ผู้แข็งแกร่งที่มีระดับพลังห้าสิบปีของตระกูลหลงก็จัดได้ว่าเป็ผู้ฝึกวรยุทธ์แถวหน้าของยุทธจักร สำนักอิ่นเซียนที่้าลอบสังหารเย่เฟิงยิ่งไม่ต้องพูดถึง การที่พวกเขาตัดสินใจส่งผู้ฝึกวรยุทธ์ระดับนี้มาก็เพื่อให้ภารกิจสำเร็จแน่นอน
ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ใต้ทะเล เย่เฟิงเจอผู้ฝึกวรยุทธ์ที่มีระดับพลังห้าสิบปีมากมาย ทั้งยังสังหารผู้ฝึกวรยุทธ์ชั้นสูงของสำนักหมัดเทวาและแย่งชิงาาปะการังมาไว้ในมือด้วย
อย่างไรก็ตามที่นี่มันไม่ใช่ใต้ทะเล แต่เป็บนพื้นดินในหมู่บ้านที่อีกฝ่ายสามารถแสดงความว่องไวและความแข็งแกร่งได้ไม่มีข้อจำกัดจนสามารถใช้อาวุธลับสังหาร เช่น เข็มล่องหนพันลี้ที่แม้แต่ทักษะจิตหยั่งรู้ก็ไม่อาจตรวจจับได้!
เมื่อเป็เช่นนี้ เย่เฟิงจึงพยายามตรวจจับสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก ในที่สุดจิตหยั่งรู้ของเขาก็รับรู้ถึงตำแหน่งของผู้ใช้อาวุธลับชั้นสูงที่อยู่ด้านนอก เพราะอีกฝ่ายอยู่ในระยะหนึ่งร้อยยี่สิบเมตร ทักษะจิตหยั่งรู้จึงััตำแหน่งของอีกฝ่ายได้ในที่สุด แต่น่าเสียดายที่คนคนนี้รวดเร็วเกินไป ต่อให้ใช้วิถีเซียนเปลวสุริยะอีกครั้งก็เป็ไปไม่ได้ที่จะสังหารอีกฝ่าย
นอกจากนี้เย่เฟิง หลงหว่านเอ๋อร์ และหนานฟางต่างก็โดนเข็มล่องหนพันลี้ ทำให้ร่างกายเกิดอาการชา จนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างใจนึก จึงยากที่จะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม
เย่เฟิงหันไปมองหนานฟาง พร้อมกับพยักหน้าให้โดยอาศัยแสงสว่างจากเทียน
เพล้ง!
ทันใดนั้น มีดบินเล็กเล่มหนึ่งก็พุ่งทะลุกระจกหน้าต่างตรงระเบียงเข้ามาในบ้าน ซึ่งเป้าหมายหลักไม่ใช่เย่เฟิง แต่กลับเป็— หลงหว่านเอ๋อร์!
“ทักษะล่องหน ลอบโจมตี ขา!”
เย่เฟิงโถมตัวเข้าใส่หลงหว่านเอ๋อร์ทันทีพร้อมกับหลบมีดบินที่พุ่งเข้ามา และกระซิบข้างหูอีกฝ่าย
“อืม”
หลงหว่านเอ๋อร์หมุนเวียนพลังชี่ในร่างกายโดยปราศจากความลังเล ทันใดนั้นเธอก็เข้าสู่สภาวะล่องหนทันที!
ทั่วทั้งบริเวณมืดสนิท ตอนนี้เธอใช้ทักษะล่องหนจนไม่มีใครเห็นเธอแม้แต่เงา
เย่เฟิงััได้ว่า ผู้ใช้อาวุธลับชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียนที่อยู่ข้างนอกตกตะลึงไปชั่วขณะ เพราะอีกฝ่ายไม่คาดคิดว่าคนคนหนึ่งจะหายไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ได้
แม้จะอยู่ภายใต้พายุเช่นนี้แต่ยังสามารถมองเห็นสถานการณ์ภายในห้องได้ชัดเจน ยอดฝีมือชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียนต้องพกอุปกรณ์ที่ทรงประสิทธิภาพมาด้วยแน่นอน เช่น กล้องอินฟราเรด อย่างไรก็ตาม แม้จะมีอุปกรณ์คุณภาพสูงเช่นนั้นก็ไร้ประโยชน์อยู่ดีหากต้องเจอกับทักษะอำพรางตา
ในการรับรู้ของเย่เฟิง หลงหว่านเอ๋อร์ะโออกจากระเบียงอย่างเชื่องช้า ดูเหมือนเพราะเธอโดนเข็มล่องหน จึงทำให้ความคล่องตัวลดลงมาก
เย่เฟิงไม่รีรอ เขารีบวิ่งไปที่ระเบียงพร้อมเล็งด้านข้างของยอดฝีมือชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียน และปล่อยลูกไฟ! แต่เพราะผู้ชายคนนี้ซ่อนตัวมาตลอด การกระทำของเย่เฟิงที่้าสังหารอีกฝ่ายจึงตกอยู่ในสายตาอีกฝ่ายมาตลอด ฉะนั้น วิถีเซียนเปลวสุริยะมันจึงไม่ใช่ความลับอีกต่อไป
แน่นอนว่าเมื่อเขาเห็นจากฝั่งตรงข้ามว่าเย่เฟิงจะปล่อยลูกไฟเพื่อโจมตี แม้จะเกิดความสงสัยทว่าไม่ใ เขาหลบหลีกลูกไฟของชายหนุ่มได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับปล่อยบางอย่างในมือสวนกลับไป
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
มีดบินเล่มเล็กหลายสิบเล่มพุ่งตรงไปทางระเบียง
กระบวนท่านางฟ้าโปรยดอกไม้!
