“อื้ม...แล้วจวินชิงมาทำอะไรที่นี่เล่า?” เย่หงอี้ยื่นแขนไปโอบเหยาโม่หว่านดวงเนตรสีเข้มสะท้อนประกายเย็นะเืบาง ๆ เขาเกลียดชังหนูชางสู่ตัวนั้น รวมไปถึงคนที่หิ้วกรงของมันอยู่เพลานี้ด้วย
“กระหม่อมเห็นเ้าหนูตัวนี้น่าสงสาร จึงอยากจะพามันกลับไปเลี้ยงไม่ทราบว่าฝ่าาจะทรงอนุญาตหรือไม่?” เย่จวินชิงเงยหน้าขึ้นสู้สายตากับเย่หงอี้ด้วยแววตาคมปลาบไม่แพ้กัน
เหยาโม่หว่านแอบนึกสลดอยู่ลึก ๆ มีเพียงคนที่ไม่นำพาต่อความเป็ความตายเท่านั้นถึงจะกล้าท้าทายกับผู้เป็หวงตี้แห่งแว่นแคว้น ความตายของนางทำให้เย่จวินชิงเป็หนักถึงขนาดนี้เลยหรือไร
“ซู่ชินหวางคงเข้าใจอะไรผิดไปแล้วกระมัง หนูชางสู่ตัวนี้เป็ของรักที่หวงโฮ่วทิ้งไว้ก่อนสิ้นพระชนม์ยามนี้อยู่ในความดูแลของฝ่าา ได้รับการชุบเลี้ยงอย่างดี หากไม่เพราะมันติดโรคร้ายฝ่าาหรือจะตัดใจ นำมาแขวนไว้ที่นี่” เหยาซู่หลวนออกปากโต้กลับไป เจตนาเพื่อให้เย่จวินชิงเลิกล้มความตั้งใจเสียอย่าได้คิดยั่วโทสะองค์เหนือหัว แม้ว่านางจะชิงชังเหยาโม่ซิน แต่กลับแอบชมชอบเย่จวินชิงอยู่ในใจบุรุษที่งดงามปานเทพเซียนเยี่ยงนี้ สตรีที่ไหนบ้างจะไม่อยากใกล้ชิด
ขณะที่เย่จวินชิงยังคงดื้อดึง เหยาโม่หว่านพลันเงยหน้าขึ้นมองเย่หงอี้
“ฝ่าา นี่เป็สัตว์เลี้ยงของพี่ใหญ่หรือเพคะ?”
“ใช่แล้ว ทำไมล่ะ? เ้าชอบหรือ?” เย่หงอี้คลี่ยิ้มบางๆ ทว่าหัวใจกลับเย็นะเื ดวงตาฉายแววล้ำลึก
“เช่นนั้นฝ่าาทรงให้พี่รองจับหนูชางสู่ตัวนั้นมาให้หว่านเอ๋อร์ได้หรือไม่?”เหยาโม่หว่านถูใบหน้าบนแผงอกของเย่หงอี้อย่างออดอ้อน ดวงตาทอประกายอ่อนโยนดังสายน้ำ
“ไยจะมิได้เล่า ซู่หลวน เมื่อหว่านเอ๋อร์อยากได้เ้าก็ไปเอามันมาเถิด”เย่หงอี้ปรายตาทรงอำนาจไปที่เหยาซู่หลวน บีบให้ไม่อาจปฏิเสธ
เหยาซู่หลวนหน้าง้ำ แข็งเกร็งไปทั่วร่างทันที ตนเองมีฐานะเป็ถึงหวงกุ้ยเฟยนังเด็กปัญญาอ่อนกล้าดีอย่างไรมาจิกหัวใช้ แต่จนใจที่ฝ่าาเอ่ยพระวาจาดุจทองคำออกมาแล้วต่อให้ไม่พอใจแค่ไหน ยามนี้ก็ต้องเดินไปหาเย่จวินชิงแต่โดยดี
“ซู่ชินหวางคงได้ยินหมดแล้ว ว่าเหยาเฟย้าหนูชางสู่ตัวนี้”เหยาซู่หลวนแข็งใจเอ่ยปาก ก่อนเอื้อมมือไปหิ้วกรงมาอย่างไม่เต็มใจยิ่ง
