อวิ๋นซานมองมาที่นาง เป็ครั้งแรกที่รู้สึกว่าบุตรสาวคนนี้ช่างเหมือนคนแปลกหน้า หากไม่ใช่เพราะตนเป็หมอที่ยิ่งกว่าคุ้นเคยกับกลิ่นอายบนตัวของบุตรสาว เขาย่อมต้องรู้สึกว่าบุตรสาวผู้นี้ปลอมตัวมาเป็แน่
เขาตบบ่าบุตรสาวเบาๆ แสดงออกว่าสนับสนุนเื่ใดก็ตามของบุตรสาวตนเอง
ออกไปเดินทอดน่องเสียนานขนาดนี้ หลังจากกลับมาก็ย่อมเหนื่อยมาก นางจึงให้เตี๋ยชุ่ยไปตักน้ำมาให้ตนเอง จากนั้นจึงชำระล้างกายสักรอบ หลังจากที่นางให้คนออกไปแล้วและกำลังจะพักผ่อน กลับพบความผิดปรกติในห้อง ดวงตาของนางกวาดไปยังกรอบวงกบ้า ก่อนจะแค่นหัวเราะ “องค์ชายหานอ๋องกลายเป็พวกโจรถ่อยย่องเบาั้แ่เมื่อใดเหรอเพคะ”
เมื่อสิ้นเสียงของนาง เงาร่างในชุดสีแดงทั้งตัวก็พลันปรากฏขึ้นต่อหน้านางในทันใด เขาเดินเข้ามาหานางและยิ้มอย่างชั่วร้าย “ไม่คิดเลยว่าจะโดนเ้าจับได้เสียแล้ว” เขาถอนหายใจ ไม่คาดคิดว่าหญิงผู้นี้จะตื่นตัวตลอดเวลา ประสาทการรับรู้ไม่เลวเลยทีเดียว
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาพูดคุยกับอวิ๋นซานเมื่อครู่แล้ว ดูเหมือนว่าสำนักแพทย์อวิ๋นซานแห่งนี้จะไม่ใช่สถานที่ธรรมดาจริงๆ เขามองนางด้วยรอยยิ้มที่ตาไม่ได้ยิ้มตาม พัดในมือยื่นออกมาเชยคางนางขึ้น “เ้าบอกว่า ข้าเป็พวกโจรถ่อยย่องเบาอย่างนั้นหรือ?”
อวิ๋นซีปัดพัดของเขาออกทันทีพร้อมกับพ่นลมอย่างเ็า “แล้วมิใช่หรือเพคะ?” ดูจากท่าทีเช่นนี้ของเขาแล้ว ย่อมต้องอยู่มาเป็เวลานานแล้วแน่ๆ และบางทีเื่ทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นก็อาจจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาจริงๆ ก็เป็ได้
ชายผู้นี้ปลอมตัวได้เก่งจริงๆ หากไม่ใช่เพราะผงยาที่เ้าของร่างเดิมทำไว้ นางคงไม่สามารถหาความเชื่อมโยงจากองค์ชายหานอ๋องผู้สะดีดสะดิ้งตรงหน้ากับชายผู้เ็าไร้น้ำใจในวัดที่ทรุดโทรมวันนั้นได้แน่
“ั้แ่เสี่ยวซีซีบอกว่าข้าเป็โจรถ่อย เห็นทีข้าต้องทำอะไรสักหน่อยเพื่อยืนยันสิ่งที่เ้าพูดว่าเป็จริงหรือไม่นะ” เขาก้าวไปข้างหน้าก่อนจะออกแรงบีบคางของนาง แล้วยิ้มอย่างพราวเสน่ห์ แต่ขณะเดียวกันก็ชั่วร้ายอย่างไม่มีใครเทียม “ยกตัวอย่างเช่น แบบนี้”
หลังเอ่ยจบ เขาก็โน้มตัวไปประชิดนาง และอาศัยความเร็วจูบนางที่ริมฝีปากทันที
รอจนอวิ๋นซีตอบสนองกลับมา บนใบหน้าของหานอ๋องก็มีรอยฝ่ามือแล้ว “องค์ชายรนหาที่เองนะเพคะ”
จวินหยานไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าบนโลกนี้ยังมีคนที่กล้าตบเขาฉาดใหญ่อยู่ อีกทั้งยังเป็แค่หญิงนางหนึ่งอีกต่างหาก ั์ตาดอกท้ออันพราวเสน่ห์ของตนพลันเย็นยะเยียบลงในทันใด มือที่จับคางนางออกแรงบีบ อีกมือหนึ่งรวบเอวนางเข้ามาโอบ กักขังทั้งร่างของนางไว้ด้วยแรงมหาศาลนั่น ไร้ทางที่จะขยับตัวได้
