“ก็ปีนี้ที่บ้านลำบาก อีกอย่าง ตอนนั้นเ้าก็กำลังป่วย จึงไม่ได้จัด” หลินฟาไฉพูดเจื่อนๆ
หลินหวั่นชิวยิ้มเยาะ “ท่านพ่อมีกระไรก็พูดมาตรงๆ เถิด ข้าดูแล้วบนโต๊ะก็ไม่เห็นจะมีสิ่งใด ไม่เหมือนเชิญข้ากับหย่วนเกอมากินข้าว อย่าพูดถึงสิ่งที่มีหรือไม่มีอีกเลย ขายข้าก็คือขายข้านั่นแหละ สัญญาซื้อขายตัวยังอยู่ที่หย่วนเกออยู่เลย พยานก็ประทับรอยมือ”
ปากเรียกว่าท่านพ่อ แต่การกระทำกลับไม่ไว้หน้าเขาสักนิด บ้าบอกระไร บีบให้ลูกสาวไปตายขนาดนั้นยังจะมีหน้ามาเป็พ่ออีก!
ถุย!
“เ้าเด็กคนนี้พูดกับท่านพ่อเช่นนี้ได้อย่างไร? กำลังอกตัญญูนะรู้ตัวหรือไม่ ถ้าข้าไปแจ้งทางการว่าเ้าอกตัญญู เ้าต้องเดินประจานไปทั่ว!”
สวี่ซื่อทนไม่ไหวแล้ว ะโลุกขึ้นชี้หน้าด่าหลินหวั่นชิว
เจียงหงหย่วนเหลือบตามองนางเย็นๆ “เช่นนั้นก็เชิญท่านไปแจ้งเลย ให้ไวด้วยนะ ข้าอยากเห็นนักว่าท่านจะฟ้องได้หรือไม่!”
หลินฟาไฉรีบตำหนิสวี่ซื่อ “ยายแก่นี่พูดไม่เป็ก็เงียบปาก ยังไม่รีบไปเตรียมกับข้าวสองสามอย่างที่ครัวอีก ข้าจะดื่มกับลูกเขย”
สวี่ซื่อใกลัวเจียงหงหย่วน ตอนนี้มาถูกหลินฟาไฉตำหนิอีก ต่อให้นางจะไม่พอใจเพียงใดก็ต้องเงียบปากออกไป
“น้องเขย เ้าอย่าโมโห ท่านแม่ข้าเลอะเลือนน่ะ” หลินซย่าจื้อพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม
แต่เจียงหงหย่วนกลับพูดว่า “ข้าไม่ใช่น้องเขยเ้า และไม่ใช่ลูกเขยบ้านเ้าเช่นกัน หากยังเรียกมั่วๆ อีก คนที่จะไปฟ้องที่ที่ว่าการคงเป็ข้า! อย่างไรกัน ทำแล้วไม่ยอมรับหรือ บนกระดาษสัญญาซื้อขายตัวเขียนไว้ชัดเจน!”
เจียงหงหย่วนไม่อยากพูดว่าสัญญาซื้อขายตัว เขาสงสารหลินหวั่นชิว
แต่หลินหวั่นชิวพูดซ้ำไปซ้ำมาว่าตัวเองถูกขาย รวมถึงเขาก็อยากช่วยให้นางหลุดพ้นจากครอบครัวฝ่ายแม่เช่นกัน
หลินซย่าจื้อโดนตอกกลับจนพูดไม่ออก
“มีกระไรก็พูดมา! บ้านพวกข้าไม่มีเวลาเยอะขนาดนั้น” เจียงหงหย่วนหงุดหงิด
หลินซย่าจื้อมองหลินฟาไฉ หลินฟาไฉกระแอมไอ “ไม่ว่าหวั่นชิวจะเป็สาวใช้ของเ้าหรืออนุของเ้า นางก็เป็สตรีของเ้าอยู่ดี ในฐานะที่พวกเราเป็ครอบครัวฝ่ายแม่ของนาง พวกเราทนเห็นเ้าเคราะห์ร้ายไม่ได้ เ้าเปิดเผยทรัพย์สินจนถูกคนในหมู่บ้านเพ่งเล็ง กำลังคิดหาวิธียึดบ้านพวกเ้าอยู่”
หลินหวั่นชิวพูดว่า “คิดหาวิธี? คิดหาวิธีแล้วหย่วนเกอจะยกบ้านให้หรือ? ถ้าเช่นนั้น บ้านเหล่าหลินก็เป็บ้านอิฐเหมือนกัน น่าจะมีคนอยากได้เช่นกัน เหตุใดบ้านพวกเ้ายังอยู่ล่ะ?”
