คำทำนาย...Now or Never
----------------------------
ตื้ด...ตื้ด...ตื้ด เสียงริงโทนร้องติดๆ กันสามครั้ง
อลิสาถูกปลุกแต่เช้า ส่งเสียงงัวเงียรับสาย
“โทรมาแต่เช้า...ทำไม ี้เีรับ” เธอกระแทกเสียงไม่พอใจ แต่เสียงปลายทางกลับกลายเป็...พ่อ!
“...ี้เีอะไรนักฮะ...”
“แล้วมีอะไรกับหนูนี่”
“แม่แกน่ะสิ...ร้องไห้ฟูมฟาย พ่อเลยโทรไปถามไอ้มงมันว่าจะติดต่อแกยังไง มันเลยให้เบอร์โทรมา”
“เอางี้ ค่าโทรแพง พ่อแอดไลน์หนูไป เดี๋ยวมันเด้งขึ้นที่มือถือพ่อ แค่นี้นะ” เธอวางหูแล้วนอนต่อ
เหตุการณ์เมื่อคืนทำใจคอหวั่นหวาด อลิสาไม่คิดว่านายปรินส์จะให้เธออยู่ต่อแน่ๆ และไม่รู้ว่าที่นัดกันไว้จะทำยังไง งานของเธอยังไม่เรียบร้อยกลับไปคงถูกริบเงินประกัน
แปลกแต่จริง! วันนี้บ้านช่างดูเงียบวังเวง แล้วที่เธอเห็นคนในห้องปาร์ตี้เมื่อคืนไปไหนกันหมด ไม่ได้ยินแม้เสียงพูดคุยอะไรเลย งานปาร์ตี้ฉลองเนื่องในโอกาสอะไรและทำไมทุกคนจึงโป๊เปลือยแบบนั้นด้วย เป็ภาพซึ่งทำให้สาวน้อยแดนไกลอย่างเธอช็อกจนสติกระเจิง ยิ่งถูกนายปรินส์โกรธไล่ตะเพิดขนาดนั้น วันนี้เขาจะยังให้เธออยู่ร่วมชายคาคฤหาสน์หลังนี้อีกหรือไม่ เป็ความกังวลตลอดคืนที่ทำให้เธอนอนกระสับกระส่ายคิดวนเวียนถึงชะตากรรม
“ช่างมัน...อยากไล่ก็เชิญ ขอวันนี้ให้เขาไปที่ร้านนั้นก่อน...เพี้ยง” สาวน้อยนึกถึงบทสวดที่เคยสวดแต่จำไม่ได้สักบท ถึงคราวจำเป็จะงัดออกมาท่องกลับทำไม่ได้
เธอะโลงจากเตียงดิ่งไปที่ห้องน้ำสุดหรู เปิดน้ำร้อนจากฝักบัวพ่นใส่ทั่วร่าง ความร้อนผ่าวออกมาเป็ไอดั่งน้ำพุร้อนกระแทกจนแสบผิว แต่มันช่วยกระตุ้นความหาญกล้าได้อย่างดีเยี่ยม เธอได้ยินเสียงดังหน้าประตูสองสามครั้ง การเคาะเป็จังหวะเหมือนเมื่อวานตอนเย็น เธอรีบใส่เสื้อคลุมเดินออกมาเปิดประตู
“คุณผู้หญิง อาหารเช้าอยู่หน้าห้อง” ไม่ผิดอย่างที่คาดไว้ หนุ่มคนเมื่อวานนั่นเอง
“แล้วทุกคนไปไหนกันหมด รู้ไหม” คำถามของเธอไม่ได้กระตุ้นให้นายคนนี้อยากตอบข้อสงสัย
“I don’t know...Can I be excused? ไม่ทราบ...ขอตัวก่อน” อลิสางงกับคำตอบ
