แกรก! กระบอกไม้ไผ่ร่วงลงมาและถูกเปิดออกพร้อมกัน
หลี่เทียนเผิง สามแต้ม สองแต้ม สี่แต้ม
เย่เทียนเซี่ย สี่แต้ม ห้าแต้ม สามแต้ม
หลี่เทียนเผิงหัวเราะออกมาเบาๆ “เพื่อนเอ้ย โชคไม่ดีเลยนะ ถ้านายทายว่าสูงล่ะก็ป่านนี้เงินยี่สิบล้านคงกลับไปหานายแล้ว”
“หึ ต่อเถอะ ก็แค่ยี่สิบล้านแค่นั้นเอง ฉันเลือกต่ำ” เย่เทียนเซี่ยพูดออกมาเสียงเย็น แล้วผลักชิพยี่สิบล้านตรงหน้าไปด้านหน้าหลี่เทียนเผิง แต่เมื่อเย่เทียนเซี่ยที่รักษาความเงียบและสีหน้านิ่งเอาไว้ตลอดก่อนหน้านี้พูดออกมา มันกลับเป็น้ำเสียงที่ดูใจร้อนจนสังเกตได้อย่างง่ายดาย........ ทันใดนั้นผู้คนก็ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความเมตตาจ้องมองไปที่เย่เทียนเซี่ย ที่แท้เขาก็กลั้นอารมณ์เอาไว้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ..... แต่ผลของการมาพบหลี่เทียนเผิงในถิ่นของตระกูลหลี่นี้ยังจะสามารถเปลี่ยนเป็อื่นได้อีกเหรอ?
หลี่เทียนเผิงยกยิ้มมุมปาก เขาโบกมือแล้วเ้ามือก็พยักหน้า ทันใดนั้นกระบอกไม่ไผ่ทั้งสองก็ขยับไหวและส่งเสียงแกร๊งๆๆขึ้นมา ต่อจากนั้นพักใหญ่ๆมันก็ตกลงอย่างแรง
“เปิด!” เย่เทียนเซี่ยกระตุกริมฝีปากเล็กน้อย เ้ามือปรายตามามองเข้าครั้งหนึ่งก่อนจะพ่นลมหายใจเบาๆออกมาอย่างดูถูกขณะที่สองมือของเขาเอื้อมมือออกไป
หลี่เทียนเผิง สองแต้ม สองแต้ม หนึ่งแต้ม
เย่เทียนเซี่ย ห้าแต้ม ห้าแต้ม สองแต้ม
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมา มือของหลี่เทียนเผิงตบลงบนโต๊ะก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “เฮ้ยเพื่อน ดูเหมือนว่านายกับ “ต่ำ” นี่จะไม่มีวาสนาต่อกันเลยนะ เรามาทายว่าสูงกันดีไหมล่ะ!?”
“หึ!” สีหน้าของเย่เทียนเซี่ยมืดมนลงอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่สามารถรักษาความสงบนิ่งเหมือนก่อนหน้านี้ได้อีกต่อไป ร่างที่เคยแสดงออกถึงความี้เีเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เขากัดฟันแน่นก่อนจะยืนขึ้นแล้วผลักชิพที่เหลืออีกหกสิบล้านตรงหน้าตัวเองไปบนโต๊ะ สองมือของเขากำโต๊ะพนันแน่นแล้วพูดออกมา “ก่อนหน้านี้ฉันบอกแล้วว่าเล่นกันห้าครั้งให้รู้แพ้ชนะไปเลย นี่ก็ผ่านมาสี่ครั้งแล้ว.........ครั้งนี้ครั้งที่ห้า หกสิบล้าน นายกล้าพนันไหมล่ะ?”
