เล่มที่ 8 บทที่ 217 ผีดิบร่างเงิน
ผ่านไปเพียงครู่เดียวก็มีกลิ่นอายแห่งความตายแพร่กระจายออกมา ไอหยินเข้มข้นรวมเข้ากับกลิ่นของซากศพกลายเป็ชั้นหมอกบางเบาปกคลุมไปทั่วบริเวณบึงโคลน
ภายใต้ม่านหมอกบางเบานี้เอง ก็เห็นสัตว์ประหลาดสีเงินซึ่งมีแขนขาทั้งหมดสี่ข้าง รูปร่างสูงนับสิบจ้างปรากฏขึ้นมา ทั่วทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยเกล็ดสีเงินและกลิ่นซากศพอบอวล
ในตอนแรกเข้าใจว่าการที่มีไอหยินเข้มข้นแพร่กระจายออกมาเช่นนี้จะต้องมีมารปีศาจปรากฏตัวเป็แน่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่ามารปีศาจที่ว่านี้จะเป็ผีดิบร่างเงินขั้นหก แถมยังดูไม่ออกอีกว่าก่อนตายเ้าผีดิบตนนี้เคยเป็มารปีศาจชนิดใดมาก่อน
หลังจากที่ผีดิบร่างเงินปรากฏตัวออกมา กลิ่นอายแห่งความน่าสะพรึงกลัวก็แพร่กระจายออกมาเรื่อยๆ ส่วนเ้าหนูทองที่กำลังบ้าคลั่งก็มีท่าทีคล้ายจะได้สติคืนมา และหยุดโจมตีอย่างไร้ทิศทางโดยพลัน
ไม่นานเ้าหนูก็กลายร่างเป็ลำแสงสีทอง พุ่งประชิดไปยังด้านหลังผีดิบร่างเงิน ก่อนจะใช้กรงเล็บแหลมคมและฟันหน้าอันแข็งแรงฉีกกระชากเข้าทันที ทว่ามีเพียงสะเก็ดไฟเกิดขึ้นมาเท่านั้น ส่วนเกล็ดที่ปกคลุมทั่วตัวของเ้าผีดิบ กลับไม่มีรอยขีดข่วนเลยแม้แต่น้อย...
ก่อนหน้านี้ตอนที่ต่อสู้กับเ้าอสรพิษ ทุกครั้งที่ฟันหน้าของเ้าหนูขบกัดเข้าไปนั้น ก็สามารถฉีกกระชากเกล็ดและชิ้นเนื้อของเ้าอสรพิษออกมาได้อย่างง่ายดาย
แต่ว่าบัดนี้กลับไม่เป็ผลแม้แต่น้อย เ้าหนูเห็นดังนั้นก็กลายเป็ลำแสงสีทองเข้าโจมตีอีกครั้ง ทว่าก็ยังปรากฏเพียงสะเก็ดไฟเช่นเดิม โดยไม่มีรอยขีดข่วนใดๆ...
เพียงครู่เดียวเ้าหนูก็พุ่งโจมตีไปนับร้อยครั้งแล้ว แต่ผีดิบร่างเงินก็ดูจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย โดยที่มันเอาแต่ตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้นเท่านั้น
หลังจากปรากฏกายออกมาอย่างสมบูรณ์ กลิ่นอายแห่งความน่าสะพรึงกลัวก็ะเิออก ทางฝั่งเ้าหนูทองที่มีพลังอันความว่องไวก็ราวกับกำลังต้านพายุที่กำลังโหมกระหน่ำ มันจึงทำได้เพียงลอยค้างอยู่กลางอากาศเท่านั้น จากนั้นผีดิบร่างเงินก็หันมาตะปบกรงเล็บคว้าเ้าหนูทองเอาไว้อย่างรวดเร็ว
เ้าหนูทองใช้วางความว่องไวเบี่ยงตัวหลบทันที แต่คิดไม่ถึงเลยว่ากลิ่นซากศพและไอหยินที่อยู่รอบกรงเล็บจะกลายเป็หมอกควันดำลอยเฉียดผ่านไป
แม้เพียงเฉียดผ่าน แต่พลังอันรุนแรงกลับปะทะเข้ามาโดยตรง จนทำให้เ้าหนูทองลอยกระเด็นออกไปไกล...
ไม่กี่อึดใจเท่านั้น เว่ยฟงก็หยุดคิดเื่ที่เ้าหนูกินหินิญญามากไปจนอาจเป็เหตุให้เ้าหนูคลุ้มคลั่ง บัดนี้เหงื่อเย็นมากมายกำลังผุดพรายขึ้นทั่วใบหน้าของเว่ยฟงแล้ว...
