองไท่ซวนและขอบเขตการบ่มเพาะของเขาได้บรรลุถึงจุดสูงสุดของขั้น9ของขอบเขตตำหนักม่วง
ขอบเขตการบ่มเพาะแบ่งออกเป็: ขอบเขตกายหยาบ, ขอบเขตกำเนิด, ขอบเขตรวบรวมหยวน,ขอบเขตหยวนตัน, ขอบเขตตำหนักม่วง, ขอบเขตเทวรูป, ขอบเขตถ้ำ์, ขอบเขตตำหนักเทพ, ขอบเขตแท่นเต๋า, ขอบเขตนิพพาน, ขอบเขตราชัน, ขอบเขตนักบุญ, ขอบเขตจักรพรรดิ, ะ, ราชันะ, จักรพรรดิะ...
จุดสูงสุดของขอบเขตตำหนักม่วงนั้นนับว่าเป็ยอดเขาในเมืองไท่ซวน.
ทว่าซูเซวียนรู้ดีว่าแม้จุดสูงสุดของขอบเขตตำหนักม่วงจะน่าเกรงขามในเมืองไท่ซวนแต่เมื่อมองในบริบทของโลกเซวียนฮวนมันเป็เพียงผู้ที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาผู้อ่อนแอ
มันยังไม่เพียงพอ
“หนทางข้างหน้ายังยาวไกลและยากลำบาก…”
ซูเซวียนพึมพำรู้สึกถึงอนาคตอันไม่แน่นอน
และขณะที่เขากำลังครุ่นคิดถึงเส้นทางข้างหน้า
ทันใดนั้นเสียงอันไพเราะลึกลับดังก้องในส่วนลึกของจิตใจเขา
【ติ้ง!】
【ผูกมัดระบบสำเร็จ!】
【ระบบจับสลากขั้นเทพพร้อมให้บริการ!】
เมื่อได้ยินเสียงนี้ใบหน้าของซูเซวียนฉายแววดีใจในฐานะ ‘นักอ่าน’ ผู้ผ่านนิยายนับพันเล่มบนแฟนฉีเขาย่อมรู้ว่าระบบคืออะไร
“ระบบ เ้ามาถึงเสียที!”
แท้จริงแล้วในฐานะผู้ข้ามมิติระบบนิ้วทองย่อมเป็สิ่งจำเป็นิยายไม่ได้หลอกข้าเสียจริง
ในทันทีซูเซวียนเริ่มทำความเข้าใจระบบจับสลากขั้นเทพนี้อย่างกระตือรือร้น
มันง่ายมาก:เป็การจับสลากและเขาสามารถจับสลากได้วันละครั้ง
การจับสลากสามารถให้รางวัลเป็พลังบ่มเพาะ,ร่างกาย, สายเื และอื่นๆสรุปคือครอบคลุมทุกสิ่ง
ไม่มีลูกเล่นหวือหวาเน้นความเรียบง่ายและตรงไปตรงมา
“ดีมากข้าชอบแบบนี้.”
ซูเซวียนไม่ชอบระบบนิ้วทองที่ออกภารกิจหรือมีฟังก์ชันหวือหวาต่างๆแค่คิดก็รู้สึกยุ่งยาก
แบบนี้ดีกว่ามาก
ในขณะนั้นเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น
【้าจับสลากวันนี้หรือไม่?】
ซูเซวียนไม่ลังเลเลือก ‘ใช่’ ทันที
วินาทีต่อมาหน้าจอจับสลากที่คุ้นเคยปรากฏต่อหน้าเขาคล้ายกับหน้าจอจับสลากจากชาติก่อน
เงานับไม่ถ้วนพุ่งผ่านอย่างรวดเร็วเขามองไม่ทัน
สุดท้ายภาพหยุดนิ่ง
【ติ้ง! ขอแสดงความยินดีที่จับได้ ‘บัตรเลื่อนขั้นราชันะ’!】
【คำแนะนำ:บัตรเลื่อนขั้นราชันะ เมื่อใช้แล้วพลังบ่มเพาะ,ิญญา,ร่างกาย,กฎเต๋า และอื่นๆจะยกระดับสู่ขอบเขตราชันะ!】
ซูเซวียนอุทาน “์!”
