" ข้าทำเองได้" ฉือหางกระถดถอยร่างตัวเองไปด้านหลังแล้วแก้มัดผมของตนเอง
หลินกู๋หยู่มองท่าทีของเขาเช่นนี้ก็รีบเดินเข้าไปในบ้าน นางออกมาอีกครั้งพร้อมหวีในมือ
"ข้าใกล้จะจัดผมเสร็จแล้ว" ฉือหางรวบรวมผมส่วนหน้าทัดไปที่้าศีรษะของเขาอย่างลนลาน พยายามมัดมันไว้
"เ้าอย่าขยับ"
เห็นวิธีมัดผมของฉือหางแล้วหลินกู๋หยู่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ความจริงนางชอบที่เขาเกล้าผมสูงแล้วปล่อยปอยผมเล็กน้อย เขาดูสบายๆ ใบหน้าที่แข็งกระด้างของเขาดูเหมือนจะอ่อนโยนลงมาก
หลินกู๋หยู่ช่วยเขาสางผมเบาๆ ผมในมือทั้งดำและหนา รวบผมด้านหน้าทั้งหมดเกล้าขึ้นมัดอย่างระมัดระวังและปล่อยผมส่วนหนึ่งไว้ด้านหลัง
การไปที่ร้านอาหารเช่นนั้น ถ้าไม่ทำตัวให้สะอาดเรียบร้อย จะทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีเอาได้
เมื่อหลินกู๋หยู่มัดผมของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉือหางก็ยืนขึ้นอย่างเกร็งๆ จับมือของโต้ซาที่อยู่ข้างๆ "งั้นข้าไปแล้ว?"
หลินกู๋หยู่มองที่ร่างของฉือหางครู่หนึ่ง นางก้าวไปข้างหน้าช่วยเขาจัดเสื้อผ้าให้เป็ระเบียบอย่างเป็ธรรมชาติ จากนั้นถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วพูดด้วยความพึงพอใจว่า "อืม"
ฉือหางรู้สึกสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับการกระทำของนาง
ถ้านางไม่อยากอยู่กับเขา ทำไมนางถึงช่วยหวีผมและจัดเสื้อผ้าให้เขา
หากจะบอกว่านางเต็มใจที่จะอยู่กับเขา แต่เมื่อเขาจะไปทานข้าวกับคนอื่น นางกลับไม่มีปฏิกิริยา
ฉือหางอุ้มโต้ซาในอ้อมแขนเดินออกไปข้างนอก เขาครุ่นคิดไปตลอดทาง กระทั่งไปถึงร้านอาหาร เขาก็เริ่มลังเลเล็กน้อย
บรรดาลูกค้าที่เข้าออกจากร้านล้วนแต่สวมไหมแพร ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คนยากจนอย่างเขาจะสามารถเข้าไปได้
การเชิญมาทานอาหารที่นี่ดูจะแพงเกินไป ในความคิดของฉือหาง เชิญเขาทานอย่างอื่นที่เรียบง่ายก็เพียงพอแล้ว
เมื่อคิดเช่นนี้ ความรู้สึกไม่อยากเข้าไปก็เพิ่มมากขึ้น เขาหันหลังกลับมาพร้อมกับโต้ซาในอ้อมแขน กำลังจะจากไป
“คุณชายฉือ”
ในขณะที่ฉือหางกำลังจะเดินจากไป จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เขาหันศีรษะกลับไป เป็คนรับใช้หนุ่มที่ไปบ้านเขา เมื่อสองวันก่อน
ฉือหางอุ้มโต้ซาอย่างอึดอัด หันศีรษะไปมองที่ชายหนุ่ม
"ท่านเข้ามาเร็วเข้า" เสี่ยวซืออดไม่ได้ที่จะเชิญฉือหางเข้าไปด้านใน "คุณหนูมารอท่านพักใหญ่แล้ว"
เมื่อได้ยินสิ่งที่เสี่ยวซือพูด ฉือหางก็กัดฟันฝืนเดินเข้าไป
สภาพแวดล้อมภายในร้านเต็มไปด้วยเสียงดังครื้นเครง ชายหนุ่มละล้าละลังเล็กน้อย
โต้ซายิ่งไม่คุ้นเคยกับการอยู่กับผู้คนเป็คนจำนวนมาก สองแขนกอดลำคอของฉือหางแน่น ศีรษะเล็กๆ ขดซบตัวอยู่บนร่างของฉือหาง
ฉือหางตบที่แผ่นหลังของโต้ซาเบาๆ สองครั้งเพื่อปลอบประโลม
เจียงโหรวจองห้องส่วนตัวไว้โดยเฉพาะพลันได้ยินเสียงเคาะประตู "คุณหนู บ่าวพาคุณชายฉือมาแล้ว"
