ใบหน้าหยวนเหล่าเอ้อร์กับจ้าวซื่อระบายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขขณะเดินออกจากบ้านสกุลหยวน การที่ทำให้คนในบ้านต้องรู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจเป็สิ่งที่ทั้งสองคนรู้สึกสะใจยิ่งกว่าได้ดื่มสุรารสร้อนแรงเสียอีก
ต่อมาหยวนเหล่าเอ้อร์ได้กล่าวห้ามคนในหมู่บ้านที่เดินตามมาว่าไม่ให้ตามไป บอกว่าการแต่งงานนี้เป็แค่การแต่งงานขจัดอัปมงคล หาใช่การแต่งงานจริงๆ ไม่ จึงไม่อยากให้มีใครติดตามไปด้วย มิเช่นนั้นจะเป็การทำร้ายจิตใจคนสกุลกู้ได้ เมื่อหยวนเหล่าเอ้อร์พูดเช่นนี้คนในหมู่บ้านจึงต้องล้มเลิกความคิดที่จะตามไป เลยเดินไปจับกลุ่มคุยกันใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งแทน
ครั้นคนในหมู่บ้านแยกย้ายกันไปแล้ว หยวนเหล่าเอ้อร์เอ่ยกับบุตรสาวว่า “ลูกสาวคนดีของพ่อ พ่อจะบอกอะไรเ้าให้ สินเดิมกับเงินที่บ้านใหญ่ให้มาต้องเก็บเอาไว้ที่บ้านสกุลกู้ หากมีใครมาขอหยิบยืมก็ห้ามให้ไปเด็ดขาดรู้หรือไม่ อยากจะกินหรือดื่มสิ่งใดก็บอกกับทางนั้น ด้วยเพราะเ้าเป็ลูกสะใภ้ของพวกเขา ก็ต้องให้พวกเขาดูแลเลี้ยงดู
รอให้บิดามารดาของกู้อวี้ตายตามไปเมื่อใด พ่อกับแม่จะย้ายเข้าไปอยู่เป็เพื่อนเ้า แต่ระหว่างนี้เ้าต้องอดทนและก็จดจำเอาไว้ว่าห้ามยุ่งกับสินเดิมเป็อันขาด”
หยวนเหล่าเอ้อร์ไม่กล้าเก็บสินเดิมและเงินที่ได้มาจากบ้านใหญ่ไว้ที่บ้านสกุลหยวน ถึงได้สั่งให้บุตรสาวนำไปเก็บไว้ที่บ้านสกุลกู้ ด้วยเห็นว่าคนสกุลกู้ให้ความสำคัญกับหน้าตา ย่อมไม่มีทางแตะต้องสินเดิมของสะใภ้เป็แน่ ขอแค่บุตรสาวไม่เอาไปให้คนอื่น เขามั่นใจยิ่งนักว่าต้องรักษาสินเดิมและเงินที่ได้มาเอาไว้ได้อย่างแน่นอน
เ้าหกฟังคำบิดาก็พยักหน้ารับคำ
เขายื่นมือไปลูบศีรษะบุตรสาวอย่างพึงพอใจ “เ้าหกเป็เด็กดีจริงๆ ไว้ต่อไปพ่อจะหาสามีที่หน้าตาหล่อเหลาแล้วก็เชื่อฟังให้เ้าสักคนดีหรือไม่”
พวกเขาพูดคุยกันมาตลอดทาง จนในที่สุดก็มาถึงหน้าบ้านสกุลกู้ จ้าวซื่อเดินขึ้นหน้าไปเคาะประตู “เปิดประตู”
“ไม่เปิด ข้าไม่ยอมให้แม่เสือมาเป็พี่สะใภ้ของข้าเด็ดขาด!” สิ้นประโยคนี้ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าอันน่าสับสนวุ่นวาย ก่อนจะมีเสียงลากของดังขึ้น อีกทั้งประตูยังปิดแน่นสนิทยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ดูท่าน่าจะมีคนเอาสิ่งของมาวางขวางไว้หลังประตู
“เ้ารอง เลิกเล่นได้แล้ว เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” กู่ซื่อที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัวพูดดุบุตรชายทั้งสาม
