-841,-857,-875……
ภายใต้การโจมตีของเย่เทียนเซี่ยพลังชีวิตของสิงโตดาบทองก็ลดลงจนเหลือไม่ต่ำกว่าหนึ่งในสาม นอกจามันจะใช้ทักษะสิงโตพุ่งของตัวเองพุ่งเข้ามาหาเย่เทียนเซี่ยและกวาดเอาพลังชีวิตของเขาไปได้หกร้อยกว่าหน่วยแล้วแม้แต่ชายเสื้อของเขามันก็ไม่สามารถแตะเขาได้อีก.......... และการโจมตีเพียงครั้งเดียวที่ไปถึงเย่เทียนเซี่ยก็อาจจะเป็ความจงใจของเย่เทียนเซี่ยเองที่้าจะตรวจสอบว่าพลังโจมตีของมันมีมากเท่าไร
สิงโตดาบทองคำรามก้องเสียงดัง มันปลดปล่อยทักษะสิงโตคำรามที่ลดพลังโจมตีในรัศมีวงกว้างออกมาอีกครั้ง แต่เย่เทียนเซี่ยที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับพลังของทักษะนี้มาแล้วไม่เพียงไม่รีบหนีออกไปจากขอบเขตการแสดงผลอย่างรวดเร็ว แต่เขากลับพุ่งเข้าไปหามัน เขาโจมตีไปที่ร่างของมันอย่างรวดเร็วขณะที่มันปลดปล่อยทักษะสิงโตคำรามออกมาราวกับไม่ได้สนใจพลังโจมตีที่อ่อนแอลงของตัวเอง
ทักษะสิงโตคำรามดังขึ้นการกระทำในระยะเวลาสั้นๆของเย่เทียนเซี่ยชะงักลง จากนั้นเขาก็ใช้ัสะบั้นโจมตีอย่างต่อเนื่องไปที่ร่างของสิงโตดาบทอง แต่พลังโจมตีกลับไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ด้วยสมาธิที่เกินกว่าคนธรรมดาไปหลายเท่าทำให้การโจมตีด้านจิติญญายากที่จะแสดงผลบนร่างเขาได้ ดังนั้นภายใต้การป้องกันอย่างมีสติของเย่เทียนเซี่ยความเป็ไปได้ในการแสดงผล70% ที่ทักษะสิงโตคำรามจะลดพลังโจมตีลงจึงกลายเป็ 0%
ถ้าสิงโตดาบทองมีไอคิวมากพอมันคงจะกระอักเืออกมาสักสามกอง
หลังจากใช้ทักษะสิงโตคำรามพลังชีวิตของสิงโตดาบทองก็ถูกเย่เทียนเซี่ยกวาดหายไปจนเหลือต่ำกว่า 20% ไอพลังอันรุนแรงกลุ่มหนึ่งพวยพุ่งออกมาจากร่างของมันอย่างกะทันหัน คลื่นความโกรธเกรี้ยวที่ะเิออกมาเหมือนลาวาทำให้อุณหภูมิโดยรอบเพิ่มสูงขึ้น......... มันคือทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดของสิงโตดาบทอง.......... ทักษะสิงโตพิโรธคำรามพุ่งออกไปทางด้านหน้า
ความเสียหายแน่นอน 1,300 หน่วยและติดสถานะมึงงง 3 วินาทีขึ้นไป แต่ถึงกระนั้นเย่เทียนเซี่ยก็ยังไม่ถอยหลังออกไป แต่เขากลับพุ่งเข้าหาเ้าสิงโตร่างใหญ่แล้วโบกมือออกไปเบาๆ “............แกหมดโอกาสแล้วล่ะ”
“หัวใจผู้กล้า!”
ดาบสั้นที่สลักอยู่บนหน้ากากผู้กล้าส่องแสงสีทองสว่างไสวขึ้นมาทันทีตามเสียงของเย่เทียนเซี่ย จากนั้นมันก็ซึมเข้าไปในร่างกายของเย่เทียนเซี่ยทำให้สองมือของเขาปรากฏเงาสีทองบางเบาที่ยากจะสังเกตเห็น.............
