คำถามของโม่เชี่ยนนีทำให้หลินรั่วซีนิ่งเงียบมากกว่าเดิม
ผ่านไปไม่นานเธอก็ส่ายหัวกล่าวว่า
"ฉันไม่รู้"
"เธอไม่รู้?"
"ใช่ วันนั้นที่คุณป้าถามฉันเก็บมาครุ่นคิดเป็เวลานาน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะบอกท่านอย่างไรดีสุดท้ายฉันจึงบอกให้คุณป้าเห็นด้วยตาตนเองดีกว่า" หลินรั่วซีกล่าวด้วยเสียงอันบางเบา
ดวงตาของโม่เชี่ยนนีเปล่งประกายแวบหนึ่งขึ้นมาทันที
"อันที่จริงฉันก็ไม่รู้จะอธิบายว่าอย่างไรดีแม้ว่าเธออาจจะไม่ชอบการกระทำของเขา แต่ก็ทนไม่ได้ที่เห็นเขาเมินเฉยเธอจะรู้สึกกระวนกระวายใจ คล้ายคนป่วย"
หลินรั่วซีเผยรอยยิ้มออกมาในขณะกำลังฟังโม่เชี่ยนนีที่อยู่ในภวังค์ครุ่นคิดบางอย่าง
"เชี่ยนนี ดูเหมือนเธอจะเข้าใจได้ลึกซึ้งมากเลยนะ"
"เอ่อ..." โม่เชี่ยนนีรู้สึกตัวและพบว่าตนเองกำลังพูดถึงหยางเฉินใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำขึ้นมาทันที
"ฉัน... ฉันแค่พูดลอยๆ เท่านั้นเองฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างนั้นสักหน่อย นอกจากนี้หมอนั่นก็ไม่น่าสนใจสักนิดหน้าตาก็ไม่เอาไหน แถมยังหาเื่น่าปวดหัวมาให้เธอหลายต่อหลายครั้ง!"
จากนั้นโม่เชี่ยนนีก็รีบหันหน้ากลับไปและเริ่มออกรถมุ่งหน้ากลับไปยังบริษัท
หลินรั่วซีมองไปยังทิศทางที่หยางเฉินจากไปและถอนหายใจออกมา
หยางเฉินเดินสูบบุหรี่ไปตามทางเดินอย่างเหม่อลอยมันไม่ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย เหมือนหัวใจของเขาถูกปิดกั้นจากอะไรบางอย่าง
เมื่อมองไปรอบๆ หยางเฉินก็พบว่าเขาเดินมาถึงย่านการค้าขนาดใหญ่ที่รู้จักกันดีในชื่อถนนปาต้ากวนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ เสียงเพลงที่ดังกึกก้องต่างมีไว้เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาเยี่ยมชมจับจ่ายใช้สอยที่นี่นั่นเอง
หยางเฉินไม่มีกะจิตกะใจจะซื้อของใดๆเขาเพียง้าหาที่นั่งแถวๆ นั้นสักที่เท่านั้น แต่ทันใดนั้นเอง!
"ลุง!"
ร่างขนาดเล็กสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแจ็คเกตสีเหลือง กางเกงยีน ก็ะโเข้ามาในอ้อมกอดของหยางเฉิน แขนทั้งสองข้างคล้องคอเขาโดยไม่ทันตั้งตัว ร่างกายของทั้งคู่แนบชิด!
เมื่อเห็นเ้าของใบหน้าสวยที่อยู่ดีๆ ก็พุ่งมาหา หยางเฉินก็กะพริบตาเอ่ยขึ้นว่า
"ถังถัง?"
เด็กสาวพยักหน้าพร้อมกับปล่อยมือออก และทุบกำปั้นไปที่หน้าอกของหยางเฉิน
"ลุงใจดำไม่เคยติดต่อหนูมาเลย วันนี้ถ้าหนูไม่เจอลุงชั่วชีวิตนี้ลุงก็จะไม่ติดต่อหนูเลยใช่มั้ย!?"
"เธอไม่ได้กำลังตั้งใจเรียนอยู่หรือไง? ฉันเห็นเธอไม่ว่างเลยไม่อยากโทรไปรบกวนต่างหาก!"หยางเฉินกล่าว
"เล่นลิ้น" ถังถังแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย "ลุงไม่ชอบหนูใช่มั้ยล่ะลุงิ่หนูมากไปแล้วนะ ไม่เห็นหนูเป็เพื่อนแล้วหรือไง!?"
