ที่จริงในใจของฉินฟ่านนั้นรู้ดีว่าด้วยสภาพของเขาในตอนนี้ ถ้าเล่นพนันจำพวกไพ่หรือหมากรุก เขาสู้ิอวี่ไม่ได้เลย
ก่อนหน้านี้ตอนที่เล่นไพ่กับหมากรุก ิอวี่ปรับตัวได้เร็วมาก แต่ละก้าวที่เดินนั้นวางหมากปูทางเล่นงานเอาถึงที่ตายทุกจุด พอเขารู้ตัวอีกทีก็สายเกินไปแล้ว ิอวี่เล่นงานเขาจนไม่เหลือเลย
ดังนั้น ฉินฟ่านถึงได้รู้ว่าสมองของิอวี่ไม่ธรรมดาเลย พูดได้อีกอย่างว่า ิอวี่ฉลาดมาก
แต่คนที่จะตายเพราะความฉลาดของตัวเองแต่โบราณมาก็มีมากมาย ิอวี่อาจจะแค่มีความฉลาดเล็กๆ เท่านั้น ไม่มีทางหัวเราะได้จนถึงทีสุดท้ายแน่
ฉินฟ่านก็กลัวแค่ิอวี่จะไม่กล้ารับคำท้า ถ้าเป็อย่างนั้น วันนี้เขาก็ไม่มีทางชนะด้วยการทำาทางจิตวิทยาอย่างการทอยลูกเต๋าและชนะิอวี่กลับมาได้แน่!
“เอ่อ ... เราเปลี่ยนรูปแบบการเล่นได้ไหม ข้าไม่ค่อยอยากเล่นลูกเต๋าเท่าไร ... ” ิอวี่ส่ายหน้าอย่างจนใจ
เฮยจีที่นั่งอยู่ข้างๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรเลยก็พูดขึ้นมาว่า “นั่นสิ ท่านพี่ฉินฟ่าน เราอย่าเล่นลูกเต๋าเลยนะ เปลี่ยนรูปแบบเถอะ มัน ... ไม่ค่อยสนุกเท่าไรเลย”
ฉินฟ่านจะเล่นอะไรไม่เล่น แต่ดันอยากจะเล่นทอยลูกเต๋า ...
เฮยจีรู้ดีว่าิอวี่มีฝีมืออย่างไร นางอยากจะอธิบายให้ฉินฟ่านฟังแต่ก็ทำไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเื่ที่นางรู้จักกับิอวี่ก็จะเผยออกมา ดังนั้น นางจึงทำได้แค่กล่อมฉินฟ่าน ให้เขาอย่าได้ไปเล่นทอยลูกเต๋าแทน
“มันตื่นเต้นมากเลยนะ สนุกแน่นอน”
ฉินฟ่านยิ้มให้กับเฮยจี แล้วหันไปพูดกับิอวี่ว่า “ทำไม ศิษย์น้อง เ้ากลัวหรือ? ไม่กล้าเล่นอะไรที่เร้าใจกับข้าหรือ?”
“ศิษย์พี่ วันนี้ท่านดูไม่ค่อยดีแล้วนะ ข้าว่าท่านใจเย็นก่อนดีกว่าไหม”
ิอวี่ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ลุกขึ้นเตรียมที่จะไป
“นั่งลง”
แต่ใครจะคิดว่าฉินฟ่านกลับปล่อยพลังกดดันออกมา เขาปล่อยพลังลมปราณออกมาจากหัวใจตับม้ามปอด ลมปราณพุ่งกดทับไปที่ตัวของิอวี่ทันที ทำให้ิอวี่ไม่สามารถขยับตัวได้เลย
ฉินฟ่านเป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่ระดับสูงสุด ความสามารถของเขาแข็งแกร่งมาก ลมปราณที่ปล่อยออกมานั้นก็แทบจะเท่าๆ กับัทะเลทรายที่อยู่ในสนามรบร้างโบราณแล้ว
แต่ก็แน่นอนว่า เพราะิอวี่ดูดซับพลังลมปราณบริสุทธิ์กับจิตสำนึกิญญาัมา เลยทำให้ร่างกายของเขานั้นมีจิตสำนึกที่หนักแน่นและดื้อรั้นอย่างมาก
แรงกดดันของฉินฟ่านทำให้เืลมในร่างกายของเขาปั่นป่วน มันทำให้เขารู้สึกเหมือนมีูเาลูกใหญ่กดลงมาบนบ่าของเขา แต่จิตสำนึกของิอวี่นั้นยังคงเฉียบคม มันทลายแรงกดดันเ่าั้ให้สลายกลายเป็ก้อนเมฆไป!