“นังเด็กคนนี้ เ้าจะไปรู้ตื้นลึกหนาบางกระไร!” หลินฟาไฉตวาด
“ก็เพราะคนที่ปองร้ายเป็คนมีความสามารถ มีความมั่นใจอย่างมากว่าจะยึดบ้านพวกเ้าได้ข้าถึงได้เตือน! บ้านพวกเ้าทั้งดีทั้งใหญ่ขนาดนั้น สะดุดตาเกินไป ไม่ต้องพูดถึงหมู่บ้านพวกเรา ขนาดบ้านกำนันในตำบลยังสู้บ้านพวกเ้าไม่ได้เลย ทำให้คนอิจฉา จะนำภัยมาสู่ตัว!”
“หย่วนเกอ ท่านว่าอย่างไร?” หลินหวั่นชิวได้ยินดังนี้ก็ทำเป็กลัว หลินฟาไฉคิดในใจว่าสตรีก็คือสตรี มีเื่ให้ใแค่นิดหน่อยก็ลนลาน
แต่ว่า นี่คือผลลัพธ์ที่เขา้า
เจียงหงหย่วนครุ่นคิด ผ่านไปสักพักจึงพูดว่า “ปองร้าย…หรือว่าจะกล้าแย่งตรงๆ? บ้านสร้างอยู่ตรงนั้นทนโท่ จะแย่งตรงๆ ก็ไม่มีทางทำได้ เอาล่ะ ข้ารับรู้แล้ว ขอบคุณที่เตือน”
เจียงหงหย่วนพูดจบก็ดึงหลินหวั่นชิวให้ลุกขึ้น “พวกเรากลับกันเถิด”
“อืม” หลินหวั่นชิวลุกขึ้นตาม หลินซย่าจื้อรีบเอาตัวมาขวางประตู “พวกเ้าอย่าคิดว่าเป็เื่เล่นๆ อีกฝ่ายมีวิธีแย่งเอาบ้านไปจากพวกเ้าจริงๆ นะ ทั้งสามสามารถทำให้น้องเขย…ไม่สิ ทำให้น้องชายเจียงเข้าคุก!”
“โอ้…ไม่ทราบว่าผู้ใดกันที่มีความสามารถขนาดนี้? อีกอย่าง ในเมื่ออีกฝ่ายทำให้ข้าเข้าคุกได้ เช่นนั้นพวกเ้าเตือนข้าแล้วจะมีประโยชน์กระไร?”
เจียงหงหย่วนหยุดฝีเท้าแล้วถามกลับด้วยสีหน้าคลุมเครือ
หลินซย่าจื้อ “วันนี้ข้าเรียกพวกเ้ามาก็เพราะอยากคุยเื่นี้ไง ช่วยกันปรึกษาในครอบครัวจะได้มีวิธี”
หลินหวั่นชิวรีบถาม “หมายความว่าต้าเจี่ยกับท่านพ่อมีวิธีแล้ว?”
โอ้โห คราวนี้ติดกับแล้วจริงๆ!
