เฉียวเยว่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นท่านลุงสลบไสล น้ำตาก็ร่วงเผาะลงมา "เหตุใดถึงเป็เช่นนี้ไปได้?"
หรงจ้านกุมมือของนางไว้ แล้วปลอบประโลมเสียงเบา "ไม่ต้องเป็ห่วง ไม่เป็อะไรแล้ว"
แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่เฉียวเยว่ไหนเลยจะคลายกังวล ถึงอย่างไรก็เป็ญาติของตน นางไม่สนใจหรงจ้าน จับมือของหลี่เฉิงซูแล้วซักถามรายละเอียด "พี่หญิงหลี่เ้าคะ ท่านลุงของข้าเป็อะไรกันแน่"
หลี่เฉิงซูมองนางแล้วค่อยๆ เอ่ยปาก "ต้องพิษ เป็พิษร้ายแรงขึ้นชื่อของซีเหลียง แต่มีข้าอยู่ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา"
มือของหรงจ้านกดลงที่บ่าทั้งสองของนาง แล้วปลอบโยนเสียงเบา "ศิษย์พี่เก่งมาก จัดการเื่เหล่านี้ได้สบาย"
เฉียวเยว่ขอบตาแดงก่ำ "เหตุใดท่านลุงถึงได้รับาเ็ แล้วมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร พี่จ้าน ท่านว่า..."
เฉียวเยว่ขบริมฝีปาก
"ท่านลุงของเ้าได้รับาเ็แถวนี้ ข้าก็เลยจัดการพาเขามาที่นี่ นับว่าเป็เหตุบังเอิญ ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะเคลื่อนย้ายเขาไปไหน ต้องรอพรุ่งนี้หรือวันมะรืนหลังจากเขาฟื้นคืนสติแล้ว ข้าจะให้คนส่งเขากลับไป"
เฉียวเยว่พยักหน้า นางพลิกกลับมากุมมือของหรงจ้านไม่ปล่อย "พี่จ้านต้องช่วยข้า ช่วยท่านลุงของข้าให้ได้นะเ้าคะ"
"ซีเหลียง ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก คนก็น่าชัง ยาพิษก็น่าชัง" นางขบริมฝีปาก แววตาเย็นะเื
"ท่านลุงของเ้าไปเหยียบจุดตายของมู่หรงจิ่วเข้า ดังนั้นด้วยความอัปยศอดสูจึงกลายเป็โทสะ แต่ไรมาคนอย่างมู่หรงจิ่วมีแค้นมิเคยไม่ชำระ"
พอรู้ว่าเป็ฝีมือของมู่หรงจิ่ว เฉียวเยว่ก็ด่าทอสาปแช่งคนผู้นี้ในใจ แทบอยากจะเหยียบไอ้บ้าสารเลวผู้นี้เสียให้ตาย ชะรอยความรู้สึกั้แ่แรกพบจะแม่นยำยิ่ง เขาเป็คนต่ำช้าสามานย์อย่างที่รู้สึกจริงๆ
หรงจ้านลูบศีรษะเฉียวเยว่ แล้วเอ่ยเสียงเบา "เ้าอย่ากังวล ทุกอย่างยังมีข้าอยู่"
เฉียวเยว่ส่ายหน้า "ปัญหามิได้อยู่ที่มีหรือไม่มีพี่จ้านหรอกเ้าค่ะ"
หรงจ้านเห็นนางเดือดดาลปานจะลุกเป็ไฟ ก็รู้สึกว่านางช่างน่ารักอย่างบอกไม่ถูก ไม่ว่าจะมองอย่างไรล้วนรู้สึกเจริญตาเป็ที่สุด
"เมื่อพบท่านลุงของเ้าแล้ว ข้าจะส่งเ้ากลับ" หรงจ้านเอ่ยเสียงเบา
"แต่ข้ายังไม่อยากไป ข้า... ข้าอยากจะอยู่ดูแลท่านลุงที่นี่" เฉียวเยว่ไม่ยอมกลับ นางบีบผ้าเช็ดหน้า แล้วเอ่ยอย่างหนักแน่น "พี่จ้านเ้าคะ ให้ข้าอยู่ได้หรือไม่?"