"เข้ามา!" เจียงโหรวพูดเบาๆ เอื้อมมือไปหยิบถ้วยตรงหน้านาง จิบอึกหนึ่งแล้ววางลง
เจียงโหรวลุกขึ้นมองที่ประตู ฉือหางยืนอยู่ที่ประตูโดยมีโต้ซาอยู่ในอ้อมแขน
สายตาของเจียงโหรวตกลงไปที่เด็กในอ้อมแขนของฉือหาง คิ้วของนางขมวดเล็กน้อย ก่อนมุมปากของนางค่อยๆ โค้งขึ้น
"คุณชายฉือ เชิญนั่ง" เจียงโหรวชี้นิ้วไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
เนื่องจากซิ่งฮวาสาวรับใช้คนสนิทยังไม่หายจากอาการาเ็ นางจึงพาสาวใช้ระดับสองจากเรือนของนางมาด้วย
ฉือหางพยักหน้าเล็กน้อย พูดอย่างสุภาพว่า "ขอบคุณ"
ฉือหางวางโต้ซาที่อยู่ในอ้อมแขนลงบนเก้าอี้ข้างๆ เขา
เด็กน้อยอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ อย่างมาก เขายื่นมือออกไปจับตะเกียบ เมื่อนึกถึงท่าทางจับตะเกียบของหลินกู๋หยู่ เขาก็พยายามที่จะจับตะเกียบอย่างสุดความสามารถ
ฉือหางวางตะเกียบในมือของโต้ซาไว้ข้างๆ เขารู้สึกกระอักกระอ่วนหลายส่วน
"เ้าอยากทานอะไรหรือ?" เจียงโหรวเอียงศีรษะมองไปที่ฉือหาง จากนั้นมองไปที่โต้ซา "นี่คือลูกของเ้าใช่หรือไม่?"
"ใช่" ฉือหางมองไปที่ดวงตากลมโตของโต้ซา รอยยิ้มระหว่างคิ้วและดวงตาของเขาชัดเจนขึ้น จากนั้นเขาก็เอ่ยต่อ "บะหมี่สักชามดีหรือไม่?"
เจียงโหรวมองไปที่ฉือหางด้วยความประหลาดใจ เอื้อมมือไปจับมือเล็กๆ ของ โต้ซา "เ้าอยากทานอะไรหรือ?"
ลูกตาสีดำที่คล้ายลูกองุ่นของโต้ซากลอกลิ้งมองเจียงโหรวโดยไม่กะพริบ มุมปากของเด็กน้อยค่อยๆ เปิดออก เปล่งเสียงอย่างขี้อาย "ท่านน้า?"
เมื่อได้ยินคำพูดของโต้ซา หัวใจของเจียงโหรวก็อ่อนระทวย ทำไมเด็กคนนี้ถึงดูเชื่อฟังเช่นนี้
เจียงโหรวยื่นมือแตะที่ศีรษะของโต้ซาพลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "เ้าอยากกินอะไร น้าจะซื้อทุกอย่างที่เ้าอยากกินเอง"
“ชอบกินทุกอย่างที่ท่านแม่ทำ” โต้ซาพูดอย่างจริงจัง ดวงตาทั้งสองข้างของเด็กน้อยหรี่ยิ้มประดุจรูปจันทร์เสี้ยว
สีหน้าของเจียงโหรวชะงักงันชั่วขณะ นางพูดกับสาวใช้ที่อยู่ด้านข้างว่า "สั่งอาหารตามที่ข้าสั่งก่อนหน้าหนึ่งชุด เพิ่มไก่เผ็ด ปลาไนเปรี้ยวหวานและซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน"
“เ้าค่ะ”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่เจียงโหรวพูด ฉือหางพูดอย่างกังวลหลายส่วน "สั่งมากเพียงนี้ ทานไม่หมดเป็แน่ ไม่จำเป็ต้องสั่งมากเพียงนั้น"
สาวใช้ที่ประตูวางมือบนบานเลื่อน หันกลับมามองที่เจียงโหรว
“สั่งให้เ้าไป ยังไม่รีบไปอีก!” เจียงโหรวพูดอย่างโกรธเคือง
“เ้าค่ะ” สาวใช้เอ่ยตอบแล้ววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ฉือหางถอนหายใจเบาๆ และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า "มันแพงเกินไป"
"ข้าเชิญเ้ามาทานอาหารเย็น" เจียงโหรวพูดอย่างไม่เดือดร้อน สายตาของนางจับจ้องไปที่โต้ซา ซึ่งกำลังเล่นกับถ้วย "ลูกเ้าทั้งอวบ ทั้งขาว ดูเหมือนว่าเ้าจะเลี้ยงได้ดี"
ฉือหางชำเลืองมองโต้ซา หยิบของในมือของโต้ซาออกไปวางด้านข้าง "ปกติข้าไม่ค่อยดูแลเขา กู๋หยู่เป็คนดูแลเขาทั้งหมด"
กู๋หยู่?