เลื่อนขั้นสู่ราชันะั้แ่เริ่ม!
นี่มันเกินไปราวกับความไร้เหตุผลเปิดประตูให้ความไร้เหตุผลไร้เหตุผลสุดขีด!
เดิมทีซูเซวียนวางแผนจะบ่มเพาะอย่างเงียบๆหลังได้ระบบจับสลากนี้ค่อยๆทะลวงและพัฒนาทีละขั้น
แต่กลับกลายเป็ได้ไพ่ตองั้แ่เริ่มทำให้ผู้คนสมองชาไปถึงขีดสุด
แน่นอน
หลังจากใซูเซวียนยิ้มกว้างมุมปากยกสูงยิ่งกว่าปืนเอเคหนึ่งแสนกระบอก
ท้ายที่สุดหากสามารถกลายเป็ราชันะได้ในคลิกเดียวใครจะอยากบ่มเพาะอย่างช้าๆและทะลวงทีละขั้น?
ราชันะคือผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดทรงพลังเกินกว่าจักรพรรดิเสียอีก.
อย่าว่าแต่จักรพรรดิแม้แต่ะแท้จริงก็เปรียบดังมดต่อหน้าราชันะ
และในโลกนี้จักรพรรดิคือจุดสูงสุดส่วนขอบเขตะได้กลายเป็ตำนานในตำนานไปแล้ว
หากก้าวสู่ขอบเขตราชันะเห็นได้ชัดว่าจะไร้เทียมทานในโลก!
ต่อมา
ซูเซวียนไม่ลังเลด้วยความคิด
แสงสว่างเจิดจรัสพุ่งออกจากหน้าจอจับสลากและหลอมรวมเข้ากับร่างเขา
ในชั่วขณะนั้นซูเซวียนรู้สึกถึงพลังอันกว้างใหญ่ลึกซึ้งเกินหยั่งถึงโอบล้อมและหลอมรวมกับตัวเขา
กระบวนการทั้งหมดไร้ความเ็ปหรือไม่สบายราวกับอาบแสงตะวันในฤดูใบไม้ผลิอบอุ่นและสบายอย่างยิ่ง
ทำให้ผู้คนจมดิ่งและไม่อยากจากไป
ค่อยๆซูเซวียนรู้สึกว่าเขาได้รับการยกระดับสูงสุดเหนือฟ้าดินเหนือกาลเวลาเหนือทุกสิ่ง!
หลังจากเวลาผ่านไปไม่รู้เท่าใดซูเซวียนค่อยๆลืมตาดวงตาของเขาคล้ายมีภาพดวงอาทิตย์และจันทราโคจรอยู่โลกกำเนิดและล่มสลาย
และในขณะนี้
เขาไม่ใช่ผู้อ่อนแอเช่นก่อนหน้าแต่เป็ราชันะผู้อยู่บนจุดสูงสุดของเต๋า!
เพียงกวาดสายตาทุกสิ่งในโลกนี้ปรากฏชัดต่อหน้าเขาปราศจากความลับ
แม้แต่ความโกลาหลไร้ขอบเขตภายนอกโลกก็มองเห็นได้อย่างสมบูรณ์
“นี่คือความรู้สึกของการไร้เทียมทานหรือ?”
ซูเซวียนรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกมเวอร์ชันถอดรหัสลับในชาติก่อน
แต่ความรู้สึกนี้ยอดเยี่ยม
...
อีกด้านหนึ่ง,
นอกตระกูลซูแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยือน
ตูม! ตูม! ตูม...
พลังปราณพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้าทะลวงเมฆเขย่าขอบเขตนภานับพันลี้สั่นะเืฟ้าดิน.
เหนือคฤหาสน์ตระกูลซูอันกว้างใหญ่ร่างเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นทีละคน
แต่ละร่างที่ปรากฏมาพร้อมพลังปราณอันน่าตื่นตะลึงปราบปรามจักรวาลกระจายไปทุกทิศ!
