ตอนที่หลงอวี้ลุกขึ้นมาพูดประโยคนี้ ผู้คนทั่วบริเวณก็ตกตะลึงอีกครั้ง
เฟิงฉางเกอชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นพูดเสียงแข็ง
“เสี่ยวอวี้ ที่ข้าอยู่ต่อเพราะข้าแซ่เฟิง! แต่เ้าล่ะ เ้าลืมไปแล้วหรือว่าคนของตระกูลเฟิงปฏิบัติต่อเ้าอย่างไรบ้าง? ยังไม่รีบพาเสี่ยวเหยาหนีไปอีก!”
หลงอวี้หัวเราะแย้มยิ้มบางๆ
“พ่อบุญธรรม ทั้งชีวิตข้ามีแค่ท่านเป็คนในครอบครัว จะทิ้งให้ท่านต้องต่อสู้ลำพังได้อย่างไร?”
“นั่นมัน...”
เฟิงฉางเกอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร ดวงตาของเขามีทั้งความกังวล ความร้อนใจ และความซาบซึ้ง
หลงอวี้ยอมต่อสู้ไปพร้อมกับเขา เขารู้สึกซาบซึ้ง แต่กระนั้น ศัตรูเป็ถึงสามตระกูลใหญ่ที่ร่วมมือกัน หลงอวี้แค่คนเดียวจะทำอะไรได้?
“ฮ่าๆๆ เฟิงฉางเกอ ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเ้าช่างน่าซาบซึ้งเสียจริงนะ!”
ฉินต้วนในชุดดำส่งเสียงหัวเราะดังสนั่น มองมาทางหลงอวี้ด้วยแววตาแฝงจิตสังหาร
“ไอ้เด็กเวรนี่มันฆ่าบุตรชายของข้าเทียนเซวี่ย ข้าอยากจะฆ่ามันนานแล้ว ในเมื่อมันไม่ฉวยโอกาสนี้หนีไปแต่ดึงดันจะอยู่ต่อละก็ เช่นนั้นเราจะขอชมความร้ายกาจของไอ้เด็กเวรนี่หน่อยก็แล้วกัน ไม่แน่ว่า ไอ้เด็กนี่อาจจะต่อกรกับพวกเราสามตระกูลใหญ่ได้ก็เป็ได้นะ ฮ่าๆๆ!”
คำพูดสุดท้ายแฝงด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้คนนับร้อยของสามตระกูลใหญ่พากันหัวเราะพร้อมกัน
สามตระกูลใหญ่ร่วมมือกัน ในที่นี้มีจำนวนคนอยู่มากถึงร้อยคน สามคนในนั้นเป็ถึงยอดฝีมือวรยุทธ์ขั้นเก้า!
หลงอวี้เพียงคนเดียวคิดจะต่อกรกับพวกเขาอย่างนั้นหรือ?
ฝันลมๆ แล้งๆ!
ผู้คนทั้งหมดต่างคิดว่า การที่หลงอวี้เลือกอยู่ต่อคือการรนหาที่ตาย รวมถึงพวกลูกหลานตระกูลเฟิงด้วย
“ไม่ว่าพวกเ้าจะคิดอย่างไร ข้าก็ไม่ไปไหนแน่”
หลงอวี้มองดูรอบทิศทาง ดูสีหน้าผู้คนทั้งหมดไว้ในสายตา พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ข้าหลงอวี้ เติบโตที่ตระกูลเฟิงแห่งนี้ั้แ่เด็ก แม้จะมีแค่พ่อบุญธรรมคนเดียวที่ดีต่อข้า แต่ตระกูลของพ่อบุญธรรมก็คือตระกูลของข้า ข้าไม่มีวันมองดูตระกูลเฟิงล่มสลายไปเฉยๆ แน่!”
“คนของตระกูลเฟิง หากเชื่อใจข้า ้าจะต่อสู้กับพ่อบุญธรรมไปพร้อมกับข้า เช่นนั้นก็จงอยู่ต่อ หากไม่เชื่อใจข้า ก็จงออกไปจากตระกูลเฟิงั้แ่ตอนนี้ ยิ่งไกลยิ่งดี และหลังจากนี้ พวกเ้าจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลเฟิงอีก!”