เธอยกสำรับที่มาพร้อมกับโต๊ะเตี้ยวางบนเตียง มื้อเช้าที่มีขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาว และน้ำผลไม้ เป็อาหารแบบฉบับ ABF มาสองมื้อแล้ว วันนี้เป็วันที่สามของการเข้ามาอยู่ที่นี่ กินไปอ่านไลน์ตอบพ่อไปเธอรู้สึกว่าแม่คงกังวลที่เธอขาดการติดต่อไปหลายวัน เป็ความผิดของลูกสาวตัวดีที่ไม่ทำตามคำสั่ง ก่อนเดินทางเธอสัญญาว่าจะโทรกลับไปหาพ่อกับแม่ทุกวัน ถ้าไม่โทรทุกวันต้องอย่างน้อยวันเว้นวันเพื่อไม่ให้ท่านเป็ห่วง และที่น่าแปลกใจว่าทำไมใจคนจึงส่งตรงถึงกันได้ แม่ส่งบทสวดป้องกันภัยฝากมาที่ไลน์ของพ่อ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นจังหวะการเคาะเหมือนอเล็กซ์ เธอจึงลงจากเตียงไปแง้มประตูดูว่าใคร
“Morning ลิซ่า...ลงไปพบปรินส์ที่ห้องทำงานตอนสิบโมงครึ่ง” เขาสั่งเธอแต่งตัวให้เรียบร้อยพร้อมออกเดินทางทันทีหลังจากพบเขา
อลิสารีบจัดการภารกิจส่วนตัวเรียบร้อย แล้วจึงเอาใบสั่งงานมาดูหมุดหมายว่า ไปที่ร้านนี้ต้องไปทำอะไรบ้าง คำสั่งสำคัญคือต้องไปซื้อขนมที่นายปรินส์ชอบ และเธอต้องไปเอาซองจดหมายจากที่ร้านนั้นกลับมาเปิดอ่านว่า ภารกิจนี้เสร็จสิ้นครบถ้วนหรือไม่ และต้องทำอะไรต่อจากตรงจุดนี้
“Mission อะไรวะ ภารกิจดำมืดแกะร่องรอยอย่างกับนักสืบ” เธอบ่นรำคาญและไม่เข้าใจว่าต้องมาทำงานเสียประสาทอะไรแบบนี้
ครั้งนี้ก่อนออกจากห้องเธอไม่ลืมกดอัดวิดีโอ เก็บภาพความเรียบร้อยภายในห้อง เธอ้าพิสูจน์พิรุธวันนั้นที่ยังค้างคาอยู่ในใจ เธอเดินลงไปชั้นล่างเห็นอเล็กซ์รออยู่ตรงหัวบันไดแล้ว
“เชิญตามผมมาทางนี้” เขามองสำรวจั้แ่ใบหน้าทรงผมและเสื้อผ้าของเธอ ก่อนจะนำทางไป เขากดกริ่งหน้าประตูห้องของนายปรินส์ ประตูเปิดออกอัตโนมัติเธอมองเข้าไปข้างใน เห็นมาดสุภาพบุรุษ gentleman สวมเสื้อกั๊กทับเสื้อเชิร์ตข้างใน ดูหรูเท่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน รอบห้องตกแต่งสไตล์เรโทรโต๊ะเก้าอี้รูปทรงหลุยส์งามสง่า เธอทำตัวลีบค่อยๆ ย่องเขย่งปลายเท้าไปยืนที่โต๊ะเพื่อรอเขาเชิญนั่ง
“นั่งลง...ฉันมีเื่จะคุย” น้ำเสียงเรียบเฉยเมย
“Sir…ค่ะ...”