เมื่อเห็นท่าทางของถังถังหยางเฉินฝืนยิ้มออกมาพร้อมกล่าวว่า
"ฉันก็ยุ่งเป็นะเมื่อรู้ว่าคุณแม่เธอเข้มงวดกับเธอ ฉันจึงไม่อยากติดต่อไปนอกจากนี้ฉันก็ไม่ใช่คนดีอะไร ทำไมต้องไม่ชอบเธอด้วย"
"โหย ฉันไม่ได้เจอลุงตั้งนาน..." ถังถังทำท่าทางแง่งอน
หยางเฉินสูดควันเข้าเต็มปอดจากนั้นจึงขยี้ก้นบุหรี่ด้วยเท้าพร้อมนับนิ้วกล่าวว่า
"ไม่นานสักหน่อยแค่เดือนเดียวเอง”
"แค่เดือนเดียว!? ลุงรู้มั้ยชั่วชีวิตของคนเราเฉลี่ยแล้วสามารถมีชีวิตอยู่ได้เท่าไหร่? แค่ 1200 เดือนเท่านั้นแล้วลุงยังจะผลาญเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์อีก ลุงใจร้ายกับหนูจริงๆ..." ถังถังเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์โกรธ
"หยุด!" หยางเฉินไม่อาจทนได้อีกต่อไป "บรรพบุรุษของฉันคงเป็หนี้เธอแน่ๆ เอาล่ะ เธออยากจะทำอะไร"
หยางเฉินคิดว่าเด็กสาวคนนี้คอยแต่จะหาเื่ปวดหัวมาให้เขาแน่ๆ
ถังถังหัวเราะ ''ฮี่ๆ'' พร้อมกล่าวว่า
"ลุงเข้าใจหนูแล้วเหรอ? อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกวันนี้หนูลืมหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา ลุงเลี้ยงข้าวหนูหน่อยสิ หนูหิวจะตายอยู่แล้ว..."
หยางเฉินไม่อาจทำอย่างไรได้เขายิ้มลูบหัวถังถังพลางกล่าวว่า
"พูดมาซะตั้งนานที่แท้ก็อยากให้ฉันเลี้ยงข้าวนี่เอง"
"ก็ลุงนั่นแหละไม่ยอมเริ่มที่จะติดต่อกับคนอื่น..."ถังถังกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ
"ดี ฉันก็ยังไม่ได้กินข้าวเหมือนกันแล้วเราจะไปกินอะไรกันดี"
ถังถังลูบคางครุ่นคิดสักพักก่อนเอ่ยขึ้นว่า
"กินแมคโดนัลด์กันเถอะ"
"เอางั้นก็ได้แฮมเบอร์เกอร์ก็ไม่เลว"หยางเฉินกล่าว
ทั้งสองเดินเข้าไปในร้านแมคโดนัลด์สาขาที่ใกล้ที่สุดหยางเฉินสั่งเบอร์เกอร์ถึงสี่ชิ้น ถังถังสั่งไก่ แฮม และน้ำอัดลมพวกเขานั่งลงตรงที่นั่งริมหน้าต่าง และต่างรับประทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
หยางเฉินมองถังถังที่กำลังม้วนน่องไก่ด้วยแฮมก็เอ่ยถามอย่างสงสัยว่า
"ดูท่าทางเธอสิ นี่ไปหิวมาจากไหน?"
"หนูเป็เด็กอยู่ต้องกินเยอะๆสิ จะได้โตไวๆ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีใครเอา" ถังถังกล่าวอย่างเคร่งขรึม
"เป็เด็กเป็เล็กหัดคิดเื่อย่างนี้ซะแล้ว"หยางเฉินส่ายหัว
ถังถังได้ยินดังนั้นก็ยืนขึ้นยืดอกเล็กๆอย่างภาคภูมิพร้อมกล่าวว่า
"เด็กตรงไหน? ผู้ใหญ่บางคนยังมีไม่เท่าหนูเลยดูสิ!"
