ม่อเสวียนเช่อคิดว่าสิ่งที่ควรพูดก็ได้พูดไปหมดแล้ว จึงไม่รั้งรออยู่อีกต่อไป เขาเดินผ่านซ่างกวานม่อิมุ่งหน้าไปยังถนนอันครึกครื้น
ซ่างกวานม่อิเห็นว่าม่อเสวียนเช่อเดินจากไปแล้ว เขาก็รีบร้อนเดินตามไปทันที
ในเมื่อคนคนนี้รู้จักเยว่เฟิงเกอ เขาก็น่าจะถามไถ่เื่ของเยว่เฟิงเกอจากปากอีกฝ่ายได้บ้าง
“คุณชายท่านนี้รอข้าก่อน...”
ทางด้านเยว่เฟิงเกอ นางยังคงถูกม่อหลิงหานกอดไว้ในอ้อมแขน เมื่อเห็นว่าม่อเสวียนเช่อจากไปแล้ว ก็กล่าวกับม่อหลิงหานว่า “คนก็ไปแล้ว ท่านควรจะปล่อยข้าได้แล้วกระมัง”
ม่อหลิงหานขมวดคิ้วมุ่น เขาดูออกว่าเยว่เฟิงเกอยังโกรธเื่เมื่อคืนอยู่
อันที่จริงเมื่อคืนหลังจากกลับไปที่เรือนหานโยว เขาก็ได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาเป็เหตุให้ไม่ได้หลับทั้งคืน
ใจจริงเขาอยากจะไปหาเยว่เฟิงเกอที่เรือนเยว่เหยามาก แต่ศักดิ์ศรีของบุรุษค้ำคออยู่ จึงไม่อาจบากหน้าไปหานางได้
เดิมทีเขาก็นึกว่าเยว่เฟิงเกออาจจะมาหาเขาที่เรือนหานโยว มิคาดรออยู่ทั้งคืนจะไม่ได้เห็นแม้แต่เงาของนาง
วันนี้ม่อหลิงหานยอมละทิ้งงานทุกอย่าง แต่งตัวรัดกุมมายืนรอเยว่เฟิงเกออยู่ที่ประตูหลังจวนแต่เช้า รอเพียงให้เยว่เฟิงเกอมาปรากฏตัว
นอกจากนี้ เขาเองยังไม่ได้กินข้าวเช้าด้วยคิดว่าบางทีเยว่เฟิงเกอก็อาจจะไม่ได้กินข้าวเช้าเช่นกัน เขาจึงตั้งใจจะพานางไปเดินถนนหาของอร่อยกินด้วยกันอีกครั้ง
แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจก็คือ เยว่เฟิงเกอและม่อเสวียนเช่อเดินมาด้วยกัน
พวกเขาเดินยิ้มแย้มสนทนากันมาตลอดทาง
แล้วก่อนหน้านี้ทำเป็มาบอกว่าไม่ได้เป็อะไรกัน ใครจะไปเชื่อลง?
เมื่อครู่ที่ม่อหลิงหานกัดเยว่เฟิงเกอก็เพื่อมอบบทลงโทษเล็กๆ แก่นาง ให้นางได้รู้เสียบ้างว่าใครกันแน่ที่เป็บุรุษของนาง
สายตาที่ม่อหลิงหานใช้มองเยว่เฟิงเกอยามนี้เปลี่ยนไปเป็ล้ำลึกราวสระน้ำลึกไร้ก้น เพียงเยว่เฟิงเกอเห็นเช่นนี้ ฉับพลันนั้นหัวใจนางก็เต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม
จะอย่างไรเยว่เฟิงเกอก็ไม่อาจล่วงรู้ในสิ่งที่ม่อหลิงหานกำลังคิดอยู่ในใจได้ นางจึงรู้สึกคล้ายจิตใจไม่สงบ
นางอ้าปากพ่นคำออกมา “ท่านอ๋อง!”
