ก่อนมาบ้านตระกูลจ้าว คนกลุ่มนี้ไปบ้านตระกูลเฉียนมาก่อนแล้ว เพราะมีหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ บ้านตระกูลเฉียนจึงยอมจ่ายเงินแต่โดยดี ทว่าในใจกลับเ็ปยิ่งนัก
ทั้งจ่ายเงิน ทั้งตีเฉียนโหย่วเกินต่อหน้าทุกคน คนตระกูลเฉียนตามหัวหน้าหมู่บ้านมาตระกูลจ้าวด้วย มีคนโชคร้ายเสียเงินเป็เพื่อนย่อมดีกว่า
ตอนนี้หลินซย่าจื้อแค่พูดเสี้ยม ทั้งสองบ้านก็พาลเกลียดหลินหวั่นชิวอย่างง่ายดาย
ช่างไร้เหตุผลเสียจริง คำกล่าวโทษฟังไม่ขึ้นเช่นนี้ยังถูกสองบ้านฟังเข้าไปได้ คงเพราะพวกเขาอยากหาที่ระบายความโกรธและมีเป้าหมายเพื่อเบี่ยงเบนความเกลียดชังไปให้หลินหวั่นชิว
“ปากเ้าทำจากบ่อมูลหรือ เื่นี้เกี่ยวกระไรกับพี่สะใภ้ตระกูลเจียง ผู้อื่นเขาเดินอยู่ดีๆ ก็ถูกรุมตี อุตส่าห์ไม่มาหาเื่พวกเ้า เหตุใดเ้ากลับพูดจาป้ายสี ถ้าเกิดวันหนึ่งเ้าไม่ทันมองทางจนตกบ่อมูล เ้าจะโทษว่าบ่อมูลอยู่ผิดที่หรือไม่?”
หวางกุ้ยเซียงทนฟังไม่ได้ และสั่งสอนหลินซย่าจื้อไปหนึ่งชุด
หลินซย่าจื้อโกรธเป็ฟืนเป็ไฟ จะเข้าไปคว้าตัวหวางกุ้ยเซียง แต่หวางฟู่กุ้ยดึงหวางกุ้ยเซียงไปหลบด้านหลังเสียก่อน ชี้หน้าหลินซย่าจื้อตาขวาง “เ้ากล้าหรือหลินซย่าจื้อ! หากกล้าทำกระไรน้องสาวข้า ข้าจะอัดเ้าให้ตาย”
สวีฝูฟังเสียงโวยวายจนปวดหัว โบกมืออย่างรำคาญใจว่า “พอแล้วๆ แยกย้ายกันไปเสีย กลับไปสั่งสอนลูกหลานตัวเองให้ดี” พูดจบก็มองหลินซย่าจื้ออย่างตักเตือน หลินซย่าจื้อกลัวขึ้นมาทันที ไม่กล้าโวยวายอีก
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไป หวางกุ้ยเซียงรีบวิ่งไปบ้านตระกูลเจียง เล่าเื่ที่เกิดขึ้นให้หลินหวั่นชิวฟังอย่างมีชีวิตชีวา
หลินหวั่นชิวฟังนางเล่าด้วยรอยยิ้ม รินชาดอกเก๊กฮวยให้นาง
หวางกุ้ยเซียงที่เล่าจนคอแห้งรีบดื่มชาลงท้องหลังจากดื่มชาตาถึงกลับเป็ประกาย “พี่สะใภ้ นี่คือน้ำกระไร เหตุใดจึงหอมถึงเพียงนี้?”