นางขบริมฝีปาก วอนขออย่างจริงจัง
หรงจ้านเลิกคิ้ว แล้วย้อนถาม "หากเ้าอยู่ ทุกคนก็รู้หมดน่ะสิ อีกอย่างถ้าเ้าไม่กลับ ผู้อื่นจะเล่าลือออกไปอย่างไรก็สุดที่จะรู้ได้ เยี่ยงนี้ไม่ดีต่อตัวเ้าเอง บิดามารดาเ้าได้มาฉีกข้าเป็ชิ้นๆ แน่ แม้แต่ท่านลุงของเ้าก็ไม่มีวันจบแต่โดยดีง่ายๆ"
เฉียวเยว่ขบริมฝีปาก ตัดสินใจไม่ถูก
"นอกเสียจากว่า..." หรงจ้านเปรยเสียงเบา
เฉียวเยว่เงยหน้าขึ้นถามทันที "นอกเสียจากอันใด?"
"นอกเสียจากมีคนปลอมตัวเป็เ้ากลับไป ด้วยความสามารถของศิษย์พี่ย่อมเพียงพอที่จะทำของปลอมให้ดูเหมือนของจริงได้"
ในที่สุดหลี่เฉิงซูก็เข้าใจความคิดของหรงจ้าน นางก่นด่าในใจว่าจิ้งจอกสารเลวไร้ยางอาย หลังจากนั้นก็บอกย้อนกลับไป "ในโลกนี้ไม่มีวิชาแปลงโฉมที่เหมือนกันทุกกระเบียด ข้าสามารถแปลงโฉมผู้อื่นให้คล้ายคลึงกับคุณหนูเจ็ดได้เพียงเจ็ดแปดส่วนเท่านั้น สามารถตบตาคนเพียงชั่วคราว ไม่เหมาะหากต้องััใกล้ชิดกับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสนิทที่คุ้นเคยกันเป็อย่างดี ไหนเลยจะสามารถปกปิดตลอดไปได้ หากมีวิชาแปลงโฉมที่สามารถทำให้เหมือนกันราวกับถอดแบบมาได้จริง ใต้หล้านี้มิเกิดความโกลาหลวุ่นวายกันพอดีหรือ?"
"ที่แท้ก็อย่างนี้"
พอเห็นเฉียวเยว่คอตกด้วยความผิดหวัง หรงจ้านก็พูดต่ออย่างแเี "แต่ก็ใช่ว่าจะไร้หนทางโดยสิ้นเชิง หากเ้าติดไข้หวัดพักอยู่ในห้องของตนเอง ด้วยอุปนิสัยของอาจารย์กู้จะไม่ให้ผู้อื่นไปรบกวนเ้าเป็อันขาด อย่างไรเสียก็อยู่นอกพื้นที่ หากพลอยติดกันไปหมดจะยิ่งดูแลลำบาก"
เฉียวเยว่เอ่ยทันควัน "เช่นนั้นข้าติดไข้หวัดก็ได้ พี่จ้าน ท่านต้องช่วยข้านะเ้าคะ ช่วยข้าได้หรือไม่ ข้าอยากอยู่ต่อจริงๆ"
เฉียวเยว่แกว่งแขนของหรงจ้านไปมาอย่างฉอเลาะ หรงจ้านนึกอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็พยักหน้า "ได้ ช่วยเ้า"
เขาทำอะไรเฉียวเยว่ไม่ได้จริงๆ ได้แต่เอ่ยว่า "ช่วยเ้าก็ส่วนช่วยเ้า แต่หากท่านลุงของเ้าจะมาเอาเื่กับข้าเพราะเื่นี้ เ้าต้องช่วยข้าด้วยเล่า"
"นั่นมันแน่อยู่แล้ว" เฉียวเยว่ตอบทันควัน
หรงจ้านทำท่าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
"เช่นนั้นข้าจะไปเตรียมการก่อน เ้าอยู่เป็เพื่อนท่านลุงของเ้าที่นี่เถอะ"
เฉียวเยว่พยักหน้า ดวงตาเป็ประกาย "ขอบคุณเ้าค่ะ พี่จ้าน"
หรงจ้านเลิกคิ้วอมยิ้ม "จู่ๆ ก็มาเกรงใจกันเยี่ยงนี้ ข้ากลับไม่ค่อยคุ้นชินนัก แต่ไรมาซูเฉียวเยว่จะให้ข้าทำอะไรล้วนพูดฉาดฉานมีเหตุผลเสมอมิใช่รึ?"
เฉียวเยว่บิดชายเสื้อของตนเอง แล้วเอ่ยเสียงเบา "ข้าเปล่าเสียหน่อย"
หรงจ้านอดใจไม่ได้ เอื้อมมือไปหยิกพวงแก้มของนาง "เอาล่ะ ข้าไปจัดการให้เ้าก่อน"
หลังจากหรงจ้านไปแล้ว เฉียวเยว่ก็ไปนั่งริมหน้าต่างแล้วถามว่า "พี่หญิงหลี่ ท่านลุงของข้าไม่เป็อะไรจริงหรือเ้าคะ?"
นางมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา ไม่แสดงความน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเมื่อครู่ ทั่วร่างกำจายกลิ่นอายของผู้ทรงภูมิปัญญา
หลี่เฉิงซูยิ้มอย่างมีเลศนัย เอ่ยเสียงเบา "เ้าคิดว่าวิชาแปลงโฉมของข้าไม่ได้เื่รึ?"
เฉียวเยว่ยกมือปฏิเสธทันควัน ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด นางรีบแก้ต่าง "มิใช่ มิใช่เ้าค่ะ ข้าคิดมากไปเอง ท่านลุงดีกับข้ามาก ข้าวิตกกังวลเกินไปหน่อย"
สีหน้าของเฉียวเยว่เผยแววทุกข์ระทม "พี่หญิงหลี่ ท่านว่าเพราะเหตุใดคนซีเหลียงถึงได้น่าชังเพียงนี้"
"จุดยืนต่างกัน คนซีเหลียงก็เกลียดชังเ้า เหมือนที่เ้าเกลียดชังพวกเขานั่นแหละ" หลี่เฉิงซูเอ่ยอย่างไม่นำพา
พูดมาถึงตรงนี้ มุมปากของนางก็โค้งขึ้น "แท้จริงแล้วมีอีกหลายเื่ในใต้หล้าที่ยากจะแยกแยะถูกผิด มีแต่เ้าตัวเท่านั้นที่ต้องยืนหยัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตนเอง้า"
หลี่เฉิงซูไม่รู้ว่าทำไมตนเองถึงเอ่ยสิ่งนี้กับนาง หลังจากนิ่งไปชั่วขณะก็เอ่ยว่า "เ้าถือเสียว่าข้าไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน"
เฉียวเยว่ทำตาปริบๆ กุมมือของฉีจือโจวไว้ มือของเขาเย็นเฉียบ "มือของท่านลุงเย็นจังเลย"
หลี่เฉิงซูพยักหน้า แล้วอธิบายอย่างมีเหตุผล "เมื่อครู่ข้าเพิ่งราดน้ำเย็นเขาไปหลายถัง ย่อมจะเย็นเป็ธรรมดา แต่อาการของเขาตอนนี้ เย็นย่อมดีกว่าร้อน"
เฉียวเยว่พยักหน้า ถึงนางจะไม่เข้าใจวิชาแพทย์ แต่ก็รู้ว่าวิชาแพทย์ของหลี่เฉิงซูร้ายกาจยิ่ง นางยิ้มมุมปากดวงตาหยีโค้ง "พี่หญิงหลี่มีสิ่งใดให้ข้าทำ ก็เชิญสั่งมาได้เลย ข้าทำได้ทุกอย่าง"
หลี่เฉิงซูมองสาวน้อย เห็นแพขนตายาวของนางกะพริบปริบๆ ราวกับพัดเล่มเล็ก ผิวพรรณของนางขาวกระจ่างมีเืฝาด ริมฝีปากเป็สีชมพูอ่อนๆ คงเป็เพราะเช่นนี้หรงจ้านถึงชอบนางมาก ไม่น่าเชื่อ คนอย่างหรงจ้านเวลาชอบใครเข้าจะเป็ถึงขนาดนี้ นึกดูแล้วก็น่าขันจริงๆ
"ท่านลุงของเ้ากระอักเืพิษออกมาเยอะ แต่แม้จะมีพิษ เืก็เป็ของจริง เ้าไปดูว่าน้ำแกงตับหมูเืหมูในโรงครัวต้มเสร็จหรือยัง ตอนนี้เขาจำเป็ต้องบำรุงเื"
เฉียวเยว่รับคำแล้วลุกขึ้นทันที
จนกระทั่งถึงกลางดึก หรงจ้านก็กลับมา เฉียวเยว่มองไปที่เขา หรงจ้านยิ้มเอ่ย "วางใจเถอะ ทุกอย่างจัดเตรียมเรียบร้อย"
ในที่สุดเฉียวเยว่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก "ท่านลุงเพิ่งดื่มน้ำแกงไปเมื่อครู่ ตอนนี้ยังไม่ค่อยดีเท่าไรนัก พี่หญิงหลี่บอกว่าทุกคราที่นางฝังเข็ม ท่านลุงก็จะกระอักเื ต้องเร่งบำรุงโลหิตเป็การด่วน"
หรงจ้านดึงมือน้อยๆ ของนางมากุม แล้วเอ่ยเสียงเบา "ไม่มีปัญหา ทุกอย่างมีข้าอยู่ เ้าไม่ต้องเป็กังวล"
ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ เฉียวเยว่ก็พลันรู้สึกอบอุ่นใจ ประโยคที่ว่า "มีข้าอยู่" ทำให้นางปล่อยวางความหวาดกลัวลงได้จริงๆ
หยาดน้ำตาหลั่งรินบนดวงหน้าน้อย หรงจ้านปวดใจเป็ที่สุด เขาเชยคางของนางขึ้น แล้วปาดน้ำตาบนพวงแก้มของนางเบาๆ "ไม่ร้อง"
"พี่จ้าน..."
