“เสี่ยวหลาน เธอเก่งมากเลย!”
ทันทีที่เซี่ยเสี่ยวหลานลงจากเวที จงไฉ่คือคนที่พุ่งมาหาเธอเป็คนแรก
หลังเวทีเดิมทีก็มีแค่เธอกับจงไฉ่ที่มาจากหัวชิง ดังนั้นพวกเธอย่อมสนิทกันเป็ธรรมดา
อีกทั้งจงไฉ่ก็ไม่ใช่คนใจแคบ ที่พอเห็นตัวเองได้คะแนนน้อยกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานแล้วจะรู้สึกอิจฉาตาร้อน ในทางกลับกันจงไฉ่รู้สึกปลื้มปีติเป็อย่างมาก การที่เซี่ยเสี่ยวหลานได้คะแนนสูงสุดในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่เซี่ยเสี่ยวหลานที่ได้รับเกียรติยศ แต่ถือเป็การสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยหัวชิงอีกด้วย
ความหลอมรวมเป็หนึ่งเดียวกันกับเกียรติยศของสถาบันนั้นช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก
ปกติเวลาแนะนำตัวเอง มักจะบอกว่าเป็นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหัวชิง มีชื่อว่าอะไร และวันนี้ตอนเซี่ยเสี่ยวหลานยืนอยู่บนเวที พิธีกรแนะนำเธอว่า เป็ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 17 เซี่ยเสี่ยวหลาน จากมหาวิทยาลัยหัวชิง
นี่ไม่ใช่การทำให้หัวชิงขายหน้า แต่เป็การสร้างเกียรติยศให้แก่สถาบันต่างหาก
คะแนนของเซี่ยเสี่ยวหลานสร้างแรงกดดันให้ผู้เข้าแข่งขันสามคนที่เหลือเป็อย่างมาก ทว่าภายใต้แรงกดดัน บางคนอาจทำพลาด แต่บางคนก็สามารถทำได้ดีกว่าปกติ การตอบคำถามของหมายเลข 19 นั้นได้รับการยอมรับจากผู้ชมเช่นกัน ตอนกรรมการให้คะแนน จงไฉ่กุมมือเซี่ยเสี่ยวหลานแน่น เธอดูตื่นเต้นยิ่งกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเสียอีก
หากพูดออกไปคงดูไม่งามสักเท่าไร แต่จงไฉ่กำลังภาวนาอยู่ในใจว่า อย่าให้หมายเลข 19 คะแนนสูงกว่าเสี่ยวหลานเป็อันขาด!
“ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 19 ผลคะแนนสุดท้ายคือ... 98.0 คะแนน”
จงไฉ่เกือบะโตัวโยน
ทีนี้ก็จะเหลือแค่ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 20 แน่นอนว่าต่อให้หมายเลข 20 ได้คะแนนมากกว่าเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยเสี่ยวหลานก็จะได้อันดับสองของการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับว่าเธอได้ ‘รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ’
หลังรู้คะแนนของหมายเลข 19 ผลการแข่งขันครั้งนี้ก็เรียกได้ว่าแทบไม่มีอะไรให้ลุ้นอีกต่อไป
ตอนนี้เหลือแค่ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะได้อันดับหนึ่งหรืออันดับสองเท่านั้น
จงไฉ่ย่อมรู้สึกตื่นเต้น แต่ถึงอย่างไรก็มีคนที่ผิดหวังอยู่ ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 1 ยึดหัวตารางด้วยคะแนน 97.9 คะแนนมาเกินครึ่งทาง ใครจะไปคิดว่าั้แ่หมายเลข 17 อย่างเซี่ยเสี่ยวหลาน คะแนนของหมายเลข 1 กลับถูกแซงติดต่อกันเช่นนี้
หากเซี่ยเสี่ยวหลานคะแนนสูงกว่าหมายเลข 1 เพียงคนเดียว หมายเลข 1 ก็ยังมีสิทธิ์ได้รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ
แต่ตอนนี้หมายเลข 19 ก็มีคะแนนสูงกว่าหมายเลข 1 ดังนั้นจึงแน่นอนแล้วว่าหมายเลข 1 หมดสิทธิ์ที่ได้รางวัลชนะเลิศระดับประเทศนั่นเอง
ทุกคนล้วนเป็นักศึกษา่วัยยี่สิบ ย่อมมีความรู้สึกอยากเอาชนะด้วยกันทั้งนั้น กว่าจะฝ่าฟันขวากหนามมาถึงจุดนี้ สุดท้ายกลับพลาดโอกาสได้ ‘รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ’ หากเธออารมณ์ดีสิถึงจะแปลก!
เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ไม่ได้เดินไปปลอบใจหมายเลข 1 อย่างเสแสร้ง คนเขาปวดใจมากพออยู่แล้ว การทำแบบนั้นยิ่งเป็การซ้ำเติมน่ะสิ
การตอบคำถามของหมายเลข 20 ไม่ดีนักแต่ก็ไม่แย่ ผลคะแนนสุดท้ายคือ 97.1 คะแนน ติด 10 อันดับแรกอย่างไม่มีปัญหา
ตอนพิธีกรประกาศคะแนนของหมายเลข 20 เซี่ยเสี่ยวหลานก็รู้ทันทีว่าทุกอย่างได้จบสิ้นลงแล้ว เธอกลายเป็ผู้ชนะอันดับหนึ่งของการแข่งขันทักษะภาษาอังกฤษระดับอุดมศึกษาที่จัดขึ้นเป็ครั้งแรก... ระดับภาษาอังกฤษของเธอใช่ว่าจะเก่งกาจจนไร้เทียมทาน แต่เธออาศัยโชคชะตาและความสามารถอย่างละครึ่ง จงไฉ่สวมกอดเซี่ยเสี่ยวหลานแน่น เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็รู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน
อันดับถูกเรียบเรียงเสร็จสิ้น ชื่อและคะแนนของทุกคนถูกแปะประกาศแล้วเรียบร้อย
พิธีกรเชิญเซี่ยเสี่ยวหลานกับผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 19 ขึ้นมาบนเวที จงไฉ่จึงปล่อยตัวเซี่ยเสี่ยวหลานออกจากอ้อมกอด
“รีบไปรับรางวัลเร็วเข้า ตอนนี้มันเป็ของเธอแล้ว!”
เซี่ยเสี่ยวหลานถูกจงไฉ่ผลักให้ก้าวเดิน ประธานเซี่ยผู้หน้าหนาที่ไม่เคยสะทกสะท้านกับสิ่งใด ขณะนี้เธอรู้สึกเท้าลอยๆ
รู้สึกราวกับว่าไม่ใช่เื่จริง
เหมือนตอนได้อันดับหนึ่งของมณฑลในการสอบเกาเข่าไม่มีผิด
เพียรพยายามอย่างเต็มที่ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับสูงกว่าที่คาดการไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานย่อมรู้สึกดีใจเป็พิเศษ
แสงไฟบนเวทีสว่างจ้า พิธีกรยิ้มกว้างเจิดจรัส คณะกรรมการเองก็ไม่ได้ทำหน้าขรึมดั่งเมื่อครู่ เซี่ยเสี่ยวหลานรอมานานกว่าสี่ชั่วโมงเพื่อตอบคำถาม 15 นาที และเพื่อการแข่งขันครั้งนี้เธอใช้เวลาเตรียมตัวถึงสองเดือนกว่า... ไม่สิ ไม่ใช่แค่สองเดือนกว่า นั่นเพราะมีสิ่งที่สั่งสมมาั้แ่ชาติที่แล้วรวมอยู่ด้วย
เพียงแต่ชาติก่อนเธอไม่เคยลงแข่งขัน และไม่เคยไปสอบโทเฟลหรือไอเอลแต่อย่างใด
ความพยายามย่อมได้รับผลตอบแทน บางครั้งผลตอบแทนที่ว่าอาจจะมาช้า แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มา!
ในบรรดาผู้ชมด้านล่างมีคนระดับหัวหน้าของกระทรวงศึกษาธิการรวมอยู่ด้วย เขาคือผู้ที่ขึ้นมามอบรางวัลให้กับเซี่ยเสี่ยวหลาน ซึ่งมีทั้งเกียรติบัตรและถ้วยรางวัลสีทองอร่าม
“นักศึกษาเซี่ยเสี่ยวหลาน คุณแสดงความสามารถได้อย่างยอดเยี่ยม ขอแสดงความยินดีกับคุณในฐานะผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศของการแข่งขันภาษาอังกฤษในครั้งนี้ด้วยครับ!”