“เหอะๆ ทำไมจะไม่กล้า เพื่อนเอ้ย นายนั่งก่อนก็ได้ รีบร้อนเกินไปจะเจ็บตัวได้ง่ายๆเอานะ พวกเราเล่นกันตั้งร้อยล้าน ก็ไม่ใช่เงินเยอะแยะอะไรไม่ใช่เหรอ?” หลี่เทียนเผิงเล่นเล็บตัวเองไปมา ใบหน้าของเขาปรากฏยิ้มอ่อนที่ไม่แยแสสิ่งใด เทียบกับเย่เทียนเซี่ยที่ตอนนี้มีแนวโน้มจะเสียการควบคุมตัวเองแล้วมันช่างต่างกันซะเหลือเกิน
เมื่อเย่เทียนเซี่ยพูดออกมาเสียงซุบซิบอย่างสับสนและตื่นเต้นก็ดังขึ้นมารอบๆทันที ซูเฟยเฟยดึงแขนของเย่เทียนเซี่ยเอาไว้ก่อนจะพูดออกมาเสียงเบาด้วยใบหน้ากังวล “เทียนเซี่ย นายจะเอาจริงเหรอ.........” เธอยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเย่เทียนเซี่ยปรายตามองครั้งหนึ่ง เธอรีบก้มหน้าลงต่ำแล้วพูดออกมาด้วยท่าทางอ่อนลง “เอาล่ะๆ นายจะเล่นยังไงก็เล่นเถอะ ฉัน.....ฉันจะไม่ยุ่งก็แล้วกัน”
เย่เทียนเซี่ยกลับไปนั่ง สีหน้าของเขายังคงมืดมนอยู่เหมือนเดิม จากนั้นเขาก็พูดออกมาเสียงต่ำ “ฉันเลือก ต่ำ!”
กระบอกไม้ไผ่ถูกเขย่าขึ้นมาอีกครั้ง แต่ท่าทางที่แสดงออกมาของคนสองคนกลับแต่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เดิมทีชายหนุ่มทั้งสองสามารถควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองได้เป็อย่างดี แต่ตอนนี้.........หลี่เทียนเผิงยังคงนั่งเงียบๆอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางสูงสง่าเหมือนสุภาพบุรุษ ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้มพร้อมกับลมหายใจสงบนิ่ง แต่เย่เทียนเซี่ยกลับไม่สามารถรักษาความสงบได้อีกต่อไป ดวงตาทั้งสองข้างของเขาจ้องมองไปที่มือของเ้ามือที่กำลังเขย่าไปมาอยู่ตรงหน้า ใบหน้าดุร้าย ลมหายใจถี่กระชั้น บนจมูกของเขามีเหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายขึ้นมา สองมือที่อยู่บนโต๊ะกำเข้าหากันแน่น
สายตาเห็นใจมองมาที่เย่เทียนเซี่ยไม่หยุด คนที่น่าสงสารคนนี้จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้ของตนเองจริงๆแล้วเป็เ้าของคาสิโนแห่งนี้ เขาจะชนะได้ยังไง? ชิพทั้งหมดที่ลงมาเพื่อพยายามพลิกเกมนั้นถือเป็ข้อห้ามข้อใหญ่ในเกมการพนัน และสิ่งที่เขาแสดงออกมาก็เห็นได้ชัดว่าจิตใจของเขายุ่งเหยิงไปหมดแล้ว
แกรก!
กระบอกไม้ไผ่ร่วงลงมาเหมือนกับใจของผู้ชมที่ร่วงลงมาเช่นกัน การพนันครั้งนี้ทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง แม้ว่าส่วนมากจะรู้ผลของการพนันครั้งนี้อยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงหวังว่าอาจจะมีจุดจบอันน่าตื่นเต้นโผล่ออกมาจากกระบอกไม้ไผ่นั่นหรือไม่ ถ้าไม่ใช่แล้วมันจะจบลงอย่างไร
“ฮ่าๆๆ เพื่อนเอ้ย เตรียมตัวพร้อมหรือยัง? ถ้านายชนะ ฉันคงต้องเอาเงินหกสิบล้านให้นายล่ะนะ เพื่อนๆทั้งหมดในที่นี้สามารถเป็พยานได้ ถ้าโชคไม่ดีฉันชนะขึ้นมา........ คงต้องขอโทษนายด้วย ยังไงก็หวังว่านายจะพยายามเก็บอารมณ์ไว้นะ” หลี่เทียนเผิงพูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เย่เทียนเซี่ยเหมือนไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่มือสองข้างของเ้ามือ ดวงตาของผู้ชมจ้องมองไปที่เหงื่อเม็ดเป้งที่ไหลลงมาจากหน้าผากของเขาแล้วหยดลงบนโต๊ะ เขาขยับมุมปากแล้วพูดออกมาเสียงต่ำ “เปิด!”
