แน่นอนว่าเสียงอาจจะไม่ได้เหมือนกันไปเสียทุกร่างแต่ส่วนที่ละเอียดอย่างน้อยก็ทำได้ถึงระดับที่เสวียนเทียนแยกไม่ออก
“‘ท่าเท้าเงาผีลวงิญญา’ ขั้นสาม ถึงจะเป็ยอดฝีมือชั้นเบิกนภาขั้นห้าขั้นหกก็ไม่มีทางแยกจริงลวงจากเสียงได้ เ้าฟังไม่ออกหรอก ฮี่ๆๆๆ!”
เสียงหัวเราะสะใจของมือกระบี่เงาผีตามติดรัศมีกระบี่มาจากรอบทิศ
แต่เมื่อเสวียนเทียนลืมตาทั้งสองข้างขึ้นสีหน้าก็ยังคงไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย ริมฝีปากยกยิ้ม “มือกระบี่เงาผีนี่คงเป็ไพ่ตายใบสุดท้ายของเ้าแล้วสินะ? ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสี่ล้วนยากจะรอดชีวิตจากกระบวนท่านี้ของเ้าเสียดาย คนที่เ้าเผชิญอยู่คือข้า!”
ฉับพลันอาณาเขตพลังไร้ลักษณ์ก็แผ่พุ่งออกมาโดยมีเสวียนเทียนเป็ศูนย์กลางราวกับมีกระบี่คมกริบนับไม่ถ้วนเป็หมื่นเล่มพุ่งออกมาจากในร่างของเสวียนเทียน ตวัดฟันไปรอบทิศเผยปราณคมกริบเป็ที่สุดระลอกหนึ่งออกมา
อาณาเขตห้าสิบเมตรล้วนตกอยู่ใต้อาณาเขตพลังไร้ลักษณ์ด้านในราวกับมีกระบี่คมนับไม่ถ้วนฉวัดเฉวียนอยู่ เป็พลังของจิตกระบี่นั่นเอง
จิตกระบี่แหลมคมไม่มีสิ่งใดเทียมรัศมีคมแผ่พุ่งสี่ทิศ เป็พลังอันเกิดจากความว่างเปล่ากลายมาเป็สิ่งจริงแท้แต่เดิมเป็ความว่างเปล่า ย่อมฟาดฟันสิ่งว่างเปล่าทั้งปวงได้เงาร่างลวงของมือกระบี่เงาผีทั้งเจ็ดพริบตาก็ถูกจิตกระบี่ฟาดฟันสังหาร สลายหายไปไร้ร่องรอย
“อะไรกัน? เป็พลังของจิตกระบี่? เ้าพลังวัตรชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งกลับบรรลุจิตกระบี่?” มือกระบี่เงาผีะโเสียงดังขึ้นมาด้วยความไม่อยากเชื่อ
ในอาณาเขตรอบด้าน จริงลวงทุกสิ่งอันทั้งหมดล้วนกระจ่างแจ้งในใจเสวียนเทียน ‘กระบี่แรกฟ้า’ ในมือฉับพลันก็โจมตีรัศมีกระบี่สีฟ้าเจิดจ้าสายหนึ่งตวัดฟันเข้าไปหาร่างเงาที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งของมือกระบี่เงาผี
กระบี่นี้ เสวียนเทียนใช้พลังสิบส่วนหนึ่งกระบี่ฟันลงมาหนักถึงหมื่นชั่ง เรี่ยวแรงอันน่าหวาดหวั่น ทำให้ดวงตาของมือกระบี่เงาผีกลายเป็หวาดหวั่นในพริบตา
เคร้ง!
‘กระบี่แรกฟ้า’ ฟันเข้ากับกระบี่ศาสตราวิเศษชั้นนิลระดับล่างในมือของมือกระบี่เงาผีเสียงสูงดังก้องขึ้นพละกำลังอันมหาศาลฟันกระบี่ศาสตราวิเศษชั้นนิลระดับล่างหลุดจากมือไปรัศมีกระบี่สีฟ้าทรงพลังไม่มีสิ่งใดเทียม ฟันต่อลงมาหามือกระบี่เงาผีจะฟันมือกระบี่เงาผีเป็สองท่อน
มือกระบี่เงาผีรีบพลิกกายหลบ พร้อมกับะโขึ้น “ลัทธิเทวะไร้พ่ายปราณเทวะคุ้มกาย!”
