คณะผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษาชิงซงเดินจากไปพร้อมกับขบวนกลองและฆ้อง เหล่าเพื่อนบ้านต่างพากันมาแสดงความยินดีกับบ้านผู้จัดการโรงงานสวี่ที่มีลูกสาวของเขาสอบได้เป็จ้วงหยวน [1]
สวี่ต้าซานดีใจจนหน้าแดงก่ำ เอ่ยกับลูกสาวคนโตที่เตรียมตัวออกจากบ้านต่อหน้าเพื่อนบ้านหลายคนว่า “เที่ยงนี้พ่อจะซื้อซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงที่ลูกชอบกินที่สุดจากโรงอาหารมาให้”
สวี่ฮุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ไม่ต้องหรอกค่ะ ถึงพ่อจะซื้อกลับมา หนูก็ไม่ได้กินอยู่ดี แม่คงหาว่าหนูสิ้นเปลืองอีก”
สวี่เยว่ดวงตาแดงก่ำ “พี่ ถ้าพี่จะโทษก็โทษฉันเถอะ
เป็เพราะฉันร่างกายไม่แข็งแรง แม่เลยต้องดูแลเื่อาหารการกินของฉันเป็พิเศษ ทำให้พี่ต้องลำบาก”
“ฉันไม่ได้โทษที่เธอกินเยอะ เธอเป็คนป่วยนี่” สวี่ฮุ่ยหันไปมองกู่ซิ่วที่หน้าเปลี่ยนสีด้วยความโกรธ “ฉันแค่อยากจะถามแม่ว่า พี่ชายก็ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนกันเหรอคะ? ทุกครั้งที่มีของอร่อยในบ้าน เขาถึงกินกับสวี่เยว่ได้”
กู่ซิ่วถูกสวี่ฮุ่ยแฉความลับต่อหน้าเพื่อนบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า โกรธจนแทบคลั่ง “กินๆๆ โตจนป่านนี้แล้วยังเอาแต่แย่งของกินกัน ไม่กลัวคนอื่นหัวเราะเยาะบ้างหรือไง”
“เปล่านี่คะ หนูสอบได้เป็ถึงจ้วงหยวนเลยนะ” สวี่ฮุ่ยยิ้มเยาะ “หนูแค่พูดความจริง ทำไมแม่ถึงโมโหขนาดนั้นล่ะ? หนูได้รับความไม่เป็ธรรมยังพูดไม่ได้อีกเหรอ พอพูดออกมาก็บอกว่าเดี๋ยวคนอื่นหัวเราะเยาะ ใครกันแน่ที่น่าหัวเราะเยาะคะ?”
พูดจบ สวี่ฮุ่ยก็ยิ้มเยาะหยัน หิ้วถังใส่ปลาไหลเดินออกจากประตูบ้านไป
สวี่ต้าซานมองชุดกระโปรงสีซีดที่ผ่านการซักจนเกือบขาวของลูกสาวคนโตกับแผ่นหลังเล็กบอบบางก็อดสงสารไม่ได้
ะโตามหลังไปว่า “เที่ยงนี้พ่อจะให้ลูกกินซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงจนอิ่มหนำสำราญเลย!”
สวี่ฮุ่ยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
สวี่เยว่พึมพำเบา ๆ “พี่จะโกรธพ่อด้วยไหมนะ?”
…
สวี่ต้าซานรักษาคำพูด ตอนเที่ยงเขาซื้อซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงกลับมาจากโรงอาหารจริง ๆ
กู่ซิ่วเหลือบมองซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงชุ่มฉ่ำชามนั้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงราคาไม่ถูกเลยทีเดียว ชุดหนึ่งราคาตั้งหนึ่งหยวน
เธอยังไม่อยากซื้อให้เยว่เยว่ลูกสาวสุดที่รักกินง่าย ๆ เลย แต่สวี่ต้าซานกลับซื้อมาให้ยัยเด็กเวรนี่กิน!
กู่ซิ่วเดินทำหน้าไม่พอใจเข้าไปหุงข้าว ผัดผักสองอย่างในครัว บวกกับซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดง มื้อเที่ยงนี้ก็พร้อมเสิร์ฟ
เมื่อทุกคนนั่งลงที่โต๊ะ กู่ซิ่วก็คีบซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงสองชิ้นใส่ชามสวี่ฮุ่ย ส่วนที่เหลือนั้น เธอเทใส่ชามสวี่เยว่ทั้งหมดแม้กระทั่งน้ำราด
เธอแสร้งยิ้มให้สวี่ฮุ่ย “น้องร่างกายไม่แข็งแรง ให้น้องกินเยอะหน่อย ลูกคงไม่โกรธนะ”
“ไม่โกรธหรอกค่ะ” สวี่ฮุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยอย่างยิ่ง
เธอเทซี่โครงหมูตุ๋นน้ำแดงสองชิ้นในชามตัวเองใส่ชามสวี่เยว่ “สองชิ้นนี้ก็ให้น้องกินด้วย”
สิ้นเสียง เธอก็มองสวี่ต้าซานด้วยสายตาแฝงนัย
สวี่ต้าซานนึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้กับลูกสาวคนโตเมื่อเช้าก็โมโหจนปาตะเกียบทิ้ง “กู่ซิ่ว เธอลำเอียงเกินไปแล้ว!”