เขาเริ่มจูบริมฝีปากนางอย่างดุดันไม่หยุด เพียงแต่จูบของเขานั้นไม่ปะติดปะต่อกันนัก อาจจะเป็เพราะโดยสัญชาตญาณแล้ว เขาฝืนใจให้นางต้องเผยอปากออก และเกี่ยวกระหวัดริมฝีปากเข้าด้วยกัน ความรู้สึกแปลกประหลาดเช่นนี้เป็สิ่งที่เขาไม่เคยประสบมาก่อน ริมฝีปากของนางนุ่มยิ่งนัก ร่างกายของนางเองก็เช่นกัน บางทีคงเป็เพราะนางเพิ่งชำระล้างกายมา กลิ่นของยาสมุนไพรบนร่างนางจึงจางลงเล็กน้อย กลิ่นอายทั้งตัวของนางล้วนแจ่มชัดขึ้น
เป็ครั้งแรกที่อวิ๋นซีถูกบังคับฝืนใจให้รับจูบอย่างหยาบคายเช่นนี้ และฝีปากการจูบของชายผู้นี้ก็ห่วยแตกย่ำแย่เกินทน อีกฝ่ายจูบจนนางเริ่มเจ็บ นางจึงกัดลิ้นเขาอย่างแรงเพื่อให้ผละออกจากกัน นางกัดแรงเสียจนในไม่ช้าอีกฝ่ายก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นเืในปากตนเองแล้ว
แต่เขาก็ยังคงจูบนางอย่างบ้าคลั่งต่อ ต่อให้เจ็บ เขาก็ไม่สะดุ้งะเืเลยสักนิด ในชั่วครู่นั้นอวิ๋นซีก็รู้สึกตื่นตระหนกแล้ว เพราะนี่เป็ครั้งแรกที่นางได้พบกับชายผู้บ้าคลั่งเช่นนี้
นางรู้แน่ชัดว่าหากตนออกแรงกัดมากขึ้นอีกนิด ลิ้นของเขาก็อาจจะถูกกัดจนขาดก็เป็ได้ แต่เขาก็ยังจะดื้อรั้นไม่ยอมที่จะผละออกไป
จนกระทั่งเขาพึงพอใจในที่สุด ถึงได้ปล่อยตัวอวิ๋นซีไป และ ณ ตอนนี้ทั่วทั้งใบหน้าอวิ๋นซีก็เต็มไปด้วยน้ำตาแล้ว ท่าทางเช่นนี้ทำให้องค์ชายหานอ๋องผู้สูงส่งถึงกับใ เขารีบร้อนพูดว่า “คนอย่างเ้านี่แปลกจริงๆ เ้าเป็คนกัดข้าเอง คนที่ร้องไห้ตอนนี้ก็ดันเป็เ้าเองเสียอย่างนั้น”
อวิ๋นซีออกแรงปาดรอยเืที่มุมปาก จากนั้นจึงมองไปยังหานอ๋องอย่างเ็าและพูดว่า “องค์ชายหานอ๋อง พอใจแล้วใช่ไหมเพคะ? จะออกไปได้หรือยังเพคะ?” เขาเป็คนโง่หรืออย่างไร? ไม่รู้หรืออย่างไรว่าสำหรับหญิงนางหนึ่ง การโดนบังคับให้รับจูบเช่นนี้เป็ความอับอายที่อดสูยิ่งนัก
ก็จริงที่นางมาจากยุคปัจจุบัน และเป็หญิงที่มีการศึกษาสูงคนหนึ่งอีกต่างหาก แต่ความคิดของนางก็ยังคงเหมือนตามจารีตธรรมเนียมสมัยก่อน แม้ว่าเมื่อก่อนจะชมชอบโอวหยางเทียนหัวมาก แต่ก็ไม่ชิงสุกก่อนห่ามเด็ดขาด ยิ่งเื่จูบ ก็ควรจะได้เจอกันชายที่ตนเองชอบ ไม่ใช่ชายที่มองดูแล้วเหมือนจะผีเข้าผีออกเช่นนี้
อีกทั้งนางยังไม่มีสิทธิ์ที่จะมีความรักได้ในตอนนี้ ความคับแค้นของท่านพ่อท่านพี่และคนในสกุลยังไม่ได้สะสาง และบุตรสาวของนางที่เมื่อให้กำเนิดออกมาก็ไม่ทันได้เห็นหน้าสักครั้งเวลานี้ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ใดแล้ว
จวินหยานเหลือบมองนางก่อนจะแค่นเสียงอย่างเ็า “วันนี้เ้าใช้ประโยชน์จากข้า ข้ายังไม่โกรธเ้าสักนิด ส่วนเ้านี่สิ ไม่ซาบซึ้งจนตอบแทนบุญคุณยิ่งแล้วใหญ่ แต่ยังมาตบหน้าข้าแบบนี้อีก”
อวิ๋นซีเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะหยัน “ซาบซึ้งจนตอบแทนบุญคุณงั้นหรือเพคะ? หม่อมฉันไม่รู้ว่าท่านอ๋อง้าให้แม่หญิงตัวน้อยๆ อย่างหม่อมฉันตอบแทนบุญคุณอย่างไรดี? หรือหม่อมฉันจะต้องอุทิศชีวิตให้? หรือต้องเป็ข้าเป็ทาสให้?” คนในสกุลโอวหยางล้วนทั้งหยิ่งทระนงและเห็นแก่ตัวเช่นนี้ นางควรจะชินตั้งนานแล้วถึงจะถูก แต่เคยชินไม่ได้หมายความว่าจะทนได้ อีกอย่างคือ บัดนี้นางไม่จำเป็ต้องทนแล้วด้วยต่างหาก
ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร ก็แค่ตายอีกครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง
จวินหยานถอนหายใจ เขานั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างก่อนจะมองอวิ๋นซี “อันที่จริงเ้าไม่จำเป็ต้องตั้งแง่กับข้าขนาดนี้ก็ได้ ข้าก็ยังพูดกับเ้าดีๆ เมื่อครู่หากเ้าไม่ได้กล่าวหาว่าข้าเป็โจรถ่อย ข้าก็คงจะไม่ขุ่นเคืองเ้าหรอกจริงไหม? หากเ้าไม่พอใจ ให้ข้ารับผิดชอบเ้าก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อะไร แค่นี้ยังไม่พออีกหรือ”
เขาชอบรสชาติของหญิงนางนี้มากจริงๆ ยามจูบนั้นอ่อนนุ่มและสบายใจยิ่งนัก
อวิ๋นซีมองเขาและกล่าวด้วยใบหน้าบูดบึ้งว่า “ไม่จำเป็ต้องรับผิดชอบหรอกเพคะ ท่านมีอะไรก็พูดมา พูดจบแล้วก็ออกไปเถิดเพคะ”
“เมื่อครู่เ้ายังเพลิดเพลินกับจูบของข้าอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับบังคับให้ข้าไสหัวไปเสียแล้ว เ้านี่เหลือเชื่อจริงๆ” หลังพูดจบเขาก็ส่ายหัวเป็เชิงว่าไม่เข้าใจหญิงผู้นี้ “ข้ามาหาเ้าก็เพราะหวังว่าเ้าจะช่วยข้ารักษาคนผู้หนึ่งได้”
“ผู้ใดกัน?” นางเอ่ยถามอย่างเ็า ทำให้หานอ๋องผู้มีเกียรติต้องมาเยี่ยมเยียนเป็การส่วนตัวได้ คนผู้นี้ย่อมต้องมีความสำคัญต่อเขาอย่างมากเป็แน่ พูดตามตรง นางก็ยังสงสัยว่าเป็ผู้ใดกันแน่เช่นกัน
“เป็เด็กคนหนึ่ง” หานอ๋องเอ่ยเรียบๆ “นางต้องพิษั้แ่ยังอยู่ในครรภ์มารดา ไม่ว่าข้าจะเชิญหมอมากี่คน สุดท้ายก็ไม่มีหนทางที่จะขจัดพิษออกจากร่างกายของนางได้เลย”
อวิ๋นซีไม่ได้คาดคิดว่าผู้ที่เขาเอ่ยถึงจะดันเป็เด็กคนหนึ่งจริงๆ นางยังคิดว่าเป็หญิงที่เขาชมชอบเสียอีก
“หม่อมฉันต้องไปดูให้เห็นก่อนถึงจะตรวจดูได้ว่าเป็พิษอะไรเพคะ อีกอย่าง ท่านเชิญหมอมาเยอะขนาดนั้นก็ยังหาหนทางรักษาไม่ได้ หม่อมฉันไปดูก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไร” ทารกที่ต้องพิษั้แ่ในครรภ์ นางนึกถึงบุตรสาวของตนเองขึ้นมาได้ เด็กน้อยผู้น่าสงสารผู้นั้นก็ถือกำเนิดขึ้นมาและต้องพิษั้แ่ในครรภ์เช่นกัน และคนร้ายของเื่ทั้งหมดนี้ก็คือตัวนางผู้เป็มารดานี้เอง แน่นอนว่าหากไม่ใช่เพราะตัวบิดาร่วมมือกับหญิงอื่นเพื่อวางยาพิษนาง บุตรสาวของนางเองก็คงไม่ถือกำเนิดมาแล้วต้องพิษเลยจากในครรภ์
หานอ๋องยิ้ม “ข้าเชื่อว่าเ้าสามารถรักษาหวานหว่านได้ พรุ่งนี้ข้าจะรอเ้ามาหาที่จวนหานอ๋อง”
หลังจากพูดจบเขาก็จากไป เมื่อเห็นว่าเงาร่างสีแดงหายไปจากคลองสายตานางแล้ว อวิ๋นซีก็พ่นลมหายใจอย่างเ็า “สมกับที่เป็พวกโจรถ่อยย่องเบา ประเดี๋ยวผลุบประเดี๋ยวโผล่อยู่นั่น”
นางปิดหน้าต่างก่อนจะได้พักผ่อนอย่างสงบครู่ใหญ่ในที่สุด