หยางเฉินไม่อาจทนฟังคำพูดของเด็กสาวได้ถึงต้องรีบสั่งให้เธอนั่งลงอย่างรวดเร็ว
"รู้แล้วๆ รีบนั่งเถอะผู้ใหญ่เขาไม่ทำเสียงโหวกเหวกโวยวายหรอกนะ เอาล่ะไหนบอกเื่ของเธอมาหน่อย ว่าทำไมถึงออกจากบ้านมาโดยไม่มีกระเป๋าสตางค์?"
เมื่อได้ยินคำถามของหยางเฉินถังถังก็คล้ายกับหนังสติ๊กที่หดตัว เธอค่อยๆ นั่งลงแล้วนอนราบไปกับโต๊ะ ลักษณะท่าทางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
"ในระหว่างที่ต่อสู้กับพี่สาวกระเป๋าสตางค์ของหนูถูกยึดไป แต่หนูหนีรอดออกมาได้"
หยางเฉินจำได้ว่าพี่สาวของเธอนั้นแท้จริงแล้วคือแม่แท้ๆของเธอเอง
"ทำไมทะเลาะกับแม่แล้วหนีออกมาอย่างนี้ล่ะ เงินก็ไม่มีติดตัว ถ้าเธอไม่บังเอิญพบฉันเข้าเธอไม่เป็ขอทานไปแล้วหรือไง?"หยางเฉินขมวดคิ้วกล่าว
ถังถังเบ้ปากกล่าวตอบทันทีว่า
"หนูไม่กลัวหรอกสาวสวยอย่างหนูหรือจะไม่มีคนเลี้ยงดู"
"ไร้สาระ!?" หยางเฉินไม่สามารถทนต่อไปได้ เขาตบโต๊ะเสียงดังพร้อมกล่าวว่า "คนเป็ผู้ใหญ่เขาพูดกันแบบนี้หรือ! เธอเข้าใจหรือเปล่าว่า ''เลี้ยงดู'' มันหมายความว่าอย่างไรคำพูดแบบนี้อย่าไปพูดให้คนอื่นที่ไม่รู้จักฟังเด็ดขาด!?"
ถังถังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
"ลุงอย่าโกรธหนูเลยนะคะ... หนูตั้งใจพูดเื่ไร้สาระเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นเท่านั้นเอง..."
หยางเฉินเห็นเด็กสาวทำท่าจะร้องไห้ จึงสงบสติอารมณ์ของตนเองลง
"บอกฉันมาว่าทำไมเธอถึงทะเลาะกับแม่?"
"หนูไม่อยากบอก..." ถังถังก้มหน้าลงกระซิบขึ้นอย่างแ่เบา
เวลาล่วงเลยไปนานแต่เด็กสาวก็ยังไม่ปริปากพูดออกมา!
หยางเฉินกัดแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นสุดท้ายอย่างทุกข์ใจเขารู้สึกอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาทันที แต่ก็รู้ว่าเวลานี้ไม่ควรดังนั้นจึงได้แต่ถอนหายใจและไม่รู้จะพูดอย่างไรดูเหมือนว่าเด็กสาวจะทะเลาะกับแม่จนหนีออกมาบ้านมา
จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาดูเหมือนถังถังจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยดังนั้นหยางเฉินจึงไม่อาจปล่อยเธอไว้คนเดียวได้
"ลุง" ถังถังเห็นหยางเฉินนิ่งเงียบก็พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า "หนูทำให้ลุงเดือดร้อนหรือเปล่าถ้าลุงไม่ว่างก็ไปได้เลยนะ หนูจะไปอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อนชั่วคราว"
"แล้วเพื่อนของเธอปกป้องเธอจากพวกลักพาตัวได้มั้ยล่ะ"หยางเฉินถามยิ้มๆ
เมื่อได้ยินคำว่าลักพาตัวใบหน้าของถังถังก็เปลี่ยนเป็ขาวซีดทันที
"ก่อนหน้านี้มันเป็แค่อุบัติเหตุเท่านั้นและเื่มันก็ผ่านมานานแล้ว"
"นั่นเป็เพราะเธอไม่ได้ออกมาเล่นข้างนอกเหมือนแต่ก่อนต่างหาก"หยางเฉินถอนหายใจเสียงดัง "ฉันว่าจะส่งเธอกลับบ้าน เป็แม่ลูกกันทำไมไม่พูดกันดีๆ แค่เื่ขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ"
ถังถังเลิกคิ้วด้วยลักษณะที่ฝืนใจ เธอกล่าวว่า
"หนูไม่อยากไปพบกับพี่สาวพี่สาวชั่วร้ายอย่างมาก"
"แม่ของเธอชั่วร้ายยังไง?" หยางเฉินถาม
“เธอ... เธอมองผู้ชายอื่นลับหลังหนู!" ในที่สุดถังถังก็ถูกบีบบังคับให้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ไม่นานมานี้อยู่ดีๆ พี่สาวก็แต่งตัวสวยออกจากบ้านทุกวันอีกทั้งเมื่อวานนี้ยังถามหนูอีกว่าถ้าหากจะหาพ่อให้ หนูจะยอมรับได้มั้ย..."