สีหน้าของผู้มอบรางวัลเต็มไปด้วยความเมตตา เด็กสาวหน้าตาสดใส ตอบคำถามอย่างยอดเยี่ยม ระดับความสามารถก็เป็เลิศ ผู้ชนะในวันนี้สมควรแล้วที่จะได้รับการประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่ และถือเป็ผู้ชนะที่สมศักดิ์ศรี
แค่รางวัลชนะเลิศระดับประเทศก็ถือเป็บัตรผ่านที่ทรงประสิทธิภาพแล้ว
และแน่นอนว่าเพื่อประชาสัมพันธ์ความสำคัญของภาษาอังกฤษ กระทรวงศึกษาธิการย่อมปฏิบัติกับผู้ได้รางวัลทุกคนเป็อย่างดี
แค่ ‘รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ’ ครั้งนี้ครั้งเดียว หลังเรียนจบหากเซี่ยเสี่ยวหลานอยากทำงานในกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศมีหรือที่จะติดใจสาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ และกีดกันเธอที่เรียนไม่ตรงสาย
หาก้าวัดความยอดเยี่ยมของนักศึกษาคนหนึ่งต้องใช้อะไรมาเป็เครื่องพิสูจน์
แน่นอนว่าคือผลการเรียน
แน่นอนว่าคือรางวัลและเกียรติยศทั้งหลายที่เคยได้รับมา
รางวัลที่เซี่ยเสี่ยวหลานได้รับล้วนเป็รางวัลนอกสาขาวิชา เพราะเธอยังไม่อาจลงแข่งความสามารถด้านสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะได้!
แต่รางวัลที่อยู่นอกสายบางครั้งก็มีประโยชน์เช่นกันไม่ใช่หรือ
อย่างเช่นตอนนี้ สิ่งแรกที่เซี่ยเสี่ยวหลานคิดถึงก็คือ หวังก่วงผิงพยายามลอบกัด ทว่านั่นกลับช่วยให้เธอได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศอันดับหนึ่งทางอ้อม ไม่รู้ว่าหวังก่วงผิงอยู่ข้างล่างเวทีด้วยหรือเปล่า หากอยู่ตอนนี้เขาจะปวดใจมากแค่ไหนนะ!
ถ้าเป็แบบนั้น เธอคงรู้สึกผิดแย่
ไม่ว่าเมื่อไร คนที่ได้ที่หนึ่งย่อมได้รับความสนใจมากที่สุด ถ้ามีสายตาทั้งหมด 100 คู่ อันดับหนึ่งคงแย่งความสนใจไปได้มากกว่า 90% ผู้ชมอยากดูผู้ชนะ พิธีกรเองก็อยากสัมภาษณ์คนที่ได้อันดับหนึ่งเช่นกัน
“นักศึกษาเซี่ยเสี่ยวหลาน ช่วยบอกความรู้สึกหลังได้รับรางวัลได้ไหมครับ”
เซี่ยเสี่ยวหลานจับถ้วยรางวัลแน่น ก่อนจะคลี่ยิ้มจริงใจให้กล้อง
“ดิฉันดีใจมากค่ะที่ได้รับรางวัลนี้ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยหัวชิงที่ให้ความรู้กับดิฉัน ขอบคุณคำชี้แนะจากอาจารย์ทุกท่าน และขอบคุณประเทศของเราที่เจริญก้าวหน้าขึ้นทุกวันจึงทำให้ดิฉันมีโอกาสได้เรียนภาษาอังกฤษค่ะ”
สุดท้ายก็ขอขอบคุณศัตรูของฉัน ถ้าไม่มีแรงกระตุ้นจากพวกคุณ ฉันคงไม่พยายามสู้มาโดยตลอดได้เช่นนี้!
—-----------------------------------------------
“ฉันว่าแล้ว!”