จิตสำนึกแบบนี้ ฉินฟ่านจะควบคุมได้อย่างไรกัน?
“ดูท่าคงต้องให้ศิษย์พี่ลิ้มรสความลำบากสักหน่อย ไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมเลิกราสินะ”
ิอวี่กลับมานั่งฝั่งตรงข้ามฉินฟ่านอีกครั้ง แล้วมองไปยังสายตาของฉินฟ่านที่เป็ประกายดุดัน
เห็นิอวี่นั่งลง สายตาของฉินฟ่านก็เต็มไปด้วยความพอใจ เขาชี้มาที่ิอวี่พลางยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าชอบท่าทางของวัวเพิ่งเกิดแต่ไม่กลัวเสือแบบนี้ของศิษย์น้องมากเลยนะ”
ระหว่างที่พูด ฉินฟ่านก็เก็บลมปราณกลับมา จากนั้นก็สั่งให้พนักงานมาเก็บกระดานหมาก แล้วเปลี่ยนเป็ถ้วยเขย่าลูกเต๋าเฉพาะสีทอง และเตรียมเริ่มการเดิมพันครั้งใหม่
“เริ่ม”
ฉินฟ่านเขย่าลูกเต๋าไปแบบส่งๆ จากนั้นก็วางลง สายตาของเขาดูผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมมาก
ตอนเล็กๆ ฉินฟ่านเล่นลูกเต๋านี้บ่อยมาก เขาใช้การฟังเสียงเขย่าลูกเต๋ามาฝึกพลังสมาธิของตน ถึงแม้จะไม่สามารถควบคุมมันได้ทั้งหมด แต่ก็พอได้อยู่ประมาณหนึ่ง สามารถเขย่าจนได้แต้มที่เขา้า
ฉินฟ่านรู้เื่จิตวิทยาเป็อย่างดี เขาสามารถใช้วิธีการนี้ในการเอาชนะิอวี่ได้
ตอนที่เขย่าลูกเต๋า เขารู้สึกว่าลูกเต๋าสามเม็ดน่าจะอยู่ที่สี่แต้มขึ้นไป เขาเปิดแง้มดูอย่างระวังและก็เห็นว่ามันเป็แต้ม “สี่ สี่ ห้า”
ฉินฟ่านมั่นใจมาก เขาพูดว่า “เรามาวางเดิมพันกันต่ำสุดที่ห้าสิบเหรียญก็แล้วกัน ครั้งนี้ ข้าเดิมพันหนึ่งร้อยเหรียญ”
เดิมพันขั้นต่ำห้าสิบเหรียญ นั่นก็หมายความว่าทุกรอบที่เริ่ม จะต้องเรียกไม่ต่ำกว่าห้าสิบเหรียญ เท่ากับว่าแต่ละรอบจะต้องมีคนแพ้ห้าสิบเหรียญ
ก่อนหน้านี้ตอนที่เล่นพวกไพ่กับหมากรุก แต่ละรอบก็แค่ยี่สิบสามสิบเหรียญพนันเท่านั้น แต่ตอนนี้แค่ไม่กี่วินาที ฉินฟ่านก็เล่นสูงถึงหนึ่งร้อยเหรียญพนันเลย!