เมื่อหลงอวี้พูดจบประโยค ลูกหลานของตระกูลเฟิงทั้งหมดก็อึ้งตะลึงงัน
หลงอวี้ ผู้ฝึกยุทธ์สุดแกร่งที่โค่นล้มเฟิงอวิ๋นลง ยอมอยู่ต่อเพื่อร่วมเป็ตายไปพร้อมกับตระกูลเฟิงอย่างนั้นหรือ
อันที่จริงคนของตระกูลเฟิงทั้งหมดต่างรู้ว่า สมัยก่อนตอนที่หลงอวี้ยังเป็เพียงสวะไร้ค่านั้น คนของตระกูลเฟิงเคยกลั่นแกล้งมันไว้มากแค่ไหน แต่ในตอนที่จะถึงคราวสิ้นตระกูลเฟิงแล้ว กลับเป็หลงอวี้ที่ยืนหยัดอยู่ข้างหน้าของพวกเขาอย่างหนักแน่น
“หึ ข้าจะไป!”
ในกลุ่มของลูกหลานตระกูลเฟิงนั้น เฟิงหยางที่รูปร่างใหญ่โตกระแทกเสียงเ็า จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน
“หลงอวี้ ถุงมือิญญาล่องลอยในมือเ้ามันเป็ของพี่สาวข้าเฟิงชิงชิง! บัดนี้นางได้เสียชีวิตที่ป่าโสมโบราณแล้ว แต่เ้ากลับสวมถุงมือของนางมาทำตัวโอหังอวดดี แล้วตอนนี้ยังคิดจะหว่านล้อมให้คนของตระกูลเฟิงตายพร้อมกับเ้าอีก ถุย ฝันไปเถอะ!”
หลงอวี้มองเฟิงหยางด้วยสายตาเ็า
“ทุกคนต่างรู้ดีว่าเฟิงชิงชิงถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของอวี่เชียนหนิงแห่งลัทธิพันไหม เ้าไม่ไปหาเื่อวี่เชียนหนิงแต่กลับมาหาเื่ข้าเนี่ยนะ ข้าถามเ้าหน่อยเถอะ เ้าคิดจะปล่อยให้ตระกูลเฟิงสิ้นชื่อไปทั้งอย่างนี้จริงๆ หรือ”
เฟิงหยางได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไป
ให้เขาไปหาเื่อวี่เชียนหนิงแห่งลัทธิพันไหมน่ะหรือ
ให้ตายอย่างไรก็ไม่กล้าไปหรอก!
“หึ!”
เฟิงหยางกระแทกเสียงเ็า ไม่พูดอะไรต่อ เขาหันหลังเดินจากไป ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อยู่ที่นี่ต่อแน่
“พี่หยางรอข้าด้วย!”
น้องชายแท้ๆ ของเฟิงอวิ๋น เฟิงลั่วรีบวิ่งตามเฟิงหยางไปทันที
เฟิงลั่วคิดจะไปตามหาบิดาของเขาเฟิงฉางเทียนและเฟิงอวิ๋น หากมีบิดา เขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้
การจากไปของทั้งสองคนนี้ ได้ปลุกระดมผู้คนจำนวนไม่น้อย
“ในเมื่อพวกเ้าไม่คิดจะไป เช่นนั้นข้าจะพาเหยาเอ๋อร์ไปล่ะนะ”
หลิ่วอวี้หัวเราะอย่างเ็า จากนั้นก็ดึงมือของบุตรสาวเฟิงเหยาเดินออกไป
เฟิงเหยาไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้หยุดเท้า และไม่หันกลับมามอง
แต่พอถึงหน้าประตูคฤหาสน์แล้ว หลิ่วอวี้ก็อดหันมามองเฟิงฉางเกออีกครั้งไม่ได้
“เ้าไม่ไปจริงๆ หรือ”
หลิ่วอวี้ถาม
“ไม่ไป”
เฟิงฉางเกอตอบกลับทันทีไม่แม้แต่จะหยุดคิด
“ไม่ไปก็เื่ของเ้า!”
หลิ่วอวี้หันหลังกลับอย่างหงุดหงิด ดึงเฟิงเหยาเดินต่อทันที!
