หน่วยรักษาความปลอดภัยของบ้านพักตากอากาศมาถึงปุบปับและออกไปอย่างยิ่งใหญ่พวกเขาจับกุมอันธพาลกลุ่มใหญ่และออกไปจากห้อง
แล้วห้องก็เงียบลงอีกครั้งผู้ชมทั้งหลายยังสับสนกันอยู่พวกเขาทุกคนมองฉินเฟิงด้วยความใและอยากจะกลืนหมัดตัวเองเข้าไป
ฉินเฟิง? นายน้อยฉิน?
กลุ่มเพื่อนร่วมชั้นนี้ส่วนใหญ่เป็คนในเมืองเว่ยเฉิงดังนั้นชื่อของนายน้อยฉินจึงเหมือนกับฟ้าผ่าข้างหูมีหลายคนที่รู้เื่เื้ัของบ้านพักตากอากาศว่าเป็สินทรัพย์ของหวงเจียกรุ๊ปซึ่งมีพ่อของฉินเฟิงเป็เ้าของ
สำหรับเขาที่ได้มาอยู่ในโรงแรมบ้านพักตากอากาศและสามารถเรียกหน่วยรักษาความปลอดภัยกลุ่มใหญ่ถูกเรียกว่านายน้อยฉินอย่างเคารพมันก็ไม่จำเป็ต้องคิดต่อ คนที่แกล้งทำเป็เด็กจนๆตลอดเวลาก่อนหน้านี้คือนายน้อยเ้าสำราญอันดับหนึ่งแห่งเมืองเว่ยเฉิงนายน้อยฉินอย่างไม่ต้องสงสัย
ทุกคนมองฉินเฟิงใหม่สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนจากเหยียดหยามเป็กระดิกหาง
“นายน้อยฉิน คุณคือหัวหน้าของสี่คุณชายแห่งเมืองเว่ยเฉิงนายน้อยฉินคนนั้น!” มีบางคนอดไม่ได้ที่จะะโด้วยความประหลาดใจ
“เป็นายน้อยฉินจริงๆ สินะฉันจะพูดั้แ่แรกที่เจอกันแล้วว่าคุณมีบรรยากาศาาแผ่ออกมาพลังอำนาจและการปกครองแบบนี้ไม่ใช่อะไรที่คนจะเรียนรู้ได้ คุณคือบุตรแห่ง์ถ้าอยู่ในสมัยก่อนคุณต้องเป็จักรพรรดิแน่!”
“โอ้! เพื่อนร่วมชั้นไป๋ชิงของเรารสนิยมดีจริงๆที่สามารถคว้าลูกชายของคนที่รวยที่สุดในเว่ยเฉิงได้ฉันล่ะอิจฉาเธอแทบตายเลย…แต่ไป๋ชิงของเราและนายน้อยฉินนี่ก็เหมาะสมกันเหมือนลิขิตโดย์จริงๆคนหนึ่งก็มีพร์ อีกคนก็มีอำนาจและความสามารถพวกเขาเป็คู่สร้างคู่สมที่ไม่มีใครเทียบ”
คลื่นคำชมเชยทะลักเข้ามาโดยไม่มีคำเตือนแม้แต่หลิวิและจ้าวปินที่แกล้งเมาสลบมานานก็ยืนขึ้นทันที
เมื่อพวกเขาพบว่าฉินเฟิงคือนายน้อยฉินพวกเขาก็ตัวแข็งด้วยความใ เทียบกับตดหมาอย่างฟางจื้อินายน้อยฉินเป็ความภาคภูมิใจของเทพ ขณะที่ฟางจื้อิเป็แค่คนธรรมดาเดินดินทั้งสองรีบจัดแจงตัวเองและพูดกับฉินเฟิงด้วยรอยยิ้ม
“นายน้อยฉิน คุณคอแข็งมากเลยการที่ได้ดื่มโต๊ะเดียวกับคุณถือว่าได้ใช้บุญมา 8 ชาติต่อไปผมหวังว่านายน้อยฉินจะชี้นำผมนะครับ”
“ผมบอกตลอดเวลาว่าฉินเฟิงไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นความรู้สึกที่ลึกลับของเขาแผ่ออกมาตลอด ถ้าค่อยๆปฏิสัมพันธ์กับเขาก็จะพบว่านายน้อยฉินไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาอย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้เขากับไป๋ชิงที่คบด้วยกันไม่ใช่ความโชคดีของนายน้อยฉิน แต่เป็ความโชคดีของไป๋ชิงตอนนี้ทุกคนเชื่อความหวังดีของฉันแล้วล่ะสิ”