ในพริบตาพวกเขาท้องฟ้า
ไม่ต้องสงสัยตระกูลซูสั่นะเื
ทั้งสมาชิกตระกูลทั่วไปและผู้าุโระดับสูงต่างระดมพลในขณะนี้
มองฝูงชนหนาแน่นบนท้องฟ้าสีหน้าพวกเขาเปลี่ยนไป
“ตระกูลจ้าว! ตระกูลหวู่! ตระกูลหลี่!”
“พวกเ้าบ้าไปแล้วหรือกล้ามารุกรานตระกูลซูของข้า!?”
ผู้าุโใหญ่ตระกูลซู ซูเทียนิคำรามลั่น
ตระกูลซู,ตระกูลจ้าว,ตระกูลหวู่,และตระกูลหลี่ ล้วนเป็หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองไท่ซวนแม้จะมีข้อพิพาทบ้างเป็ครั้งคราวแต่ไม่เคยถึงจุดแตกหักขนาดนี้
ใครจะคิดว่าในวันนี้สามตระกูลนี้จะมาร่วมมือกัน?
สิ่งที่ทำให้ซูเทียนิใยิ่งกว่าคือสามตระกูลนี้ระดมสมาชิกที่มีพลังรบทั้งหมดแต่ละคนเต็มไปด้วยจิตสังหารราวกับตั้งใจจะกำจัดตระกูลซูให้สิ้น!
เหนือเมฆประมุขของตระกูลจ้าว,ตระกูลหวู่,และตระกูลหลี่ยืนเคียงบ่าแต่ละคนบรรลุจุดสูงสุดของขั้น9ขอบเขตตำหนักม่วง.
ดวงตาของพวกเขาเย็นเยียบจิตสังหารเข้มข้นไม่อาจปกปิดขณะมองลงมา
“ผู้าุโใหญ่เทียนิอย่าโทษพวกเราเลยพวกเราเพียงปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักปี้เซวียน”
“วันนี้ตระกูลซูต้องถูกทำลาย!”
เมื่อคำพูดนี้ดังออกมา
ผู้าุโใหญ่ซูเทียนิและสมาชิกตระกูลซูคนอื่นๆต่างแสดงสีหน้าไม่อยากเชื่อ
สำนักปี้เซวียนคือขุมอำนาจยิ่งใหญ่ที่ปกครองดินแดนนับแสนลี้ศิษย์มากมายราวฝูงปลาผู้แข็งแกร่งมากมายดุจป่าใหญ่และมียอดฝีมือขอบเขตนิพพานประจำการอยู่
อย่าว่าแต่ตระกูลซูเพียงหนึ่งแม้ร้อยตระกูลซูก็เปรียบดังมดแมลงต่อหน้าพวกเขา
ตระกูลซูจะไปล่วงเกินั์ใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไรกล้าดียังไงมาแตะต้อง!
ขณะที่ซูเทียนิกำลังจะเอ่ยอีกครั้งประมุขทั้งสามโบกมือ
วินาทีต่อมาด้านหลังพวกเขาฝูงชนหนาแน่นของสามตระกูลแต่ละคนถืออาวุธคมกริบพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว.
พวกเขาพุงทยานดุจกระแสน้ำเชี่ยวราวทะเลปีศาจบดขยี้ทุกสิ่งจนไม่อาจต้านทาน!
ภาพนี้ทำให้สีหน้าสมาชิกตระกูลซูซีดเผือดดุจมดพยายามเขย่าต้นไม้
แต่ไม่มีใครถอยเพราะด้านหลังคือบ้านของพวกเขา!
และขณะที่สมาชิกและผู้นำระดับสูงตระกูลซูกำลังเตรียมสู้ตาย
ทันใดนั้น,
สิ่งน่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้น
ตูม—!
สมาชิกของสามตระกูลที่พุ่งเข้ามาและประมุขทั้งสามที่ยืนบนเมฆ
วินาทีต่อมาพวกเขากลับร่วงลงจากฟ้าคุกเข่าบนพื้นไม่สามารถขยับได้แม้แต่เสี้ยว!