ทันใดนั้นเฉียวเยว่ก็กอดเอวของหรงจ้าน ฝังดวงหน้าเล็กจ้อยบนแผงอกของเขา แล้วพึมพำเสียงเบา "ข้ากลัวว่าท่านลุงจะมีอันเป็ไป ถึงแม้จะรู้ว่าอยู่ในความดูแลของพี่หญิงหลี่ต้องไม่เป็อันใด แต่ข้าก็ยังควบคุมตนเองมิได้ ข้ารู้สึกว่าตนเองช่างไร้ประโยชน์ยิ่ง ช่วยอะไรไม่ได้เลย ซ้ำยังคิดฟุ้งซ่านสารพัด"
แม้จะมีสาวงามตัวหอมกรุ่นในอ้อมแขน แต่หรงจ้านกลับไม่มีความคิดเกินเลยแม้แต่น้อย "เฉียวเฉียว..."
หรงจ้านไม่เคยเรียกเฉียวเยว่เช่นนี้มาก่อน แต่คำเรียกเช่นนี้ฟังราวกับว่าเขาเห็นนางเป็ยอดดวงใจที่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด "เฉียวเฉียว เป็ข้าไม่ดีเอง" หรงจ้านเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เฉียวเยว่ส่ายหน้า "ไม่เลย ท่านดีมาก ท่านช่วยข้าหลายอย่าง หากไม่มีพี่จ้าน หลายเื่ข้าก็ไม่รู้จะทำเช่นไร"
เฉียวเยว่ขบริมฝีปาก กล่าวอย่างหนักแน่นมั่นคง "พี่จ้านเป็คนนอกที่ดีกับข้าที่สุดในโลกนี้แล้ว"
ความรู้สึกอบอุ่นเดิมทีเหือดหายไปอย่างไร้ร่องรอย หรงจ้านอดใจไม่ได้ ตีก้นนางเบาๆ ทีหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า "คนนอกที่ดีที่สุดในโลกหมายความว่าอย่างไร? ข้ายังนับเป็คนนอกอีกหรือ?"
"ภายหน้าเ้าก็ต้องถูกฝังในสุสานบรรพชนของข้า ยังบอกว่าข้าเป็คนนอก?" หรงจ้านเม้มปาก "ข้าไม่ใช่คนนอก"
เฉียวเยว่หัวเราะคิกคัก นางดันตัวหรงจ้านออกไป แล้วปาดน้ำตาวุ่นวาย หรงจ้านเห็นคราบสกปรกบนดวงหน้าของนาง กลับไม่รู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย
เขาใช้นิ้วปาดให้นางเบาๆ "เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวหัวเราะ ยายโง่เอ๊ย"
เฉียวเยว่หน้าแดงแสร้งทำปั้นปึ่ง "หากข้าโง่ ท่านก็โง่ยิ่งกว่า เพราะท่านชอบข้า"
นางมักตรงไปตรงมาเช่นนี้เสมอ และชอบเหน็บแนมลักษณะนี้ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็เปิดเผยและมีความกล้าหาญ แม้หน้าจะแดง แต่กลับไม่มีความขัดเขินแม้แต่น้อย
"แล้วก็มีคำกล่าวว่า สัตบุรุษมิพึงกระทำสิ่งที่ผิดต่อจรรยา เมื่อครู่ท่านตีก้นของข้า ถือว่าใช้ไม่ได้"
สายตาของเฉียวเยว่แฝงแววตำหนิติเตียน แต่มุมปากกลับโค้งขึ้นเล็กน้อยเผยความเขินอายและกระอักกระอ่วนของตนเอง
"ท่านนี่น่าชังจริงๆ"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้