ระดับพลังลมปราณของผู้มีฝีมือชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียนสูงกว่าหลี่จวิ้นหลงแห่งูเาฉางไป๋ที่สามารถปล่อยมีดบินได้เพียงสิบสองเล่ม ผู้ชายคนนี้ปล่อยมีดได้มากกว่าสามสิบเล่ม ยิ่งกว่านั้นยังปล่อยเข็มเงินออกมาด้วย ทำให้บรรยากาศแฝงไปด้วยความมืดมนป่าเถื่อน
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ทั้งสองคนจึงทำได้เพียงหลบหนีเท่านั้น
เย่เฟิงเคลื่อนกายซ่อนตัวอยู่หลังตู้เสื้อผ้า ในเวลานี้ เสียงมีดบินพุ่งกระทบ้าตู้เสื้อผ้าจนเกิดเสียงดัง ฉึก! ฉึก! ฉึก! ไม่หยุด ส่วนหลงหว่านเอ๋อร์ก้มหัวต่ำและใช้ผนังอิฐของระเบียงเป็ที่กำบัง
‘ถ้ามีระดับพลังลมปราณยี่สิบปีล่ะก็ เราไม่ต้องลำบากหลบซ่อนให้อับอายแบบนี้หรอก…’เย่เฟิงคิดในใจ ศิษย์สำนักสุสานดวงดาวต้องมีระดับพลังลมปราณยี่สิบปีจึงจะฝึกวิถีเซียนโล่ดาวประกายพรึกได้ ซึ่งเหมาะสำหรับป้องกันการโจมตีเช่นนี้อย่างยิ่ง
ฉึก!
เย่เฟิงรอเพียงให้อีกฝ่ายขว้างมีดบินให้หมดโดยใช้ตู้เสื้อผ้าป้องกันเอาไว้ เขารีบะโออกไปทันทีพร้อมกับกระบี่สีทองปรากฏขึ้น ชายหนุ่มปลดปล่อยกระบี่พลังปราณสยบั ลำแสงสีฟ้าพุ่งผ่านม่านฝนใส่อีกฝ่ายทันที!
ระดับความเร็วของกระบี่นั้นสูงยิ่งนัก เพราะมันพุ่งใส่อีกฝ่ายภายในพริบตา
ผู้มีฝีมือชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียนพยายามเคลื่อนไหวเพื่อหลบหลีกกระบี่พลังปราณ และเพราะความเร็วของกระบี่พลังปราณไม่มากพอ จึงพุ่งเฉียดใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น หน้ากากสีดำและกล้องส่องกลางคืนที่อีกฝ่ายสวมอยู่ถูกทำลายทันที!
หลงหว่านเอ๋อร์ซึ่งซ่อนตัวอยู่อาศัยจังหวะนี้ะโออกมาพร้อมกับแกว่งมือข้างหนึ่ง และยิงลูกศรสีน้ำเงินเข้มออกไป
ฉึก!
เพราะเป็ไปไม่ได้ที่ศัตรูจะป้องกันการลอบโจมตีของเธอได้ทัน ลูกศรสีน้ำเงินเข้มจึงพุ่งปักต้นขาขวาของผู้มีฝีมือชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียน ลูกศรมีพลังทะลุทะลวงทำให้อีกฝ่ายถอยหลังไปไกลจนล้มลงบนแอ่งน้ำทะเล น้ำสาดกระจายเป็วงกว้าง
“วิชาศรฝังดวงดาวมีพลังทะลุทะลวงร้ายกาจจริงๆ แต่ความเร็วก็ยังไม่พออยู่ดี...”
เมื่อเย่เฟิงมองไปทางประตูก็เห็นหลงหว่านเอ๋อร์ใช้วิถีเซียนนี้อย่างเต็มที่แล้ว เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่จะทำสำเร็จได้โดยง่าย
ทั้งสองคนยืนอยู่ที่ระเบียงและกำลังจะะโลงไปเพื่อจัดการอีกฝ่ายให้เสร็จสิ้น แต่ขณะนั้นเอง ร่างกายของพวกเขากลับแข็งทื่อ เพราะพิษจากเข็มล่องหนออกฤทธิ์แล้ว!
“สังหารเด็ดเดี่ยว!”
น้ำเสียงทุ้มต่ำดังมาจากแอ่งน้ำทะเลเบื้องล่าง พร้อมกับมีดบินอีกมากมายพุ่งฝ่าผิวน้ำเข้าหาคนทั้งสอง
แม้ว่าเย่เฟิงจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นมีมีดบินจำนวนมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร แต่เขาในตอนนี้ไม่ควรคาดเดาเื่นี้ต่อไปอีกแล้ว
“สังหารเด็ดเดี่ยว คือ เคล็ดสังหารของสำนักอิ่นเซียน สามารถปามีดบินไม่รู้จบเพื่อสังหารเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็การลอบโจมตี หรือแม้แต่การต่อสู้ประจันหน้าก็สามารถสังหารผู้ฝึกวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งได้อย่างง่ายดาย!” หลงหว่านเอ๋อร์รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว เพราะจิตหยั่งรู้ของเธอััถึงมีดบินอีกจำนวนมาก แต่ร่างกายยังคงแข็งทื่อจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างใจนึก
เย่เฟิงเองก็ไม่ต่างกัน เขารู้สึกได้ถึงพิษของเข็มล่องหนที่ระงับพลังชี่ของเขาไว้ชั่วคราวจนไม่สามารถใช้วิชาใดได้เลย
ฉึก! ฉึก! ฉึก!
เย่เฟิงรีดเค้นพลังที่เหลืออยู่น้อยนิดทั้งหมดดึงหลงหว่านเอ๋อร์มาอยู่ด้านหลัง ก่อนยกแขนขวางมีดบินที่พุ่งมาอย่างต่อเนื่อง
มีดบินเล่มแล้วเล่มเล่าปักแขนของเขาอย่างแรงและแทงทะลุจนเห็นกระดูกข้างใน ทำให้แขนข้างนั้นอาบไปด้วยเืสีแดงสด
เคล็ดสังหารของสำนักอิ่นเซียนคือ ‘สังหารเด็ดเดี่ยว’ ซึ่งสามารถปามีดบินได้เป็ร้อยเล่มในเวลาเพียงห้าวินาที มันมีพลังร้ายแรงที่แม้แต่ร่างกายของเย่เฟิงก็ไม่อาจทนได้ ไม่ช้าแขนทั้งสองข้างของเขาก็อยู่ในสภาพดูไม่จืด
อย่างไรก็ตามทักษะสังหารของผู้มีฝีมือชั้นสูงจากสำนักอิ่นเซียนกลับเกิดขึ้นเพียงครึ่งวินาทีแล้วพลันหยุดลง ทั้งยังไม่ได้ยินเสียงใดจากเบื้องล่างอีกด้วย
มีดบินมันหมดแล้ว?
หรือมันอยากไว้ชีวิตพวกเขา?
แต่กลับไม่ใช่ทั้งสองอย่าง
“บัดซบ ฉันกลัวแทบตาย โชคดีที่ยิงเข้าเป้า” เสียงสบถดังมาจากห้องน้ำชั้นล่าง เป็เสียงของหนานฟางนั่นเอง “หน้าไม้สังหารนี้ดีจริงๆ หมอนั่นตายในลูกศรเดียวเลย”
นอกจากจะสูญเสียกล้องส่องกลางคืนแล้ว อีกฝ่ายยังได้รับาเ็ที่ต้นขาจนไม่สามารถขยับเขยื้อนกายได้ดังเดิม ในที่สุดก็ถูกหนานฟางลอบโจมตีสำเร็จ!
เพราะความร่วมมือของทั้งสามคน ทำให้พวกเขารอดตายมาได้
“พวกเธอเป็ยังไงบ้าง?”
ชูชูที่หลบอยู่ในบ้าน เมื่อได้ยินคำสบถจากหนานฟางก็ทำให้สงบใจไม่ได้อีกต่อไป จึงรีบวิ่งไปที่ระเบียง เมื่อเห็นเย่เฟิงกำลังหงายหลังก็รีบอ้าแขนรับอีกฝ่าย
เพราะไม่ทันระวัง หัวของเย่เฟิงจึงซบอยู่บนูเาอันอุดมสมบูรณ์ทั้งสองลูกของอีกฝ่าย...