ม่อหลิงหานทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาก้มหน้าลงไปจุมพิตริมฝีปากเยว่เฟิงเกอ
จุมพิตนี้เนิ่นนานพอควร ทำเอาเยว่เฟิงเกอคล้ายกำลังติดอยู่ในหล่มของจุมพิตนี้จนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
เยว่เฟิงเกอรู้สึกได้ว่าทักษะของม่อหลิงหานเหมือนจะดีขึ้นกว่าเก่าไม่น้อย
ในความเผด็จการนี้ยังมีความอ่อนโยนแฝงอยู่
ผ่านไปเป็นาน ในที่สุดม่อหลิงหานก็ยอมผละออกจากริมฝีปากของเยว่เฟิงเกอด้วยความอาลัยอาวรณ์ยิ่ง
“ชายารักกินข้าวเช้าหรือยัง? ” ม่อหลิงหานยังคงกอดเยว่เฟิงเกอไว้ไม่ปล่อย
เยว่เฟิงเกอที่อิงแอบอยู่ในอ้อมแขนม่อหลิงหานส่ายหน้าเบาๆ “ยังไม่ได้กิน หม่อมฉันตั้งใจจะไปหาของว่างอร่อยๆ กินที่ถนนสายนั้น”
ม่อหลิงหานได้ยินเช่นนี้ก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที
เขารู้อยู่แล้วว่า เพราะเมื่อคืนเยว่เฟิงเกอยังไม่ได้กินของอร่อยที่ถนนสายนั้น วันนี้นางย่อมต้องอยากไปอีกแน่
“ไป เปิ่นหวางจะพาเ้าไปกินของว่าง” ม่อหลิงหานพูดพลางจูงมือเยว่เฟิงเกอออกไปจากประตูหลังของจวน
เขาจับมือเยว่เฟิงเกอเดินอยู่บนถนน
คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างใช้สายตาแปลกๆ มองคนทั้งสอง
เยว่เฟิงเกอรีบดึงมือกลับ ซึ่งการกระทำของนางทำให้ม่อหลิงหานที่เพิ่งกลับมาหน้าผากเรียบตึงได้ไม่นานกลับไปยับยู่ั้แ่หัวคิ้วถึงหน้าผากเช่นเดิม
“เป็อะไรไป ไม่อยากให้เปิ่นหวางจูงมือเ้าแล้ว? ” ม่อหลิงหานก้มหน้ามองเยว่เฟิงเกอ เขาอยากมองหาความผิดปกติจากใบหน้านาง
เยว่เฟิงเกอเหลือบมองคนที่เดินผ่านไปมา รู้สึกขัดเขินเล็กน้อย “ท่านอ๋อง ตอนนี้ข้าแต่งตัวเป็ชาย เาายอกสามศอกสองคนมาเดินจับมือกันบนถนนเช่นนี้ ช่างเป็การทำลายทัศนียภาพอย่างแท้จริง”
เมื่อครู่ม่อหลิงหานทึกทักอยู่คนเดียวว่าเยว่เฟิงเกอคงจะโกรธเขาอีกแล้ว แต่พอมาได้ยินคำอธิบายของนาง เขาถึงเพิ่งสังเกตเห็นสายตาของคนที่เดินผ่านไปมา
เขากระแอมเบาๆ ไปเสียงหนึ่งกล่าวว่า “เช่นนั้นเปิ่นหวางจะไม่บังคับชายารักแล้ว”
คนบางคนที่เดินผ่านไปมาบังเอิญได้ยินประโยคนี้ของม่อหลิงหานเข้าก็อดตัวสั่นไม่ได้
ดูท่าที่คนอื่นเขาลือกันจะเป็เื่จริง จั้นอ๋องของพวกเขาเปลี่ยนไปแล้ว เห็นบุรุษคนหนึ่งเป็ดังชายารัก
ชายาจั้นอ๋องที่งดงามผู้นั้นช่างน่าสงสารเสียจริง ก่อนหน้านี้ยังเคยมาเดินเล่นที่นี่กับจั้นอ๋อง เพียงพริบตาจั้นอ๋องก็โผเข้าสู่อ้อมอกของชายอื่นแล้ว
เมื่อคนที่เพิ่งเดินผ่านไปคิดถึงตรงนี้ก็ได้แต่ถอนใจ ส่ายหน้าด้วยความปลดปลง