ิอวี่เขย่าถ้วยลูกเต๋าของตัวเองเสร็จ เขาแง้มถ้วยเต๋าออกแล้วยิ้มอย่างมั่นใจ จากนั้นก็ยกมือสัญญาณ “ห้า” ขึ้นมา
“ศิษย์น้อง ข้าเรียกหนึ่งร้อยเหรียญนะ หากเ้าจะเพิ่มก็ต้องมากกว่าข้า ห้าสิบเหรียญไม่ได้นะ”
ฉินฟ่านมองิอวี่แบบแปลกๆ
การเดิมพันนี่เป็การเดิมพันด้วยดวง มันสามารถเห็นความกล้าของแต่ละคนได้เลย แต่เมื่อตัดสินใจจะเดิมพันแล้วก็ไม่มีทางย้อนกลับคืน มันจะต้องสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถต่ำกว่าเดิมได้ ยิ่งเล่นยิ่งสูง ดังนั้น การเดิมพันเรียบง่ายแบบนี้มันถึงได้น่าตื่นเต้นกว่าอย่างอื่น!
เด็กน้อยอย่างิอวี่ที่เหมือนเพิ่งมาเล่นครั้งแรก เจอเขาวางเดิมพันแรกเริ่มที่หนึ่งร้อยเหรียญคงทำให้ิอวี่ใ หากจะตามก็อาจจะรู้สึกกลัว ขอแค่เขาเรียกราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ิอวี่จะต้องยอมแพ้ จากนั้นก็กลายเป็เหมือนเต่าหดหัวแน่
คิดไม่ถึงเลยว่า ิอวี่ไม่ได้เอามือลงแต่กลับพูดว่า “ศิษย์พี่ ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าเพิ่มเดิมพันห้าร้อยเหรียญต่างหาก”
“อะไรนะ?”
ฉินฟ่านคิดว่าตนนั้นฟังผิด เขาหน้านิ่งลงทันทีแล้วพูดด้วยเสียงเข้มว่า “ศิษย์น้อง การเดิมพันแบบนี้ไม่ใช่เื่ล้อเล่นนะ เ้าเรียกสูงขนาดนี้ หากข้าตามเ้า แล้วเ้าแพ้ เ้าเสียถึงห้าร้อยเหรียญเลยนะ!”
“ใช่แล้ว หากศิษย์พี่แพ้ เงินห้าร้อยเหรียญก็จะเป็ของข้าเช่นกัน” ิอวี่แบมือออก
“เหอะๆ ... ”
ฉินฟ่านมองิอวี่ที่ยิ้มอย่างมั่นใจ สายตาดูเป็ประกาย พูดตามตรง เขาเองก็เริ่มหวั่นใจ
เ้าเด็กบ้านี่ไม่กลัวตกม้าตายเลยใช่ไหม ข้าจะเรียกตามเขาแบบนี้ไม่ได้ หากเขาใช้ความบุ่มบ่ามแบบนี้โชคดีแล้วเอาชนะไปได้ เขาจะต้องเสียเดิมพันถึงห้าร้อยเหรียญเลยนะ!
รวมกับที่เสียเดิมพันให้กับิอวี่ไปสองพันกว่าเหรียญแล้วก่อนหน้านี้ ก็จะรวมเป็สองพันห้าร้อยเหรียญเลยนะ
ฉินฟ่านไม่อยากเสี่ยงแบบนั้นในตอนนี้
การก้าวเท้าอย่างมั่นคงมันถึงเป็เส้นทางที่ถูกต้อง!
“ผ่าน”
ฉินฟ่านโยนหนึ่งร้อยเหรียญให้กับิอวี่แล้วเริ่มเขย่าลูกเต๋าใหม่อีกครั้ง เขาเขย่าอย่างละเอียด พยายามควบคุมลูกเต๋าสามลูกข้างในให้ได้สี่แต้มขึ้นไป
จนกระทั่ง ฉินฟ่านรู้สึกว่าเขย่าจนได้แต้มที่เขา้าแล้ว จากนั้นก็วางลงบนโต๊ะ
เมื่อเปิดออกดู “สี่ สาม หก” รวมกันแล้วก็ได้สิบสามแต้ม!