กู้เอ้อร์หลาง[1] ส่ายหน้าเป็พัลวัน “ท่านแม่ ข้าไม่อยากได้แม่เสือมาเป็พี่สะใภ้”
“ท่านแม่ พวกเราอยากได้พี่สาวซูเสียนมาเป็พี่สะใภ้มากกว่า” ซานหลาง[2] กล่าวอย่างเห็นด้วย
“พี่สาวซูเสียนใจดีแล้วก็อ่อนโยน แต่แม่เสือดุแล้วก็ใจร้ายมาก” ซื่อหลาง[3] พูดสนับสนุนเป็คนสุดท้าย
“รีบทำตามที่แม่สั่งเดี๋ยวนี้!” น้ำเสียงของกู่ซื่อโกรธเกรี้ยวมิใช่น้อย เอ้อร์หลางได้ยินดังนั้นจึงต้องยอมไปเปิดประตูด้วยสีหน้าไม่ยินยอมเท่าใดนัก ครั้นเปิดประตูเสร็จก็หมุนตัวหันหลังวิ่งหนีจากไปทันที
ซานหลางมองเ้าหกซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็น ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังสัมภาระที่นำมาด้วย ในใจนึกทดท้อกับชะตาชีวิตอันรันทดที่เหลือหลังจากนี้ ฉับพลันนั้นเองน้ำตาก็ไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่ รีบสาวเท้าออกวิ่งตามผู้เป็พี่ไปติดๆ
เ้าหกที่ถูกเรียกว่าแม่เสือ “…” ก็รู้สึกว่าตนอ่อนโยนมากแล้วนะ เทียบกับชาติก่อนหากมีปีศาจมารังแกนางแล้วละก็ ต้องถูกเล่นงานถึงตายเลยเชียว
“นี่พวกท่าน…” กู่ซื่อได้ยินบุตรชายเล่าเื่ที่เ้าใหญ่สกุลกู้้าสลับการแต่งงานกับบ้านรองแล้ว ความจริงนางเองก็อยากสลับเช่นกัน ด้วยตระหนักดีว่านิสัยของบ้านรองไม่มีทางยอมรับเื่ที่ทำให้ตนเองต้องเสียเปรียบเช่นนี้แน่ แต่คิดไม่ถึงว่า…
“ทำให้ท่านต้องขบขันแล้ว เ้าใหญ่ไม่อยากแต่งงานเพื่อขจัดอัปมงคล เ้าหกของข้าเลยต้องแต่งแทน ข้าเห็นว่าเื่นี้จะชักช้าอยู่มิได้ มิเช่นนั้นจะส่งผลต่ออาการบุตรชายคนโตของท่าน ข้าเลยพาเ้าหกรวมถึงสินเดิมมาที่นี่” พูดจบหยวนเหล่าเอ้อร์ก็ดันตัวบุตรสาวเข้าไปในบ้านสกุลกู้ ก่อนจะเข็นรถเข็นตามเข้าไป ครั้นเข็นมาถึงลานบ้านก็หยุดลง เอื้อมมือไปลูบศีรษะบุตรสาวพร้อมกับชี้ไปที่กู่ซื่อ “เ้าหก ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป ท่านอากู่คือแม่สามีของเ้า พ่อกับแม่ต้องกลับแล้ว นับจากนี้เ้าต้องเชื่อฟังท่านอานะรู้ไหม”
“เ้าค่ะ ข้าจะเชื่อฟังท่านอา” เ้าหกพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย กู่ซื่อที่มองดูอยู่ให้รู้สึกว่านี่คือแม่เสือที่ใดกัน ก็แค่แมวเชื่องที่เนื้อตัวสกปรกมอมแมมไปหน่อยก็เท่านั้น
หลังจากกำชับกำชาบุตรสาวจบหยวนเหล่าเอ้อร์กับจ้าวซื่อก็เดินออกจากบ้านสกุลหยวนไป
กู่ซื่อจูงมือเ้าหกพร้อมกับกล่าวว่า “ไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตัวกับแม่ก่อนดีหรือไม่”
“แต่ท่านอา ข้ามีท่านแม่อยู่แล้ว” เ้าหกเอียงคออย่างงุนงง
