ม่อหลิงหานไม่โกรธ ตอนนี้เขาอารมณ์ดีมาก ไม่ว่าเยว่เฟิงเกอจะพูดอะไร เขาก็ไม่โกรธ
“เมื่อก่อนเปิ่นหวางนอนหลับได้สบายก็จริง แต่คืนนี้หากว่าไม่มีชายารัก เปิ่นหวางคงไม่อาจหลับได้อย่างสบายใจ” ตอนที่ม่อหลิงหานกล่าววาจาเหล่านี้ออกมา สายตาที่มองเยว่เฟิงเกอมีแววเย้าแหย่
“เช่นนั้นท่านอ๋องก็เดียวดายจนหลับไม่ลงไปเถอะเพคะ” เยว่เฟิงเกอเห็นว่าม่อหลิงหานเย้าแหย่นางอีกแล้ว พอกล่าวประโยคนี้จบก็หมุนกายจากไปทันที
ม่อหลิงหานมองเงาหลังของเยว่เฟิงเกอที่เดินจากไป มุมปากเขายิ่งกดยิ้มลึกขึ้นกว่าเก่า
ตอนนี้เขายิ่งชอบเย้าแหย่นางมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ได้เห็นท่าทีโกรธเคืองของนาง เขาก็อารมณ์ดีอย่างน่าประหลาด
ส่วนคนที่ไปส่งเยว่เฟิงเกอที่เรือนเยว่เหยายังคงเป็ถานอี้ที่รับหน้าที่นี้ไป หลังจากม่อหลิงหานกินเม็ดผงสลายพิษชิงเสินไปแล้วก็เอนกายลงบนเตียง
ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเยว่เฟิงเกอไปเรียนวิชาแพทย์มาจากที่ใด แต่ตอนนี้หาใช่เื่สลักสำคัญแล้ว
ขอแค่เยว่เฟิงเกออยู่ข้างกายเขาไปตลอด เขาก็ไม่สนใจอะไรแล้ว
เมื่อกลับไปถึงเรือนเยว่เหยา เยว่เฟิงเกอก็เอนกายลงบนเตียงกลม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมที่มีชื่อว่า ‘เมืองหิมะลุ่มหลง’
ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เพราะเมื่อเยว่เฟิงเกอเข้าไปในเกมก็เห็นว่าที่แท้ยังมีผู้เล่นอีกคนที่กำลังเล่นเกมนี้อยู่
ตัวละครในเกมของผู้เล่นคนนั้นสวมอาภรณ์สีม่วง ใบหน้าหล่อเหลายิ่ง เพียงแต่เขาซ่อนชื่อของตนไว้ นางจึงไม่รู้ชื่อของเขา
เยว่เฟิงเกอประหลาดใจมาก ั้แ่ที่นางมายังโลกใบนี้ไม่เคยเห็นผู้เล่นคนอื่นในเกมนี้เลย
ดังนั้น เมื่อเห็นว่ามีผู้เล่นคนอื่นในเกมนี้นอกจากตัวนางเองแล้ว ก็ดีใจมาก รีบบังคับตัวละครของตนให้วิ่งเข้าไปหาอีกฝ่าย
ชายในเกมคนนั้นกำลังนั่งหลับตารวบรวมสมาธิ และยังคงไม่ได้ลืมตาขึ้นเพราะการปรากฏตัวของเยว่เฟิงเกอ
“นี่ เ้าเข้ามาอยู่ในเกมนี้ได้อย่างไร? ” เยว่เฟิงเกอพิมพ์คำถามไป
คนผู้นั้นไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเหมือนว่าแค่ออนไลน์ทิ้งไว้เฉยๆ
เยว่เฟิงเกอเบะปาก นางกำลังจะหมุนกายไปตีบอสต่อก็เห็นชายคนนั้นลุกขึ้นยืน ก่อนจะดึงดาบข้างเอวออกมา ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็พุ่งเข้ามาฟันนาง
เยว่เฟิงเกอรีบะโหลบดาบที่ตวัดฟาดฟัน
“นี่ เ้าเป็บ้าไปแล้วหรือ เหตุใดจู่ๆ ก็จะสังหารกัน? ” เยว่เฟิงเกอรู้สึกหงุดหงิดขุ่นเคือง ไม่ง่ายเลยกว่านางจะได้เจอผู้เล่นคนอื่นในเกม แต่พออีกฝ่ายเห็นนางก็ทำท่าจะฟันกันท่าเดียว