ฉับพลัน รัศมีแสงสีเขียวครามก็ออกมาจากร่างของมือกระบี่เงาผีกลายเป็เกราะปราณ หุ้มมือกระบี่เงาผีเอาไว้
‘กระบี่แรกฟ้า’ พริบตาฟันลงบนเกราะปราณ
พลังป้องกันของเกราะปราณนี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่คาดคิด ‘กระบี่แรกฟ้า’ ฟันผ่านก็ยังไม่อาจฟันทะลุปราณแกร่งได้เพียงแต่พละกำลังมหาศาลยังคงฟันมือกระบี่เงาผีกระเด็นถอยหลังไปไกลถึงระยะห้าสิบกว่าเมตร จากนั้นก็ล้มกระแทกพื้นอย่างแรง
เกราะปราณป้องกันของ ‘กระบี่แรกฟ้า’ ได้แต่กันแรงกระแทกของพละกำลังหมื่นชั่งที่ผสานกับปราณแท้เบิกนภาไม่ได้มือกระบี่เงาผีพ่นเืสดออกมาหนึ่งคำ ถูกกระแทกาเ็ภายใน
โคจรปราณเยียวยาอาการาเ็ย่อมไม่ทันการณ์มือกระบี่เงาผีดีดตัวขึ้นมาจากพื้น ในมือล้วงยาพลังปราณเม็ดหนึ่งมาจากอกเสื้อกินเข้าไปทันทีพร้อมกันนั้นเงาร่างก็โฉบวูบใช้วิชาตัวเบาขั้นสูงสุดร่างกายกลายเป็เงาเลือนรางวิ่งหนีเข้าไปในป่า
เสวียนเทียนแน่ใจได้ว่า มือกระบี่เงาผีไม่ใช่จอมยุทธ์พเนจรธรรมดาคำที่เขาะโเมื่อครู่ ฟังแล้วมีกลิ่นไอของลัทธิสำนักอะไรบางอย่าง หากเขาหนีไปได้ต้องเป็เื่ยุ่งยากแน่
เท้าเหยียบลงพื้นบนพื้นปรากฏรอยเท้าลึกหนึ่งนิ้วกว่ารอยหนึ่งร่างกายของเสวียนเทียนฉับพลันสลายหายไป ใช้ ‘ก้าวย่างัพยัคฆ์’ พร้อมยืมแรงสะท้อนกลับ เงาร่างราวกับลูกธนูไล่ตามมือกระบี่เงาผีไป
เสวียนเทียนฝึกฝน ‘ก้าวย่างัพยัคฆ์’ ถึงขั้นบรรลุส่วนใหญ่แล้ว รวดเร็วไวว่อง เมื่อวิ่งทะยานอย่างรวดเร็ว หนึ่งลมหายใจวิ่งได้ไกลถึงห้าหกสิบเมตรเทียบกับความเร็วของมือกระบี่เงาผีแล้วยังช้ากว่าอยู่นิดหน่อย
แต่ว่า เสวียนเทียนฝึกฝน ‘ปราณเก้าหลอม’ มาแล้ว ร่างกายแข็งแกร่งเป็อย่างยิ่ง พละกำลังมหาศาลไม่มีใครเทียบพละกำลังแม้จะไม่อาจเปลี่ยนกลายเป็ความเร็วได้ทั้งหมดแต่พละกำลังก็ทำให้ความเร็วเร็วขึ้นได้
ร่างของเสวียนเทียนมีพละกำลังมหาศาลหนึ่งเท้าย่ำลงบนพื้นอย่างแรงก็ราวกับช้างเชือกหนึ่งเดินผ่าน บนพื้นเหยียบจนเกิดรอยเท้าลึกหนึ่งนิ้วกว่าขึ้นมาหนึ่งรอยแรงสะท้อนกลับมหาศาล ทำให้ความเร็วของเสวียนเทียนเพิ่มขึ้นอย่างน้อยห้าส่วน
หนึ่งลมหายใจเสวียนเทียนพุ่งทะยานอย่างรวดเร็วไปข้างหน้าแปดเก้าสิบเมตรความเร็วราวกับลูกธนูพุ่งจากแล่ง แม้มือกระบี่เงาผีจะสำเร็จวิชาตัวเบาชนะเสวียนเทียนอยู่ขั้นหนึ่งแต่ว่าความเร็วเทียบกับเสวียนเทียนแล้วยังช้ากว่าอยู่นิดหนึ่ง
ไม่กี่ลมหายใจให้หลังทั้งสองคนก็ทะยานมาได้สองร้อยกว่าเมตร หนึ่งหน้าหนึ่งหลัง พุ่งเข้าไปในป่า
หลังทั้งสองคนเข้าไปในป่าแค่สิบกว่าลมหายใจเสียงฝีเท้าม้ารีบร้อนกลุ่มหนึ่งก็ดังใกล้เข้ามา เฟิงปู๋จื้อกูเชียนโหรว ซุนอี้ชิว ทั้งสามคนตามมาถึงจุดที่ทั้งสองสู้กันใหญ่โตเมื่อครู่
“ม้าของศิษย์น้องหวง!”