เฟิงฉางเกอดูแผ่นหลังของทั้งสองคนที่เดินจากไป ด้วยสีหน้าเศร้าหมองเล็กน้อย แต่เพียงพริบตาเดียวก็เผยสีหน้าหนักแน่น
ไม่ว่าจะอย่างไร เขาเฟิงฉางเกอก็ไม่มีทางทิ้งตระกูลเฟิงไปเฉยๆ เหมือนอย่างเฟิงฉางเทียนแน่!
“ข้าจะไป ตระกูลเฟิงตอนนี้รอดยาก อยู่ต่อไปก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น”
“ข้าไปด้วย มีแต่พวกโง่เท่านั้นแหละที่จะฝืนสู้แลกชีวิตกับสามตระกูลใหญ่!”
“ข้าไม่อยากไป ข้าตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกับตระกูลฉิน ด้วยพร์ของข้า ถ้าเข้าตระกูลฉิน ต้องได้รับทรัพยากรการฝึกฝนที่ไม่เลวแน่”
ตระกูลเฟิงมีสมาชิกน้อยใหญ่ทั้งหมดสี่ร้อยคน เพียงไม่นานพวกเขาก็ตัดสินใจกันได้
ในนั้น มีคนที่ตัดสินใจจะออกจากเมืองอยู่หนึ่งร้อยกว่าคน ตัดสินใจจะเข้าร่วมกับสามตระกูลใหญ่อีกร้อยกว่าคน
ส่วนสุดท้ายที่เหลืออยู่ คือคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของหลงอวี้และเฟิงฉางเกอ ซึ่งเหลือเพียงไม่ถึงสี่สิบคน!
เพียงแต่ทั้งสี่สิบคนนี้ ล้วนเป็หนุ่มสาวตระกูลเฟิงนอกสายเืที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญและความคึกคะนอง มีระดับวรยุทธ์ที่ไม่เลว
พวกคนหนุ่มสาวเหล่านี้เท่านั้นที่มีความเร่าร้อนในหัวใจ รู้สึกปลาบปลื้มในตัวหลงอวี้และเฟิงฉางเกอ พร้อมร่วมเป็ร่วมตายไปกับตระกูลเฟิง!
“คิดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายจะเหลือแค่พวกเ้าสี่สิบสองคนเท่านั้น”
เฟิงฉางเกอทอดถอนใจ
“ท่านประมุข ท่านดูแลพวกเราเป็อย่างดี เมื่อตระกูลเฟิงถึงคราววิกฤติถึงขั้นสิ้นตระกูลเช่นนี้ เราจะทอดทิ้งท่านได้อย่างไร?”
“ใช่แล้ว ท่านประมุข พวกตระกูลเฟิงสายเืตรงคนอื่นมักใช้งานพวกเราราวกับคนใช้ มีเพียงท่านประมุขที่ช่วยชี้แนะเื่การฝึกฝน ฝึกสอนวิทยายุทธ์ให้กับเรา! ต่อให้ต้องสู้จนตัวตาย ข้า ‘เฟิงเสี่ยวเฟย’ ผู้นี้จะยืนหยัดไปพร้อมกับท่านประมุข!”
“ข้า ‘เฟิงฮ่าวเฟิง’ ก่อนหน้านี้เป็เพียงบ่าวรับใช้ของตระกูลเฟิง แต่ท่านประมุขที่สังเกตเห็นความสามารถด้านวรยุทธ์ของข้า และประทานแซ่เฟิงให้ข้าได้เป็ลูกหลานตระกูลเฟิงนอกสายเื บุญคุณนี้ผู้เยาว์ไม่มีวันลืม!”
ทั้งสี่สิบสองคนที่เหลืออยู่ ต่างก็รู้สึกฮึกเหิมเร่าร้อน คำพูดของพวกเขาทำให้คนของตระกูลเฟิงที่เลือกจะออกจากตระกูลต่างไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาเลยทีเดียว
“ดี ดี วันนี้ พวกเรามาต่อสู้ด้วยกันให้สาแก่ใจไปเลย!”
