"คุณพ่อครับ... ผมทำบาปหรือเปล่า?"
น้ำเสียงทุ้มนุ่มทว่าแฝงไว้ด้วยความเย้ายวนดังขึ้น บาทหลวงหนุ่มเหลือบมองลอดช่องเล็กไปยังผู้ศรัทธาในห้องสารภาพบาปที่กำลังประนมมือแนบอกอย่างเ็า ไม่เอ่ยตอบสิ่งใด
ชายผู้ตั้งคำถามขมวดคิ้วด้วยความทุกข์ระทม ปลายคิ้วขมวดเข้าหากันจนเกิดเป็ริ้วรอย ริมฝีปากแดงก่ำดั่งกลีบกุหลาบเม้มแน่น จมูกโด่งได้รูปย่นเล็กน้อย ดวงตาคล้ายมีหยาดน้ำตาคลอ มองดูแล้วชวนให้สงสารจับใจ
เมื่อบาทหลวงยังคงนิ่งเงียบ ชายหนุ่มรูปงามราวเทพบุตรจึงพึมพำต่อไปตามลำพัง
"...เมื่อวานนี้ผมดื่มซุปเต่าตุ๋นเหล้าสาเก ล็อบสเตอร์บอสตัน และจิบเหล้าโสมไปครึ่งขวด... แต่ไม่ได้ผลเลย นอกจากจะร้อนจนนอนไม่หลับ เืกำเดาไหลไม่หยุด ตรงนั้นของผม... ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยครับ" พูดจบ ชายหนุ่มก็กลั้นสะอื้นไว้ไม่อยู่
แม้ร้องไห้ปานจะขาดใจ แต่บาทหลวงหนุ่มกลับเพียงกลอกตา มองด้วยความเบื่อหน่ายเต็มที่
"คุณพ่อครับ เหตุใดพระเ้าจึงบันดาลให้นกเขาของผมไม่ขันแบบนี้ เพราะผมทำบาปใช่ไหมครับ?"
ชายหนุ่มรูปงามถามเสียงสั่น เผอิญรู้สึกถึงความชื้นแฉะบริเวณปลายจมูก ชายหนุ่มยกมือขึ้นปาดลวกๆ ก็พบว่ามีเืสีแดงสดเปรอะเปื้อนฝ่ามือไปหมด เขาได้แต่สบถในใจ ก่อนจะจำใจหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมากดจมูกไว้
"--นี่นายกำลังป่วย ไม่ใช่มีบาปอะไรทั้งนั้น! ป่วยก็ไปกินยา จะมาพร่ำเพ้ออะไรกับฉันนักหนา! คิดว่าฉันว่างมากนักรึไง?!"
บาทหลวงทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ไม่สนใจเครื่องแบบนักบวชที่สวมอยู่ เตะประตูห้องสารภาพบาปเล็กๆ ด้วยความโกรธเกรี้ยว ไล่ไอ้คนปัญญาอ่อนออกไป แล้วตบหัวเขาไปหนึ่งที
"เฮ้! นายใจร้ายเกินไปแล้ว! อย่างน้อยเราก็เป็เพื่อนกันมาั้แ่เด็กนะ!" เจี่ยนซีเมิ่งกุมจมูกที่ยังคงมีเืไหลซิบๆ พลางะโใส่เพื่อนสนิทที่เป็ทั้งบาทหลวงและนักเลงในเวลาเดียวกัน พอเห็นว่าในโบสถ์เล็กๆ ไม่มีผู้คนอยู่ จึงจับชายเสื้อคลุมบาทหลวงไว้ด้วยสีหน้าหดหู่ แล้วถามเสียงเบา "…ก็เพราะกินยาแล้วไม่ได้ผล ถึงได้มาบ่นให้ฟังนี่ไง..."
บาทหลวงหนุ่มกลอกตา เอ่ยด้วยน้ำเสียงร้ายกาจพลางผลักมืออีกฝ่ายออก "จะมาบ่นให้ฉันฟังทำไม ฉันไม่ใช่ที่ปรึกษาปัญหาชีวิตใครนะ!"