“บนพื้นมีร่องรอยการต่อสู้จำนวนมาก!”
“ไม่ดีแล้ว ตรงนั้นมีรอยเื!”
“ตรงนั้นมีกระบี่ยาวเล่มหนึ่ง!”
ทั้งสามคนทยอยลงจากม้ากวาดมองสภาพรอบด้านเข้าไปในสายตา
พวกเฟิงปู๋จื้อสามคนรีบมาถึงหน้ากระบี่ยาวที่ตกอยู่ที่พื้นเก็บขึ้นมา คิ้วที่ขมวดของเฟิงปู๋จื้อคลายออก เอ่ยว่า “นี่เป็กระบี่ของมือกระบี่เงาผีศิษย์พี่อู๋ประมือกับเขามาก่อน บรรยายกระบี่ของมือกระบี่เงาผีให้ข้าฟังมาแล้ว”
ใบหน้าของซุนอี้ชิวเผยรอยยิ้มขึ้นมานิดๆ พลางเอ่ย“ในเมื่อกระบี่ของมือกระบี่เงาผีตกอยู่ที่นี่ดูแล้วการต่อสู้ของทั้งสองคน แปดส่วนเป็ศิษย์น้องหวงชนะมือกระบี่เงาผีเป็ผู้ฝึกยุทธ์ชั้นเบิกนภาขั้นสอง ศิษย์น้องหวงเพิ่งชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งกลับเอาชนะได้ ความสามารถช่างน่ากลัวเหลือเกิน!”
แม้ว่าสีหน้าของกู้เชียนโหรวจะสงบลงไม่น้อยแต่ก็ยังคงร้อนรนอยู่เอ่ยว่า “ระหว่างทั้งสองคนต้องสู้เอาเป็เอาตายอยู่แน่ตอนนี้ไม่เห็นคน ผลแพ้ชนะสุดท้ายไม่อาจคาดเดาได้ มือกระบี่เงาผีเ้าเล่ห์กว่าใครศิษย์น้องหวงอย่างไรก็มีพลังวัตรแค่ชั้นเบิกนภาขั้นหนึ่งพวกเรารีบหาว่าสองคนไปทางใดเถิด รีบติดตามไปอย่าให้ศิษย์น้องเสียท่าตอนจุดตัดสินสุดท้าย”
เฟิงปู๋จื้อกับซุนอี้ฉิวพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียงทั้งสามคนรีบค้นหาบริเวณที่เกิดการต่อสู้ทันที
“ตรงนี้มีรอยเท้าลึกมากอยู่รอยหนึ่งเหมือนกับรอยเท้าที่ชัดเจนอันอื่นทุกประการ มือกระบี่เงาผีวิชาตัวเบาสูงส่งพิสดารรอยเท้าเลือนรางพวกนั้นคงเป็ของเขา รอยเท้าลึกคงเป็ของศิษย์น้องหวงทิศทางที่รอยเท้ามุ่งไป ป่าด้านหน้า!”