มีหยดน้ำตาไหลจากขอบตาของเฟิงฉางเกอ เขาไม่คิดว่า ในเวลาแบบนี้จะยังมีผู้คนจำนวนมากขนาดนี้ยืนหยัดต่อสู้ไปพร้อมกับเขา
“ยอดเยี่ยม”
หลงอวี้แอบชื่นชมเบาๆ เพียงแต่พอเขาเงยหน้ามองพวกคนของตระกูลเฟิงที่เดินไปหาสามตระกูลใหญ่แล้ว ดวงตาก็เปลี่ยนเป็ฉายแววเ็าอำมหิตทันที
ไอ้คนพวกนี้ หลงอวี้ตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้พวกมันต้องสำนึกเสียใจ!
“ลุยกันเลย!”
หลงอวี้ก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว
“พ่อบุญธรรม ท่านคอยคุ้มกันพวกเขาไว้ ข้าไปประมือกับพวกมันก่อน”
“เสี่ยวอวี้!”
เฟิงฉางเกอถึงกับตกตะลึง คิดจะหยุดไว้ ทว่าเงาร่างของหลงอวี้ก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็วแล้ว!
“ประมุขตระกูลฉิน ฉินต้วน!”
หลงอวี้ที่ตัวเบาดุจสายลม พลันเคลื่อนตัวมาอยู่ตรงหน้าฉินต้วนในชุดดำ ส่งเสียงตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด
“เ้าบอกว่าข้าฆ่าบุตรชายของเ้าฉินเทียนเชวี่ยไป แต่เ้าหารู้ไม่ว่าบุตรเ้ามันต่ำช้าไร้ยางอายมากเพียงใด มันคิดจะฆ่าชิงทรัพย์ข้า เช่นนี้จะโทษใครได้?”
สิ้นเสียงตะคอก ฝ่ามือของหลงอวี้พลันเรืองแสงสีทองบางๆ ฝ่ามือเหล็กไหลพิชิตมารถูกซัดออกไปทันที!
ฉินต้วนไม่คิดว่าหลงอวี้จะลงมือกะทันหันขนาดนี้!
ในจังหวะนั้น ฉินต้วนเร่งเร้าลมปราณภายในตัว ใช้วิชาท่าร่างที่สืบทอดในตระกูลฉิน ท่าร่างวสันตวายุ สร้างม่านวสันตวายุบานหนึ่งขึ้นมา คิดต้านรับการโจมตีของหลงอวี้
“แก่นสยบฟ้า”
หลงอวี้ปล่อยพลังแห่งการกดทับออกมา พริบตาเดียวก็กดลงบนตัวของฉินต้วนจนนิ่งอยู่กับที่ แม้แต่ม่านวสันตวายุก็ยังบางลงไปหลายส่วน
เปรี้ยง!
ฝ่ามือสีทองอ่อนประทับลงหนึ่งฝ่ามือ ขยี้ม่านพลังป้องกันที่พัฒนาจากวิชาท่าร่างจนแตกละเอียด!
ก่อนหน้านี้ ตอนที่หลงอวี้เผชิญกับม่านวสัตวายุที่ฉินเทียนเชวี่ยใช้ในหุบเขาแห่งอสรพิษเวหา เขาไม่อาจทำอะไรได้เลย สุดท้ายก็ต้องเพิ่งวิชาวายุก้าวพริบตาที่บรรลุถึงขั้นสูงสุด หลอกลวงฉินเทียนเชวี่ยให้ติดกับ และฉวยโอกาสโจมตีอีกฝ่ายตอนที่ไม่ทันระวังตัว
แต่ตอนนี้ หลงอวี้ที่เผชิญหน้ากับบิดาของฉินเทียนเชวี่ย กลับสามารถทำลายม่านพลังวสันตวายุได้อย่างง่ายดายในฝ่ามือเดียว
ฝ่ามือของหลงอวี้มีพลังฝ่ามือเหล็กไหลพิชิตมารอัดแน่น ซัดออกไปอีกหนึ่งฝ่ามือ แต่หลังจากที่ม่านวสันตวายุแตกแล้ว ฉินต้วนก็ได้ใช้วิชาท่าร่าง ถอยออกไปหลายจ้างด้วยความเร็วสูง เหงื่อแตกจนใบหน้าเปียกชุ่ม
หลงอวี้แข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัวเกินไป ฉินต้วนคนเดียวไม่มีทางเป็คู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้แน่!