ดวงใจผู้กล้า การรวบรวมความเชื่อและความมุ่งมั่นของผู้กล้า มันคือทักษะแห่งความเชื่อมั่นที่สามารถทำให้การโจมตีครั้งต่อไปแสดงผลออกมา 100% เต็ม
“พายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้า!!”
สายลมอันบ้าคลั่งปรากฏขึ้นมาทันทีโดยมีร่างกายของเย่เทียนเซี่ยเป็แกนหลัก มือของเย่เทียนเซี่ยกระชับห้วงเวลาแห่งโชคชะตาแน่น ร่างของเขาหมุนวนด้วยความเร็วสูงท่ามกลางเสียงคำรามก้อง ความเร็วในการหมุนสามารถก้าวไปถึงระดับที่น่ากลัวได้อย่างฉับพลัน ห้วงเวลาแห่งโชคชะตาที่ถูกถือเอาไว้เป็แนวนอนกลายเป็เงาสายหนึ่งแล้วฟันลงบนร่างของสิงโตดาบทองอย่างรวดเร็วเจ็ดครั้ง............
-851,-835,-849,-879,-837,-869,-842!
การโจมตีซ้ำเจ็ดครั้งที่ดูเหมือนจะสำเร็จภายในครั้งเดียวเกิดขึ้นรอบกายของเย่เทียนเซี่ยอย่างฉับพลัน สายลมอันบ้าคลั่งของพายุหมุนัที่กระจายออกไป แล้วร่างที่หมุนด้วยความเร็วสูงของเย่เทียนเซี่ยก็หยุดลงอย่างรวดเร็วภายใต้การควบคุมของเขา......... ทักษะพายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้าระบุไว้อย่างชัดเจนว่าหลังใช้ทุกครั้งจะติดสถานะมึนงงเป็เวลาสามวินาที แต่ครั้งแรกที่ใช้ทักษะนี้เย่เทียนเซี่ยก็รู้ทันทีว่าสถานะมึนงงเกิดขึ้นได้อย่างไร...........
พายุหมุนัเจ็ดชั้นฟ้าคือการใช้พลังัขับเคลื่อนสายลมให้หมุนวนจนทำให้ร่างกายหมุนคว้างและทำการโจมตีด้วยอาวุธขณะที่ร่างกายกำลังหมุนอยู่ เมื่อร่างกายหมุนวนเจ็ดรอบอาวุธก็จะโจมตีต่อเนื่องเจ็ดครั้ง.......... และความเร็วในการหมุนที่น่ากลัวเช่นนี้หากสมองจะไม่รู้สึกวิงเวียนสักหน่อยก็คงจะเป็ไปไม่ได้ แม้กระทั่งเย่เทียนเซี่ย แม้ว่าเขาจะใช้สมาธิของตัวเองแล้วก็ยังต้องใช้เวลาถึงสองวินาทีถึงจะฟื้นการควบคุมร่างกายตัวเองคืนมาได้
การโจมตีเจ็ดครั้งภายใต้ทักษะหัวใจผู้กล้าทำให้เกิดเป็การโจมตีเต็มกำลังเจ็ดครั้ง..........และเกิดความเสียหายเป็ 14 เท่าเต็มๆ พลังชีวิตของสิงโตดาบทองถูกกวาดไปจนเกลี้ยง สิงโตดาบทองที่ค้างอยู่ในท่ากำลังใช้ทักษะ “สิงโตพิโรธคำราม” ในที่สุดก็ไม่มีโอกาสปลดปล่อยเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวของมันออกมาและมันก็กลายเป็เสียงร้องออกมาด้วยความสิ้นหวังแทน ร่างกายใหญ่โตที่แน่นิ่งอยู่ตรงนั้นล้มลงบนพื้น แสงสีทองระยิบระยับร่วงลงมาจากร่างของมันชิ้นแล้วชิ้นเล่าพร้อมกับขนสีทองของมัน
“ติ๊ง! ท่านสังหารสิงโตดาบทองบอสขุนนางเลเวล 25 สำเร็จแล้วค่ะ ชื่อเสียง +25”