เ้ามือหันไปมองเขาแวบนึงแล้วก็ขยับมือเปิดออก
หลี่เทียนเผิง หกแต้ม สามแต้ม หนึ่งแต้ม
เย่เทียนเซี่ย ห้าแต้ม ห้าแต้ม สี่แต้ม
ทันใดนั้นเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้นมาทั่วทั้งคาสิโน สายตาของหลีเทียนเผิงกวาดมองไปอย่างสบายๆแล้วหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆๆๆ เพื่อนเอ้ย ต้องขอโทษนายด้วยจริงๆนะ ดูเหมือนว่าฉันจะชนะแล้วล่ะ”
แม้ว่าหลี่เทียนเผิงจะหัวเราะออกมายกใหญ่แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงเรียกได้ว่าสงบนิ่ง จริงๆแล้วในใจของเขามีความสุขจนแทบจะะเิออกมา.............ร้อยล้าน ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเขาก็ชนะเงินตั้งร้อยล้าน!? จำนวนที่มากมายมหาศาลขนาดนี้ใครเคยทำได้บ้าง ใครเคยผ่านมาก่อนบ้าง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต่อจากวันนี้ไปข่าวที่ว่าคุณชายหลี่ชนะพนันหนึ่งร้อยล้านคงกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ต่อไปเขาคงมีเื่สนุกๆอย่างไม่มีใครเทียบได้ไปคุยโม้ในวงสนทนาของเขา และเขาก็จะยืดอกภูมิใจนำเสนอเื่นี้ต่อหน้าพ่อของเขาด้วย ทั่วทั้งเขตนี้คงจะได้ลือกับให้แซ่ดว่าเขาไม่ต้องทำอะไรก็ได้เงินมาอย่างง่ายดาย
เย่เทียนเซี่ยผุดลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ เขาชี้มือไปที่เ้ามือพร้อมกับใบหน้ามืดมน “แกโกงนี่!!!”
เ้ามือปรายตามองเย่เทียนเซี่ยนิ่งๆก่อนจะพูดออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “คุณผู้ชายพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ มีคนอยู่ที่นี่ตั้งมากมายผมจะโกงได้ยังไงล่ะครับ?”
ซูเฟยเฟยพูดไม่ออก เธอพยายามอดทนให้ถึงที่สุดแล้วมองไปที่เย่เทียนเซี่ยด้วยสีหน้ากังวล...... แต่เย่เทียนเซี่ยที่อารมณ์ขึ้นในตอนนี้ไม่ใช่เย่เทียนเซี่ยที่เธอเคยรู้จัก นี่มันเหมือนกับว่า..........เขากำลังเสแสร้ง
จริงๆแล้วเขาจะทำอะไรกันแน่?
สีหน้าของหลี่เทียนเผิงมืดครึ้มลง จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงเย็น “นี่เพื่อน ในคาสิโนมีแพ้มีชนะ ถ้าแพ้แล้วก็ไม่ต้องเล่น โกงงั้นเหรอ? คำพูดนี้ของนายถือเป็การดูถูก ถ้านายบอกว่าคนอื่นโกง แล้วนายมีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ว่าฉันโกงไหมล่ะ?”