หลินกู๋หยู่งั้นหรือ?
เจียงโหรวจำได้ว่า คนที่ไปสืบข่าวเกี่ยวกับครอบครัวสกุลฉือบอกว่าสตรีที่แต่งกับฉือหางชื่อหลินกู๋หยู่
แต่ทำไมวันนั้นเขาถึงดูไม่มั่นใจเมื่อพูดถึงหลินกู๋หยู่
อาหารถูกจัดขึ้นโต๊ะอย่างรวดเร็ว เจียงโหรวชี้ไปที่อาหารอร่อยต่างๆ บนโต๊ะ "เชิญ"
ฉือหางเคยเห็นอาหารมากมายขนาดนี้มาก่อนเสียที่ไหน เขาแค่รู้สึกว่ามันสิ้นเปลืองเกินไป
โต้ซาตัวเล็กเท่านี้ย่อมไม่สามารถทานได้มาก เขาเองก็ไม่สามารถทานได้มากขนาดนั้น
ฉือหางทอดถอนหายใจเบาๆ จากนั้นคีบขึ้นมาเล็กน้อย ใส่ลงในชามเล็กๆ ข้างหน้าโต้ซา
โต้ซายังใช้ตะเกียบไม่เป็ แต่เขาสามารถใช้ช้อนได้อย่างมั่นคง
อีกด้าน หลินกู๋หยู่ทำบะหมี่หนึ่งชามอย่างเรียบง่าย
เมื่อนึกถึงวันข้างหน้าที่นางจะทำเสื้อกันหนาวได้มากกว่านี้ มุมปากของหลินกู๋หยู่อดไม่ได้ที่จะขดตัวโค้งขึ้น หน้าหนาวปีนี้ไม่ต้องกังวลเื่ความหนาวอีกต่อไปแล้ว
หลังจากทานบะหมี่เสร็จแล้ว หลินกู๋หยู่ก็เห็นเด็กคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอก มีถุงย่ามใบใหญ่อยู่บนหลัง
เด็กคนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่คนในหมู่บ้านนี้ หลินกู๋หยู่ไม่เคยเห็นเขามาก่อน
“ไม่ทราบว่า” เด็กชายเพ่งสายตามองหลินกู๋หยู่อย่างระแวดระวัง เอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจว่า “ท่านใช่คนที่้าซื้อขนเป็ดและขนห่านหรือไม่?”
หลินกู๋หยู่ยังไม่ทันได้ล้างจานเสร็จ นางก็ลุกขึ้นยืน เช็ดมือที่ชายเสื้อด้านหน้าก่อนจะพยักหน้าช้าๆ "ใช่ ถ้าเ้ามี เ้าขายให้ข้าได้ ขนเป็ดห้าเฉียนต่อหนึ่งจิน ขนห่านสิบเฉียนต่อหนึ่งจิน”
เด็กน้อยจับถุงย่ามที่อยู่ข้างหลังวางลง เมื่อปลดถุงพองโตออก ขนห่านที่อยู่ด้านในเบาหวิวฟูฟ่อง ราวกับพร้อมที่จะกระพือปีกบินไปภายในชั่วพริบตา
ขนห่านสีขาวประดุจหิมะ ให้ความรู้สึกสบายเป็พิเศษเมื่อเอื้อมมือไปัั
หลินกู๋หยู่มองที่เด็กน้อยอย่างมีความสุข "ข้าจะชั่งน้ำหนักให้"
พูดพลางเดินไปเอาที่ตาชั่งด้านข้างออกมา
หลังจากมัดถุงทั้งหมดแล้ว หลินกู๋หยู่ก็หยิบมาที่ตาชั่ง "ห้าจิน ห้าสิบเหวินใช่หรือไม่?"
เดิมทีหลินกู๋หยู่ควรลดน้ำหนักของผ้าออก แต่เมื่อนึกถึงเด็กชายที่มาขายสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเอง นางก็อดไม่ได้ที่จะเพิ่มราคามากกว่าเล็กน้อย
“อืม” เด็กน้อยมองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างตื่นเต้น ใบหน้าเล็กๆ พยักอย่างแรง
ขนห่านห้าจิน หลินกู๋หยู่หันศีรษะไปมองเด็กชายตัวเล็กๆ แล้วเอ่ยไม่มั่นใจนักว่า "ครั้งหน้าถ้ามีอีก เ้าส่งมาที่นี่ได้"
เด็กน้อยยืนกระวนกระวายอยู่หน้าหลินกู๋หยู่ พูดเบาๆ ว่า "ขอบคุณ ข้าเข้าใจแล้ว"
เด็กน้อยพูดจบก็หันหลังกลับ เขาวิ่งไปสองสามก้าว ตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันกลับมามองหลินกู๋หยู่ "พี่หญิง ข้า..."
