#หมายเหตุ
นิยายเื่นี้ไม่มีคนดี100 เปอร์เซ็น ทุกคนไม่เลวน้อยก็เลวมาก ทั้งพระเอก พระรอง พระร้าย ติดป้ายธงแดงและธงดำทั้งหมด!
ใครที่ไม่ชอบแนวนี้สามารถเลื่อนผ่านได้ก่อนนร้า ไรต์ไม่ว่ากันงับ ส่วนใครที่ชอบไรต์ก็ฝากกดหัวใจ+คอมเม้นต์ติชมด้วยนะคะ ช่วยเอ็นดูนักเขียนตัวน้อยๆ ด้วยนร้า
จวนตระกูลฉิน
แคว้นจิ้นอัน
"จือจือ เ้าอย่าได้กล่าวโทษที่ข้าไร้น้ำใจกับเ้าเลย ั้แ่เ้าแต่งงานกับข้ามา ตัวเ้าก็บกพร่องในหน้าที่ของภรรยามาโดยตลอด ซ้ำยังเจ็บป่วยออดๆ แอดๆ สุขภาพไม่สู้ดีจนไม่อาจให้กำเนิดบุตรแก่ตระกูลฉินได้ เื่นี้ข้าหารือกับท่านแม่ของข้าแล้ว ข้าจะหย่ากับเ้า จากนั้นก็จะส่งเ้ากลับบ้านเดิมไปเสีย ต่อไปเ้าก็อย่าได้ตามตื้อข้าไม่เลิกอีก!"
ชายหนุ่มนามว่าฉินเสวียนเอ่ยกับหญิงสาวที่นอนป่วยอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงที่เ็า ในแววตาของเขาไม่ได้มีความสงสารเห็นใจในตัวนางเลยแม้แต่น้อย กลับกันยังรังเกียจนางเสียด้วยซ้ำ หญิงสาวมองชายหนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็สามีด้วยความผิดหวัง ั์ตาคู่งามแดงก่ำ หยาดน้ำตาไหลรินอาบสองแก้ม นางไม่เคยคิดเลยว่าสามีที่นางยอมทุ่มเทความรักให้ทั้งกายและใจ จะเืเย็นกับนางได้ถึงเพียงนี้
"ฉินเสวียน ที่ผ่านมาข้าทุ่มเทเพื่อท่านทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งนำสินเดิมไปขายเพื่อส่งท่านเข้าเรียนที่สำนักศึกษาจนสามารถสอบติดเป็ขุนนาง และเลื่อนขั้นเป็ถึงเสนาบดีกรมโยธา ท่านพี่ แม้ข้าจะไม่มีความดีแต่อย่างไรก็มีความชอบ ท่านไม่สงสารข้าบ้างหรือ ได้โปรดอย่าทอดทิ้งข้าเลยนะเ้าคะ ข้ายอมลดตัวไปเป็เมียรองของท่านก็ได้ ขอเพียงได้อยู่ข้างกายท่านก็พอ!”
หญิงสาวเอ่ยอ้อนวอนสามีอย่างไร้ศักดิ์ศรี แต่ฉินเสวียนกลับไม่ไยดีสักนิด มิหนำซ้ำยังกล่าวเย้ยหยัน
“จือจือ ข้าจะบอกเ้าเอาบุญนะ ที่ผ่านมาข้าไม่เคยรักเ้าเลย ข้าแต่งกับเ้าเพราะอยากใช้ฐานะคุณหนูใหญ่จวนเสนาบดีของเ้าปูทางให้ข้าได้ตามที่หวัง ข้า้าใช้เงินของเ้าเพื่อช่วยให้สิ่งที่ข้าปรารถนาสำเร็จเร็วขึ้น อ้อ ยังมีอีกเื่ แท้จริงแล้วข้าไม่เคยหลับนอนกับเ้าเลย เ้าจำได้หรือไม่ เมื่อใดที่เราใกล้ชิดกันเ้าก็จะหมดสติไปทันที นั่นเพราะว่าข้าทำให้เ้าสลบอย่างไรเล่า ข้าไม่ได้รักเ้า ย่อมทำใจหลับนอนกับเ้าไม่ลงอยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินเขาเอ่ยเช่นนี้นางก็ถึงกับหมดเรี่ยวแรงจะร้องขอความเห็นใจอีกต่อไป หญิงสาวหลับตาลงช้าๆ พยายามคิดทบทวนเื่ราวที่ผ่านมาอย่างเ็ป