เมื่อพวกเขาได้ยินจ้าวปินพูดเื่ราวทั้งหมดด้วยท่าทีองอาจแต่ก็บอกอย่างชัดเจนว่าฉินเฟิงไม่ได้ดีพอสำหรับไป๋ชิงในตอนแรก ผู้คนรู้สึกอยู่ลึกๆพวกเขาควรจะทำตามเขาเป็ตัวอย่าง
เมื่อตัวจริงของนายน้อยฉินถูกเปิดเผยพวกเขาก็ปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง
ทุกคนพยายามจะรับความชอบจากฉินเฟิงฟางจื้อิกลายเป็ธาตุอากาศและไม่มีใครชายตามองเขาเลย
ตอนนี้ฟางจื้อิไม่ได้เต็มไปด้วยความโกรธเขาเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย
เขาดูเหมือนถูกไฟช็อกยืนตัวแข็งเหมือนิญญาออกจากร่างและไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงชมจอมปลอมรอบตัวสมองของเขาส่งเสียงวิ้ง และมีแค่เสียงเดียวที่เข้ามา
“ฉินเฟิงคือนายน้อยฉิน!”
ประโยคนี้ดูเหมือนจะธรรมดาแต่มันมีพลังในการตัดสินใจชะตาของฟางจื้อิหรือแม้แต่ตระกูลฟางทั้งตระกูล
ฟางจื้อิเปิดบริษัทหลังเรียนจบก็จริงและบริษัทนั้นก็กำลังไปด้วยดีทว่าตัวบริษัทนั้นอยู่ภายใต้พ่อของเขาและคนที่บริหารจัดการบริษัทนั้นก็เป็พวกมีพร์ที่เขาจ้างจากภายนอกจากวันสู่คืนมีกฎที่ไม่ได้เขียนกับเลขาหญิงในบริษัทตอนกลางคืนเขาไปที่บาร์เพื่อตกนักศึกษาหญิงเขาจะสวมรอยยิ้มสดใสและความหล่อจอมปลอมเพื่อทำสิ่งชั่วร้ายที่สามารถทำให้ครอบครัวของเขาบรรลัยได้
ตอนนี้เขาทำตัวอวดดีและไปชนเข้ากับเทพแห่งการอวดดีนายน้อยฉิน ฟางจื้อิรู้ว่าวันของเขามาถึงจุดจบแล้ว ถ้านายน้อยฉินโกรธจริงๆแม้แต่พ่อของฟางจื้อิก็คงหมดโชค
เขาคุกเข่าต่อหน้าฉินเฟิงทันทีบริษัทครอบครัวของเขาสำคัญกว่าการที่เขาจะดูน่าหัวเราะเพียงใดเขาขอร้องฉินเฟิงต่อหน้าทุกคน “นายน้อยฉินผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรอวดดีต่อหน้าคุณเลยผมไม่ควรจะก่อปัญหาให้คุณ ผมขอร้อง ได้โปรดยกโทษและปล่อยผมไปแค่ครั้งนี้ด้วยเถิด”
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าใในวันนี้สมองของผู้คนเข้าสู่ความว่างเปล่า
พวกเขารู้ว่านายน้อยฉินมีอำนาจล้นหลามในเมืองเว่ยเฉิงแต่ตอนนี้พวกเขาพบกับอำนาจของเขาโดยตรง พลังในการข่มขู่นี้สมจริงมากที่สุด
