ภายในบ้านเช่าร่างของกู้เจี้ยนฟาง ถูกมัดติดเก้าอี้ไม้เอาไว้อย่างแ่า ที่ปากของเขายังมีผ้าอุดเอาไว้ไม่ให้ส่งเสียง หยางไท่ิคอยสังเกตท่าทางของซูอัน แต่เขามองไม่เห็นถึงความหวาดกลัวจากร่างบาง นางยังคงวางสีหน้าเรียบเฉยมือไม้ไม่มีอาการสั่นแม้สักนิด
แต่กลับเป็กู้เจี้ยนฟางที่เริ่มหวาดกลัว เนื่องจากเขายังไม่รู้ว่ากลุ่มคนตรงหน้า้าสิ่งใดกันแน่ เมื่อปากของเขาเป็อิสระสิ่งที่ถามออกไปก็คือบุตรชายอย่างกู้ต้าหลางทันที “นางเด็กบ้า! เ้าทำอะไรลูกข้าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน หากเ้าทำให้ลูกชายข้าาเ็อีก ครั้งนี้ข้าจะฉีกเ้าเป็ชิ้น ๆ คอยดู!”
ซูอันนั่งลงบนเก้าอี้ที่คนของตนยกมาวางให้อย่างรู้หน้าที่ จากนั้นจึงตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังนัก “ข้าทำอะไรกู้ต้าหลางน่ะหรือ ก็ไม่มีอันใดมากกับคนสันดานชั่วช้าเช่นนั้น ข้าแค่ใช้มีดแทงไปที่ท้องลูกชายของเ้าสองครั้ง แค่สองครั้งเขาก็ทนไม่ไหวขาดใจตายเพราะเสียเืมากเกินไปเท่านั้น ป่านนี้คงไปนอนเล่นสบาย ๆ อยู่ในนรกแล้วกระมัง”
“ต้าหลางลูกพ่อ อ้ากก!! นางเด็กสารเลวเ้าฆ่าลูกชายทำไม”
“นี่ตาแก่เ้ากล่าวหาว่านางสารเลว แล้วสิ่งที่เ้ากับบุตรชายของเ้าได้ทำลงไปเล่า คิดว่านั่นคือการทำความดีมีเมตตางั้นรึ!” ฟงเฉิงฮ่าวตอบโต้แทนซูอัน
หยางไท่ิก้าวมานั่งเก้าอี้ที่วางอยู่ และยังเป็เก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ ซูอันอีกเหมือนเดิม “กู้เจี้ยนฟางคนที่คอยสั่งการเ้าคือใคร หากเ้ายอมบอกแต่โดยดีย่อมไม่มีการทรมานเกิดขึ้น ตรงกันข้ามถ้าเ้าไม่ยอมพูด ข้ามีวิธีการทรมานอีกมากมายที่จะทำให้เ้าพูด เ้าจะยอมเสียสละตนเองกับบุตรชายเพียงสองคน แล้วให้คนในครอบครัวที่เหลือรอดชีวิต หรืออยากให้ตายทั้งตระกูล”
ซูอันนั่งฟังและคิดอยู่ในใจเกี่ยวกับวิธีการทรมานคน เท่าที่นางเคยร่ำเรียนในมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การทรมานของเ้าหน้าที่ในราชสำนัก น่ากลัวสำหรับคนที่กระทำความผิดไม่น้อย