ถึงแม้จะเขย่าไม่ได้ “สี่” แต้มทั้งหมด แต่ก็ยังเป็ตัวเลขที่น่าพอใจ
“ครั้งนี้ ข้าเรียกห้าสิบเหรียญ”
สายตาของฉินฟ่านค่อนข้างลังเล แต่ก็ยังบอกเดิมพันของตัวเองออกไป
ในความเป็จริงแล้ว ครั้งนี้ฉินฟ่านค่อนข้างมั่นใจ ก่อนหน้านี้สิ่งที่เขาแสดงออกไปก็เพื่อ้าหลอกิอวี่ ให้ิอวี่รู้สึกว่าเขานั้นไม่มั่นใจ เมื่อิอวี่รู้สึกว่าเขาไม่มั่นใจก็อาจจะตาม แล้วก็เพิ่มเดิมพันขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไปถึงราคาที่ฉินฟ่านพอใจแล้ว ค่อยให้ิอวี่เปิดเพื่อเล่นงานจนเสียหมดตัว!
ิอวี่เขย่าลูกเต๋าของตัวเอง เขาไม่แม้แต่จะมองลูกเต๋าเลย จากนั้นก็ยก “ห้า” นิ้วขึ้นมา
“เพิ่มห้าสิบเหรียญหรือ?” ฉินฟ่านยิ้มแสยะ โอกาสของเขามาแล้ว
“ศิษย์พี่ ท่านแกล้งโง่หรือเปล่า เมื่อครู่ข้าบอกไปแล้วนะ ห้าร้อยเหรียญ” ิอวี่พูดแบบเรียบง่าย
“ ... เ้า!”
ฉินฟ่านตะลึงก่อน จากนั้นก็ลุกขึ้นมาอย่างมีอารมณ์ว่า “เ้าแกล้งข้าหรือ?”
เสียงของฉินฟ่านดังมากจนทำให้หลายคนหันมามอง พวกเขาเห็นเงินเดิมพันกองใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าของทั้งสองคนต่างก็ตกตะลึง แล้วด้านข้างชายหนุ่มรูปงามยังมีสาวงามสวมชุดสีเหลืองนวลอยู่ด้วย แค่มองอย่างเดียวก็ไม่อาจละสายตาได้แล้ว
ทำให้หลายคนเดินเข้ามาล้อมวงทางนี้ในทันที
คนรอบๆ ที่ไม่รู้เื่พอเห็นคนทยอยกันเดินมาทางนี้ก็ตามมามุงดูด้วยเช่นกัน ทำให้พริบตาเดียวผู้คนก็ทยอยมาล้อมดูการเดิมพันตรงนี้จนกลายเป็กำแพง
ฉินฟ่านไม่ได้สังเกตเห็นคนรอบตัวเลย เขาจ้องิอวี่ไม่กะพริบตาแล้วพูดว่า “เ้าแน่ใจนะว่าจะเดิมพันห้าร้อยเหรียญ? ข้าขอเตือนเ้าอีกครั้งนะ มันไม่ใช่เื่ล้อเล่น”
“ไม่กล้าวางก็อย่าพูดมาก แน่จริงก็เปิดถ้วยลูกเต๋าออกมาสิ”
สีหน้าของิอวี่กวนประสาทมาก คำพูดของเขาไม่ได้มีความลังเลใดๆ เลย เขามั่นใจและเด็ดขาด
ฉินฟ่านกำหมัดแน่น เขาคิดไม่ถึงเลยว่าบนโต๊ะพนันแบบนี้ิอวี่ยังกล้าอวดดีขนาดนี้!
แต่รอบนี้ ฉินฟ่านเองก็ยังเลือกที่จะปล่อยผ่าน ิอวี่กล้าขนาดนี้ ไม่แม้แต่จะดูแต้มของตัวเองเลย ถ้าเกิดแต้มในนั้นมากกว่าของเขาล่ะจะทำอย่างไร?
ฉินฟ่านยอมรับความ “วัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือ” ของิอวี่มันเหนือกว่าเขาจริง ตอนนี้เขาแข็งแกร่ง ก็ปล่อยเขาไปก่อน รอไฟใกล้มอดเมื่อไหร่ ค่อยไล่ตีให้ตาย!
“ผ่าน!”