กู่ซื่อยิ้มขบขันก่อนจะกล่าวตอบ “นับั้แ่วันนี้เ้าคือลูกสะใภ้ของแม่ ก็ต้องเรียกท่านแม่ตามพี่ชาย”
เช่นนั้นก็ย่อมได้ ถึงอย่างไรผู้ใดให้ข้าวนางกิน ผู้นั้นก็คือท่านแม่ของนางอยู่แล้ว เ้าหกคิดก่อนจะเอ่ยปากเรียก “ท่านแม่”
กู่ซื่อยิ้มกว้าง ความเศร้าหมองภายในใจถูกขจัดไปมากกว่าครึ่ง นางจูงมือเ้าหกไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวจนสะอาด เสร็จเรียบร้อยก็จับสวมเสื้อผ้าสีแดงสด ทั้งยังเกล้าผมเป็มวยสูงแล้วม้วนเป็ก้อนกลมๆ ดังซาลาเปาสองข้างซ้ายขวา
หลังจากได้อาบน้ำแต่งตัวใหม่สภาพของเ้าหกก็ดูดีขึ้นไม่น้อย ใบหน้าเล็กของนางเท่าฝ่ามือขาวดุจหิมะ มีแต่ตรงแก้มทั้งสองข้างเท่านั้นที่เป็สีแดงระเรื่อ ปากนิดจมูกหน่อย ดวงตากลมโตสุกใสแวววาวประหนึ่งมีน้ำอยู่ข้างใน เวลานี้กำลังแย้มยิ้มพร้อมกับกะพริบตาปริบๆ ส่งมาให้ เห็นแล้วอดใจละลายมิได้
กู่ซื่ออดใจไม่ไหวยื่นมือไปหยิกแก้มกลมๆ นั่นอย่างหมั่นเขี้ยว “เ้าหิวแล้วหรือไม่ เดี๋ยวแม่ไปต้มบะหมี่มาให้นะ”
เ้าหกพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ในใจให้นึกแปลกใจยิ่งนัก สกุลกู้ไม่มีบุตรสาว แต่ไฉนภายในบ้านถึงมีเสื้อผ้าของเด็กผู้หญิงได้ ทว่าไม่นานความสนใจของนางก็เปลี่ยนไปอยู่ที่บะหมี่ไก่ซึ่งกู่ซื่อกำลังยกมาให้แทน อื้ม ช่างหอมเหลือเกิน
นับั้แ่เ้าหกได้กลิ่นหอมของบะหมี่ไก่ สายตาก็เอาแต่จ้องมองไปยังชามที่กู่ซื่อกำลังยกเข้ามาให้ในห้อง เมื่อบะหมี่ไก่ถูกวางลงเบื้องหน้า สายตาของนางก็ไม่อาจเลื่อนไปไหนได้อีกเลย นางขยับตะเกียบกินเข้าไปคำใหญ่
รสชาติอร่อยมากทีเดียว!
เ้าหกไม่เคยกินบะหมี่ที่อร่อยเท่านี้มาก่อน เส้นเหนียวนุ่ม น้ำแกงรสชาติก็กลมกล่อม
“กินช้าๆ ก็ได้ ระวังจะลวกปากเล่า” กู่ซื่อกล่าวเตือนอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นเ้าหกกินเข้าไปคำใหญ่
ที่หน้าประตูในเวลานี้มีสามศีรษะโผล่ออกมา ครั้นเห็นเ้าหกกำลังกินอย่างตะกละตะกลาม ใบหน้าของทั้งสามคนฉายแววรังเกียจก่อนจะเค้นเสียง‘ฮึ’ขึ้นจมูก เ้าหกผู้มีนิสัยโหดร้ายป่าเถื่อนผู้นี้ไม่คู่ควรกับพี่ชายของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย พี่ชายของพวกเขาหน้าตาหล่อเหลา สุภาพอ่อนโยน ตัวสูงโปร่ง รอให้คนผู้นั้นฟื้นขึ้นมาก่อนเถิด พวกเขาจะไล่เ้าหกผู้นี้ออกจากบ้าน! พี่สาวซูเสียนต่างหากถึงจะเป็พี่สะใภ้ในฝันของพวกเขา!
-----------------------------
[1] เอ้อร์หลาง คำที่ใช้เรียกบุตรคนที่สอง
[2] ซานหลาง คำที่ใช้เรียกบุตรคนที่สาม
[3] ซื่อหลาง คำที่ใช้เรียกบุตรคนที่สี่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้