บทที่ 5: หัวใจศิลาและวาสนาที่ถูกซ่อน
ในโพรงถ้ำที่มืดมิดและคับแคบ ความเงียบงันถูกทำลายลงด้วยเสียงลมหายใจที่แ่เบาของคนสองคน และเสียงการสั่นะเืที่เป็จังหวะสม่ำเสมอ...
ตุบ...ตุบ...ตุบ...
เย่เฟิงยังคงซ่อนตัวอยู่ในเงามืด เขาพยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บงำกลิ่นอายของตนเองไว้ เขาััได้ว่าศัตรูทั้งสองยังคงวนเวียนค้นหาอยู่ด้านนอก แม้จะยังหาไม่พบ แต่ก็เป็เพียงเื่ของเวลาเท่านั้น
เขาก้มลงมองสตรีในอ้อมแขนอีกครั้ง ใบหน้าของนางซีดขาวยิ่งขึ้น และร่างกายก็เริ่มร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ าแภายในของนางกำลังกำเริบอย่างหนัก หากไม่รีบทำการรักษา นางอาจจะตายได้ในอีกไม่กี่ชั่วยามข้างหน้า
การรอคอยอยู่เฉยๆ คือความตาย...
เขาหันไปมองยังส่วนที่ลึกที่สุดของโพรงถ้ำ ที่ซึ่งเป็ต้นกำเนิดของเสียงหัวใจเต้นอันน่าประหลาดนั้น...มันคือความเสี่ยง...แต่มันก็อาจจะเป็ทางรอดเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขาในตอนนี้
หลังจากชั่งใจอยู่เพียงครู่เดียว ความเด็ดเดี่ยวในแววตาของเขาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาค่อยๆ วางร่างของเซี่ยหนิงฉางลงอย่างนุ่มนวลที่สุด แล้วจึงค่อยๆ คลานลึกเข้าไปในโพรงถ้ำที่มืดมิดนั้น
ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไหร่ การสั่นะเืก็ยิ่งชัดเจนและรุนแรงขึ้นเท่านั้น และเขาก็เริ่มััได้ถึงไอพลังงานที่หนาแน่นและอบอุ่น...มันเป็พลังงานธาตุดินที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง!
ในที่สุด...โพรงที่คับแคบก็เปิดออกสู่ห้องโถงเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ และภาพที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าก็ทำให้เย่เฟิงต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง!
ใจกลางห้องโถงเล็กๆ แห่งนั้น มี "ศิลา" ขนาดมหึมาก้อนหนึ่งฝังอยู่ในพื้นดิน มันมีรูปร่างคล้ายกับหัวใจขนาดั์ และกำลังส่องแสงสีเหลืองนวลออกมาจางๆ ทั่วทั้งผิวของมันมีเส้นสายพลังงานที่ดูคล้ายกับเส้นเืวิ่งวนไปมา และที่น่าอัศจรรย์ที่สุดคือ...มันกำลัง "เต้น" เป็จังหวะสม่ำเสมอ "ตุบ...ตุบ..." พร้อมกับปลดปล่อยพลังงานธาตุดินอันบริสุทธิ์ออกมา!
"หัวใจแก่นปฐี!"
ชื่อของสมบัติ์ในตำนานปรากฏขึ้นในหัวของเขา! นี่คือแก่นแท้ของพลังงานธาตุดินที่เกิดจากการสะสมพลังของโลกมานานนับหมื่นนับแสนปี มันคือสมบัติล้ำค่าที่แม้แต่ยอดฝีมือระดับสูงก็ยังต้องต่อสู้แย่งชิงกันจนเืไหลนองเป็สายน้ำ!
เย่เฟิงรู้สึกได้ว่าเคล็ดกายาวชิระและพลังัในร่างของเขากำลังสั่นสะท้านด้วยความยินดี ราวกับได้พบกับอาหารอันโอชะที่สุด!
แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นบางสิ่ง...ที่ข้างๆ หัวใจแก่นปฐีก้อนนั้น มีโครงกระดูกร่างหนึ่งนั่งพิงผนังถ้ำอยู่ โครงกระดูกนั้นแห้งกรังจนแทบจะกลายเป็ส่วนหนึ่งของหินไปแล้ว บ่งบอกว่าเ้าของร่างได้ตายจากไปนานมากแล้ว และในมือของโครงกระดูกนั้น...กำลังกำ "ถุงมิติ" ที่เก่าคร่ำคร่าใบหนึ่งเอาไว้แน่น!
โอกาสวาสนา! นี่คือโอกาสวาสนาครั้งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย!
เย่เฟิงไม่ได้ปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำ เขายังคงระแวดระวังภัยอยู่ตลอดเวลา เขาค่อยๆ คลานเข้าไปใกล้โครงกระดูกนั้นอย่างช้าๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีค่ายกลหรือกับดักใดๆ ซ่อนอยู่ เขาจึงโค้งคำนับให้โครงกระดูกนั้นครั้งหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ หยิบถุงมิติออกจากมือที่แห้งกรังนั้นอย่างแ่เบา
เขาเปิดมันออกอย่างรวดเร็ว...ของที่อยู่ภายในมีไม่มากนัก
สิ่งแรกคือขวดยาหยกขาวเล็กๆ สองขวด เมื่อเปิดออกดูก็พบ "ยาเม็ดหยกเขียวรักษาชีวิต" ซึ่งเป็โอสถชั้นเลิศที่ใช้ในการรักษาอาการาเ็ภายใน! นี่คือสิ่งที่เขา้ามากที่สุดในตอนนี้!
สิ่งต่อมาคือม้วนหนังอสูรเก่าๆ ม้วนหนึ่ง เมื่อคลี่ออกดูก็พบว่าเป็บันทึกของเ้าของโครงกระดูก ซึ่งเรียกตัวเองว่า "นักพรตพเนจร" เขาได้เล่าว่าตนเองาเ็สาหัสจากการต่อสู้กับอสูรร้าย และได้หนีตายมาพบกับสถานที่แห่งนี้โดยบังเอิญ เขาพยายามจะใช้พลังของหัวใจแก่นปฐีเพื่อรักษาตัว แต่ก็สายเกินไปและได้จบชีวิตลงที่นี่ในที่สุด...
ในตอนท้ายของบันทึก เขได้ทิ้งเคล็ดวิชาเล็กๆ ที่เขาเชี่ยวชาญที่สุดไว้...มันคือ "เคล็ดวิชาตัวเบา: ก้าวไร้เงา" เป็วิชาที่เน้นการเคลื่อนไหวที่เงียบเชียบและกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลอบโจมตีและหลบหนี!
และของชิ้นสุดท้าย...คือหินปราณชั้นกลางเพียงแค่สามก้อนเท่านั้น
แม้ของจะมีไม่มากนัก แต่ทุกชิ้นล้วนเป็สิ่งที่เย่เฟิง้าอย่างยิ่งในตอนนี้!
แต่ในขณะที่เขากำลังจะเก็บของทั้งหมด...
"ข้าััได้ถึงพลังงานประหลาดจากแถวนี้! มันต้องมาจากในรอยแยกนี่แน่ๆ!"
เสียงอันเกรี้ยวกราดของหลี่เฟยดังขึ้นจากด้านนอกโพรงถ้ำ! พวกมันหาเจอแล้ว!
เย่เฟิงหน้าเปลี่ยนสีในทันที! เขารีบเก็บของทั้งหมดเข้าถุงมิติของตนเอง แล้วรีบคลานกลับไปยังจุดที่ซ่อนตัวอยู่เดิม
เขามองไปยังปากทางเข้าของโพรงที่คับแคบ...เงาร่างของบุรุษสองคนกำลังปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ
เขา...และสตรีปริศนาที่หมดสติ...ได้ถูกต้อนจนมุมอย่างแท้จริงแล้ว!
(จบตอนที่ 5)