พูดจบก็รินเพิ่มให้ตัวเองอีกถ้วย ดื่มลงท้องดังอึกๆ
“ในป่าหลังบ้านมีดอกฉูจวี๋[1]อยู่สองสามต้น ข้าเด็ดดอกมาตากแห้งแล้วแช่น้ำ ดอกฉูจวี๋ช่วยคลายความร้อนเวลาอากาศแห้งในฤดูใบไม้ร่วง หากเ้าชอบ ข้าจะห่อแบ่งกลับบ้านให้”
หลินหวั่นชิวค่อนข้างชอบนิสัยของหวางกุ้ยเซียง ลำพังแค่ที่นางช่วยตัวเองจัดการเื่นี้ หลินหวั่นชิวก็จดจำความดีไว้แล้ว
“เช่นนั้นคงต้องขอบคุณพี่สะใภ้มากเ้าค่ะ” ในเมื่อเป็ของที่เก็บมาจากูเาและไม่มีมูลค่ากระไร หวางกุ้ยเซียงจึงไม่เกรงใจ
หลินหวั่นชิวไม่กล้าห่อให้เยอะ เพราะนี่เป็ของที่นางซื้อจากเสียนอวี๋ ไม่ได้เก็บมาจากูเาจริงๆ กลัวจะเกิดปัญหาขึ้นโดยไม่จำเป็
หลินหวั่นชิวมอบชาดอกฉูจวี๋ให้หวางกุ้ยเซียง ทั้งคู่คุยกันเื่อื่นอีกสักพัก หวางกุ้ยเซียงจึงกลับบ้านไป
เมื่อนางกลับไป เจียงหงหนิงจึงประคองเจียงหงป๋อออกมา
หลังจากที่พาเจียงหงป๋อไปนั่งเรียบร้อยแล้ว เขาเดินมาอยู่หน้าหลินหวั่นชิว ดึงชายเสื้อนาง แอบมองมาทางนางและก้มหน้าลง “ขอบคุณพี่สะใภ้!”
เอ้อร์เกออธิบายให้เขาฟังหมดแล้ว พี่สะใภ้จงใจพูดเื่จ้าวซานหวากับเฉียนโหย่วเกินออกไป นางกำลังช่วยแก้แค้นให้เขา
เขาได้ยินที่กุ้ยเซียงเจี่ยพูดแล้วว่าเฉียนโหย่วเกินถูกพ่อตี ส่วนแม่ของจ้าวซานหวาก็ถูกหลินซย่าจื้อกับตู้เอ้อร์ฮวารุมทุบตี
บอกตามตรง เขารู้สบายใจขึ้นมากที่ได้ยินว่าพวกเขาโชคร้าย
“เ้าจำไว้นะ วันหน้าถ้าถูกรังแกต้องกลับมาบอกคนที่บ้าน อย่าทำตัวซื่อบื้อเช่นนี้” เด็กคนนี้น่ารักมากเวลาไม่ทำตัวนิสัยไม่ดี
หลินหวั่นชิวอดเอามือยีหัวเขาไม่ได้
เจียงหงหนิงพยักหน้า “อื้ม ข้าจำไว้แล้วพี่สะใภ้”
หลินหวั่นชิวช่วยเจียงหงหนิงพับผ้าห่ม พูดกับเขาว่า “เอาล่ะ อาศัย่ที่ข้างนอกยังมีแดด หงป๋อ เ้าช่วยสอนอักษรให้หงหนิง ไว้ข้าไปจ่ายตลาดครั้งหน้าจะช่วยหาตำราแพทย์มาให้เ้าอ่าน”
จัดการเด็กทั้งสองคนเรียบร้อย หลินหวั่นชิวกลับเข้าห้องไปคัดหนังสือต่อ
วันเวลาที่ไม่มีชายฉกรรจ์หยาบคายอยู่ข้างกายช่างเป็อิสระแบบที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
และในเวลาเดียวกัน เจียงหงหย่วนที่ซุ่มซ่อนอยู่ในูเาลึกเกิดจามขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทำให้ฝูงกวางใหนี…
เจียงหงหย่วนลุกขึ้นจากพุ่มหญ้าอย่างผิดหวัง ใช้มือถูจมูก คิดในใจว่าเหตุใดจู่ๆ ถึงได้จาม?
มีผู้ใดคิดถึงเขาหรือ?
จะใช้ภรรยาตัวน้อยหรือไม่?