หลินฟาไฉรีบพูดตามบทที่หลินหวั่นชิวปูให้ “คือแบบนี้ ข้าแบกหน้าออกไปหาคนให้ช่วยเกลี้ยกล่อม แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร? ท่านพ่ออย่าอุบไว้สิเ้าคะ!” หลินหวั่นชิวร้อนใจ
หลินฟาไฉมองหลินหวั่นชิวแล้วมองเจียงหงหย่วน เขาพูดว่า “คนอื่นจะช่วยแบบไม่ได้กระไรเลยไม่ได้ มิหนำซ้ำ คนที่ช่วยย่อมตัดใจไม่ลงแต่ก็เอามาเป็ของตัวเองไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะยอมปล่อยมือหรือ?”
“สุดท้ายแล้วก็้าเงินสินะ” เจียงหงหย่วนยิ้มเยาะ
หลินฟาไฉตาเป็ประกาย “ไอ๊หยา ลูก…เจียงหงหย่วนฉลาดยิ่งนัก ก็คือแบบที่เ้าว่านั่นแหละ”
“จะเอาเท่าไร?”
“อย่างน้อยสองร้อยตำลึง ถ้าน้อยกว่านี้จะไม่ช่วย” หลินซย่าจื้อรีบพูด
เจียงหงหย่วนหรี่ตามองสองพ่อลูก เขากำหมัดแน่นจนข้อกระดูกดังกร๊อบๆ สองพ่อลูกตระกูลหลินเห็นดังนั้นก็พากันถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
“คิดว่าข้าโง่หรือ? จะให้เสียเงินสองร้อยตำลึงเพียงเพราะคำพูดของพวกเ้าประโยคเดียว? ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใดเป็คนปองร้าย ผู้ใดเป็คนออกหน้าช่วยพูด จะให้ข้ายอมจ่ายเงินได้หรือ?”
“เอ่อคือ…ครอบครัวเดียวกันต้องช่วยเหลือกันไม่ใช่หรือ” หลินฟาไฉยกมือทั้งสองข้างวางบนหน้าอก เขากลัวเจียงหงหย่วนมากจริงๆ แต่เงินที่ล่อใจก็มากเช่นกัน มากจนเขาสามารถเอาชนะความกลัวที่มีต่อเจียงหงหย่วนได้
หลินฟาไฉส่งสายตาให้หลินซย่าจื้อ หลินซย่าจื้อรีบเข้าไปจับมือหลินหวั่นชิวแต่ก็ถูกสะบัดออก
หลินซย่าจื้อไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วน นางพูดว่า “คนที่ปองร้ายพวกเ้าคือหัวหน้าหมู่บ้าน ข้าไปได้ยินโดยบังเอิญ เขาบอกว่าไว้ลูกชายเขากลับมาแล้วจะยัดความผิดให้น้องชายเจียงเข้าคุก จากนั้นขับไล่ครอบครัวพวกเ้าออกจากหมู่บ้านแล้วยึดบ้านเป็ของตัวเอง หงหย่วน เ้าก็รู้ว่าที่ว่าการไม่ใช่ที่สำหรับประชาชนธรรมดา บ้านที่ลูกชายครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านแต่งงานด้วยเป็ถึงผู้ช่วยนายอำเภอ หากพวกเขาจะโยนความผิดให้เ้าก็ง่ายนิดเดียว จับเ้าไปขังเสียก่อน จากนั้นทุบตีเ้า ทำให้เ้าจำเป็ต้องสารภาพตามที่พวกเขาสั่ง”
“เช่นนั้นพวกเ้าจะหาผู้ใดมาช่วยพูดให้ข้า?” เจียงหงหย่วนหรี่ตาลง เสียงพูดต่ำกว่าเดิม