นักพนันโดยรอบเงียบกริบไม่มีใครส่งเสียงออกมา แม้ว่าแต่ละคนจะถกเถียงกันไปมาแต่กลับไม่มีใครอ้าปากออกมาเลยสักคน......... มันคงเป็เื่ตลก คนที่นำเงินร้อยล้านออกมาได้สบายๆแบบนี้พวกเขาจะไปขัดใจได้ยังไง สีหน้าของเย่เทียนเซี่ยมืดมนลง ในที่สุดสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่กระบอกไม้ไผ่ ทันใดนั้นเขาก็นำกระบอกไม้ไผ่และลูกเต๋าสามลูกมาไว้ตรงหน้าของตัวเอง “ถ้านายบอกว่าไม่ได้โกง........ก็ดี งั้นนายกล้าให้ฉันเขย่าด้วยตัวเองไหมล่ะ?”
“เชิญคุณผู้ชายเลยครับ จริงๆแล้วก็เป็สิทธิของคุณ ผมก็แค่ทำตามความ้าของคุณผู้ชายก็เท่านั้นเอง” เ้ามือพูดออกมาด้วยความเคารพ แต่สีหน้าของเขากลับไม่ปิดบังความดูถูกเอาไว้เลยแม้แต่น้อย
“แล้วไง? ยังจะพนันอีกเหรอ?” หลี่เทียนเผิงหรี่ตามองแล้วพูดออกมา
“หนึ่งครั้ง สามร้อยล้าน กล้าไหมล่ะ!?” เย่เทียนเซี่ยพูดออกไปเสียงเย็น
ทั่วทั้งคาสิโนเงียบกริงลงไปทันที สายตามากมายนับไม่ถ้วนพุ่งไปที่เย่เทียนเซี่ย ความเงียบผ่านไป ทันใดนั้นก็มีเสียงะเิออกมาราวกับหม้อน้ำเดือด
“ชิบหาย สามร้อยล้าน!! หูฉันมีปัญหาหรือเปล่าเนี่ย?”
“หมอนั่นบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริงๆ!”
“มันเป็ลูกใครวะ ทำไมไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย”
“หึ มาเจอคุณชายหลี่ถึงที่นี่ จะพนันยังไงก็แพ้ บ้านรวยแต่ทนความพ่ายแพ้ไม่ไหวเหรอวะ เหอะ หมอนั่นต้องมีปัญหาใหญ่แน่”
หลี่เทียนเผิงอึ้งไป จากนั้นก็แทบจะอดหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งไม่ได้ เขาเคยเจอแกะอ้วน แต่กลับไม่เคยพบเคยเห็นแกะที่อ้วนได้ขนาดนี้ มีเงินเดลิเวอรี่มาส่งถึงหน้าบ้านแบบนี้เท่ากับกำไรของทั้งคาสิโนหลายปีเลยทีเดียว เขายิ้มออกมา “นายยังกล้าแล้วทำไมฉันจะไม่กล้า เอ๋?สามร้อยล้าน? ก่อนอื่นไม่ใช่ว่านายต้องให้ฉันดูก่อนหรอว่านายมีทุนพอจริงๆหรือเปล่า”
เย่เทียนเซี่ยหยิบบัตรใบนึงออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วส่งไปให้พนักงานที่อยู่ข้างตัว “เอาไป ไปแลกชิปมาให้ฉัน....สามร้อยล้าน!!”