เยว่เฟิงเกออยากไปกินของอร่อยแล้วจึงรีบเดินมุ่งหน้าไปยังถนนเส้นที่มีของกินขายอยู่เรียงราย
ม่อหลิงหานเดินอยู่ข้างกายเยว่เฟิงเกอ ยามที่เดินเหินมือของคนทั้งคู่บังเอิญกวัดแกว่งกระทบกัน ทำเอาใจของม่อหลิงหานคันยุบยิบ และมีอยู่หลายครั้งที่เขาอยากจะจูงมือเยว่เฟิงเกออีกครั้ง
แต่เพื่อไม่ให้เยว่เฟิงเกอต้องลำบากใจ เขาทำได้แค่ฝืนทนความพลุ่งพล่านในใจ ไม่ไปจับมือนาง
ในที่สุดคนทั้งสองก็มาถึงยังถนนที่มีของอร่อยเรียงราย ทันทีที่เยว่เฟิงเกอเห็นของกินน่าอร่อยมากมาย นางก็ไม่รอช้ารีบพุ่งเข้าใส่
แน่นอนว่านางเดินไปยังร้านปลาหมึกย่างที่ได้ลองลิ้มไปเมื่อคืนก่อนเป็ร้านแรก กล่าวกับเถ้าแก่ด้วยเสียงทุ้มต่ำ “เถ้าแก่เอาปลาหมึกย่างสิบไม้”
เมื่อเถ้าแก่ได้ยินว่าคุณชายท่านนี้จะซื้อปลาหมึกย่างทีเดียวสิบไม้ ก็รีบย่างให้ด้วยความยินดี
ม่อหลิงหานเดินก้าวยาวๆ เข้ามา เขายิ้มน้อยๆ มองเยว่เฟิงเกอ
เขารู้อยู่แล้วว่าแมวป่าตัวน้อยของเขาเป็นักกิน แต่คิดไม่ถึงว่าจะสั่งทีเดียวสิบไม้เช่นนี้
ม่อหลิงหานส่งเสียงเตือน “เหลือที่ว่างในท้องไว้บ้าง ถนนสายนี้ยังมีของอร่อยอีกมากรอให้เ้าไปกินอยู่”
เยว่เฟิงเกอโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ไม่เป็ไร วันนี้กินไม่ไหว พรุ่งนี้ก็ค่อยมากินใหม่”
คำพูดของเยว่เฟิงเกอทำให้ม่อหลิงหานอดยิ้มออกมาไม่ได้
สตรีของเขาราวกับมีมนต์วิเศษ ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ทันตา
ปลาหมึกย่างเสร็จแล้ว เยว่เฟิงเกอหยิบมาหนึ่งไม้ส่งให้ม่อหลิงหาน
“เชิญท่านอ๋องเสวย”
ม่อหลิงหานรับปลาหมึกไม้นั้นไป เขาไม่ได้กินมัน แต่กลับส่งไปที่ข้างปากเยว่เฟิงเกอแทน
“ชายารักกัดสักหนึ่งคำก่อน เปิ่นหวางค่อยกิน”
คำพูดของม่อหลิงหาน ทำให้เยว่เฟิงเกอหน้าแดงทันที
ขณะที่เถ้าแก่เ้าของเพิงขายปลาหมึกย่างเกือบถูกคำพูดของคนทั้งสองทำเอาเป็ลมล้มตาย
เยว่เฟิงเกอเขินอายจนไม่รู้จะพูดอะไรดี นางอยากบอกความจริงกับเถ้าแก่เพิงขายของแทบขาดใจว่าแท้จริงแล้วนางเป็หญิงที่ปลอมตัวเป็ชาย
เยว่เฟิงเกอหัวเราะแห้งๆ ไปสองเสียง เมื่อรับปลาหมึกอีกเก้าไม้ที่เหลือมาก็วิ่งหนีทันที
ม่อหลิงหานยิ้มแย้ม ก่อนจะโยนเงินให้เ้าของร้านแล้วเดินตามเยว่เฟิงเกอไป
“ชายารักกำลังเขินหรือ? ” ม่อหลิงหานยิ้มพลางหยิกแก้มเยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอปัดมือม่อหลิงหานออก กล่าวด้วยสีหน้าปลงๆ “ท่านอ๋อง นี่มันบนถนนใหญ่นะเพคะ อย่าได้ทรงทำอะไรรุ่มร่ามเช่นนี้ มิเช่นนั้นคนที่เดินผ่านไปมาจะคิดว่าทั้งท่านและข้าเป็ชายตัดแขนเสื้อ”