เพราะในที่นี้ไม่มีใครรู้ความสามารถของหนูทองได้ดีเท่ากับเว่ยฟง และไม่มีใครรู้ว่ากรงเล็บและฟันหน้าของมันแข็งแกร่งเพียงใด...
ตอนที่ต่อสู้กับอสรพิษร้าย เ้าหนูก็ได้สำแดงความว่องไวควบคู่กับการใช้กรงเล็บและฟันหน้าอันแข็งแกร่งออกมาให้เป็ที่ประจักษ์แล้ว
แต่ว่าตอนนี้...
เ้าหนูทองกลับมีสภาพคล้ายกับสัตว์จอมซนตัวน้อย ที่กำลังต่อกรกับผีดิบร่างเงินขนาดั์ที่แข็งแกร่ง ช่างดูน่าขันสิ้นดี...
หวังหลงที่กล้าสำแดงยันต์คู่กายออกมาเพื่อต่อสู้กับอสรพิษร้าย บัดนี้ก็ได้แต่ยืนดูอยู่ไกลๆเท่านั้น โดยไม่กล้าเข้ามาช่วยแม้แต่น้อย สีหน้าขณะมองผีดิบร่างเงินก็ดูเคร่งเครียดกว่าปกติ สายตาก็ดูสั่นคลอน ทุกครั้งที่กรงเล็บของผีดิบร่างเงินตะปบลงมา หนังตาของหวังหลงก็อดกระตุกขึ้นไม่ได้...
ไม่รู้ว่าตอนที่มีชีวิตเ้าผีดิบร่างเงินตนนี้จะเป็มารปีศาจชนิดใดกันแน่ แต่ดูจากลักษณะตัวและพละกำลังแล้ว เกรงว่าเมื่อครั้งยังมีชีวิตจะต้องมีพลังขั้นเยาเจี้ยงเป็แน่ หลังจากและตายกลายเป็ผีดิบร่างเงิน จึงน่ากลัวกว่าผีดิบร่างเงินทั่วไปเช่นนี้...
สติปัญญาทุกอย่างดับสูญลง เหลือเพียงการโต้ตอบตามธรรมชาติเท่านั้น ทั้งโเี้และรุนแรงเกินกว่าจะบรรยาย...
แม้จะเป็ผีดิบร่างเงินเช่นเดียวกัน แต่ผีดิบร่างเงินที่สำนักโยวิเพาะเลี้ยงนั้นกลับไม่ได้มีพลังรุนแรงแบบนี้
เพราะจะมีเพียงซากศพหนึ่งในพันเท่านั้นที่จะมีโอกาสเกิดเป็ผีดิบ ฉะนั้นมีศพเดียวที่กลายเป็ผีดิบร่างเงินได้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมเ้าผีดิบ สำนักโยวิจึงไม่นิยมเพาะเลี้ยงด้วยมารปีศาจเท่าไรนัก หากจำเป็ต้องใช้จริงๆ ก็จะเลือกใช้พวกมารปีศาจระดับล่างเท่านั้น
การเพาะเลี้ยงปีศาจขั้นเยาเจี้ยงให้กลายเป็ผีดิบร่างเงินนั้น ถือว่าหลุดการควบคุมเลยทีเดียว นอกจากจะมีพลังแข็งแกร่งรุนแรงแล้ว มันยังไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะอีกด้วย มีเพียงการโต้ตอบตามสัญชาตญาณเท่านั้น
เมื่อหลายร้อยปีก่อนที่สถานเพาะเลี้ยงผีดิบของสำนักโยวิ ก็เคยเกิดโศกนาฏกรรมโดยเหล่าศิษย์จำนวนมากพากันล้มตาย จากการเพาะเลี้ยงปีศาจขั้นเยาเจี้ยงให้กลายเป็ผีดิบร่างเงินนั่นเอง...
คนที่รู้เื่นี้กลับมีไม่มากนัก แต่ดูจากสีหน้าของเกาชิวแล้ว เหมือนว่าเขาจะเป็คนหนึ่งที่รู้เื่นี้ จึงเข้าใจดีว่าผีดิบร่างเงินขั้นหกตนนี้แข็งแกร่งเพียงใด...
เว่ยฟงมองเ้าหนูทองด้วยความเป็ห่วง ส่วนใบหน้าของหวังหลงเองก็ถอดสีจนซีดขาว ทว่าทั้งคู่กลับไม่คิดล่าถอยแม้แต่น้อย มีเพียงเกาชิวที่ปรากฏความหวาดกลัวฉายชัดในดวงตา แผ่นหลังก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เป็ถึงผู้ที่มีขั้นบำเพ็ญสูงสุดในบรรดาคนทั้งหมด ทว่ากลับสติแตก คิดแต่จะล่าถอยไม่หยุด...