บาทหลวงผลักเพื่อนรักออกไปด้วยท่าทางดูแคลน ในยามปกติจะเห็นพญาหงส์ที่สวยสง่างาม เเต่ตอนนี้กลับห้อยตาต่ำราวกับนกที่พลาดหวังจากการเกี้ยวพาราสี แม้จะโกรธเคืองเพียงใดก็พลันมลายหายไป บาทหลวงถอนหายใจเบาๆ จุดบุหรี่สูบอย่างเชื่องช้า ก่อนจะถามด้วยความเมตตา "…มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?"
สิ้นคำถามนั้น เจี่ยนซีเมิ่งก็ก้มหน้าร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม สะอื้นราวกับความเศร้าโศกถาโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วง พร้อมกับยกมือขึ้นปิดบังใบหน้า
"...มันนิ่งสนิท" พูดจบก็ร้องไห้โฮด้วยความเสียใจ
'เอ่อ ดูท่าจะไม่ดีจริงๆ นั่นแหละ...' น่าสงสารจนแม้แต่หยวนซิงเฉินก็ไม่อาจหัวเราะเยาะเขาได้อีกต่อไป แต่เขาโดนไอ้คนปัญญาอ่อนนี่รบกวนมาสามวันแล้ว ไม่มีแก่ใจอดทนฟังมันคร่ำครวญอีกต่อไป จึงเทเหล้าสำหรับพิธีมิสซาในวันพรุ่งนี้ให้ไปอย่างเสียไม่ได้
"...วางใจได้ พระเ้าทรงรักทุกคน แม้จะเป็คนปัญญาอ่อนที่นกเขาไม่ขัน อาเมน"
พอได้ยินคำอ่อนไหวนั้น เจี่ยนซีเมิ่งยิ่งร้องไห้โหยหวนหนักกว่าเดิม
สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ในห้องส่วนตัวที่อบอวลไปด้วยความหรูหรา กลิ่นต่างๆ ปะปนกัน ทั้งฟีโรโมนเข้มข้น สุราต่างประเทศชั้นดี และน้ำหอมหวานเยิ้ม กลิ่นทั้งหลายผสมผสานกันจนเกิดเป็บรรยากาศน่าลุ่มหลงและยั่วยวน ในขณะนั้น เด็กหนุ่มโอเมก้าผู้มีรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นคาบสตรอว์เบอร์รีไว้ในปาก เคลื่อนไหวร่างกายเหมือนงูน้ำเลื้อยไปยังชายหนุ่มในชุดสูทที่นั่งอยู่กลางโซฟา ดันผลไม้สีแดงที่ใสเป็ประกายไปแตะริมฝีปากได้รูปคู่นั้นพลางกระซิบเสียงหวาน "คุณเจี่ยน อ้าปากสิครับ~"
ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกว่าคุณเจี่ยนลืมตาคมคู่สวยขึ้น จ้องมองอย่างท้าทาย ก่อนจะกดท้ายทอยเด็กหนุ่มโอเมก้าลง สตรอว์เบอร์รีแตกกระจายในปากทันทีที่ถูกส่งเข้าไป ลิ้นร้อนชื้นก็เข้าพันเกี่ยวอย่างเอาแต่ใจ น้ำจากผลไม้ผสมกับแอลกอฮอล์อบอวลอยู่ในจูบอันเร่าร้อน เด็กหนุ่มโอเมก้าอิงแอบในอ้อมกอดแข็งแกร่งของชายหนุ่ม สูดดมฟีโรโมนที่แสนเย้ายวนของอัลฟ่าผู้แข็งแกร่งจนเคลิบเคลิ้มแทบขาดสติ ร่างกายอ่อนระทวย
ทั้งสองจูบดูดดื่มกันอยู่พักใหญ่ ชายหนุ่มรูปงามจึงค่อยๆ กลืนสตรอว์เบอร์รีลงคอ พร้อมกับเลียน้ำผลไม้ที่เปรอะเปื้อนริมฝีปากเด็กหนุ่มโอเมก้า พอเห็นคนในอ้อมแขนอ่อนระทวย ดวงตาเหม่อลอย จึงยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมบีบสะโพกนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายเบาๆ "หวานจังเลย"
แสงสีตระการตาส่องกระทบดวงตาคู่สวยของเจี่ยนซีเมิ่งที่คล้ายกำลังยิ้มอยู่ ทำให้ดูราวกับมีดวงดาวที่เย็นเยียบและเย้ายวนส่องประกายอยู่ เด็กหนุ่มโอเมก้าถูกมนตร์เสน่ห์สะกดจนมึนงง ซบเข้ากับชายหนุ่มอย่างออดอ้อนราวกับแมวตัวน้อย
"คุณเจี่ยน เหวยเหวยไม่อยากจากคุณไปเลย~" เด็กหนุ่มกอดเขาไว้พลางงอแง ซุกหน้าลงบนซอกคออย่างดื้อดึง "ผมไม่เชื่อหรอกว่าพอคุณแต่งงานแล้วจะเป็พ่อบ้านที่ดีได้จริงๆ!"