ม่อหลิงหานยิ้ม จากนั้นยื่นปลาหมึกย่างในมือไปที่ข้างปากเยว่เฟิงเกอ
“ชายารักรีบกิน ประเดี๋ยวเย็นแล้วจะไม่อร่อย”
เยว่เฟิงเกอรู้ หากว่านางไม่กัดสักคำ ม่อหลิงหานก็คงไม่กินจึงทำได้แค่กัดไปคำหนึ่งอย่างปลงๆ
ในตอนนี้เองม่อหลิงหานถึงได้เริ่มกินต่อจากนาง
คนทั้งสองเดินไปพลางกินปลาหมึกย่างไปพลาง เพียงไม่นานปลาหมึกย่างทั้งสิบไม้ก็หมดเกลี้ยง
หลังจากกินหมดแล้ว เยว่เฟิงเกอก็วิ่งไปที่หน้าเพิงขายของอีกแห่ง ร้านนี้ขายเกาลัดหวาน นางกล่าวกับเ้าของร้านว่า “เถ้าแก่ ข้าเอาเกาลัดถุงหนึ่ง”
เถ้าแก่ร้านตักเกาลัดถุงหนึ่งให้เยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอได้เกาลัดปุ๊บก็เดินจากไปทันที และยังคงเป็ม่อหลิงหานที่จ่ายค่าเกาลัดให้
แม้ตอนนี้เยว่เฟิงเกอจะกินเกาลัดอย่างเพลิดเพลินใจ แต่ก็ยังไม่ลืมปอกให้ม่อหลิงหานกินด้วย
ทุกครั้งยามที่เยว่เฟิงเกอป้อนเกาลัดให้ม่อหลิงหาน นิ้วมือของนางจะััถูกริมฝีปากเขาโดยไม่ตั้งใจ ทำเอาเขารู้สึกคันยุบยิบในใจเพราะนิ้วมือน้อยๆ นั้นอยู่หลายครา
เยว่เฟิงเกอยิ้มชั่วร้ายให้ม่อหลิงหาน ในที่สุดม่อหลิงหานก็ได้รู้แล้วว่าที่แท้นางจงใจ
แมวป่าน้อยตัวนี้ตั้งใจให้เขาทรมานใช่หรือไม่ เพราะนางรู้ดีว่าเขาไม่สามารถทำอะไรนางที่นี่ได้ จึงจงใจยั่วยวนเขาอย่างหาญกล้าเช่นนี้
ม่อหลิงหานโน้มตัวไปข้างหน้า กล่าวเสียงเบาข้างหูเยว่เฟิงเกอว่า “ชายารักกำลังเล่นกับไฟอยู่หรือ เ้าไม่กลัวว่าเปิ่นหวางจะจัดการเ้าเสียตรงนี้หรือ? ”
เยว่เฟิงเกอได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มชั่วร้ายเมื่อครู่พลันแข็งค้างไป นางรีบก้มหน้าลง ไม่กล้าหยอกล้อม่อหลิงหานอีก นางกลัวจริงๆ ว่าม่อหลิงหานพูดแล้วจะทำ
เมื่อเห็นว่าเยว่เฟิงเกอเริ่มกลัวหน่อยๆ แล้ว มุมปากม่อหลิงหานก็โค้งขึ้นเป็องศางดงาม
ในที่สุดแมวป่าน้อยตัวนี้ก็มีตอนที่หวาดกลัวกับเขาบ้างแล้ว
คล้ายว่าม่อหลิงหานจะหาวิธีกำราบเยว่เฟิงเกอได้ แค่เขาเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา รับประกันได้เลยว่าเยว่เฟิงเกอจะเป็เด็กดีทันที
ทว่า เพื่อจะสลัดเอาความกระอักกระอ่วนในใจนี้ออกไป เยว่เฟิงเกอจึงรีบร้อนวิ่งไปยังแผงขายของแห่งต่อไป
นางซื้อซาลาเปามาอีกสองลูกแล้วรีบยัดใส่ปากทันที
ม่อหลิงหานเฝ้ามองเยว่เฟิงเกอกินซาลาเปา แก้มทั้งสองข้างพองออก ปากจิ้มลิ้มยื่นน้อยๆ ทำให้เขาอดอยากก้มหน้าลงไปจุมพิตสักทีไม่ได้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้