“จำได้ไหมว่าสั่งอะไรไปแล้ว ทำไมยูไม่ทำตาม” สายตากร้าวจ้องเธอ
“Ah…very sorry…my fault!! ขอโทษ ฉันผิดจริงๆ...เผลอไป”
“Don’t break my order!!! อย่าฝ่าฝืนคำสั่งอีก จำไว้”
“Got it?…เข้าใจไหม! ฉันจะโยนยูออกจากที่นี่ ถ้าแหกกฎ” เสียงเข้มทำเธอสะดุ้ง
“มีอีกเื่...ฉันไม่อนุญาตให้อัดวิดีโอในห้อง”
“ทำไม...ให้ฉันอยู่ห้องนั้น มันคือสิทธิส่วนตัวไม่ใช่หรือ” เธอเริ่มรู้แล้วว่าเขาจับตาเธอทุกฝีก้าว
“นั่นบริเวณในบ้านหลังนี้ มันคือสิทธิของฉันคนเดียว ไม่ใช่เธอ!!!” เขาจ้องหน้าหญิงสาวอย่างเอาเื่
อลิสาใจสั่นเมื่อนึกย้อนไปั้แ่วันแรก นายปรินส์คงเปิดกล้องสำรวจเธอทุกอิริยาบท เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เขาคงรู้หมดแล้วว่าเธอคุยอะไรกับมงกุฎ แต่ไม่น่าจะเข้าใจภาษาไทย หรือว่าเขาอัดเสียงทั้งหมดไปใส่โปรแกรมแปลภาษา
“เราจะออกไปร้านนั้นตอนบ่ายหลังจาก lunch ที่นี่ ไปเตรียมทำรีวิว ฉันอนุญาต” น้ำเสียงเขาวันนี้ดูไม่ค่อยเป็มิตร คงโกรธเธอั้แ่เมื่อคืน
“Yes, sir…ค่ะ” เธอเผลอพูดภาษาไทยปนๆ ไป อยากดูว่าเขาจะทำหน้าสงสัยไหม สีหน้าท่าทางเฉยเมยเหมือนเดิม เธอคิดว่าเขาน่าจะเดาๆ อะไรได้บ้างแล้ว ถ้าหากเขาจับเสียงของเธอไปใส่โปรแกรมแปลภาษา เขาคงไม่ไว้ใจเธอั้แ่วันแรก แล้วทำไมจึงให้เธอมาอยู่ที่นี่ เครื่องหมายคำถามผุดขึ้นกลางใจทันที
หลังจากมื้อเที่ยงผ่านไปบ่ายโมงตรงนายปรินส์สั่งให้อเล็กซ์ไปสั่งคนขับรถมาพบเขาที่ห้องทำงาน เธอยืนรออยู่หน้าประตูคฤหาสน์กับอเล็กซ์ สักพักเขาเดินออกมาพร้อมคนขับรถ แล้วสั่งอเล็กซ์เป็ภาษาที่เธอไม่สามารถรู้ได้เลย อเล็กซ์เดินมาเปิดประตูด้านหลังให้เขาเข้าไป จากนั้นไปเปิดประตูด้านหลังคนขับทำท่าคำนับแล้วหย่อนตัวเข้าไปนั่งข้าง เธอจึงต้องไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับรถ คงเป็เพราะมีอุปกรณ์การถ่ายวิดีโอไปด้วย เขาคงคิดว่าไม่สะดวกที่จะให้เธอนั่งคู่ คนขับรถมองหน้าอลิสาอย่างนอบน้อมยิ้มให้เล็กน้อยเมื่อเห็นเธอเปิดประตูเข้าไปนั่งข้าง บริเวณด้านหน้ามีพื้นที่กว้างพอสมควรให้เธอจัดวางอุปกรณ์ให้เข้าที่
“ลิซ่า...ยูเตรียมสคริปต์มาแล้วใช่ไหม” นายปรินซ์ถามเธอ
“Yes, sir...ใบขออนุญาตการถ่ายทำเตรียมมาแล้ว”
คนขับรถปล่อยคนทั้งสามลงบริเวณใจกลางเมืองซึ่งมีคนเดินกันพลุกพล่าน อลิสาเข้าใจว่าน่าจะเป็ศูนย์กลางการชอปปิ้ง ขณะเดินกันไปยังไม่ถึงร้านนายปรินส์ก็เอ่ยขึ้น
“ร้าน Serendipity อยู่ตรงฝั่งที่เห็นดานูบ รู้จักไหม” เขายิ้มให้สาวน้อยที่กำลังหันไปมองแม่น้ำที่อยู่เบื้องหน้า
“โอ...บลูดานูบ เคยได้ยินเพลงนี้มานานแล้ว” เธอเผลอตอบกลับไป
“Yes…very romantic song เพลงโรแมนติก ยูชอบเพลงนี้หรือ”
“Sir…ค่ะ ฉันเอา music มาใส่ในการทำรีวิวนี้ด้วย เมืองนี้คือเมืองในฝันของฉันเลย”
“บูดาเปสต์...ยูเคยมาก่อนไหม”