พนักงานคนนั้นเดินจากไปด้วยมือและขาสั่นๆ รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่เทียนเผิงยิ่งกว้างขึ้นก่อนจะสั่งให้พนักงานใกล้ตัวไปแลกชิปมาให้เขาอีกร้อยล้าน จากนั้นก็หันไปพูดกับซูเฟยเฟยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “คุณหนูคนสวย ผมต้องยอมรับจริงๆว่าคุณมีแฟนที่เรียกได้ว่ามีเงิน แต่.............” เขาส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียใจ “เสียใจด้วยจริงๆนะครับ”
“หึ!” ซูเฟยเฟยปรายตามองเขาวูบหนึ่ง เธอี้เีจะสนใจเขา
ชิพสองกองที่สูงท่วมท้นมาถึงในที่สุด เ้ามือหันไปถามหลี่เทียนเผิงอย่างระมัดระวัง “คุณชาย ครั้งนี้คุณจะเป็คนเขย่าเองหรือจะให้ผมเขย่าให้ครับ”
“นายจัดการเถอะ ฉันี้เีลงมือ” ดวงตาของเขามองไปทางเย่เทียนเซี่ยแล้วพูดออกมาอย่างี้เี “จะเอาไงล่ะ? ครั้งนี้นายยังจะเลือกต่ำอยู่อีกไหม”
เหงื่อเม็ดเป้งไหลลงมาจากหน้าผากของเย่เทียนเซี่ย แม้แต่เสื้อผ้าที่บริเวณคอของเขาก็เปียกชื้นขึ้นมานิดหน่อย มือที่กดอยู่บนกระบอกไม้ไผ่สั่นระริก เขาเงียบอยู่นาน ดูเหมือนกำลังตัดสินใจเลือกทำบางอย่างที่ยากยิ่ง หลังจากผ่านไปเป็เวลานานเขาถึงได้พูดออกมาอย่างยากลำบาก “ฉันยังเลือก.....ต่ำ!”
“ดี” หลี่เทียนเผิงหัวเราะออกมา “เริ่มเลยเถอะ”
“นายเขย่าก่อน!” เย่เทียนเซี่ยมองไปทางเ้ามือด้วยสายตาเ็าแล้วพูดออกมา
เ้ามือไม่ได้ลังเล เขาส่งสายตาเหมือนเป็คำถามไปให้หลี่เทียนเผิงแล้วใช้สายตาสงสารมองไปที่เย่เทียนเซี่ยอย่างดูถูก เขาขยับกระบอกไม้ไผ่ที่มีลูกเต๋าสามลูกอยู่ด้านในให้สั่นไหวขึ้นมา เสียง “แกร๊กๆๆๆ”ดังขึ้นมาเป็เวลานานห้าวินาทีในที่สุดกระบอกไม้ไผ่ก็ร่วงลงหนักๆ สายตาของเ้ามือทอประกายแปลกประหลาด เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาบนใบหน้าของหลี่เทียนเผิงก็มีรอยยิ้มที่ยากจะอธิบายฉายชัดขึ้นมา จากนั้นเขาก็หันไปทางเย่เทียนเซี่ยเป็การบ่งบอกว่าให้เย่เทียนเซี่ยเริ่มได้แล้ว
มือของเย่เทียนเซี่ยกดอยู่บนกระบอกไม้ไผ่หลังจากนั้นก็เริ่มเขย่าซ้ายขวาหน้าหลัง แต่การเขย่าของเขาและการเขย่าของเ้ามือนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กระบอกไม้ไผ่แนบติดกับโต๊ะและเคลื่อนไหวอยู่ภายในเท่านั้น ไม่ได้ห่างออกจากหน้าโต๊ะเลยแม้แต่น้อย การเขย่าที่ไม่มีเทคนิคแบบนี้แม้แต่เด็กสามขวบที่ไม่เคยเรียนวิธีการเขย่าลูกเต่าก็ยังต้องหัวเราะให้นักพนันเช่นนี้
ความถี่ในการเขย่าของเย่เทียนเซี่ยยิ่งรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆอย่างเห็นได้ชัด จากการเขย่าที่เชื่องช้าในตอนแรกได้กลายเป็การสั่นไหวที่รุนแรงจนไปถึงการสั่นไหวอย่างบ้าคลั่งที่รวดเร็วยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และเร็วยิ่งขึ้นไปอีก........... จนในที่สุดมันก็เร็วจนมองเห็นแค่เพียงเงาของมือและกระบอกไม้ไผ่เท่านั้น และแล้วเ้ามือที่มีสีหน้าไร้อารมณ์และนิ่งเฉยก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที.......