เมื่อเห็นว่าเ้าหนูทองไม่อาจรับมือผีดิบร่างเงินได้ หวังหลงเองก็กัดฟันกรอด ก่อนจะเริ่มบงการยันต์คู่กายออกมาอีกครั้ง
ยันต์ของหวังหลงก็กางออกมาราวกับภาพวาดม้วนหนึ่ง และปรากฏเป็ค่ายกลที่มีภาพนิมิตูเาลำเนาไพรออกมาคล้ายกับพิภพน้อยที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศก็ว่าได้
ทันใดนั้นพลังอันรุนแรงก็แพร่กระจาย กระทั่งกดข่มไอปีศาจอันเข้มข้นที่รายล้อมผีดิบร่างเงินเอาไว้ไม่ให้แพร่กระจายออกมา ยิ่งยันต์ลอยต่ำลงเท่าใด พลังก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเท่านั้น...
หลังจากยันต์ลอยต่ำลงมาเรื่อยๆ ก็ทำให้เห็นชัดว่าูเาลำเนาไพรมากมายที่ปรากฏผ่านค่ายกลกำลังสั่นไหว สรรพสิ่งทั้งหมดในค่ายกลกำลังแผดเสียงกู่ก้อง พวกมันทั้งหลายต่างก็สำแดงพลังออกมาอย่างสุดชีวิต
ส่วนเ้าหนูทองที่อยู่ไม่ไกล ก็นึกถึงการร่วมมือกันตอนสังหารอสรพิษขึ้นมาได้ ชั่วขณะที่ค่ายกลปรากฏออกมานั้น ก็มีพลังรุนแรงขุมหนึ่งกดทับผีดิบร่างเงินเข้าทันที เ้าหนูทองเห็นดังนั้นก็คำรามเสียงดัง จากนั้นก็พองตัวเหมือนกับลูกโป่ง ขนมากมายที่ปกคลุมทั่วตัวก็กลายสภาพเป็หนามแหลม กลิ่นเืและไอิญญาก็หลอมรวมกันจนกลายเป็ควันแดงพวยพุ่ง
หลังจากค่ายกลลอยต่ำลงมา ผีดิบร่างเงินก็ถูกกดต่ำลงเล็กน้อย แต่ก็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เพราะพริบตาต่อมาก็เกิดเสียงคำรามต่ำดังออกมา จากนั้นมันก็ยืดตัวขึ้นราวกับกำลังแบกพิภพหนึ่งขึ้นมา
เ้าผีดิบเงยหน้ามองค่ายกลเหนือหัวก่อนจะคำรามออกมาอีกครั้ง ทันใดนั้นกรงเล็บข้างหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นซากศพและไอปีศาจก็จ้วงเข้าที่ค่ายกลอย่างเต็มแรง
ชั่วขณะนั้นในเอง ฝั่งค่ายกลก็มีกรงเล็บขนาดั์ที่เต็มไปด้วยหมอกดำปรากฏขึ้น ก่อนจะถูกจ้วงทำลายูเาลำเนาไพรทั้งหมดทันที
ขณะนั้นเองก็เกิดเสียงดังกัมปนาทขึ้น ทิวทัศน์ของูเาลำเนาไพรแตกกระจาย กลายเป็เหล่าอักขระจำนวนมากล่องลอยกลางอากาศ ส่วนค่ายกลที่ราวกับภาพวาดนั้น บัดนี้ได้ถูกฉีกจนขาดสะบั้นไปแล้ว
ยันต์ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็พลันสลายหายไปทันที...
ในขณะเดียวกัน กรงเล็บอีกข้างหนึ่งของผีดิบร่างเงินก็ตะปบเข้าไปที่เ้าหนูทองคล้ายกับกำลังตบแมลงวันก็ว่าได้
เสียงโลหะกรีดกระทบกันจนแสบแก้วหู ลำแสงสีทองปนแดงทั่วทั้งตัวของเ้าหนูะเิออก บัดนี้ลำตัวขนาดใหญ่ของมันก็พลันหดลงราวกับลูกโป่งที่ถูกเจาะลมจนแตก และแล้วก็กลายเป็หนูสีทองตัวน้อยขนาดประมาณฝ่ามือเท่านั้น ก่อนที่มันจะถูกพลังรุนแรงตบจนพุ่งเข้าไปในบึงโคลนอย่างแรง โดยไม่รู้ว่าเป็ตายร้ายดีอย่างไร...
พลังทำร้ายล้างอันรุนแรงที่สุดของเ้าหนูทองนั้น กลับทำให้กลางฝ่ามือของผีดิบร่างเงินเกิดรอยไหม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น...
ทันใดนั้นหวังหลงกับเว่ยฟงที่อยู่ห่างออกไปไกลถึงกับไอเสียงต่ำออกมา พลังในตัวก็อ่อนแรงลง ใบหน้าถอดสีกระทั่งซีดขาวราวกระดาษ...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------