“พี่หญิง” หลี่ลั่วเรียกนาง
หลี่หลินที่นั่งอยู่บนเตียงหันกลับมา เมื่อเห็นหลี่ลั่วนางจึงลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางของคนป่วย หลี่ลั่วไม่ชมชอบหญิงสาวที่อ่อนแอ เกิดเื่เช่นนี้ขึ้นหลี่หลินยังเอาแต่นอนอยู่บนเตียง ขังตัวเองอยู่ในห้องอีก แต่เมื่อคิดได้ว่านี่เป็กฎระเบียบในยุคสมัยโบราณที่กดดันสตรีในยุคสมัยโบราณเอาไว้เขาจึงได้แต่ถอนใจเฮือกหนึ่ง มิน่าเล่าผู้ชายในยุคสมัยโบราณจึงอายุไม่ยืนก็เหนื่อยทั้งกายทั้งใจ ช่วยไม่ได้จริงๆ ความกดดันสูงนัก
เมื่อดูหลี่หลินอีกครั้ง นางมีอายุไม่เกินสิบหกปี หากอยู่ในยุคสมัยปัจจุบันก็ยังเป็เพียงแค่นักเรียนชั้นมัธยมต้นอยู่เลย ก็ไม่แปลกที่นางจะเอาแต่ร้องไห้อยู่ในห้อง
“พี่หญิงไม่ต้องกลัวนะขอรับ” หลี่ลั่วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เื่นี้ข้าจะจัดการอย่างดี หากพี่หญิงไม่อยากออกไปข้างนอก ก็สวดมนต์อยู่ในห้องเป็เช่นใดเล่า?”
“แต่...ข้าถูกทำลายชื่อเสียง ต่อไปข้าจะทำเช่นใด?” หลี่หลินถาม
ยังดีที่นางไม่ได้อ่อนแอจนถึงขั้นฆ่าตัวตาย ไม่เหมือนกับหยางเยียน
“ไม่ต้องคิดมากถึงเพียงนั้นหรอกขอรับ ท่านยังคิดไม่กระจ่างแจ้งว่าต่อไปควรทำเช่นใด พวกเราก็ไม่คิดเื่เหล่านี้ อยู่นิ่งๆ เงียบๆ สักหลายวันไปก่อน หลังจากหลายวันนี้ผ่านไปท่านอยากทำอันใด พวกเราค่อยตัดสินใจทำสิ่งนั้น” หลี่ลั่วกล่าว “พี่หญิงไม่ต้องกังวล จวนจงหย่งโหวเป็บ้านของท่าน หากท่านอยากอยู่ในจวนไปตลอดชีวิต ข้าก็ขอรับรองว่าท่านจะไร้กังวลใดๆ”
“น้องชาย...” หลี่หลินพูดแล้วน้ำตาก็ทำท่าจะไหลลงมาอีก
“ไม่เป็ไรขอรับ หากเกรงว่าผู้ใดจะนินทา พวกเราก็จะไม่ออกไป”
“อืม” ยามนี้นางอยากอยู่เงียบๆ
จากนั้นหลี่ลั่วจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “นี่เป็ป้ายิญญาของท่านพ่อและท่านย่า ข้าจะให้พ่อบ้านจี้จัดห้องพระเล็กๆ ไว้ในเรือนของท่านสักห้องหนึ่ง หลายวันนี้พี่หญิงก็สวดมนต์ให้ท่านพ่อและท่านย่าอยู่ในห้องพระเสีย เป็เช่นใดขอรับ?”
“อืม” หลี่หลินไม่อยากให้ตนมีเวลาว่างแล้วคิดฟุ้งซ่าน
“เช่นนั้นก็ดีเลย พี่ใหญ่คิดว่าห้องไหนเหมาะที่จะทำเป็ห้องพระขอรับ”
“ห้องข้างๆ นั่นก็ได้”
“ได้”
ปลอบโยนหลี่หลินอยู่ครู่หนึ่งแล้วสั่งความธุระอีกเล็กน้อยหลี่ลั่วก็จากไป เมื่อเขาออกมาก็พบกับพ่อบ้านจี้ที่กลับมาจากการไปเชิญท่านหมอมาพอดี พ่อบ้านจี้นั้นมาจากเรือนโฉวงจี๋ เขาเชิญท่านหมอไปยังเรือนว่านโซ่วเสร็จแล้วจึงจะกลับมารายงาน แต่คนของเรือนโฉวงจี๋บอกว่าเสี่ยวโหวเหฺยมาที่นี่ ดังนั้นเขาจึงมาที่นี่
แต่เขามาได้พอดียิ่งนัก หลี่ลั่วกำลังคิดจะตามหาเขาอยู่เลย “เสี่ยวโหวเหฺย เชิญท่านหมอมาแล้วขอรับ ยามนี้อยู่ที่เรือนว่านโซ่วกำลังดูอาการให้เหล่าไท่ไท่อยู่ จากนั้น...จากนั้นบ่าวจึงป่าวประกาศเื่นี้เมื่ออยู่ข้างนอกโดยพลการ บอกว่าเหล่าไท่ไท่ของจวนโหวของเราถูกคุณชายใหญ่หยวนทำให้โมโหจนหมดสติขอรับ”