“พี่รอง หว่านเอ๋อร์ไม่เอากรงใบนั้น จะเอาแต่หนูอย่างเดียว”เหยาโม่หว่านที่อยู่ด้านหลังยิ้มจนตาหยีพลางกำชับเพิ่มเติม เหยาซู่หลวนได้ยินดังนั้นก็ขบกรามกรอดแต่พยายามฝืนยิ้ม ก่อนเปิดกรงจับหนูชางสู่ออกมาประคองไว้ในอุ้งมือ โดยไม่รอการตอบรับใดๆ จากเย่จวินชิง หลังจากนั้นค่อยหมุนตัวกลับมาหาเหยาโม่หว่าน เย่จวินชิงเองก็นึกอยากรู้ว่าเหยาโม่หว่านมีแผนจะทำอะไรกันแน่จึงมิได้ทัดทานเพียงแต่ชั่วพริบตาถัดไป เขากลับต้องนึกเสียใจภายหลังที่ไม่ทำเช่นนั้น
ขณะที่เหยาซู่หลวนประคองหนูชางสู่มาถึงหน้าเหยาโม่หว่านเ้าปุกปุยก็ดิ้นหลุดจากวงแขนผู้เป็นายแล้วกระโจนเข้าใส่นางทันที แมวจับหนูเป็กฎธรรมชาติเ้าปุกปุยกางเล็บอ้าปากกว้างขย้ำคอหอยเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายตามสัญชาตญาณ กรงเล็บจากสองเท้าหน้าจึงฝากรอยข่วนจนเืซิบสิบแนวไว้ที่มือของเหยาซู่หลวน
“โอ๊ย...เจ็บ! นังโง่เหยาโม่หว่าน เ้าทำบ้าอะไรเนี่ย”เหยาซู่หลวนได้รับาเ็ ร้องโวยวายดังลั่น สาดแววตาคับแค้นใส่ผู้เป็น้องสาว หากไม่ใช่เย่หงอี้ยังอยู่ตนเองคงเข้าไปถลกหนังนังเด็กปัญญาอ่อนนี่ไปแล้ว
“หวงกุ้ยเฟย ระวังคำพูดของตนเองด้วย” น้ำเสียงเยียบเย็นของเย่หงอี้เจือไปด้วยการข่มขู่ทว่าสายตาที่มองเหยาซู่หลวนกลับเ็ายิ่งกว่า เอื้อมมือไปรั้งเหยาโม่หว่านเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน
“ฝ่าา นาง...” เหยาซู่หลวนกุมาแที่มือพยายามจะร้องโอดครวญแต่พอเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับเย่หงอี้ก็จำต้องกลืนวาจากลับ และถอยหลบไปอยู่ด้านข้าง
“เหยาโม่หว่าน เ้าทำเกินไปแล้ว” ทันทีที่เห็นของรักชิ้นสุดท้ายที่เหยาโม่ซินทิ้งไว้กำลังถูกเ้าปุกปุยกลืนกินดวงตาของเย่จวินชิงพลันเปลี่ยนเป็สีโลหิต สองมือภายใต้แขนเสื้อกำหมัดแน่น ความคับแค้นในหัวใจพลันปะทุอย่างรุนแรงน่าแค้นใจนัก เขาชิงชังเย่หงอี้ที่คุ้มครองโม่ซินไม่ได้ และเกลียดชังตนเองที่มัวแต่ลังเลจนในที่สุดก็ไม่ได้เอ่ยวาจาสามคำนั้นออกไป