“ท่าเท้าไร้รอย!”
ตอนนี้ ในที่สุดปู่ทวดตระกูลถานก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด ใช้วิชาท่าเท้าไร้รอยที่เป็วิชาท่าร่างของตระกูลถาน พริบตาเดียวก็มาถึงข้างกายหลงอวี้แล้ว
“ฝ่ามือทลายเวหา!”
ใบหน้าชราของปู่ทวดตระกูลถานเผยความดุร้าย ใช้ฝ่ามือทลายเวหาที่บรรลุขั้นสมบูรณ์ หมายจะปลิดชีพของหลงอวี้ในฝ่ามือเดียว!
“ฝ่ามือเหล็กไหลพิชิตมาร!”
หลงอวี้หันกลับไป บนฝ่ามือมีประกายแสงสีทองอ่อนๆ ส่องสว่าง ซัดออกไปปะทะกับปู่ทวดตระกูลถาน
ตูม!!!
ทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ก่อนจะถอยออกไปคนละหลายก้าว ต่างฝ่ายต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด
‘ตาแก่นี่สมกับที่ขึ้นสู่วรยุทธ์ขั้นเก้ามาแล้วหลายสิบปี เชี่ยวชาญในการใช้ลมปราณมาก เหนือกว่าหลิงเลี่ยเสียอีก!’
หลงอวี้หรี่ตาลงพร้อมคิดในใจ
“ล้อมเฟิงฉางเกอกับคนพวกนั้นเอาไว้ซะ อย่าให้พวกมันหนีไปได้”
ประมุขตระกูลหลัว ‘หลัวเฉิงฮุย’ ดูสูงสง่า แววตาราวกับจิ้งจอกเ้าเล่ห์ ชี้นิ้วไปทางเฟิงฉางเกอพร้อมออกคำสั่ง
“หลังจากพวกเราสามประมุขร่วมมือกันจัดการเ้าหลงอวี้ได้แล้ว เมื่อนั้นจะเป็วันสิ้นสุดของตระกูลเฟิง!”
หลังสิ้นเสียง หลัวเฉิงฮุยก็ได้เคลื่อนตัวออกไปล้อมหลงอวี้อย่างรวดเร็ว
ยอดฝีมือวรยุทธ์ขั้นเก้าสามคน เพียงครู่เดียวก็ล้อมหลงอวี้ไว้ได้ และเปิดฉากโจมตีในวินาทีต่อมา!
ส่วนเฟิงฉางเกอและลูกหลานตระกูลเฟิงทั้งสี่สิบสองคนที่เหลืออยู่ถูกคนของสามตระกูลใหญ่ล้อมไว้ ไม่ปล่อยให้ออกไปได้แม้แต่ก้าวเดียว!
สามตระกูลใหญ่มีผู้ฝึกยุทธ์ที่วรยุทธ์สูงกว่าขั้นสี่มาด้วยทั้งหมดหนึ่งร้อยกว่าคน รวมกับพวกคนทรยศของตระกูลเฟิงที่ย้ายฝั่งอีกร้อยกว่าคน ตอนนี้พวกมันมีอยู่ทั้งหมดสองร้อยกว่าคน ล้อมคฤหาสน์ไว้จนไร้ทางออก
“เสี่ยวอวี้!”
เฟิงฉางเกอเห็นหลงอวี้ถูกล้อมไว้ก็อดเป็ห่วงไม่ได้!
“พ่อบุญธรรม ท่านวางใจ!”
หลงอวี้ะโ เมื่อเผชิญกับการล้อมโจมตีของสามยอดฝีมือวรยุทธ์ขั้นเก้า ผิวกายของเขาก็มีประกายแสงสีทองอ่อนๆ สว่างขึ้น
“ม่านเหล็กพิชิตมาร!”
ปู่ทวดตระกูลถาน ฉินต้วน หลัวเฉิงฮุย การโจมตีของทั้งสามเข้าประชิดร่างของหลงอวี้ในพริบตา!
เกิดเสียงะเิดังกึกก้อง ทั้งสามถอยออกมาหลายก้าว แต่หลงอวี้ที่ยืนอยู่ตรงกลาง กลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่ก้าวเดียว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้