แค่นึกถึงภรรยาตัวหอมนุ่มนิ่มที่บ้าน มุมปากเจียงหงหย่วนก็ยกโค้ง แววตาอ่อนโยนลง
การซ่อนตัวที่นี่ถูกเปิดเผยเสียแล้ว คงไม่มีกวางผ่านมาอีกสักระยะ เจียงหงหย่วนดูแล้วก็ใกล้ได้เวลา มุ่งหน้าสู่หน้าผาพยัคฆ์
เมื่อชาติก่อน เขาเจอคนสองคนที่ถูกเสือกินไปแล้วครึ่งหนึ่งแถวหน้าผาพยัคฆ์ตอนเข้ามาล่าสัตว์ เสือตัวนั้นถูกเขาฆ่าและนำไปขาย อีกทั้งเขายังได้ทราบตัวตนของสองคนนั้นจากป้ายชื่อสองแผ่นที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
คนหนึ่งเป็ไป๋ฮู่ใต้สังกัดหน่วยเชียนฮู่จากเมืองซินโจว นามว่าหลิวเฉียง อีกคนเป็หัวหน้ามือปราบจากที่ว่าการเมืองซินโจว นามว่าหวงจ้งซาน
ต่อมาเขาลองสืบข้อมูลดู พบว่าที่แท้ทางเมืองก็ร่วมมือกับหน่วยเชียนฮู่เพื่อปราบโจรผู้ร้าย ทว่าสุดท้ายกลับพ่ายแพ้ยับเยิน ไม่เหลือรอดสักคน
เพราะชาติก่อนมีความสงสัย เขาจึงไปสืบเื่สองคนนั้นโดยเฉพาะ รู้มาว่าคนหนึ่งมาจากครอบครัวขุนนาง อีกคนหนึ่งเป็นักเลงหัวไม้ นิสัยใจคอทั้งคู่ก็ไม่เลว ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงตัดสินใจช่วยสองคนนี้
โจรบนูเาหลงเหว่ยมีความแค้นกับเขา เมื่อชาติก่อน โจรกลุ่มนี้ลงจากเขาไปฆ่าหงป๋อกับหงหนิง ต่อมาเขาถึงเพิ่งรู้ว่าความจริงแล้วโจรกลุ่มนี้มุ่งเป้ามาที่เขา…
ดังนั้น ที่เขาช่วยสองคนนี้เพราะคิดจะยืมมือของอีกฝ่ายมาช่วยกำจัดเนื้องอกของูเาหลงเหว่ยกลุ่มนี้เช่นกัน
เจียงหงหย่วนมาถึงหน้าผาพยัคฆ์ พบชายสองคนนอนจมกองเือยู่ใต้หน้าผาตามที่คาด ตอนนี้เสือยังไม่มา แต่คิดว่ามันน่าจะได้กลิ่นเืและกำลังมาแล้ว
เขารีบไปแบกสองคนนั้นขึ้นมา ทำแผลให้แบบลวกๆ และเอาไปซ่อน โรยยาที่ช่วยดับกลิ่นคาวเืใส่ตัวทั้งคู่ เสร็จแล้วก็นอนหมอบลงในพุ่มหญ้า มือจับคันธนู รออยู่เงียบๆ
ไม่นานก็มีเสียงเสือคำรามดังขึ้น เสือลายจุดตัวหนึ่งวิ่งเข้ามาดมกลิ่นกองเืใต้หน้าผา
เจียงหงหย่วนคว้าโอกาส ยิงธนูในมือออกไป ปักเข้าที่หว่างคิ้วเสือพอดี
เมื่อเสือตายลง เจียงหงหย่วนแบกสองคนนั้นไปที่กระท่อมไม้ซึ่งอยู่ไม่ไกล เขาเพิ่งสร้างกระท่อมหลังนี้ตอนที่ได้เกิดใหม่ ด้านในมียารักษาาแต่างๆ รวมถึงน้ำมันและเกลือ
เจียงหงหย่วนโรยยาดับกลิ่นเืรอบกระท่อมเช่นกัน เขาไม่กลัวว่าจะมีสัตว์ป่าชนิดอื่นบุกเข้ามา เขาเริ่มชำแหละเสือที่เพิ่งแบกกลับมาเมื่อครู่
สองคนนี้ไม่มีทางฟื้นขึ้นในเร็วๆ นี้เป็แน่ เขาจำเป็ต้องรีบจัดการเสือให้เรียบร้อย มิเช่นนั้นอีกสองวันเนื้อจะเสีย
หนังเสือกับกระดูกเสือล้วนเป็ของมีค่า เขาชำแหละเสร็จก็เก็บใส่กระสอบ ใช้เกลือทาเนื้อเสือแล้ววางบนก้อนหิน เครื่องในถูกโยนลงในกับดักใกล้ๆ เพื่อเป็เหยื่อ
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เจียงหงหย่วนจึงนำข้าวสารที่พกติดตัวออกมาต้มโจ๊ก เผื่อสองคนนี้ฟื้นแล้วจะไม่มีสิ่งใดกิน
เชิงอรรถ
[1] ดอกฉูจวี๋(雏菊) หมายถึง ดอกเดซี่