สายตาของกู้เจี้ยนฟางเริ่มเลิ่กลั่ก เพราะจำไม่ได้ว่าตนเองเผลอพูดเื่นี้ออกไปเมื่อใด “ผะ ผะ ผู้บงการอันใดกันข้าฟังไม่เข้าใจ ว่าพวกเ้า้าอะไรจากข้ากันแน่”
ซูอันเคยพบเจอคนทำผิดมีอาการเช่นนี้มาไม่น้อย ใยนางจะไม่รู้ว่ากู้เจี้ยนฟางกำลังหลบเลี่ยงการตอบคำถาม “หึ ดูท่าคำขู่ของคุณชายหยางจะไม่ได้ผลนะเ้าคะ แต่คำโบราณว่าไว้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ข้าคิดว่าแค่คำพูดคงทำให้ตาแก่นี่ไม่ยอมเปิดปากเป็แน่เ้าค่ะ”
“คุณหนูรองพูดได้ดี! ข้าคิดว่าลองควักลูกตาของตาแก่นี้ออกมาสักหนึ่งข้าง หรือไม่ก็ตัดนิ้วมือทีละนิ้วดีหรือไม่ หากยังไม่ยอมพูดก็ตัดไปเรื่อย ๆ ถ้านิ้วมือไม่พอให้ตัดก็ยังมีนิ้วเท้า เ้าว่าวิธีของข้าเป็อย่างไรอาิ” ฟงเฉิงฮ่าวสนับสนุนคำพูดของซูอันเต็มที่
ในเมื่อสตรีอย่างซูอันไม่มีท่าทางหวาดกลัว หยางไท่ิย่อมยินดีทำตามคำแนะนำของนาง “แน่นอนอาฮ่าว ผู้ร้ายปากแข็งเช่นนี้ทรมานนาน ๆ ดีกว่าฆ่าให้ตายในดาบเดียว ไม่ทราบว่าคุณหนูรองอยากให้ตัดส่วนใดก่อนดีเล่า”
ซูอันตอบหยางไท่ิอย่างไม่ยี่หระ “ส่วนไหนที่ทำให้กำเนิดบุตรหลานชั่ว ๆ ก็ตัดตรงส่วนนั้นก่อนก็แล้วกันเ้าค่ะ”
พอได้รับคำตอบของซูอันบุรุษที่อยู่ในบ้านเช่าทั้งหมด แอบกลืนน้ำลายแล้วค่อย ๆ เลื่อนมือของตนไปกุมตรงส่วนสำคัญของตนทันที พวกเขาคิดไม่ต่างกันเลยว่าซูอันที่เป็หญิงสาว ที่ยังไม่ถึงวัยปักปิ่นก็มีวิธีทำร้ายบุรุษเช่นนี้แล้ว ถ้าในอนาคตนางมีสามีที่ทำผิดต่อนาง คงมีชีวิตอยู่ไม่สู้ตายเป็แน่ อย่าว่าแต่คนอื่น ๆ แม้แต่หยางไท่ิกับฟงเฉิงฮ่าว ยังรู้สึกเสียวสันหลังกับคำพูดของซูอัน เพียงแต่ไม่สามารถแสดงให้เห็นเท่านั้น
หยางไท่ิสั่งคนของตนให้ทำตามที่ซูอันบอกกับพวกเขา โดยไม่มีการคัดค้านแต่อย่างใด “อู๋ซวน /อู๋ซู ทำตามที่คุณหนูรองพูด หลังจากตัดส่วนนั้นทิ้งไปแล้ว หากคนร้ายยังไม่ยอมพูดก็ตัดส่วนอื่นต่อไป”
“รับทราบขอรับคุณชาย!”