คำพูดของฉินฟ่านนั้นมันเริ่มมีความโมโหด้วย
พอพูดแบบนี้ออกมา คนที่ล้อมอยู่ก็เกิดเสียงซุบซิบ คิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะกดคุณลุงคนนี้อยู่หมัดเลย เรียกครั้งละห้าร้อยเหรียญมันเอาแต่ใจเกินไปแล้ว ทำให้คาดเดาไม่ได้เลย
“ผ่านก็ผ่านสิ อารมณ์รุนแรงขนาดนั้นทำไมกัน ทำลายความสัมพันธ์พี่น้องของเราหมด”
คำพูดของิอวี่ทำให้ฉินฟ่านถึงกับมองบน เขาเขย่าลูกเต๋าแล้วฟังเสียงก่อนจะวางลงบนโต๊ะ
อาจเป็เพราะอารมณ์ของเขาไม่นิ่งพอ ครั้งนี้เลยเหมือนว่าเขาจะเขย่าผิดพลาด ลูกเต๋าสามลูกได้ “สาม ห้า หก” แต้มที่รวมได้มันก็อยู่กลางๆ ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่
“สองร้อยเหรียญ” ฉินฟ่านกะพริบตาแล้วก็พูดออกมา
ในความเป็จริงแล้วเขาคิดอยากจะหลอกิอวี่ ก่อนหน้านี้เขาวางเดิมพันไม่ได้สูงมาก ถ้าจู่ๆ เลือกวางสองร้อย แสดงว่าต้องมีอะไรแน่ ิอวี่จะต้องรู้ว่าเขายากที่จะถอย
“ห้าร้อย”
ิอวี่เด็ดขาดมาก หลังจากที่เขย่าลูกเต๋าแล้วก็ยังไม่เปิดลูกเต๋าดูเหมือนเดิม แต่พูดแค่สองคำ
แต่แค่สองคำนี้ มันกลับทำให้ฉินฟ่านแทบะเิ!
ในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ของสายเลี่ยนเหยียน มีคนตั้งมากมายเคารพให้เกียรติเขา บางครั้งยังชื่นชมว่าเขานั้นองอาจเยี่ยงวีรบุรุษ เป็ชายชาตรีที่สง่างาม แต่ในวันนี้เวลานี้ เขากลับอยู่ในบ่อนการพนัน ถูกเ้าเด็กบ้านี่พูดไม่กี่คำก็ไม่รู้จะเถียงตอบโต้อย่างไรแล้ว
คนที่มาล้อมดูในเวลานี้มีมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วยังมีสาวงามอยู่เคียงข้างด้วย ฉินฟ่านจะยอมได้อย่างไรกัน?
เดิมทีฉินฟ่านคิดว่า เขาสามารถใช้ความกล้าดุจพยัคฆ์ของเขาเดินอย่างสง่าผ่าเผยเหมือนปู แต่สุดท้ายแล้วเขากลับพบว่าตนเองนั้นเหมือนเต่า ตลอดการเล่นเขานั้นแทบจะไม่กล้าเลย
“สามรอบ เรียกวางห้าร้อยเหรียญทุกรอบเลยอย่างนั้นหรือ?”
ฉินฟ่านรู้สึกว่าเขานั้นควรจะทำอะไรบ้าง ทุกอย่างไม่ควรเกินสาม เขาเองก็ไม่เชื่อว่าิอวี่จะดวงดีอะไรขนาดนั้น “เ้าคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะขู่ข้าได้หรือ คิดว่าข้าจะกลัวใช่ไหม จะเล่นก็เล่นใหญ่ไปเลย ข้าตามเ้าห้าร้อย แล้วเพิ่มอีกห้าร้อย เป็หนึ่งพันเหรียญ”
ระหว่างที่พูดเขาก็ดันเอาเงินเดิมพันที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมดไปกลางโต๊ะ!
รอบตัวเขาเกิดเสียงซุบซิบกันยกใหญ่ ฉินฟ่านร้ายกาจมาก ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าฉินฟ่านไม่มีเงินถึงได้ถูกิอวี่กดอยู่อย่างนั้น ที่แท้ก็แค่ไม่แสดงออก ลงมือเมื่อไหร่มีตะลึง เรียกวางเดิมพันทีเดียวหนึ่งพันเหรียญพนันเลย!