“never…ไม่เคยเลย! แต่ฝันอยากมานานแล้ว สมัยเรียนฉันเคยเขียนเรียงความประกวดเล่าเื่ลูกกวาดแสนสวยร้านหนึ่งที่นี่”
“Really?! งั้นรึ...ดีเลย เขียน essay ให้ฉันคืนนี้ได้ไหม” เขาหันมาทำตาหวานใส่อลิสา
“Oh…oh คงไม่ได้ล่ะ ฉันไม่เก่ง English” เธอปฏิเสธเพราะคืนนี้เธอมีเื่คุยกับมงกุฎเกี่ยวกับตัวเขา
“ง่ายๆ แค่จดหมายรัก”
“ฮะ...ถึงใคร”
“ถึงคนรักของฉัน”
“ทำไมล่ะ”
“ก็ยูรู้เื่ลูกกวาด very beautiful candies” นายปรินส์ทำหน้าแปลกๆ
ทันทีที่มาถึงร้านที่ชื่อ Serendipity เขาจึงให้อเล็กซ์เข้าไปติดต่อเ้าของร้าน จากนั้นเ้าของร้านและทุกคนออกมายืนต้อนรับ มงกุฎบอกเธอเมื่อวานว่าเขาเป็เ้าชายคงเป็เื่จริง ทุกคนที่ออกมาต้อนรับมองมาที่สาวน้อยหน้าตาเอเชียกึ่งลูกครึ่งด้วยคำถามบนหน้าผาก
“มา...ลิซ่า ฉันให้อเล็กซ์บอกทุกคนว่า ยูเป็คนสำคัญของฉัน” เสียงเขาดูหยอกล้อเธอทีเล่นทีจริง
“จริงรึ...” อลิสาใเล็กน้อย
“ส่งอุปกรณ์ให้อเล็กซ์ แล้วยูไปเตรียมตัวข้างใน” เขาสั่งเธอทันที และให้เวลาเธอที่นี่แค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
อลิสาจัดเตรียมไมค์ลอยมาติดที่ปกเสื้อสูทของเขาและปกเสื้อของเธอ จากนั้นเริ่มให้นายปรินส์เดินไปเลือกซื้อขนมที่เขาชอบ เธอรีวิวร้านว่ามีขนมที่ขึ้นชื่อ Dobos โดบอส คือเค้กชอกโก้ซ้อนเป็ชั้นๆ นายปรินส์ช่วยบรรยายสถานที่บรรยากาศของหน้าร้านที่มีทัศนียภาพของแม่น้ำดานูบแบบพาโรนามาแสนประทับใจด้วยตัวตึกเก่าแก่สองฟากฝั่ง
เธอขออนุญาตพานายปรินซ์ไปเลือกลูกกวาดแสนสวยภายในร้าน และเล่าว่าเป็ภาพฝันที่อยู่ในใจมาตลอด วันนี้ถ้าใครได้ชมรีวิวนี้ เธอขอให้ฝันที่วาดไว้ของทุกคนจงเป็จริง ใครไม่เคยเห็นแม่น้ำดานูบมาก่อน ชมรีวิวสุดโรแมนติกนี้จะช่วยให้ภาพไปประทับอยู่ในใจชั่วนิรันดร์
“นี่อะไร...ลิซ่า” เขาถามเธอ ขณะยื่นซองเล็กๆ ที่ร่วงลงมาจากกล่องลูกกวาดแสนสวยที่เขาเลือกมาหนึ่งกล่อง
“ไม่ทราบ...” เธอเล่าในรีวิวว่า เป็ซองปริศนาจากกล่องนั้น
“เปิดได้ไหม...” เขาถามเธอ
“ลองดูเลย...เย้...เย้” เธอเชียร์เขาให้เปิดดู
“What?!!...คำทำนาย มันคืออะไร” เขาทำหน้าสงสัย
“เปิดอ่านตอนกลับไปดีกว่านะ” เขาพูดกับเธอในรีวิว
“ผู้ชม...คุณปรินซ์ไม่อยากให้ทุกคนรู้นะคะ หากใครอยากมาที่นี่ห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด”
“Buy candies, get one free prediction! ซื้อลูกกวาดได้คำทำนายฟรี ขอเทพแห่งดานูบให้ทุกคนสมหวัง” เขาช่วยเธอให้ ep. นี้สำเร็จผ่านโดยไม่ต้องถ่ายซ้ำ เทคเดียวผ่านฉลุย ฝีมือและทักษะนายปรินซ์สมเป็เ้าชาย
ระหว่างอยู่ในรถเขาหยิบคำทำนายที่เก็บไว้ในเสื้อโค้ตขึ้นมาอ่าน และถามเธอ
“อยากรู้ไหม...คำทำนายคืออะไร”
“คืออะไร...บอกหน่อย” เธออยากรู้ั้แ่ที่ร้านแล้ว
“Now or Never…!!! ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้