กู้เจี้ยนฟางมองไม่เห็นถึงความกังวลจากกลุ่มคนตรงหน้า คราแรกเขาคิดว่าพวกหยางไท่ิ อาจจะมีข้อต่อรองอย่างอื่นมาเพิ่ม แต่ผลกลับไม่เป็อย่างที่คิด เพราะหยางไท่ิกลับทำตามคำพูดของซูอันจริง ๆ เมื่ออู๋ซวนดึงมีดสั้นที่คมกริบเดินเข้าไปใกล้ กู้เจี้ยนฟางจึงรีบลนลานร้องขอความเมตตา เพื่อสารภาพเื่ของผู้สั่งการอยู่เื้ัทันที
“หยะ หยะ อย่าทำข้าเช่นนั้นเลยได้โปรดคุณชาย ข้าจะพูด ๆ ทุกอย่างที่รู้ดีหรือไม่”
“พวกข้ารอฟังอยู่” หยางไท่ิตอบเพียงสั้น ๆ
“อึก คะ คะ คนที่คอยสั่งการอยู่เื้ั เกี่ยวกับการลักพาตัวช่างทอผ้าฝีมือดี ก็คือบุตรชายคนโตของใต้เท้าเหยียน ที่คอยสนับสนุนองค์ชายห้าอย่างลับ ๆ เพราะมีแม่ทัพหลัวเป็กำลังหลัก จึงต้องใช้เงินตำลึงจำนวนมากในการดูแลกองทัพนี้ ใต้เท้าเหยียนจึงอาศัยกิจการร้านผ้าของฮูหยินเอกบังหน้า เพื่อหาเงินตำลึงจำนวนมาก
โดยวางแผนให้บุตรชายคนโตอย่างเหยียนโจวเฟิง พากำลังคนส่วนหนึ่งมาสร้างโรงทอผ้าลับ ๆ บนเขาผู่ถัว จากนั้นจึงเริ่มลงมือลักพาตัวช่างทอ ที่ทำงานให้กับตระกูลระดับกลางและระดับสูงบางตระกูล รวมถึงลวดลายต่าง ๆ ที่งดงาม เพื่อให้ช่างทอผ้าเ่าั้ทำออกมา ก่อนจะส่งไปขายให้กับต่างแคว้น”
สองสหายหันมามองหน้ากัน พวกเขาไม่คิดว่าเหยียนกุ้ยเฟย ที่ทำตัวเงียบ ๆ ไม่ยุ่งวุ่นวายกับผู้ใดในวังหลัง กับองค์ชายห้าที่ดูอ่อนแอผู้นั้น จะกระทำการร่วมกับตระกูลของตนอย่างลับ ๆ การกระทำของสองแม่ลูกช่างแเี สามารถตบตาคนในราชสำนักได้ดียิ่งนัก
“เ้าบอกว่ามีโรงทอผ้าอยู่บนเขาผู่ถัว เช่นนั้นเ้าก็เคยไปที่นั่นมาแล้วสินะ” หยางไท่ิยัง้าให้กู้เจี้ยนฟาง บอกทุกอย่างให้มากกว่านี้
“ชะ ชะ ใช่ข้าเคยไปที่นั่นเพื่อนำผ้าทอจำนวนมาก ไปส่งให้ลูกค้าที่อยู่ต่างแคว้นทุกสามเดือน คุณชายข้าบอกสิ่งที่รู้แก่พวกท่านแล้ว ได้โปรดเมตตาปล่อยข้าไปเถิดนะ”
แต่หยางไท่ิยังไม่เชื่อ “หึ กู้เจี้ยนฟางเ้าคิดว่าข้าเป็เด็กอมมือรึ การที่เสนาบดีเหยียน้าเงินตำลึงจำนวนมาก จะมีเ้าเป็สุนัขรับเพียงผู้เดียวได้อย่างไร แค่พ่อค้าตระกูลเล็ก ๆ หากไม่มีขุนนางในพื้นที่คอยช่วยเหลือ การค้าของเ้าไม่มีทางปลอดภัย จนนำสินค้าไปส่งให้ถึงมือลูกค้าได้กระมัง”
“ระ ระ เื่นี้ข้าไม่รู้จริง ๆ ขอรับ คุณชายได้โปรดปล่อยข้าไปเถิด”
ซูอันที่นั่งเงียบอยู่นานรู้สึกทนไม่ไหวกับการไต่สวนที่ชักช้า นางจึงลุกขึ้นโดยที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว กู้เจี้ยนฟางก็หงายหลังไปทั้งเก้าอี้แล้ว
“โครม!! อั่ก! น่าเบื่อสิ้นดี”