คนที่ไม่ค่อยโมโห เวลาโมโหขึ้นมาน่ากลัวมาก กู่ซิ่วใจนตัวสั่น ไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
สวี่เยว่ก็ใจหล่นวูบ รีบเปลี่ยนชามของตัวเองกับสวี่ฮุ่ย พลางพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “พี่คะ ฉันยังไม่ได้กินเลย พี่กินเถอะค่ะ”
สวี่ฮุ่ยไม่คิดเกรงใจ รับชามมาแล้วคีบซี่โครงหมูขึ้นมากัด “พ่อคะ แม่จะให้หนูกินซี่โครงหมูหรือไม่ หนูก็ไม่ได้สนใจ ขอแค่แม่ยอมให้หนูเรียนหนังสือก็พอแล้วค่ะ”
สวี่ต้าซานถลึงตามองกู่ซิ่วแล้วหันไปพูดกับสวี่ฮุ่ยอย่างอ่อนโยน “ก่อนหน้านี้พ่อเลอะเลือนเอง ไม่เชื่อว่าลูกจะสอบได้คะแนนดี ทำให้ลูกเสียใจ ไม่ต้องห่วงนะ มีพ่ออยู่ทั้งคน จะไม่ยอมให้ลูกไม่ได้เรียนหนังสือเด็ดขาด”
สวี่เยว่พูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว “พ่อ แม้แต่พ่อยังไม่เชื่อว่าพี่จะสอบได้คะแนนดี แม่ให้พี่สาวไปสอบเข้าทำงานก็ไม่แปลกนี่คะ แต่พี่กลับเอาเื่นี้มาทำเป็เื่ใหญ่โต หนูอยากจะพูดั้แ่ที่พ่อโมโหใส่แม่ข้างนอกเมื่อกี้แล้วค่ะ”
พูดถึงตรงนี้ เธอหยุดไปครู่หนึ่งและมองสวี่ฮุ่ยด้วยความหวาดกลัว “แต่หนูคิดว่าพี่ในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว พี่เป็ถึงจ้วงหยวน หนูต้องให้เกียรติพี่ หนูเลยอดทนที่จะไม่พูด”
สวี่ฮุ่ยหัวเราะเยาะไม่หยุด “น้องสาวเป็ห่วงฉันต่อหน้าพ่อไปเสียทุกเื่เลย น่าซึ้งใจดีจริง ๆ แต่ตอนที่ฉันบอกแม่ว่าอีกสองวันผลสอบก็จะออกแล้ว ให้แม่รอสักสองวัน ถ้าผลสอบออกมาแล้วฉันสอบไม่ติดจริง ๆ ค่อยตัดสินใจว่าฉันต้องหางานทำหรือไม่ แม่ก็จะตอบตกลงอยู่แล้วเชียว แต่ใครกันที่ยุยงให้แม่บังคับฉันไปสอบเข้าทำงานล่ะ?”
คำพูดของเธอยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งใส่ร้ายสวี่เยว่และทำให้กู่ซิ่ววางตัวไม่ถูก
กู่ซิ่วเป็เหมือนเบี้ยรับใช้ของสวี่เยว่ ขอแค่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของสวี่เยว่ ไม่ต้องให้สวี่เยว่เอ่ยปาก กู่ซิ่วก็จะพยายามช่วยเธอสุดชีวิต
คนที่บังคับให้สวี่ฮุ่ยไปสอบเข้าทำงานมีเพียงกู่ซิ่วคนเดียวั้แ่ต้นจนจบ ไม่จำเป็ต้องให้สวี่เยว่เข้ามาเกี่ยวด้วยซ้ำ
สวี่ฮุ่ยจงใจใส่ร้ายสวี่เยว่ ก็แค่อยากรอดูว่ากู่ซิ่วจะพูดอย่างไรเท่านั้น
ถ้ากู่ซิ่วยอมรับว่าเป็ความคิดของเธอคนเดียว สวี่ต้าซานก็จะไม่พอใจเธอ
แต่ถ้ากู่ซิ่วเงียบกริบไม่พูด เท่ากับยอมรับว่าเธอถูกสวี่เยว่ยุยง สวี่เยว่ก็จะโกรธเธอ
สรุปคือ กู่ซิ่วตกที่นั่งลำบาก ไม่ว่าจะตอบอย่างไรก็ผิด
[1] จ้วงหยวน หมายถึง ผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดในการสอบระดับประเทศ เช่น การสอบเข้ามหาวิทยาลัย (高考 - เกาเข่า) หรือการสอบข้าราชการ (科举 - เคอจวี่) ในสมัยโบราณ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้