ตลอดมาทุกคนคิดว่าฟางจื้อิสูงส่งและเป็คนที่มาจากคนละโลกแต่ฟางจื้อิแค่ได้ยินชื่อของนายน้อยฉินก็คุกเข่าต่อหน้าเขาโดยไม่สนหน้าตาพลังแบบนี้อยู่เหนือสิ่งที่พวกเขาจะจินตนาการได้ในฐานะคนธรรมดา
สายตาของฉินเฟิงไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่น้อยเขาไม่แม้แต่จะชายตามองฟางจื้อิเพราะเขาเห็นเจตนาของฟางจื้อิมานานแล้วเขาอยากจะจัดการมัน ที่สำคัญกว่านั้น มันอยากจะแตะต้องไป๋ชิง
ในเมื่อมันกล้ามีเจตนาจะมาตกผู้หญิงของเขาฉินเฟิงไม่ผ่อนผันกับมันแน่นอน
“ฉินเฟิง ออกไปกันเถอะ”ไป๋ชิงยังไม่รู้ความคิดสกปรกของฟางจื้อิระหว่างที่กอดแขนฉินเฟิงเธอเห็นว่าฉากตรงหน้านี้อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ฉินเฟิงไม่ได้ฟังไป๋ชิงเขามองจ้าวปินและหลิวิด้วยความเ็า “ฉันจะให้โอกาสพวกนายตอนนี้บอกเป้าหมายที่แท้จริงของฟางจื้อิที่จัดงานเลี้ยงรุ่นนี้ขึ้นมาใครก็ตามที่พูดก่อนจะได้โอกาสทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ภายใต้หวงเจียกรุ๊ป”
คำพูดของฉินเฟิงเพิ่งจบและหลิวิก็รีบชี้ไปยังฟางจื้อิทันทีเขาพูดอย่างไร้ความปรานี “นายน้อยฉินครับ…ไอ้หมอนี่มันเป็หมาป่าโรคจิตในคราบแกะแม้แต่ฟ้าดินก็ยังทนไม่ไหวที่มันขาดความชอบธรรม”
“เมื่อแรกเริ่มนั้นมันจัดงานเลี้ยงรุ่นมัธยมปลายนี้เพื่อให้ความสำคัญและความสะดวกแก่เราแต่ความจริงมันอยากจะวางท่าต่อหน้าไป๋ชิงและได้เธอมาแล้วมันจะได้ขึ้นห้องกับเธอตอนกลางคืนไอ้สัตว์ป่าฟางจื้อิออกกำลังกายและเล่นกล้ามเพื่องานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้และถึงขนาดไปหาพี่เพลิงและพวกนักเลงเพื่อแสดงเป็ฮีโร่ช่วยสาวงาม”
ในอึดใจเดียวหลิวิพ่นรายละเอียดแผนของฟางจื้อิทุกอย่างทุกคนถึงกับพูดไม่ออก
สีหน้าของไป๋ชิงเ็าอีกครั้งเธอรู้สึกถึงคลื่นความรังเกียจเมื่อคิดว่าตัวเองเคลิบเคลิ้มโดยท่าทางของฟางจื้อิเพียงใดและเขาแกล้งทำเหมือนกับว่าทุ่มเทกับเธอเพียงคนเดียวแม้ว่าเธอจะย่างเข้าสู่สังคมและทำงานมาห้าปีเธอก็ยังเป็ผ้าใบที่ว่างเปล่าเมื่อเป็เื่ของความรักเธอโกรธอย่างมากเมื่อพบว่าความรู้สึกของเธอถูกล้อเล่นอีกครั้ง
เมื่อฉินเฟิงรู้สึกถึงร่างที่อ่อนแอของไป๋ชิงสั่นเทาเขาก็กอดไป๋ชิงแน่นขึ้นเขาจัดผมที่ยุ่งเหยิงของเธอบนหน้าผากและกล่าวอย่างแ่เบา “ชิงชิงกลับไปที่ห้องกันเถอะ”
ไป๋ชิงพยักหน้าเธอไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้วจริงๆเธอซบในอ้อมกอดของฉินเฟิงอย่างเชื่อฟังและเดินออกจากห้อง