“ติ๊ง! ‘จิ้งจองทมิฬ’ สัตว์เลี้ยงของท่านเลื่อนระดับเป็เลเวล 9, พลังชีวิต +20, พลังเวทย์ +80, พลังโจมตีทางกายภาพ +4, พลังโจมตีด้วยเวทมนต์ +8, การสร้างความเสียหาย +1, การหลบหลีก +1”
“ติ๊ง! ‘จิ้งจองทมิฬ’ สัตว์เลี้ยงของท่านเลื่อนระดับเป็เลเวล 10, พลังชีวิต +20, พลังเวทย์ +80, พลังโจมตีทางกายภาพ +4, พลังโจมตีด้วยเวทมนต์ +8, การสร้างความเสียหาย +1, การหลบหลีก +1”
การท้าทายครั้งนี้เป็การท้าทายมอนสเตอร์ที่มีระดับมากกว่า 10 เลเวลอีกครั้ง บวกกับค่าโชคของเย่เทียนเซี่ย ถ้าไม่มีการดรอปที่ยิ่งใหญ่สิถึงจะแปลก ภายใต้ปัจจัยโดยรวมต่างๆไอเทมมากมายที่ดรอปออกมาจากการที่เย่เทียนเซี่ยสังหารสิงโตดาบทองจึงมากกว่าการสังหารผู้เล่นที่มีระดับเท่ากันรวมสิบคนอยู่หลายเท่า
ตัวเลขความเสียหายเจ็ดตัวที่ซ้อนทับกันสว่างวาบขึ้นท่ามกลางสายตาของคนสามคนที่ยืนอยู่อีกด้านเช่นกัน จั้วพั่วจวินกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “ครั้งนี้พี่รองโจมตีสร้างความเสียหายได้ตั้งหกพันกว่าเนี่ยนะ!”
เลเวล 15 ความเสียหายหกพันกว่า นี่เป็ตัวเลขอันน่ากลัวที่อย่างเหลือเชื่อ! มันเป็ตัวเลขที่ไม่มีทางเกิดขึ้นกับผู้เล่นที่อยู่ใน่นี้เด็ดขาด
พลังโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้บวกกับพร์อันน่ากลัวของเขา........... โลกใบนี้บ้าไปแล้วจริงๆ
“โอ้! ฉันชักจะสนใจในโชคชะตาก่อนหน้านี้ของพี่รองมากขึ้นซะแล้วสิ......... ที่น่าสนใจที่สุดก็คือไอ้เกมที่ชื่อว่าโชคชะตาที่ยอมให้เกิดเื่โคตรโอเวอร์แบบนี้ขึ้นมาได้........ โอ้! โชคชะตา ช่างเป็คำที่ลึกลับจริงๆ ไม่รู้ว่าโชคชะตาในโลกใบนี้ของฉันจะเป็ยังไงนะ” มู่หรงชิวสุ่ยโอดครวญออกมา สีหน้าของเขาแปลกประหลาดจนไม่สามารถพูดออกมาได้
“เทียนเซี่ย เก่งสุดยอด” ซูเฟยเฟยพูดออกมาเสียงต่ำจากนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาแล้วพูดออกไปเสียงดัง “พวกเรารีบไปกันเถอะ”
เมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงข้างกายของเย่เทียนเซี่ย เขาก็จัดการเก็บน้ำยาและเหรียญทองไม่กี่เหรียญที่ดรอปออกมาจากร่างของสิงโตดาบทองขึ้นมาจนหมดแล้ว จากนั้นเขาก็ก้มลงเก็บไอเทมที่ส่องแสงสีเงินและสีทองที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมา
“สีทอง! ไอเทมทองสามชิ้น..... แล้วยังมีไอเทมเงินอีกตั้งสามชิ้น!” จั้วพั่วจวินะโออกมาอย่างโอเวอร์ มูลค่าของไอเทมเงินและความหายากของมันเป็ที่รู้กันดี ถ้าใน่นี้มีไอเทมเงินปรากฏออกมาสักชิ้นเดินไปที่ไหนก็คงจะเป็จุดรวมสายตาและดึงดูดสายตาอิจฉาริษยานับไม่ถ้วนแน่นอน และไอเทมทอง.......ปัจจุบันทั่วทั้งเขตาหัวเซี่ยคนที่ได้ไอเทมทองมีน้อยยิ่งกว่าน้อยจนสามารถจินตนาการได้ถึงความหายากของมันเลยล่ะ
และตรงหน้าพวกเขาก็มีไอเทมเงินและไอเทมทองอย่างละสามชิ้น ปฏิกิริยาตอบสนองของจั้วพั่วจวินอย่างกับเห็น UFO ที่มาจากนอกโลก
เย่เทียนเซี่ยเก็บไอเทมสามชิ้นขึ้นมาแล้วกวาดตามองคุณสมบัติของมัน
สร้อยข้อมือลายสิงโต : ไอเทมระดับทองเลเวล 25
ข้อจำกัดการใช้ : อาชีพต่อสู้ระยะประชิดเลเวล 25, ค่าพละกำลังมากกว่า 100 เนื่องจากยังไม่ผ่านการกำหนดคุณสมบัติจึงไม่สามารถใช้งานได้
ดาบชั้นเลิศ (ดาบมือเดียว) : ไอเทมทองเลเวล 25
ข้อจำกัดการใช้ : อาชีพนักรบหรือผู้พิทักษ์เลเวล 25, เนื่องจากยังไม่ผ่านการกำหนดคุณสมบัติจึงไม่สามารถใช้งานได้
ธนูชั้นเลิศ : ไอเทมทองเลเวล 25
ข้อจำกัดการใช้ : อาชีพนักธนูเลเวล 25, เนื่องจากยังไม่ผ่านการกำหนดคุณสมบัติจึงไม่สามารถใช้งานได้
สร้อยข้อมือหนึ่งอัน อาวุธอีกสองอัน เย่เทียนเซี่ยเบนสายตาไปมองคุณสมบัติของไอเทมเงินอีกสามชิ้นเล็กน้อยแล้วโยนพวกมันเข้าไปในกระเป๋าก่อนจะพูดออกมา “มีอาวุธสองชิ้น ถือว่าไม่เลว พวกนายสองคนสามารถใช้ได้พอดี รอให้พวกนายเลเวลถึงแล้วฉันจะให้ก็แล้วกัน”
ดาบชั้นเลิศคือดาบยาวสีทองเล่มหนึ่ง บนตัวดาบมีฟันเลื่อยซี่ละเอียด ไม่ว่าแสงหรือรูปลักณ์ภายนอกของมันก็ล้วนดึงดูดสายตาของผู้คนทั้งสิ้น เทียบกันแล้วดาบทองแดงในมือเขาที่ทำให้ผู้พิทักษ์อิจฉาตาร้อนก็กลายเป็เศษเหล็กไปเลย จั้วพั่วจวินที่มองดูอยู่แทบจะทนไม่ไหวจนอยากจะพุ่งเข้าไปแย่งมันมาจากมือของเย่เทียนเซี่ย เมื่อมองเขาเก็บไอเทมกลับไปจั้วพั่วจวินก็แสงใบหน้าน่าสงสารออกมา แล้วพูดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ “เอ่อ...........พี่รอง พี่จะเอาดาบ......กับธนูให้พวกเราก่อนไม่ได้เหรอ ต่อให้ตอนนี้พวกเรายังใช้ไม่ได้ แต่แค่ได้มองด็ยังดี”
มู่หรงชิวสุ่ยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เย่เทียนเซี่ยเบนสายตาไปมองพวกเขาแล้วพูดออกมาช้าๆ “ตอนนี้ยังไม่ได้ นี่ถือเป็การกระตุ้นพวกนาย ถ้าอยากได้พวกมันก็ต้องพยายามอัพเลเวล”
“แต่ว่าเลเวล 25......... ดูเหมือนมันจะไกลไปหน่อยนะพี่” จั้วพั่วจวินพูดออกมาอย่างเ็ป