"ฮ่าๆ อย่าดูถูกฉันไปหน่อยเลยน่า!" เจี่ยนซีเมิ่งหัวเราะพลางเชยคางเด็กหนุ่มในอ้อมแขนขึ้น แล้วจูบเบาๆ ที่ปลายจมูก "ฉันเป็ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น ต้องรักษาสัญญาให้สมกับแหวนวงนั้นสิ~"
เขาตอบด้วยรอยยิ้ม ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มโอเมก้าจะได้ตอบโต้ ก็ออกแรงดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดแนบอก พร้อมกับแยกเรียวขายาวทั้งสองข้างออกจากกัน โยกเอวอย่างคลุมเครือเบียดเสียดร่างกายอ่อนนุ่ม "…แต่กว่าจะถึงวันหมั้นของผม ก็อีกตั้งสองเดือน… ่นี้ผมจะทำตัวเลวให้ถึงที่สุด นายว่าดีไหม?"
เจี่ยนซีเมิ่งหัวเราะพลางปล่อยฟีโรโมนออกมา กลิ่นเลมอนอ่อนๆ ล่องลอยอบอวลอยู่ในห้องแคบๆ เด็กหนุ่มโอเมก้าสูดดมกลิ่นหอมกรุ่นอย่างเต็มที่ ทันใดนั้นช่องทางด้านหลังก็เปียกชื้น เด็กหนุ่มสูดหายใจเข้าปอดใหญ่ พลางใช้ช่องทางด้านหลังเบียดชายหนุ่มหล่อเหลาใต้ร่าง พึมพำอย่างออดอ้อน "งั้น ก่อนที่คุณเจี่ยนจะเป็คุณสามี เหวยเหวยจะไม่ยอมให้คุณลงจากเตียงเลยครับ!"
คำพูดที่ทั้งยั่วยวนและน่ารักทำให้อัลฟ่าขมวดคิ้วหัวเราะอย่างเ้าเล่ห์ อุ้มคนในอ้อมแขนขึ้น ก่อนจะเดินไปยังห้องด้านในที่เตรียมไว้แล้ว
เจี่ยนซีเมิ่งตื่นขึ้นเพราะความเย็นะเื เขาพยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก รู้สึกปวดหัวราวกับจะะเิเป็เสี่ยงๆ แถมตรงนั้นของเขาก็ยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ… เขานอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงอย่างเหม่อลอย มองไปยังห้องที่เต็มไปด้วยข้าวของกระจัดกระจาย ก่อนจะค่อยๆ นึกถึงเื่ราวที่เกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อน เขาเล่นสนุกกับเ้าเหวยเหวยอย่างสุดเหวี่ยง ไม่รู้เลยว่าเ้าโอเมก้าตัวน้อยป้อนอะไรให้เขา ทำให้เขารู้สึกตื่นตัวเป็พิเศษ กดร่างบางไว้ใต้ร่างอย่างเอาเป็เอาตาย จนอีกฝ่ายร้องลั่น ผืนผ้าปูที่นอนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ
"…เหวยเหวย?" เจี่ยนซีเมิ่งเรียกชื่อเบาๆ ปวดหัวจนลุกไม่ขึ้น แต่กลับไม่เห็นเงาใครเลย มีเพียงเสียงน้ำที่ดังต่อเนื่องมาจากห้องน้ำ เขาจึงต้องประคองหัวที่ปวดจนแทบะเิลุกขึ้นไปหาน้ำดื่ม
เขาเดินไปยังกระจกเต็มตัวก่อนเป็อันดับแรกเหมือนอย่างเคย เพื่อสำรวจร่างกายที่สมบูรณ์แบบของตนเอง ใบหน้าด้านข้างที่งดงามราวรูปสลัก ผิวขาวผ่องไร้ที่ติ กล้ามท้องเป็ลอนสวย เ้าโลกอันน่าภาคภูมิใจ… สายตาของเขาเลื่อนไปยังส่วนที่ควรจะกระปรี้กระเปร่า แต่กลับหงอยเหงาลงอย่างผิดวิสัย ทำให้เขาประหลาดใจเล็กน้อย