กู้เชียนโหรวยืนอยู่หน้ารอยเท้าลึกหนึ่งนิ้วกว่ารอยหนึ่งเรียกเฟิงปู๋จื้อกับซุนอี้ชิวมา
ทั้งสองคนเข้ามาดู เป็เช่นนั้นจริงๆสามคนเข้าไปในป่าที่อยู่ตรงหน้า เมื่อเข้าไปถึงห้าหกสิบเมตรกลับไม่พบรอยเท้าใหม่ซุนอี้ชิวตื่นตะลึง “ทำไมไกลขนาดนี้แล้วยังไม่เห็นรอยเท้าถึงจะเป็วิชาตัวเบาชั้นนิลขั้นต้นชั้นบรรลุส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถหนึ่งก้าวทะยานข้ามห้าหกสิบเมตรได้นี่นา?”
“ไปต่อดูสิ!” เฟิงปู๋จื้อเอ่ยอย่างใจเย็น
ทั้งสามคนตรงไปข้างหน้าตรงที่ระยะเจ็ดสิบกว่าเมตรก็พบรอยเท้ารอยหนึ่ง แต่ไม่ใช่ของเสวียนเทียนเดินต่อไปข้างหน้าอีกตรงที่ซึ่งห่างจากรอยเท้าลึกหนึ่งนิ้วกว่ารอยแรกเกือบเก้าสิบกว่าเมตรก็ปรากฏรอยเท้าลึกหนึ่งนิ้วกว่าเหมือนกันทุกประการรอยหนึ่ง
ทั้งสามคนต่างสูดหายใจเฮือกด้วยความประหลาดใจ อดอุทานขึ้นมาไม่ได้“หนึ่งก้าวเก้าสิบเมตรศิษย์น้องหวงฝึกวิชาตัวเบาอะไรกัน? ถึงกับทำได้ถึงขั้นนี้?”
เมื่อมั่นใจแล้วว่าเสวียนเทียนเข้ามาในป่าและรู้ระยะห่างรอยเท้าของเสวียนเทียน ทั้งสามคนก็ตามรอยเท้าของเสวียนเทียนเร่งรีบไล่ตามไปข้างหน้าผ่านไปอีกราวเก้าสิบเมตรบนพื้นก็ปรากฏรอยเท้าลึกหนึ่งนิ้วกว่าอีกรอยหนึ่ง
ไม่นานเฟิงปู๋จื้อ กู้เชียนโหรว ซุนอี้ชิวสามคนก็เข้าไปในป่า
มือกระบี่เงาผีกำลังวิ่งทะยานอยู่ในป่าวิ่งขึ้นเหนือมาตลอดทาง เสวียนเทียนไล่ตามหลังมาติดๆ
หลังเข้ามาในป่า เพราะว่าต้นไม้กีดขวางความเร็วของทั้งสองต่างก็ลดลง
วิชาตัวเบาของมือกระบี่เงาผีพิสดารไม่มีใครเทียมจริงแท้สมชื่อราวกับเงาผีก็ไม่ปาน ผลุบโผล่ไม่แน่นอน ว่องไวยิ่งนักต้นไม้ในป่าไม่ทำให้ความเร็วของเขาลดลงสักเท่าไร หนึ่งลมหายใจก็ยังคงทะยานไปข้างหน้าได้ห้าหกสิบเมตร
เสวียนเทียนใช้ท่าเท้าพยัคฆ์ของ ‘ก้าวย่างัพยัคฆ์’ วิ่งทะยานในป่าเวลาเดียวกันพละกำลังมหาศาลก็ทำให้ร่างของเขาเปลี่ยนทิศทางได้เร็วยิ่งขึ้นความเร็วก็ไม่ถูกกระทบมากเช่นกัน หนึ่งลมหายใจทะยานไปข้างหน้าได้เจ็ดแปดสิบเมตร
เสวียนเทียนใช้พละกำลังอันมหาศาลใช้แรงกระทืบผืนดินอาศัยแรงสะท้อนมหาศาลเป็แรงผลักทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยรวมแล้วเทียบกับมือกระบี่เงาผี เร็วกว่าอยู่ไม่น้อยระยะห่างระหว่างทั้งสองยิ่งใกล้กันเข้ามาทุกที
หลังเข้าไปในป่า มุ่งขึ้นเหนือมาตลอดทางวิ่งทะยานมาได้ราวสิบกว่าลี้ระยะห่างระว่างทั้งสองก็หดลงมาเหลือห้าสิบเมตรโดยประมาณ