ชายในเกมคนนั้นยังคงไม่พูดอะไรแม้แต่ประโยคเดียว ตวัดดาบไปมาฟันแทงมาทางนาง
เยว่เฟิงเกอเองก็ไม่ใช่สัตว์กินพืช ตัวละครในเกมของนางเป็าาปีศาจกลับชาติมาเกิดขั้นสอง
ส่วนระดับของอีกฝ่ายน่าจะเป็ผีกลับชาติมาเกิดขั้นหนึ่ง
เยว่เฟิงเกอแค่นเสียงเ็าในใจ ระดับแค่นี้ยังคิดจะสังหาราาปีศาจกลับชาติมาเกิดขั้นสองอีก ช่างไม่ประมาณตนเอาเสียเลย
คิดถึงตรงนี้ เยว่เฟิงเกอก็ชักกระบี่ออกมาสู้กับอีกฝ่าย
เมื่อดาบใหญ่ตวัดลงมา ส่งผลให้ลมสายหนึ่งพัดวูบ
ขณะที่เยว่เฟิงเกอหรือาาปีศาจในเกมยังคงยืนหยัดท้าสายลม ส่วนกระบี่คมเล่มนั้นแทงเข้าใส่ชายผู้นั้น
ชายผู้นั้นเห็นว่าท่าไม่ดีแล้วจึงหันกายหลบ แต่กลับถูกกระบี่ของเยว่เฟิงเกอแทงเข้าที่ไหล่
เพียงไม่นานชายคนนั้นก็ตกเป็รองทันที แต่เขายังคงไม่กล่าววาจา และตวัดดาบของตนต่อไป มุ่งมั่นจะฟาดฟันเยว่เฟิงเกอให้ได้
เยว่เฟิงเกอรีบยกกระบี่ขึ้นตั้งรับ ดาบใหญ่และกระบี่ปะทะกันจนก่อเกิดเสียง “เป๊ง” ดังสนั่น
ชายคนนั้นถูกกระแทกบินถลาออกไป เกิดเป็แนวเส้นโค้งงดงามบนฟากฟ้า
เยว่เฟิงเกอค่อยๆ ร่อนลงจากฟ้า ท่าทางของนางราวกับเทพธิดาลงมาเยือนโลกมนุษย์
ชายในเกมคนนั้นนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เยว่เฟิงเกอเดินเข้าไปจ่อกระบี่ตรงจมูกเข้า กล่าวว่า “ลุกขึ้นมาสู้กันต่อสิ”
ครั้งนี้ในที่สุดชายคนนั้นก็เอ่ยวาจา “ไม่สู้แล้ว ข้าน้อยน้อมรับความพ่ายแพ้”
การโต้ตอบของเขาดูไม่คล้ายคนจากยุคปัจจุบัน แต่คนที่สามารถเล่นเกมนี้ได้ย่อมต้องไม่ใช่คนโบราณแน่ เพราะอีกฝ่ายจำต้องมีโทรศัพท์จากยุคปัจจุบัน ถึงจะเข้ามาได้
“เ้าเป็ใครกันแน่ เหตุใดจึงเข้ามาในเกมนี้ได้? ” เยว่เฟิงเกอสงสัยจริงๆ
ทั้งยังมีความหวังเล็กๆ หวังว่าอีกฝ่ายจะย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่พร้อมโทรศัพท์เฉกเช่นนาง
แต่ที่ทำให้นางผิดหวังก็คืออีกฝ่ายไม่ได้เป็ไปตามที่นางหวัง
ชายคนนั้นเอนกายนอนอยู่บนพื้น แค่นเสียงเ็า กล่าวกับเยว่เฟิงเกอ “คิดไม่ถึง แม้แต่เื่ว่าข้าเป็ใคร เ้าก็ลืมไปแล้ว ช่างเป็สตรีที่แล้งน้ำใจนัก ในเมื่อวันนี้ข้าตกอยู่ในมือเ้าแล้ว จะฆ่าจะแกงอย่างไร ข้าพร้อมยอมรับ”
อีกฝ่ายพูดจบก็หลับตาลง รอบทลงโทษของเยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอยิ่งรู้สึกประหลาดใจ คนผู้นี้บ้าหรือเปล่าก็แค่เล่นเกมเท่านั้น ต้องแสดงท่าทีหาญกล้ามีคุณธรรมถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
อีกอย่างเขายังบอกว่านางเป็สตรีแล้งน้ำใจ หรือว่านางควรต้องรู้ว่าเขาคือใคร?