หลินหวั่นชิวได้ยินความเย้ยหยันจากคำพูดเขาก็รู้ว่าบุรุษผู้นี้รู้ทันคนตระกูลหลิน
เื่นี้…
หลินซย่าจื้อลังเลเล็กน้อย ไม่เข้าถ้ำเสือแล้วจะได้ลูกเสือได้อย่างไร นางนึกถึงคำกำชับที่สวีเทาบอก พูดออกไปว่า “สวีเทา หลานชายของหัวหน้าหมู่บ้าน ลูกเขยบ้านกำนัน ทั้งยังเป็มือปราบที่ศาลากลางประจำตำบล เขาจะช่วยพูดขอร้องให้พวกเ้า หัวหน้าหมู่บ้านต้องยอมไว้หน้าเป็แน่ ท่านพ่อต้องแบกหน้าไปขอร้องสวีเทาเพื่อช่วยเื่นี้หลายครั้ง เขาถึงได้ยอมตกลง”
“เ้าหมายความว่า คนตระกูลสวีร่วมกันวางแผนปล้นสมบัติจากข้า? ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะรอ หากจะเอาเงินข้าคงไม่มีให้ มีแต่ชีวิต! อีกทั้งศาลก็เป็ศาลของราชสำนัก ไม่ใช่ของบ้านตระกูลสวี แทนที่จะเอาเงินสองร้อยตำลึงไปให้สวีเทา สู้เอาไปให้นายอำเภอเสียดีกว่า! อีกอย่าง ข้าก็ไม่มีเงินด้วย!”
เจียงหงหย่วนพูดร่ายยาว คราวนี้เขาไม่อยู่ต่อ ลากหลินหวั่นชิวออกไป สองพ่อลูกตระกูลหลินอยากรั้งก็รั้งไม่อยู่
“ไอ๊หยา เจียงหงหย่วน เ้าห้ามทำกระไรบ้าๆ นะ เื่นี้จะทำกระไรบ้าๆ ไม่ได้”
“ถูกต้อง รีบกลับมาคุยกันดีๆ ก่อนเถิด”
“จะคุยก็ไปคุยต่อหน้าหัวหน้าหมู่บ้าน เรียกคนทั้งหมู่บ้านมาฟังด้วยกัน” เจียงหงหย่วนหันกลับมาตอบหนึ่งประโยค สองพ่อลูกตระกูลหลินเงียบปากทันที
คุยต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน พวกเขากล้าทำเช่นนั้นที่ไหน
พวกเขาวางแผนว่าหากเจียงหงหย่วนไปถามหัวหน้าหมู่บ้าน ต่อให้พวกเขาตายย่อมไม่ยอมรับเป็แน่
“ท่านพ่อ ท่านคิดว่าเหตุใดไอ้คนอัปลักษณ์นั่นจึงไม่กลัว?” หลินซย่าจื้อถามอย่างไม่ยอมใจในขณะที่มองแผ่นหลังที่จากไปไกลของคนทั้งสอง
หลินฟาไฉตอบว่า “ข้าว่าเขาเหมือนกำลังแสร้งทำ ในใจอาจกลัวมากก็ได้ พวกเรารออยู่เฉยๆ เป็พอ เขาต้องกลับมาหาพวกเราแน่ ถึงแม้จะไม่หาพวกเราก็ต้องไปหาสวีเทา”
หลินซย่าจื้อพยักหน้า
“รีบเข้าบ้านไปกินข้าว อย่างไรกัน ไม่หิวหรือ?”
“หลินฮวา ทำงานให้มันเร็วๆ หน่อย หลินฉิน เ้าเองก็ด้วย มัวแต่ยืนบื้อกระไรอยู่ตรงนั้น?”
เสียงก่นด่าของสวี่ซื่อดังมาจากในบ้าน หลินซย่าจื้อกับหลินฟาไฉหันตัวกลับเข้าไป ปิดประตูลานบ้านเรียบร้อย
“หย่วนเกอ ท่านเชื่อที่พวกเขาพูดหรือไม่?” ระหว่างทางกลับ หลินหวั่นถามเจียงหงหย่วน