“พูดได้ดี” เมื่อเป็เช่นนี้ หลี่เหล่าไท่ไท่จะอุดปากผู้คนข้างนอกได้อย่างไร “ท่านไปปรับปรุงห้องด้านข้างของพี่หญิงทำเป็ห้องพระเสีย ให้นำสิ่งของที่ห้องพระต้องมีต้องใช้จัดวางเข้าไปก็พอแล้ว จากนั้นนำป้ายิญญาของท่านพ่อและท่านย่าไปวางไว้”
“ขอรับ”
“ส่งคนไปรับลูกสะใภ้ของซินหมัวมัวมา ที่นี่้าคนดูแลก่อนที่แม่บ้านผู้ดูแลเรือนของพี่หญิงจะกลับมา” หลี่ลั่วพูดอีก
“เื่นี้...” พ่อบ้านจี้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาสงบนิ่งของหลี่ลั่ว ใจของเขาก็พลันกระตุกวาบรีบกล่าวว่า “ขอรับ”
ณ เรือนว่านโซ่ว
หลังจากท่านหมอตรวจดูอาการของหลี่เหล่าไท่ไท่แล้วก็กล่าวว่า “สุขภาพของหลี่เหล่าไท่ไท่ไม่มีปัญหาอันใด เป็เพียงอารมณ์ฉุนเฉียวเท่านั้น ทำใจผ่อนคลายสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว ข้าจะจัดเทียบยาสงบใจให้”
“ขอบคุณท่านหมอ” ภรรยาหลี่ฮุยกล่าว
“ข้าส่งท่านหมอออกไปเองเ้าค่ะ” หยางหมัวมัวพูด
หลังจากที่หยางหมัวมัวส่งท่านหมอออกไป นางยังไม่ได้กลับเข้ามาหลี่เหล่าไท่ไท่ก็ตื่นขึ้นมาแล้วร้อง “ไอโยว” อยู่หลายครั้ง
“ท่านแม่ ท่านเป็อันใดรึขอรับ?” หยวนเฉิงรีบมาที่ข้างเตียง
“ท่านป้า” ภรรยาหลี่ฮุยก็รีบเข้าไปพร้อมกับภรรยาหลี่ฮ่าวเช่นกัน
หลี่เหล่าไท่ไท่มองคนทั้งหมด “ต้าหลางและสะใภ้ทั้งสองอยู่ก่อน คนอื่นๆ ถอยออกไปเถิด”
“ขอรับ”
หลังจากที่บ่าวรับใช้ออกไปแล้ว หลี่เหล่าไท่ไท่ก็ลุกขึ้นจากเตียง หยวนเฉิงรีบนำหมอนใบหนึ่งมารองหลังให้นาง “ท่านแม่ ท่านทำให้ข้าใแทบตาย”
“ใอันใดเล่า?” หลี่เหล่าไท่ไท่ตอบอย่างแค้นใจ “เ้ากระต่ายน้อยตัวนั้นช่างใจคอโเี้นัก ไม่รู้ใครให้เขาขวัญกล้าทำเื่เช่นนี้”
เด็กอายุห้าขวบโดยทั่วไปย่อมไม่มีความกล้าหาญเช่นนี้ แต่หลี่เหล่าไท่ไท่ไม่รู้ว่าหลี่ลั่วไม่ได้เป็เพียงเด็กน้อยอายุห้าขวบ ดังนั้นเขาย่อมขวัญกล้าแน่นอน “ในเมื่อข่ายเกอเอ๋อร์ออกจากเรือนของหลินเจี่ยเอ๋อร์ และข่ายเกอเอ๋อร์ก็ชมชอบหลินเจี่ยเอ๋อร์ เช่นนั้นพวกเราก็ให้เขาเป็คู่กันเถิด” หลี่เหล่าไท่ไท่กล่าวขึ้นทันใด
“ท่านแม่ ท่านพูดเช่นนี้คือ?” หยวนเฉิงใจเต้นโครมคราม ใช่เป็อย่างที่เข้าใจใช่หรือไม่?
“ข่ายเกอเอ๋อร์เล่า? ท่านหมอบอกว่าาแของเขาเป็เช่นใด?”
“แม้เขาจะถูกโบย แต่ไม่ได้าเ็ภายในอันใดขอรับ ไม่ต้องใ”
หลี่เหล่าไท่ไท่หัวเราะเสียงเย็น “...”
ภรรยาหลี่ฮุยสั่นสะท้าน เหล่าไท่ไท่ช่างอำมหิตยิ่งนัก ฉวยโอกาสที่หลี่หยางซื่อไม่อยู่ในจวนความคิดเลวๆ ชนิดนี้ก็คิดออกมาได้ แต่หลินเจี่ยเอ๋อร์ถูกสัตว์เดรัจฉานเช่นหยวนข่ายเอาเปรียบเสียแล้ว ไม่แต่งให้หยวนข่ายแล้วจะแต่งให้ผู้ใดเล่า?