“พวกท่านชอบไต่สวนคนร้ายโดยการใช้เวลานาน ๆ เช่นนี้หรือ เสียเวลาไปเปล่า ๆ ในเมื่อได้ข้อมูลของผู้อยู่เื้ัแล้ว อีกทั้งยังมองออกว่ามีขุนนางในท้องที่นั้น ๆ คอยคุ้มกันเปิดทางให้ ใยไม่คิดหาแผนการล่อเหยื่อให้ติดเบ็ดเล่า ส่วนตาแก่นี่ก็จัดการให้ไปตามหาบุตรชายเสียก็สิ้นเื่ จะเปลืองน้ำลายพูดให้มากความต่อไปทำไมเ้าคะ” ซูอันถีบกู้เจี้ยนฟางจนล้มไปแล้ว หันมาบ่นกับบุรุษสองคนด้านหลัง
หยางไท่ิกับฟงเฉิงฮ่าวถึงกับอึ้งในสิ่งที่ซูอันพูด พอคิดทบทวนให้ดีพวกเขามักใช้เวลาในการทรมานจริง ๆ บางคราคนร้ายที่ความอดทนสูงก็ไม่ยอมปริปากง่าย ๆ ทำให้เสียเวลาไปหลายวันกว่าจะสำเร็จ แต่บางคนทนพิษาแไม่ไหวชิงตายไปเสียก่อน เบาะแสทุกอย่างก็ขาดเสียกลางทาง
“เอ่อ ไม่ใช่ว่าพวกข้าไม่คิดเช่นที่คุณหนูรองบอก เพียงแต่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มอีกเล็กน้อยเท่านั้น ใช่ไหมอาิ” ฟงเฉิงฮ่าวพูดไปด้วยขยิบตาให้สหายตามน้ำไปกับตนเองด้วย
“อะฮึ่ม เป็เช่นนั้น” หยางไท่ิหาคำพูดมาแก้ตัวไม่ทัน เพราะที่ซูอันพูดมาย่อมเป็เื่จริง
“คุณหนูรอง ๆ อย่าฆ่าข้าเลยนะ พวกท่านอยากให้ข้าร่วมมือทำอันใด ข้าจะทำให้ทุกอย่างขอเพียงอย่าฆ่าข้าก็พอนะคุณหนูรอง” กู้เจี้ยนฟางหันมาร้องขอความเมตตาจากซูอันบ้าง
แต่คนที่เด็ดขาดอย่างซูอันจะปล่อยเสือเข้าป่า เปิดโอกาสให้กู้เจี้ยนนำเื่พวกนี้ไปบอกผู้บงการได้อย่างไร “เมตตา? ใยข้าต้องเมตตาเ้าตาแก่ ตอนที่ชาวบ้านขอความเมตตาจากเ้ากับลูกชาย ทำไมถึงไม่มอบความเมตตากลับไปบ้างเล่า คนที่ถูกจับตัวไปพวกเขาล้วนเป็กำลังหลักของครอบครัว เ้าไม่เห็นจะคิดถึงความรู้สึกของพวกเขาสักนิด อย่าได้ร้องขอมันจากข้าเพราะข้าไม่มีให้”
เมื่อหยางไท่ิคิดดูแล้วว่าความคิดของซูอันไม่เลว จึงหันไปพยักหน้าให้อู๋ซวนกับอู๋ซูให้นำตัวกู้เจี้ยนฟาง ไปจัดการอย่างเงียบรวมถึงการทำลายร่างของกู้เจี้ยนฟางเสีย
“อู๋ซวนเ้ากับอู๋ซูทำตามที่คุณหนูรองบอก ส่วนที่เหลือหลังจากนั้นคงรู้นะว่าต้องทำอย่างไรต่อไป”
สองพี่น้องอู๋ย่อมเข้าใจความหมาย ที่เ้านาย้าจะสื่อกับตน “พวกข้าสองคนเข้าใจแล้วขอรับคุณชาย”
จากนั้นหยางไท่ิแสดงความมีน้ำใจ ด้วยการอาสาไปส่งซูอันกลับจวน จากนั้นถึงจะคิดหาแผนการเช่นที่ซูอันบอกไว้ “ขอบคุณคุณหนูรองที่ชี้แนะพวกข้า ตอนนี้ทุกอย่างถูกไขให้กระจ่างแล้ว ข้าจะไปส่งคุณหนูรองที่จวนก็แล้วกัน อาฮ่าวเ้ากลับไปรอข้าที่โรงเตี๊ยม ไว้ข้ากลับไปพวกเราค่อยหารือวางแผนอีกที”
“ได้ ข้าจะรอเ้าที่โรงเตี๊ยม”