ในตอนที่เยว่เฟิงเกอกำลังจะด่าว่าอีกฝ่ายว่าเป็บ้าอยู่นั้น ในเกมก็มีเสียงหนึ่งกรีดร้อง “ห้ามเ้าสังหารพี่ชายข้า”
เมื่อเสียงพูดนั้นจบลง สาวน้อยคนหนึ่งก็รีบร้อนเข้ามา
สาวน้อยนางนั้นคุกเข่าลงข้างกายชายคนนั้น สายตาจดจ้องเยว่เฟิงเกออย่างดุร้าย
“สตรีชั่วร้ายแล้งน้ำใจ ห้ามสังหารพี่ชายข้า มิฉะนั้นข้าไม่ปล่อยเ้าไปแน่” สาวน้อยตาแดงก่ำ ตะคอกใส่เยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอสีหน้าดำคล้ำ นางมาพบเจอใครในเกมนี้กันนี่ เหตุใดถึงได้ไม่เต็มเต็งกันไปหมดเช่นนี้
เยว่เฟิงเกอกลอกตา พิมพ์กลับไปว่า “นี่ ท่านทั้งสอง นี่ก็แค่เกมนะ พวกเ้าต้องจริงจังถึงเพียงนี้เลยหรือ? อย่างมากหลังจากพวกเ้าถูกข้าสังหารแล้ว ก็กลับไปที่หมู่บ้านมือใหม่แล้วค่อยๆ ไต่เลเวลกลับมาก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดต้องถึงขั้นด่าข้าว่าเป็สตรีชั่วร้ายแล้งน้ำใจ ข้ารู้จักพวกเ้าหรือไร ประสาทจริงๆ ”
เมื่อเยว่เฟิงเกอพิมพ์เสร็จก็เห็นว่าคนสองคนในเกมพากันอึ้งไป แต่ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ส่งสายตาดุร้ายมาทางนาง
ชายคนนั้นไม่กล่าววาจาใด แต่สาวน้อยกลับแค่นเสียงเ็า “เ้าเห็นการสังหารคนเป็แค่การละเล่น? หึ มิน่าเล่าเ้าถึงได้เืเย็นไร้จิตใจเช่นนี้ เพียงเพื่อตัวเ้าแล้ว พี่ชายข้าไม่เสียดายชีวิต ยอมที่จะถูกขังอยู่ในนี้ไปไหนไม่ได้ ส่วนข้า เป็เพราะไม่อยากเห็นพี่ชายต้องเหงาเดียวดายอยู่ในนี้คนเดียว ถึงได้เข้ามาอยู่เป็เพื่อนพี่ชายในนี้”
เยว่เฟิงเกอยิ่งฟังยิ่งงุนงง นางรู้จักพวกเขาสองพี่น้องหรือ เหตุใดรู้สึกเหมือนสาวน้อยคนนี้ถากถางราวกับนางเป็ชายโฉดชั่วก็ไม่ปาน?
“เ้ากำลังพูดถึงสิ่งใด เหตุใดข้าจึงฟังไม่เข้าใจแม้แต่คำเดียว? ” เยว่เฟิงเกอไม่เข้าใจจริงๆ
“เยว่เฟิงเกอ อย่าแกล้งโง่ไปหน่อยเลย” สาวน้อยเห็นว่าเยว่เฟิงเกอทำทีเป็ไม่เข้าใจก็ยิ่งโกรธหนักกว่าเดิม “หรือเ้าจะลืมไปแล้วว่าพวกเราเป็ใคร? ”
เยว่เฟิงเกอไม่กล่าววาจา นางไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเขาคือใคร แต่สาวน้อยคนนั้นกลับเอ่ยนามของนางออกมา
เมื่อคิดย้อนกลับไปถึงเกมนี้ที่เล่นมาหลายปี เยว่เฟิงเกอมั่นใจอย่างยิ่งว่าตนไม่เคยเอ่ยนามจริงของตนเองในเกมนี้มาก่อน
ดังนั้น ตอนที่สาวน้อยคนนั้นพูดชื่อจริงๆ ของนางออกมา นางถึงได้รู้สึกเหนือความคาดหมายมาก
ชายคนนั้นเห็นว่าเยว่เฟิงเกอไม่กล่าววาจาใดกลับมาแล้ว ก็มีท่าทางราวกับถูกทำร้ายจนาเ็สาหัส เขามองเยว่เฟิงเกอด้วยสายตาเ็ปรวดร้าว กล่าวกับสาวน้อยข้างกายว่า “พวกเราไปกันเถอะ”
ชายคนนั้นพูดจบก็ใช้มือกุมาแที่ไหล่ตนไว้แล้วเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับ
สาวน้อยเห็นว่าชายคนนั้นจากไปแล้วก็หันไปถลึงตาอย่างดุร้ายใส่เยว่เฟิงเกอ กล่าวว่า “เยว่เฟิงเกอ วันหน้าเ้าต้องเสียใจภายหลังแน่”
สาวน้อยพูดจบก็รีบติดตามไปอย่างรวดเร็ว
เยว่เฟิงเกอยืนอึ้งอยู่ที่เดิมพลางมองชายหญิงตรงหน้าที่เดินจากไปด้วยความงุนงง