นางคือจวีจื่อหลิง เป็บุตรสาวของใต้เท้าจวี เสนาบดีกรมพระคลัง มารดาของนางมาจากตระกูลคหบดี หลังจากคลอดนางออกมาได้เพียงหนึ่งเดือนก็ล้มป่วยและตายจากไป ท่านพ่อของนางจึงแต่งฮูหยินคนใหม่เข้าจวน ไม่นานฮูหยินคนใหม่ก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายหญิงฝาแฝดคู่หนึ่ง นับแต่นั้นมาบิดาก็ไม่เคยสนใจไยดีนางอีก นางถูกมารดาเลี้ยงและน้องสาวน้องชายฝาแฝดรังแกอยู่บ่อยครั้งแต่กลับไม่กล้าปริปากบ่นต่อว่าแม้แต่คำเดียว
เมื่อสามปีก่อนนางได้พบกับฉินเสวียน ยามนั้นเขายังเป็เพียงบัณฑิตฐานะยากจน นางหลงรักเขาจนหมดหัวใจ เขาเองก็พึงพอใจในตัวนางจึงตัดสินใจมาสู่ขอนางเป็ภรรยาเอก ท่านพ่อไม่สนใจอยู่แล้วว่านางจะใช้ชีวิตเช่นไร เื่นี้จึงปล่อยให้มารดาเลี้ยงเป็คนจัดการ
เมื่อเป็เช่นนี้ย่อมเข้าทางมารดาเลี้ยงทันที แม่เลี้ยงที่ไหนบ้างจะอยากให้ลูกเลี้ยงได้ดีกว่าบุตรสาวของตนเอง จึงตกปากรับคำยกนางให้กับฉินเสวียน โดยจัดงานเล็กๆ มีแเื่มาร่วมงานไม่มาก นางมีสินเดิมที่ท่านแม่มอบให้ก่อนตายอยู่ส่วนหนึ่ง จึงนำติดตัวไปที่ตระกูลฉินด้วย
แรกเริ่มเดิมทีฉินเสวียนดีต่อนางมาก เขาแสดงออกว่ารักนางจากใจจริง แม้นางจะสุขภาพไม่ดีแต่เขาก็ไม่เคยต่อว่า อีกทั้งยังบอกกับนางว่าหากไม่มีบุตรก็ไม่เป็อันใด ขอเพียงได้ใช้ชีวิตอยู่กับนางก็พอแล้ว ยามนั้นนางซาบซึ้งใจมาก หลงคิดว่าเขารักนางจากใจจริง จึงทุ่มเททุกอย่างให้เขา มีสินเดิมติดตัวมาเท่าใดนางก็เอาไปขายจนหมด นำเงินส่วนนั้นมาเป็ค่าเล่าเรียนให้เขา จนกระทั่งเขาได้สมดั่งใจหวัง สอบติดเป็ขุนนาง เขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปราวกับเป็คนละคน
ยามนี้นางกระจ่างแจ้งแก่ใจแล้ว แท้จริงเขาวางแผนหลอกใช้นางมาโดยตลอด เขาอาศัยฐานะของนางเพื่อปูทางให้ตนเดินขึ้นไปสู่อำนาจ เขามีฐานะต่ำต้อยแต่กลับได้แต่งงานกับบุตรสาวขุนนางผู้คนย่อมให้ความสนใจเขามากขึ้น อย่างไรเสียเขาก็ได้ชื่อว่าเป็บุตรเขยของใต้เท้าจวีเสนาบดีกรมพระคลัง บิดานางแม้จะไม่สนใจนางแต่อย่างไรก็ไม่อาจละเลยให้เสียหน้าได้ อย่างไรเสียฉินเสวียนก็ได้ชื่อว่าเป็บุตรเขย ท่านพ่อจึงช่วยเบิกทางให้ฉินเสวียนอยู่หลายครั้ง แนะนำเขาให้รู้จักกับขุนนางมีอำนาจอยู่หลายคน แต่สุดท้ายเขากลับใช้นางเป็หินเหยียบขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่เขาปรารถนา ซ้ำร้ายยังเอาเื่ที่นางไม่อาจตั้งครรภ์มาหาเื่หย่ากับนาง ทั้งที่ความจริงแล้วเป็เขาต่างหากที่ไม่เคยหลับนอนกับนางจริงๆ เลยสักหน แล้วนางจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!
จวีจื่อหลิงลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะเอ่ยกับฉินเสวียนอย่างเหม่อลอย
“หลังจากหย่ากับข้า ท่านก็จะแต่งม่านซุนหลันเข้ามาเป็ฮูหยินคนใหม่ใช่หรือไม่?”
“เื่นี้ไม่เกี่ยวกับเ้า”
“คนสารเลว พวกท่านลอบคบชู้กันมาตั้งนานคิดว่าข้าไม่รู้หรือ!”