'ทำไมถึงสงบขนาดนี้? ไม่น่าใช่' เจี่ยนซีเมิ่งยื่นมือไปััอย่างไม่รู้ตัว ก็รู้สึกถึงความตึงและเจ็บแปลบอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้คิดอะไร เสียงน้ำในห้องน้ำก็หยุดลงทันที ไม่นานนักเหวยเหวยก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีผ้าขนหนูคลุมร่างไว้ กลิ่นหอมอุ่นระอุแผ่กระจาย เมื่อเห็นว่าเขาตื่นแล้ว ก็ยิ้มหยาดเยิ้ม เดินเข้ามาพันเกาะแกะเขาอย่างยั่วยวน
…ยัง้าอีกเหรอ… เจี่ยนซีเมิ่งฝืนยิ้ม
เขาปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ไม่มีอารมณ์เลยสักนิด แต่ร่างกายแสนนุ่มนิ่มของเ้าตัวน้อยก็ยังสามารถจุดไฟปรารถนาในตัวเขาได้อย่างรวดเร็ว แม้จะไม่ค่อยอยากทำ แต่ร่างกายกลับเร่าร้อนขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ
"คุณเจี่ยน…" เหวยเหวยซบในอ้อมกอดเขาพลางคลอเคลีย ความร้อนรุ่มพุ่งลงไปยังท้องน้อย แต่ส่วนที่ควรจะกระปรี้กระเปร่ากลับรู้สึกเจ็บแปลบเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ทำให้เขาสูดหายใจเข้าปอดอย่างอดไม่ได้
'อ๊ะๆ คงเล่นแรงเกินไปหน่อย หรือว่าจะเป็แผลถลอก?' เมื่อถูกเด็กหนุ่มลูบไล้ ความรู้สึกไม่สบายก็ยิ่งรุนแรงขึ้น แม้จะมีร่างงามอยู่ในอ้อมกอด เจี่ยนซีเมิ่งก็หมดอารมณ์ จึงผลักเ้าตัวน้อยที่กำลังจะคลอเคลียใต้หว่างขาออกไปอย่างเ็า แล้วเอ่ยเสียงต่ำ "--เดี๋ยวฉันต้องไปประชุม พอได้แล้ว"
ชายหนุ่มคนนี้กลับกลายเป็คนไร้หัวใจที่น่าเศร้าใจได้ในพริบตา เหวยเหวยเม้มปากอย่างไม่พอใจ แต่ก็รู้ดีว่าคุณเจี่ยนเป็คนเอาแน่เอานอนไม่ได้ เปลี่ยนสีหน้าได้ในพริบตา เป็เื่ที่เขาเห็นจนชินตาแล้ว เขาจึงลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง จัดแจงสวมเสื้อคลุมอาบน้ำให้ชายหนุ่มอย่างเอาใจใส่ พร้อมกับตอบกลับอย่างนุ่มนวล "ครับ คุณเจี่ยนไปทำงานเถอะ เหวยเหวยจะรอคุณอยู่ที่นี่"
เจี่ยนซีเมิ่งเป็คนที่แพ้ลูกอ้อนของโอเมก้าตัวน้อยๆ เสมอ แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้ร่างกายกลับร้อนวูบวาบ แต่ข้างล่างกลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลย …ช่างเถอะ ไม่คิดแล้ว ยังมีงานให้ทำอีกตั้งเยอะ… ท่านประธานเจี่ยนผู้มีงานล้นมือจึงข่มความรู้สึก แล้วยื่นมือไปยีผมของเ้าตัวน้อยเบาๆ ถือว่าเป็การชมเชยที่รู้จักกาลเทศะ ก่อนจะหันหลังไปแต่งตัว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้