"แล้วเธอตอบไปว่ายังไง?"
"หนูเคยบอกหลายครั้งแล้วว่าหนูจะยอมเฉพาะพ่อแท้ๆ ของหนูเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิเด็ดขาด" ถังถังเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธ
"พ่อง้อพี่สาวมากว่า 20 ปี แต่พี่สาวก็ยังใจร้ายบอกปฏิเสธพ่ออย่างโหดร้าย หนำซ้ำตอนนี้ยัง้าหาผู้ชายอื่นอีก!?"
หยางเฉินจู่ๆ ก็ยิ้มและถามว่า
"แล้วเธอเคยเห็นแม่อยู่กับผู้ชายคนนั้นหรือยังล่ะ?"
"ไม่เคยเห็นหรอกแล้วลุงจะถามทำไมเนี่ย!?นี่มันเื่ใหญ่มากนะครั้งแรกก็จะหาพ่อให้หนูแล้ว หนู้าให้พี่สาวเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้น!"
"ที่แม่ของเธอไม่ให้เธอเรียกว่าแม่นั้นอันที่จริงแม่ของเธอ้าปกป้องเธอต่างหากรู้มั้ยว่าการมีแม่อายุน้อยนั้นอาจทำให้คนอื่นไม่ยอมรับ จนทำให้เธอรู้สึกกดดันได้?" หยางเฉินสอน
ถังถังได้ยินดังนั้นก็ไม่พอใจอย่างมาก
"ไม่... ไม่มีเธอ แต่หนูก็ยังมีพ่อจนถึงตอนนี้พ่อก็ยังไม่ได้แต่งงานกับใคร พ่อพยายามอย่างมากแต่ดูผลลัพธ์จากความพยายามของพ่อสิ!!"
"ดังนั้นเธอก็เลยสู้เพื่อพ่อใช่หรือเปล่า" หยางเฉินคิดว่านี่เป็ความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน
ถังถังครุ่นคิดสักพักก็ส่ายศีรษะเล็กน้อย
"อันที่จริง แม้หนูจะยังอายุไม่มาก แต่หนูก็รู้ว่าเื่บางเื่นั้นไม่สามารถบังคับกันได้แต่... แต่พี่สาวเปลี่ยนไปเร็วเกินไปและไม่ยอมรับด้วยว่าเธอมีชายอื่น สุดท้ายหนูคิดว่าเธอคงไม่รักหนูอีกต่อไปแล้ว..."
"เพราะฉะนั้นเธอเลยใช้เื่พ่อมาคัดค้านใช่มั้ย?"
"...หนูตั้งใจจะพูดแค่ไม่กี่คำแต่สุดท้ายเราก็ทะเลาะกัน..."ถังถังพูดเจื่อนๆ
หยางเฉินเผยรอยยิ้มออกมา
"ดังนั้นเธอเลยหนีออกจากบ้าน!?"
"ไม่ใช่..." ถังถังลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนกล่าวว่า "อันที่จริงหนูรู้สึกเหนื่อยมาก นอกเหนือจากไปโรงเรียนหนูก็ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปที่ไหนอีก หนูรู้สึกเหมือนนักโทษและเบื่อหน่ายอย่างมาก"
หยางเฉินมองลึกลงไปในดวงตาใสของถังถัง
"นี่เป็การกระทำที่น่ารังเกียจที่สุด"
ถังถังนิ่งเงียบพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง