Chapter 37
แปลก ๆ
เป็ความรู้สึกที่ผุดมาในความคิดของเคธใน่วันสองวันที่ผ่านมานี้ ในวันแรกเคธเองก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง เพราะคิดว่าตัวเองอาจจะรู้สึกไปเอง ถ้าเป็แบบนั้นก็ไม่ได้อยากจะให้ใครมากังวลไปด้วย แต่วันนี้มันอึดอัดจนแทบจะทนไม่ไหว เพราะมีคนมาคอยตามเขาในระยะที่ใกล้มากเกินไป เป้าหมายหลังจากการเลิกงาน ที่ปกติจะเป็การตรงกลับบ้านเลย ถูกเปลี่ยนไปที่ร้านเครื่องหอมของกรีนแทน
"คุณเคธ ทำไมมาที่นี่ล่ะคะ?" เกรซถามขึ้นเมื่อเห็นเคธเปิดประตูเข้ามาในร้าน
"พอจะมีห้องที่ลับตาคนมากกว่านี้ไหมคะ?"
"เดี๋ยวตามเกรซมาเลยค่ะ" พอเห็นท่าทีที่ดูระแวงของเคธ เกรซก็ตอบรับกลับไปทันที
เกรซพาเคธเดินมาที่ห้องทำงานของเวย์ ที่ในขณะนี้เวย์ก็ยังอยู่ที่นั่นด้วย ่นี้ทั้งเวย์ เกรซ และมิเกลตัวติดกันเป็พิเศษ เพราะยังจัดการเื่นี้ไม่เรียบร้อยดี แต่ถ้าถามว่าใช้เวลาทั้งวันในการวุ่นวายกับเื่นี้หรือเปล่า ก็คงจะตอบว่าไม่ เพราะหลังจากที่ได้ปล่อยคลิปเสียงและหลักฐานออกไป พวกเขาก็แทบจะไม่มีอะไรต้องทำแล้ว เหลือเพียงแต่การพิจารณาของทั้งประชาชนและทางการเท่านั้น แต่ที่ยังมารวมตัวกันอยู่ เพราะต่างคนต่างก็สภาพจิตใจย่ำแย่จากเื่นี้ เลยคอยมาอยู่ด้วยกันเพื่อให้กำลังใจกันก่อน
"คุณเคธ สวัสดีครับ" เวย์เอ่ยทักทายเคธทันทีที่เคธเดินเข้าไปในห้องทำงาน มิเกลเองก็เช่นกัน
"สวัสดีค่ะ"
"มาดึกขนาดนี้มีอะไรหรือเปล่าครับ?"
"คือ ฉันคิดว่ามีคนตามฉันมา"
"ครับ? ยังไงนะครับคุณเคธ? หมายถึงสะกดรอยตามเหรอครับ?" เวย์ตั้งคำถามขึ้นด้วยความใ
"ใช่ค่ะ เหมือนจะตาม ๆ มา 2 วันแล้ว ตอนแรกฉันเองก็ยังไม่แน่ใจ แต่พอมาวันนี้มันเริ่มตามใกล้มากขึ้น"
"แต่ยังไม่ได้มาทำอะไรคุณเคธใช่ไหมครับ?"
"ยังค่ะ"
"ตอนนี้เหมือนจะยังอยู่ที่หน้าร้านด้วยนะคะ" เกรซพูดขึ้นหลังจากที่เปิดกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านดูแล้ว ยังคงเห็นชายสวมชุดดำคนหนึ่งเดินวนอยู่
"คุณเคธได้คิดไว้หรือเปล่าครับว่ามันน่าจะเป็คนของใคร?"
"ก็คงจะเป็บัตเลอร์นั่นแหละค่ะ ฉันเป็คนปล่อยคลิปเสียงที่มันคุยกับเ้าป๋ายเอง แล้วตอนนี้มันก็คงจะรู้แล้วว่าคนที่ปล่อยคือฉัน ก็เลยอาจจะส่งคนมาตาม"
"ถ้าคุณเคธสะดวก คืนนี้พักที่นี่ก่อนไหมครับ? ได้ใช่ไหมคุณเวย์?" มิเกลถามขึ้น
"ได้ครับ ผมเองก็ห่วงเหมือนกัน กลัวจะเกิดอันตราย"
"แต่ถ้าคุณเคธไม่สะดวก เดี๋ยวเกลให้คนของเกลไปส่งที่บ้านก็ได้ ส่วน่นี้ถ้าจะไปไหนมาไหน บอกพวกเราไว้ก่อนได้ก็ยิ่งดีเลยครับ เกลว่าไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่" มิเกลพูดขึ้นมาด้วยความกังวล
"ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ยังไงวันนี้ฉันคงจะรบกวนนอนที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ มีอะไรอยากจะปรึกษาพอดี" เวย์ เกรซ และมิเกลพยักหน้ารับเคธ
หลังจากนั้นเกรซก็แยกไปเตรียมเสื้อผ้าให้เคธอาบน้ำ เคธเองก็ใช้ห้องน้ำของที่ร้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็ออกมานั่งที่ห้องทำงานของเวย์เพื่อขอคำปรึกษา
"แปลกที่มันไม่ทำอะไรคุณเคธเลยนะคะ แล้วแบบนี้มันจะมาตามเพื่อเอาอะไร?" เกรซตั้งคำถามออกมา
"พี่คิดว่าอาจจะมาตามเพื่อขู่เฉย ๆ มันคงไม่ได้คิดที่จะสร้างเื่เพิ่มตอนนี้หรอก เพราะเพิ่งโดนแฉไป แล้วมันก็เป็อย่างที่เราคิดไว้ว่ามีคนเริ่มกล้าออกมาแฉมันเรื่อย ๆ กระแสของพอล บัตเลอร์กำลังเป็ไปในทางลบ มันคงยังไม่กล้าจะขยับตัวตอนนี้ แต่ที่ส่งคนมาตามคุณเคธแบบนั้น ก็คงอยากจะขู่นั่นแหละ"
"ฉันก็คิดแบบนั้นนะคะ เพราะคนอย่างมัน ถ้าอยู่ในสถานการณ์ปกติก็คงจะลงมือทำไปแล้ว" เกรซพยักหน้ารับคำตอบของเคธ
"แล้วเื่ที่คุณเคธจะปรึกษาพวกเราล่ะคะ?"
"อ้อ คือแบบนี้ค่ะ ตอนนี้พวกคุณก็รู้แล้วว่าฉันเป็คนปล่อยคลิปเสียงที่บัตเลอร์คุยกับเ้าป๋าย แต่ตอนนี้กระแสในโซเชียลมีเดียมันเป็ไปทั้งสองทาง ก็คือคนที่เชื่อแล้วก็ไม่เชื่อ เพราะอันที่ฉันปล่อยไปมันมีแต่เสียง ไม่มีวิดีโอหรือรูปภาพมายืนยัน แต่ที่จริงแล้วฉันมีอันที่เป็วิดีโออยู่ค่ะ เลยอยากจะปรึกษาพวกคุณว่าควรจะปล่อยหรือเปล่า แล้วถ้าจะปล่อยต้องปล่อยตอนไหนดี?" เคธอธิบาย จากนั้นก็พูดสิ่งที่อยากจะปรึกษาออกมา
"เกลกำลังจะถามอยู่พอดีเลยครับ ว่ามีอะไรที่บ่งบอกได้หรือเปล่า ว่านั่นคือเสียงของบัตเลอร์จริง ๆ เพราะอันนี้มันเป็หลักฐานชิ้นสำคัญมาก ๆ เกลคิดว่า ถ้ากระแสของเื่นี้มันเป็ไปในทางที่ดี มันอาจจะเป็ผลดีกับตัวป๋าย 100% แน่ ๆ" มิเกลบอกออกมา
"เหตุผลทั้งหมดที่อยากจะปล่อยไปเลยก็คือเ้าป๋ายนั่นแหละค่ะ"
"แต่ผมว่าเก็บไว้ก่อนดีกว่าครับ เอาไว้เป็หลักฐานในตอนที่พิจารณาเลย เพราะยังไงกระแสทางสังคมก็ถูกปัดตกอยู่แล้ว ทางการคงจะไม่มองเื่นี้หรอกครับ แต่หลักฐานชิ้นนี้มันสามารถเป็หลักฐานในขั้นตอนการพิจารณาคดีได้ ทางที่ดีผมว่าเก็บหลักฐานไว้ให้ดี ๆ ดีกว่า อย่าเพิ่งบอกใครว่าคุณเคธมีหลักฐานชิ้นนี้ ถ้าทางการยุติธรรมมากพอ พวกเขาต้องยอมให้ป๋ายย้ายทะเบียนบ้าน เพราะหลักฐานชิ้นนี้มันก็ชัดเจนซะขนาดนี้แล้ว" เคธพยักหน้ารับ
ก็อย่างที่เวย์บอก สิ่งที่พวกเขาทำทั้งหมดตอนนี้ มันอาจจะใช้เป็หลักฐานในการเอาผิดบัตเลอร์ไม่ได้ อย่างแรกคือพวกเขาไม่ใช่เ้าของหลักฐาน หลักฐานพวกนั้นได้มาจากประชาชน และถ้าอยากจะเอาผิด ประชาชนกลุ่มนั้นก็ต้องมาแจ้งความหรือดำเนินคดีด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่พวกเขาทำ เป้าหมายคือ้าให้พอล บัตเลอร์มีกระแสในด้านลบ และเรียกให้คนมาสนใจเยอะ ๆ ถึงแม้ว่าเสียงของประชาชนจะไม่สามารถเป็หลักฐานหรือมีอิทธิพลต่อผลของคดี แต่มันก็สามารถเรียกความสนใจให้ทางการหันมาตรวจสอบเื่นี้อย่างจริงจัง และแน่นอนว่าถ้าหากตรวจสอบเื่นี้อย่างจริงจัง โดยที่บัตเลอร์ไม่ได้มีใครคอยช่วยอยู่เื้ั ทางการจะต้องเจออะไรที่มากกว่านี้แน่นอน
"เกรซว่าเราสำรองหลักฐานชิ้นนี้ไว้หลาย ๆ ที่ก่อนดีกว่าค่ะ ทำเหมือนที่พี่กับพี่กรีนทำกัน เราจะได้มั่นใจว่าหลักฐานมันจะไม่หายไปไหน เพราะถ้าไม่มีชิ้นนี้ เกรซก็นึกไม่ออกเลยว่าจะเอาหลักฐานที่ไหนมาเอาผิดบัตเลอร์ในเื่ของครึ่งทางได้อีก" เกรซพูดขึ้นมาด้วยความกังวล เพราะหลักฐานสำหรับคดีเกี่ยวกับครึ่งทางของพอล บัตเลอร์ในตอนนี้ เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอะไรเลย นอกจากเื่เล่าจากปากครึ่งทางแต่ละคน
หลังจากที่เคธได้ยิน ก็รีบส่งเมมโมรี่การ์ดที่เก็บไฟล์วิดีโอไว้ให้เวย์ทันที เวย์จัดการก๊อบปี้และสำรองข้อมูลไว้ในหลาย ๆ แหล่ง เหมือนกับตอนที่ทำก่อนหน้านี้ และเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการลบหรือการนำไฟล์ออกจากที่ต่าง ๆ เวย์ก็ให้ทุกคนคิดรหัสที่รู้แค่ตัวเอง จากนั้นก็นำมาใส่ในที่เก็บหลักฐานแต่ละแหล่ง แต่ละคนจะรู้รหัสแค่หนึ่งที่เท่านั้น ก็คือที่ที่ตัวเองเป็คนคิดรหัส และพอจัดการธุระตรงนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนทันที
วันถัดมา
เช้าวันนั้นพอล บัตเลอร์นัดแนะนักข่าวแทบจะทุกสำนักให้มาที่หอประชุมแห่งหนึ่ง เขาแจ้งว่า ้าแถลงข่าวเกี่ยวกับเื่ที่เป็กระแสอยู่ในโซเชียลมีเดียตอนนี้ ข่าวของการแถลงข่าวถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วในวงกว้าง เพราะตอนนี้พอล บัตเลอร์กำลังได้รับกระแสที่ไม่ดีเอามาก ๆ นักข่าวในแทบจะทุกสำนักก็มารวมตัวกันที่หอประชุม
"สวัสดีครับ ผมพอล บัตเลอร์ ขอเริ่มแถลงการเกี่ยวกับเื่ที่เกิดขึ้นเลยนะครับ เื่แรก เื่คลิปเสียงและหลักฐานที่มีประชาชนรวบรวมและปล่อยออกมา เกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ การเข้ายึดพื้นที่ การข่มขู่ หรือเื่อื่น ๆ ผมอยากจะเรียนให้ประชาชนทุกท่านให้ทราบว่า ข้อมูลพวกนั้นเป็เท็จทั้งหมดครับ" หลังจากที่พอลพูดออกมา เสียงหารือของนักข่าวก็ดังขึ้นมาไม่หยุด
"คุณบัตเลอร์คะ คุณสามารถยืนยันได้หรือเปล่าคะว่าข่าวพวกนั้นเป็เท็จ เพราะประชาชนบางคนที่ออกมาพูดเื่ของคุณ พวกเขาต่างก็มีหลักฐานในการกระทำที่คุณได้ทำไว้เมื่อหลายปีก่อนนะคะ"
"เื่แบบนี้มันปลอมแปลงกันได้ครับ หลักฐานที่พวกเขาเอาออกมาแสดงก็เช่นกัน ผมได้ทำการเข้ายึดพื้นที่หรือบุกรุกพื้นที่ก็จริง แต่เหตุผลก็เพราะนั่นมันคือพื้นที่ที่มีชื่อผมเป็เ้าของ ผมพยายามเยียวยาเท่าที่จะทำได้ แต่มันคงจะยังไม่พอสำหรับพวกเขา ผมไม่เคยข่มขู่ ทำร้ายร่างกายใครทั้งสิ้น อีกอย่างที่ผมอยากจะพูดแม้ว่ามันอาจจะทำให้ทุกคนไม่พอใจ ก็คือผมเป็นักธุรกิจครับ การที่ผมจะขอคืนพื้นที่ของผมเพื่อที่จะมาสร้างประโยชน์ให้กับตัวผมและครอบครัวของผม มันก็เป็เื่ปกติไม่ใช่หรือครับ?" บัตเลอร์คอยลอบมองนักข่าวด้านล่าง และมันก็สร้างความพึงพอใจให้กับเขา เพราะนักข่าวด้านล่างที่ทำเสียงแข็งอยู่เมื่อสักครู่ แสดงสีหน้าที่เปลี่ยนกลับมาเป็ความเห็นใจแทน ราวกับว่าเชื่อคำพูดของพอลแล้ว
"เอาเป็ว่ายังไงผมขอจบการอธิบายเื่นี้เพียงเท่านี้นะครับ ผมไม่มีอะไรจะพูดมากกว่านี้แล้ว นั่นคือเหตุผลทั้งหมดของผม"
"แล้วเื่ครึ่งทางที่อยู่ในล่ะคะ จะอธิบายเหตุการณ์นี้ว่าอย่างไรคะ? เื่นี้ดูจะเป็เื่ใหญ่เอามาก ๆ ครอบครัวบัตเลอร์มีการทรมาน กักขังจริงหรือเปล่าคะ? และข่าวล่าสุดที่คุณไม่ได้พาครึ่งทางของคุณไปตรวจสุขภาพในระยะการตรวจสุขภาพประจำปีที่ผ่านมา ช่วยอธิบายให้ชัดเจนได้ไหมคะ ว่าทำไมครึ่งทางของคุณถึงบอกว่าคุณเป็คนไล่เขาออกมา"
"ครับ เื่นี้เป็ประเด็นหลักที่ผมอยากจะพูดในวันนี้ ผมขอยืนยันว่าทั้งหมดที่เป็ประเด็นอยู่ในโซเชียลมีเดียตอนนี้เป็เื่เท็จครับ ผมดูแลครึ่งทางที่ผมรับมาเลี้ยงอย่างดี แต่อย่างที่ทุกท่านทราบว่าตอนนี้ครึ่งทางที่อยู่ในทะเบียนบ้านของผมมีทั้งหมดสองคน และพวกเขาไม่ถูกกัน เหตุผลที่ไม่พาครึ่งทางไปตรวจสุขภาพก็เพราะเขาหายตัวไปครับ" บัตเลอร์ทำเสียงสั่น ๆ และทำท่าจะร้องไห้ออกมา
"เขาหนีออกจากบ้าน ผมแจ้งเ้าหน้าที่และพยายามจะตามหาอยู่หลายวัน แต่ก็ไม่พบเลย เพิ่งจะมาทราบในภายหลังว่าเขาไปอยู่กับเ้าของร้านเครื่องหอมคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้คนคนนั้นถูกคุมตัวอยู่ แต่วันนี้คงจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมาแล้วครับ เพราะว่าผมยอมความไปแล้ว เพื่อพิสูจน์ให้ทุกท่านเห็นว่าผมบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีเจตนาจะแจ้งจับหรือทำให้เกิดความวุ่นวายพวกนี้ขึ้น"
"แล้วคลิปเสียงสนทนาระหว่างคุณกับครึ่งทางของคุณที่ได้ถูกปล่อยออกมาล่ะคะ จะอธิบายว่ายังไงดีคะ? เพราะบทสนทนาค่อนข้างชัดเจนว่าคุณเป็คนไล่เขาออกมา"
"ไม่เป็ความจริงแน่นอนครับ คลิปเสียงนั้นถูกตัดแต่งขึ้นมา ในตอนแรกผมใมาก เพราะเสียงมีความคล้ายคลึงกับผมอยู่พอสมควร แต่วันนั้นก็มีสื่อมวลชนเข้าไปพบครึ่งทางกับผมไม่ใช่หรือครับ? วันนั้นครึ่งทางของผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานี่"
เชื่อเถอะว่าคนที่รู้ความจริงเื่นี้ทั้งหมด ถ้าได้ฟังต้องโมโหเหมือนกับที่เวย์ เกรซ และมิเกลเป็อยู่ตอนนี้ มันไม่ใช่เพียงแค่คำพูด แต่ทั้งสีหน้า ท่าทางของพอลในตอนนี้ เขาแสดงมันได้ธรรมชาติสุด ๆ ไม่หลุดความกลัว ประหม่า หรือความตื่นเต้นออกมาเลยแม้แต่น้อย
และการที่พอล ออกมาแถลงการณ์แบบนี้ต่อหน้าสื่อมวลชนและประชาชนที่รับชมอยู่ แปลว่าเขาไม่กลัวในความผิดอะไรที่เคยได้ก่อเลย ไม่กลัวว่าจะโดนแฉในภายหลัง ไม่กลัวว่าจะได้รับโทษกับความผิดที่ทำไว้
"ตอนนี้มีอะไรอยากจะบอกกับประชาชนที่กำลังฟังคำแถลงการณ์ของคุณอยู่หรือเปล่าคะ?
"ขอบคุณทุกท่านที่อยู่เคียงข้างผมเสมอมา แน่นอนว่าธุรกิจของผมหรือสิ่งที่ผมสร้างมามันจะเติบโตไม่ได้ขนาดนี้ถ้าไม่มีทุกคน ผมขอยืนยันว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียไม่เป็ความจริงทุกประการ ผมเองก็ไม่รู้ว่าในวันต่อไปจะมีใครมาปล่อยหลักฐานเท็จอะไรอีกหรือเปล่า แต่ตอนนี้ ใครมีอะไรที่ซ่อนไว้ก็เช็คให้ดีนะ ว่ามีความจริงหรือเปล่า เพราะถ้ามันไม่ใช่เื่จริง ผมอาจจะต้องดำเนินคดีและทำตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปครับ ขอบคุณที่เชื่อใจครับ"
หลังจากนั้นการถ่ายทอดสดคำแถลงการณ์ก็ถูกตัดไป เวย์ที่ได้ฟังขมวดคิ้วให้กับสิ่งที่ได้ยินเมื่อสักครู่ เขาไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ที่พอล บัตเลอร์เน้นคำแปลก ๆ ใน่ที่พูดตอนสุดท้าย ในประโยคที่ว่า ใครมีอะไรที่ซ่อนไว้ก็เช็คให้ดีนะ ว่ามีความจริงหรือเปล่า เหมือนมันจะถูกเน้นแค่คำว่า ใครมีอะไรก็เช็คให้ดีว่ามีหรือเปล่า หลังจากที่ทบทวนอีกครั้ง เวย์ก็รีบวิ่งกลับเข้าไปที่ห้องทำงานของตัวเองทันที
"แม่งเอ้ย!" เวย์สบถออกมาด้วยความหัวเสีย
"มีอะไรคะพี่เวย์?" หลังจากที่ได้ยิน เกรซก็เดินเข้ามาดูเวย์ทันที
"พี่ว่าที่มันแถลงเมื่อกี้มันพูดอะไรแปลก ๆ เหมือนมันเน้นให้เข้าใจว่า ถ้ามีอะไรก็เช็คให้ดีว่ามีหรือเปล่า พี่เลยเข้ามาดูไฟล์วิดีโอที่สำรองไว้เมื่อวาน แต่มันหายไปหมดแล้ว โดนบัตรเลอร์มันเล่นแล้วแหละ"
"แล้วของคนอื่น ๆ ล่ะคะ ที่ใส่รหัสไว้" เกรซขึ้นมาด้วยความใ
"เกรซลองเข้ามาใส่รหัสของเกรซดูสิ" เท้าเล็กรีบสาวเข้าไปที่คอมพิวเตอร์ของเวย์ทันที มือเล็กกดดับเบิ้ลคลิกที่โฟลเดอร์ที่ได้สร้างไว้เมื่อวาน หลังจากนั้นก็ใส่รหัส พอเข้าสู่โฟลเดอร์ได้ก็พบว่ามีโฟลเดอร์ที่เมื่อวานมีไฟล์วิดีโออยู่ในตอนนี้กลับว่างเปล่าไปแล้ว
"แบบนี้ก็คงหายหมดเลยแหละพี่เวย์" เวย์เสยผมด้วยความหัวเสีย
"ทำไงดีวะเนี่ย?"
"พี่เวย์ใจเย็นก่อนนะคะ แล้วจะบอกคุณเคธยังไงดีคะ? คุณเขาน่าจะหวังกับเื่นี้ไว้เยอะเลย" เกรซตั้งคำถามออกมา
"ยังไงตอนนี้ก็คงต้องบอกไปตรง ๆ พอลมันเปิดศึกมาขนาดนี้ แล้วพี่ว่ามันก็คงมั่นใจมากว่ามันสามารถจัดการอะไรได้ ไหนจะลบไฟล์ของเราออกได้อีก ตอนนี้ช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะเอายังไงต่อ กรีนมันไม่ยอมให้แพ้แน่ เพราะถ้าแพ้ ป๋ายก็ต้องกลับไปอยู่กับบัตเลอร์ ที่มันยอมให้ทุกอย่างเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ เพราะมันไม่้าให้ป๋ายกลับไป"
"เห้อ ไม่รู้ด้วยสิว่ามันจะมาไม้ไหนอีก นี่มันมั่นใจถึงขั้นยอมความพี่กรีนแล้ว"
"พี่ว่า เดี๋ยวรอกรีนมันออกมาก่อน"
"ได้ค่ะพี่เวย์"
กริ๊ง ๆ ๆ~
"พี่กรีน!" พอได้ยินเสียงกระดิ่งที่หน้าประตูดังขึ้น เกรซก็รีบวิ่งออกไปดูทันที ปรากฏร่างของกรีนยืนอยู่ที่หน้าประตู
"ไงครับ ไม่ได้เจอกันนานเลย"
"ไอ้กรีน แย่แล้วว่ะ" เวย์พูดขึ้นมา
"ไอ้พอลใช่ไหม?"
"อืม"
เวย์เริ่มเล่าให้กรีนฟัง ว่าระหว่างที่กรีนถูกคุมตัวเกิดอะไรขึ้นบ้าง เล่าั้แ่ตอนที่มีความหวังเื่ครึ่งทางในตอนแรก เพราะว่ามีคนปล่อยคลิปเสียงที่พอลคุยกับป๋ายออกมา และคนคนนั้นก็คือเคธ พร้อมทั้งบอกว่าไม่ได้มีแค่หลักฐานที่เป็คลิปเสียง แต่มีแบบที่เป็คลิปวิดีโอด้วย เวย์เล่าคำแถลงการณ์ของพอล บัตเลอร์ให้กรีนฟัง จากนั้นก็บอกกรีนไปว่าหลักฐานพวกนั้นโดนทำลายไปหมดแล้ว
"มันไม่ล้มง่าย ๆ หรอก ไม่อย่างนั้นจะยืนทำชั่วหน้าตาเฉยมาตั้งหลายปีได้ยังไง" กรีนพูดออกมา
"แล้วพี่กรีนจะกลับไปอยู่ที่บ้านปกติได้หรือยังคะ?" เกรซถามออกมาด้วยความหวัง
"พี่กลับไปอยู่ที่บ้านได้แล้วครับ แต่ว่าก็ต้องรายงานเ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ทางการยังส่งเ้าหน้าที่มาติดตามพี่อยู่ เพราะยังไม่ถึงวันฟังผลของการพิจารณาคดี"
"ยังไงก็ต้องโดนโทษเหรอคะ?"
"ครับ ยังไงก็ต้องโดน พี่ทำผิดกฎนี่"
"พี่กรีน" เกรซเรียกกรีนออกมาเสียงแ่
"ไม่ต้องคิดมากเกรซ พี่สบายมาก ไม่ต้องห่วงเลย"
"จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงล่ะคะ?"
"กรีน!" เสียงเรียกชื่อกรีนดังลั่นโดยพี่ชายของเขา
"พี่บลู"
"เป็ยังไงบ้าง?" บลูพุ่งเข้ากอดน้องชายของเขาทันที
"กรีนสบายดีพี่บลู" กรีนตอบกลับพี่ชายของเขาไปด้วยรอยยิ้ม
"พี่เพิ่งไปเข้าเยี่ยมตัวเล็กมานะ"
"ป๋ายเป็ยังไงบ้างครับ?"
"สดใสเหมือนเดิม ผู้ดูแลเองก็บอกว่ากินข้าวครบทุกมื้อ" กรีนยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำตอบ แค่รู้ว่าอีกคนสบายดีกรีนก็สบายใจแล้ว แน่นอนว่ากรีนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม เพราะฉะนั้นการได้รับรู้จากคนที่ไว้ใจได้ ก็คงจะเป็ที่สุดสำหรับตอนนี้แล้ว
"น้องฝากจดหมายมาให้ด้วยนะ" บลูยื่นซองสีขาวซองเล็ก ๆ ที่บรรจุจดหมายลายมือของป๋ายให้กรีนทันที กรีนรับมันมาไว้ในมือและเปิดอ่าน
ถึง พี่กรีน เ้านายตลอดกาลของป๋ายป๋าย
'พี่กรีน เค้าไม่รู้ว่าพี่กรีนจะได้อ่านจดหมายอันนี้ของเค้าตอนไหนนะ เพราะเค้าเริ่มเขียนั้แ่วันแรกที่เค้าเข้ามาเลย คุณหมอบอกว่าสุขภาพของเค้าแข็งแรงมาก แน่นอนว่าเป็เพราะมีเ้านายดูแลดี ที่สำคัญภูมิคุ้มกันของเค้าดีขึ้นเยอะมาก ๆ เลย ตอนแรกแทบจะลืมไปแล้วว่าเค้าเป็แมวที่ป่วยง่าย ขอบคุณพี่กรีนมากนะ ที่ดูแลเค้าดีมาตลอด'
'วันนี้เคธมาหาด้วยแหละ เค้าคิดถึงเคธมาก เคธก็คิดถึงเค้าเหมือนกัน วันนี้เป็อีกวันที่รู้สึกแย่น้อยลง แต่ยังคิดถึงพี่กรีนเหมือนเดิม หวังว่าพี่กรีนจะสบายดีนะ'
'พี่กรีน พี่กรีนจะโกรธไหม ถ้าเค้าบอกว่าเค้ายอมหมดทุกอย่างแล้ว ถ้าสุดท้ายเค้าจะต้องกลับไปอยู่ที่บ้านบัตเลอร์จริง ๆ ถ้ามันเป็ทางเดียวที่จะจบเื่ทั้งหมดนี้ได้ เค้าจะยอมทุกอย่างเลย เค้าไม่อยากให้ทุกคนมาเสียเวลากับเค้าอีกแล้ว เค้ารู้ว่าถ้าพี่กรีนอ่านประโยคเมื่อกี้เสร็จ พี่กรีนจะต้องขมวดคิ้วแน่นอน เค้ารู้ว่าพี่กรีนไม่อยากให้เค้าคิดแบบนั้น แต่มันเป็เื่จริงที่ทุกคนกำลังเสียเวลาเพราะเค้า พี่กรีนบอกเค้าเองว่าไม่ว่าผลมันจะเป็ยังไง มันก็คือสิ่งที่เราทำเต็มที่แล้ว เพราะฉะนั้น สู้จนเหนื่อยก็พอนะ อย่าสู้จนไม่ไหวเลย'
'ยังไง ความปรารถนาของเค้า ก็คือได้เจอหน้าพี่กรีนไปตลอดนะ'
ยังไงพี่ก็จะพาเธอออกมาให้ได้นั่นแหละ
ไม่ต้องห่วงนะครับ
"เอาเป็ว่าทุกคนไม่ต้องเครียดขนาดนั้นนะ ถ้าพอลมันมั่นใจ กรีนก็มั่นใจเหมือนกัน" กรีนพูดขึ้นมา
"หมายถึงอะไรวะ?" เวย์ถามขึ้นมา
"อะไรที่มันทำลายไปแล้วก็ปล่อยให้มันทำลายไป เพราะกูมีอะไรใหม่ ๆ รอมันอยู่เสมอแหละ ตอนนี้ขอยังไม่พูดอะไรแล้วกัน รอให้แม่งะเิทีเดียว"
ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่าสิ่งที่กรีนพูดหมายถึงอะไร หรือหมายถึงหลักฐานชิ้นไหน แต่ตอนนี้ทุกคนก็ยังคงเชื่อใจกรีนเหมือนที่เป็มาอยู่เสมอ ยิ่งถ้ากรีนมั่นใจ พวกเขาก็ยิ่งมั่นใจ
ถึง ป๋ายป๋าย เหมียวตลอดกาลของพี่กรีน
'ข้อความที่พี่เขียนคงไม่ถูกส่งไปถึงเธอ แต่พี่ก็อยากเขียนไว้เผื่อวันนึงเราได้กลับมาเจอกัน และเธอได้เปิดอ่านมัน ไม่ว่ายังไงเป้าหมายพี่ก็ยังคงเหมือนเดิมนะ คือทำให้เธอหลุดพ้นจากบัตเลอร์ เธอจะต้องได้เป็แมวที่มีความสุขแน่ ๆ ป๋าย ไม่ต้องห่วงเลย ตอนนี้พักผ่อนไปก่อนนะ รอพี่กรีนก็พอ รักป๋ายป๋ายนะครับ แล้วก็คิดถึงมาก ๆ'