ห้าสิบเมตรไกลเหมือนร้อยก้าวเข้ามาอยู่ในขอบเขตการโจมตีของเสวียนเทียนแล้ว แต่ไม่มีหนทางโจมตีได้มือกระบี่เงาผีกำลังวิ่งทะยานอย่างรวดเร็วอยู่ รอให้รัศมีกระบี่ของเสวียนเทียนฟันไปถึงด้านหน้าห้าสิบเมตรมือกระบี่เงาผีก็ไม่อยู่ตรงนั้นนานแล้ว
แต่ว่า เสวียนเทียนย่อมมีวิธี
มือกระบี่เงาผีที่กำลังวิ่งทะยานอยู่ฉับพลันก็มีสีหน้าผวาขึ้นมาด้านหน้าราวกับปรากฏกระบี่คมนับไม่ถ้วนขึ้นมาอย่างฉับพลัน ฟันเข้ามาหาเขา ปราณกระบี่คมกริบทะลุผ่านเสื้อผ้าของเขาทำให้ิัเ็ปเลือนราง
มือกระบี่เงาผีใมากร่างกายฉับพลันก็หยุดชะงักจากนั้นก็พุ่งตัวออกไปด้านข้างอย่างเร็วหลบการโจมตีรุนแรงตรงหน้าที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาถึง
แต่ว่า ตรงที่เขายืนอยู่เมื่อครู่กลับไม่มีเสียงการโจมตีแม้แต่น้อยดังขึ้นมือกระบี่เงาผีลุกขึ้นมา ด้านหน้าก็มีปราณกระบี่รุนแรงบีบเข้ามาอีกราวกับกระบี่คมกริบนับไม่ถ้วนกำลังฟันมาที่เขา
ในใจมือกระบี่เงาผีฉับพลันก็ตื่นใขึ้นมา “แย่แล้ว ติดกับแล้วนี่มันจิตกระบี่!”
แต่ว่า สายไปแล้ว เมื่อครู่ที่มือกระบี่เงาผีโผหลบเสวียนเทียนก็ไล่ตามมาทันแล้ว
เพลงกระบี่ดับเงา...ตัดหัวใจ!
‘กระบี่แรกฟ้า’ จากที่ห่างออกไปสิบเมตรฉับพลันก็แหวกอากาศมาถึงรัศมีกระบี่สีฟ้าสายหนึ่งฉับพลันปรากฏขึ้นที่กลางหลังของมือกระบี่เงาผีพริบตาก็ทะลวงผ่านไป
ด้านหลังรัศมีกระบี่สีฟ้าคือเด็กหนุ่มผู้สง่างามคนหนึ่งบนร่างสวมชุดสีเขียว มือถือด้าม ‘กระบี่แรกฟ้า’ ด้านหลังสะพายฝักกระบี่สีดำเล่มหนึ่ง
หนึ่งกระบี่ตัดขั้วหัวใจ!
มือกระบี่เงาผีมองปลายกระบี่สีฟ้าที่ทะลุหน้าอกของตัวเองออกมาดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ จากนั้นดวงตาก็เปลี่ยนเป็ความเคียดแค้นเหลือล้นตวาดกร้าว “เ้ากล้าสังหารข้า? เ้ากล้าสังหารข้า? เ้าตายแน่แล้วลัทธิเทวะจะไม่ปล่อยเ้าไว้แน่ บิดาข้าจะไม่ปล่อยเ้าไว้แน่!”
“บอกเ้าแล้วว่าความตายมาเยือนเ้าก็ยังไม่เชื่อ!”
เสวียนเทียนพูดขึ้นเบาๆ ดึง ‘กระบี่แรกฟ้า’ กลับมา ฉับพลันเืสดก็พุ่งกระฉูดออกมาจากหน้าอกของมือกระบี่เงาผี
“ข้าไม่ยอมข้าเป็บุตรชายของนักเดินทางภูตพราย ข้าจะตายได้อย่างไร? ข้าก็แค่มาเที่ยวเล่นในอาณาจักรชั้นล่างเท่านั้น ข้าจะตายได้อย่างไร? ข้าไม่ยอม...!”
ด้วยความคับแค้นเต็มหัวใจดวงตาสองข้างของมือกระบี่เงาผีเบิกกว้าง ขาดใจตายไป นอนตายตาไม่หลับ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้