ย่าโจวมั่นใจั้แ่แรกแล้วว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะได้รับรางวัล พอผลประกาศออกมาว่าเซี่ยเสี่ยวหลานได้รางวัลชนะเลิศระดับประเทศเป็อันดับหนึ่ง ย่าโจวก็ปรบมือรัวอย่างออกหน้าออกตา
หญิงชรากับคนอื่นๆ ต่างปรบมือพร้อมกัน และลุกพรวดจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว เธอเปลี่ยนกิริยาท่าทางอย่างกะทันหันจนกวนฮุ่ยเอ๋อกลัวว่ากระดูกเอวของหญิงชราจะเคลื่อนเหลือเกิน
กวนฮุ่ยเอ๋อจำต้องลุกขึ้นเพื่อช่วยประคอง ทว่าในใจของเธอเองก็รู้สึกดีใจแทนเซี่ยเสี่ยวหลานเช่นกัน
ต่อให้อนาคตเซี่ยเสี่ยวหลานจะไม่ใช่ลูกสะใภ้ของตระกูลโจว อย่างไรเสียตอนนี้เธอก็คือคู่ครองของโจวเฉิง เซี่ยเสี่ยวหลานยอดเยี่ยมมากแค่ไหน ก็ยิ่งพิสูจน์ว่าโจวเฉิงมองคนเก่งมากเท่านั้น ลูกชายของเธอไม่ได้หลงใหลในความงามเท่านั้น แต่เซี่ยเสี่ยวหลานมีคุณค่าในตัวเอง เด็กสาวคนนี้ทั้งฉลาดและเพียรพยายาม ใครบ้างที่จะเกลียดเธอลง?
อดีตที่ ‘เต็มไปด้วยสีสัน’ เ่าั้ เดิมทีกวนฮุ่ยเอ๋อยังคงรู้สึกติดใจอยู่บ้าง แต่หลังใช้เวลาทำใจยอมรับอยู่หลายวัน ความรู้สึกเ่าั้ก็หายไปจนหมด
เธอก็แค่มีทิฐิ ถึงใช้การมาดูการแข่งขันเป็เพื่อนย่าโจวเป็ข้ออ้างให้ตัวเอง
ถ้าไม่อยากมาจริงๆ คงอ้างว่างานยุ่งและบอกปัดจานอ้ายฉวินไปแล้ว
เซี่ยเสี่ยวหลานบอกว่าเรียนภาษาอังกฤษจากพจนานุกรมเก่าๆ จุดนี้กินใจกวนฮุ่ยเอ๋อเหลือเกิน เธอรู้ดีว่ากว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะมีวันนี้นั้นไม่ง่ายเลยทีเดียว พอได้ทำความรู้จักกับเซี่ยเสี่ยวหลานก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงความลำบากที่เด็กสาวคนนี้เคยพบเจอมา
หลังมอบรางวัลรางชนะเลิศระดับประเทศเสร็จก็ถึงคิวมอบรางวัลชนะเลิศ จากนั้นจึงจะเป็รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง
หลังจบพิธีมอบรางวัล เซี่ยเสี่ยวหลานยังไม่สามารถปลีกตัวไปไหนได้ เนื่องจากผู้กำกับรายการเชิญอาจารย์จากหัวชิงขึ้นเวทีเพื่อถ่ายภาพหมู่ บนเวทีจึงเต็มไปด้วยความวุ่นวายทำให้ไม่มีใครสนใจคณะกรรมการอีกต่อไป
จานอ้ายฉวินถือโอกาสเดินลงจากเวที พอเจอกวนฮุ่ยเอ๋อแล้วเธอก็รู้สึกโล่งอก
“ฉันนึกว่าวันนี้เธอจะไม่มาแล้วเสียอีก ทำไมถึงมานั่งข้างหลังแบบนี้เล่า เดี๋ยวเสี่ยวหลานก็ไม่รู้หรอกว่าเธอกับคุณย่ามาดูด้วย”
“ไม่เห็นพวกฉันก็ไม่เป็ไร บางทีเห็นแล้วอาจจะเสียสมาธิก็ได้”
กวนฮุ่ยเอ๋อไม่ได้มาเพื่อเป็จุดเด่น แค่สนับสนุนอย่างเงียบๆ ก็พอแล้วมิใช่หรือ หากแสดงออกมากเกินไปจะดูไม่จริงใจเอาได้น่ะสิ
จานอ้ายฉวินชะเง้อมองซ้ายขวา ก่อนจะลากเธอไปอีกทาง
“ฉันมีอะไรจะบอก แต่เธอต้องรับปากก่อนว่าจะไม่โกรธ!”