หลินกู๋หยู่มองที่เด็กน้อยด้วยความงุนงง "มีอะไรหรือ?"
“ไม่มีอะไรแล้ว” เด็กน้อยวิ่งออกไปทันที
เมื่อเห็นท่าทีแปลกๆ ของเขา หลินกู๋หยู่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร กลับไปเย็บเสื้อผ้าให้โต้ซาต่อไป
เดิมทีนางไม่เย็บเสื้อผ้าไม่เป็ อีกทั้งยังเย็บช้ามาก
สุดท้ายเสื้อกั๊กตัวเล็กก็ถูกเย็บจนเสร็จ หลินกู๋หยู่พยายามใส่ขนห่านเข้าไป ขณะที่ยัดขนห่านเข้าไปด้านในตัวเสื้อ ขนห่านก็ไหลเล็ดออกมาจากช่องว่างของตะเข็บ
หลินกู๋หยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วรีบเก็บขนห่านทั้งหมด หลังจากคิดไตร่ตรอง นางก็เย็บมันซ้ำอีกสองสามครั้ง แต่กระนั้นนางก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ ด้วยเหตุนี้จึงตัดผ้าผืนหนึ่งนำมาห่อบริเวณที่เย็บ หลังจากเย็บครั้งที่สามครั้ง นางก็ยัดขนห่านเข้าไปข้างในอีกครั้ง
ขนห่านนั้นเบาหวิว การรักษาความอบอุ่นนั้นดีมากเป็พิเศษ
การยัดขนห่านเข้าในเสื้อคราวนี้เป็ไปด้วยความสำเร็จ ไม่มีส่วนใดโผล่ออกมาอีก
เสื้อกั๊กตัวเล็กนี้เป็เพียงผลิตภัณฑ์ทดสอบของหลินกู๋หยู่ หากไม่มีปัญหาใด นางจะเริ่มผลิตเสื้อกันหนาวขนเป็ดขนห่านแล้ว
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ นางก็มีแรงบันดาลใจเพิ่มมากขึ้น
อาจเป็เพราะหลินกู๋หยู่ตั้งใจเย็บเสื้อกันหนาวอย่างมาก เมื่อเย็บส่วนโครงเสื้อเสร็จ ยังไม่ทันได้เย็บกระดุมถัก จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเบาๆ ของโต้ซาลอดดังมาจากด้านนอก
“ท่านแม่” ก่อนเข้าประตู โต้ซาพยายามที่จะออกจากอ้อมแขนของฉือหาง รีบวิ่งเข้าไปด้านในด้วยขาสั้นๆ ของตนเอง
“กลับมาแล้วหรือ?” หลินกู๋หยู่ยิ้ม วางเสื้อกั๊กในมือลงข้างๆ ก้มลงกางมือทั้งสองออก
เมื่อมองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินกู๋หยู่ จู่ๆ ฉือหางก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรอื่นที่เขา้าอีกแล้ว
เขาเคยคาดหวังอยากจะมีชีวิตเช่นนี้ เขาขึ้นไปบนูเาเพื่อล่าสัตว์ทุกวัน ส่วนภรรยาก็ทำงานเย็บปักถักร้อยรอเขากลับบ้าน
หลินกู๋หยู่เอื้อมมือไปอุ้มโต้ซาขึ้น ให้เขานั่งลงบนตักของนาง "วันนี้อาหารอร่อยหรือไม่?"
“ไม่อร่อย” โต้ซามุ่ยปาก ยื่นแขนออกไปกอดหลินกู๋หยู่ “เผ็ด!”
ฉือหางเดินไปหาหลินกู๋หยู่ด้วยรอยยิ้มจนปัญญา "ข้าบอกเขาแล้วว่าอย่าทานไก่เผ็ด แต่เขายืนยันที่จะทานให้ได้"
"เ้าไม่ได้ล้างไก่ด้วยน้ำเปล่าก่อนให้เขาทานหรือ?" หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหาง
ฉือหางยื่นมือออกไปััด้านหลังศีรษะอย่างทำตัวไม่ถูกอยู่หลายส่วน "ไม่ได้ล้าง"
โต้ซามองไปที่หลินกู๋หยู่อย่างเสียใจ คล้ายลูกสุนัขที่ลิ้นร้อนจนต้องแลบลิ้นออกมาจนกว่ามันจะเย็นลง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้