“ไกลไปเหรอ? เอางี้แล้วกัน........” เย่เทียนเซี่ยครุ่นคิดสักครู่แล้วก็แสดงท่าทีอ่อนลง เขาเรียกกระเป๋าเก็บของออกมาแล้วมองสายตาทอประกายเรืองรองของจั้วพั่วจวิน จริงๆพี่รองไม่ใช่คนหน้าเนื้อใจเสือแต่เป็เทพบุตรกลับชาติมาเกิดต่างหาก.....จากนั้นเขาก็เห็นเย่เทียนเซี่ยหยิบโล่สีทองอันหนึ่งออกมาช้าๆ
โล่จิติญญาพยัคฆ์ : ไอเทมระดับทอง
เงื่อนไขการใช้ : อาชีพผู้พิทักษ์เลเวล 15, โล่สีทองที่มีพลังของจิติญญาพยัคฆ์แฝงอยู่
คุณสมบัติ : พลังป้องกัน+110, พลังชีวิต+230, พละกำลัง+7, ความแข็งแกร่ง+15, อัตราการปัดป้องของเกราะ+5%, เมื่อได้รับการโจมตีมีโอกาส 5% ที่จะโจมตีสวนกลับ สะท้อนการโจมตีและผลลัพธ์ที่แฝงมาทั้งหมด
“งั้นนายไปให้ถึงเลเวล 20 ก่อนแล้วกัน จากนั้นโล่จิติญญาพยัคฆ์อันนี้จะเป็ของนาย” ไม่รอให้จั้วพั่วจวินพุ่งเข้ามาเหมือนหมาป่าโหยเย่เทียนเซี่ยก็เก็บโล่จิติญญาพยัคฆ์เข้าไปในกระเป๋าตามเดิมด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ
โล่คือจิติญญาของผู้พิทักษ์ ผู้พิทักษ์คนหนึ่งไม่มีดาบได้แต่จะขาดโล่ไม่ได้ เมื่อเห็นคุณสมบัติของโล่จิติญญาพยัคฆ์ที่ปรากฏออกมาจั้วพั่วจวินที่น้ำลายเหมือนจะหยดลงพื้นก็แทบจะวิ่งเข้าไปคุกเข่าลงต่อหน้าเย่เทียนเซี่ย หลังจากอ้อนวอนอยู่นานก็ไม่เกิดผลเขาก็ทำได้แค่พึมพำกับตัวเองเบาๆเหมือนลูกสะใภ้ที่โดนแม่ผัวทำร้าย “เอาเถอะ......ผมจะเชื่อฟังพี่รอง รีบๆไปให้ถึงเลเวล 20 เร็วๆ......... พี่รองห้ามเอาโล่อันนั้นให้ใครเด็ดขาดเลยนะ....... พี่เป็ยิ่งกว่าพี่ชายของผมอีกรู้ไหม!!”
มู่หรงชิวสุ่ยขยับไปทางขวาสามก้าวอย่างรวดเร็วแล้วเบนสายตาหันไปมองทางอื่น แกล้งทำเป็ไม่รู้จักเ้าอ้วนที่ทำเื่น่าขายหน้าเพื่อโล่ทองคำอันเดียว
เย่เทียนเซี่ยเก็บขนสีทองจากร่างของสิงโตดาบทองลงไปในกระเป๋าแล้วโบกมือไปมา “เอาล่ะแค่มีไอ้นี่ก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่าเราทำภารกิจสำเร็จแล้ว พั่วจวิน นายรายงานเจ๊ใหญ่ด้วยว่าพวกเราจะกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”
พูดจบเขาก็หยิบม้วนคัมภีร์กลับเมืองขึ้นมา ั้แ่ภารกิจนี้เริ่มขึ้นเขาก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้อยู่แล้ว ถ้าเขาคือเย่เทียนเซี่ยที่ไม่เคยไปที่หุบเขาัซ่อนภารกิจสังหารสิงโตดาบทองก็คงจะทำให้เขาจนปัญญา เพราะการมาถึงที่แห่งนี้เขาคงจะเสียงแรงไปไม่น้อย และด้วยพลังิญญาัอัตราการเติบโตของพลังของเขาจึงก้าวะโไปหนึ่งถึงสองเท่าอย่างง่ายดาย
