สิ้นเสียงคำสั่ง ทหารลับทุกคนก็เดินเข้ามา ล้อมรอบเวินซีและสืออีไว้อย่างแ่า พลางใช้คมดาบจี้ไปที่ทั้งสองคน
“หลิงอี เ้าหมายความเช่นไร? ของพวกนี้เป็ของปลอมหรืออย่างไรกัน?”
สืออีกวาดตามองทุกคน สุดท้ายก็หันไปมองหลิงอี
ส่วนเวินซี ในเวลานี้นางเตรียมพร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ
แม้ว่าจะมีทหารลับจำนวนมากและยากที่จะเอาชนะ แต่ที่นี่คือถ้ำซึ่งอากาศถ่ายเทได้ช้า ผงพิษสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือหากมีเสียงต่อสู้ จ้าวต้านก็น่าจะได้ยินและเข้ามาสมทบได้
“ของน่ะจริง แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ข้ายังเชื่อเ้ามิได้ พวกเ้าต้องรออยู่ในถ้ำด้วยกันก่อน เมื่อนายท่านกลับมา ข้าค่อยถามเขาให้ชัดเจน แล้วค่อยว่ากันต่อ”
“จับพวกเขา”
หลิงอีออกคำสั่งอย่างเฉยชา ทหารลับก็ตั้งท่าจะเข้าไป
“หากนายท่านไม่กลับมาเป็เดือนล่ะ? เ้าจะขังข้าไว้เป็เดือนอย่างนั้นหรือ? ข้ายังมีภารกิจที่ต้องทำ ถึงเวลานั้นคนที่จะถูกทำโทษก็คือเ้า มิใช่ข้าล่ะ”
แม้ในใจของสืออีจะเริ่มร้อนรน แต่สีหน้าและการแสดงออกของเขายังคงรักษาความสงบนิ่งไว้ได้
คำพูดของเขาได้ผล หลิงอียกมือขึ้นให้ทหารลับหยุดลง ก่อนจะเอ่ยถาม
“ภารกิจอันใด?”
“นายท่านบอกว่าภารกิจนี้สำคัญมาก จะให้ผู้ใดรู้มิได้”
“...” สายตาของหลิงอีมืดลง
บรรยากาศในถ้ำแปลกไป ทุกคนยืนนิ่งอยู่กับที่
เวินซีเหลือบมองทุกคน แล้วค่อยๆ ดึงชายเสื้อของสืออี “นำยาแก้พิษมาให้ข้า”
สืออีพยักหน้า หยิบขวดยาออกจากอกยื่นให้นาง
เวินซีเปิดขวดยาต่อหน้าทุกคน แล้วเทยาเม็ดหนึ่งออกมาให้หลิงอีดู
หลิงอีมองไปที่ฝ่ามือของนางด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
ยาเม็ดนี้เป็ยาที่ทุกคนล้วนได้ทาน ทันทีที่ได้เห็นก็รู้ว่าคือสิ่งใด
“ข้าเชื่อว่าทุกท่านคงเคยเห็นสิ่งนี้แล้ว ยาเม็ดนี้เพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้พวกเ้าเชื่อว่าพวกเราได้รับคำสั่งมา? นี่เป็ของที่นายท่านพกติดตัวตลอด คนทั่วไปเข้าใกล้นายท่านยังยาก หากได้ยานี้มายิ่งเป็ไปมิได้”
“นายท่านมิได้หายตัวไป เพียงแค่วันนั้นเขาเผชิญหน้ากับแม่ทัพต้าน ทั้งสองต่อสู้กันและได้รับาเ็ แต่แม่ทัพต้านอาการสาหัสกว่าเขา”
“นายท่าน้าใช้โอกาสนี้ทำภารกิจให้สำเร็จ จึงตัดสินใจไล่ตามเขาไปก่อน ด้วยเหตุนี้จึงไม่ทันได้บอกพวกเ้า”
“ข้ากับสืออีได้พบนายท่านโดยบังเอิญตอนที่กลับมาต่อชีวิต ถึงได้ยานี้มา”
“พิษในตัวพวกเ้าหลายคนจะออกฤทธิ์ในวันพรุ่งใช่หรือไม่? ข้าได้รับคำสั่งมาให้แจกจ่ายยาแก่พวกเ้า”
เวินซีเอ่ยปาก เมื่อเห็นทหารลับมีสีหน้าครุ่นคิด นางก็มั่นใจว่าแผนนี้จะสำเร็จ
“หากยังกังวลกัน เช่นนั้นยาเม็ดแรกก็ให้เขาทานก่อนดีหรือไม่?”
เวินซีหันกลับมาแล้วยื่นยาไปให้สืออี “หากข้าจำไม่ผิด วันพรุ่งจะเป็วันที่พิษของเ้าจะแผลงฤทธิ์ ทานสิ”
สืออีพยักหน้าและกลืนยาเข้าไปโดยไม่ลังเล
ทั้งสองแสดงได้ดีมาก ทำเอาทหารลับทุกคนชะงักงัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อทุกคนแน่ใจว่าสืออีมิได้มีความผิดปกติใด แต่ละคนจึงค่อยๆ คลายความสงสัย
“พิษของข้าจะออกฤทธิ์ในวันพรุ่ง ให้ข้าเม็ดหนึ่งได้หรือไม่?”
“ข้าก็เช่นกัน ข้าเอาด้วย”
“ของข้าวันมะรืน หากนายท่านยังมิกลับมา จะให้ข้าด้วยได้หรือไม่”
......
ทหารลับแย่งกันพูดเพราะกลัวว่ายาจะไม่พอ ในตอนหลังก็เบียดกันจนเริ่มมีการแย่งชิง หลิงอีเองก็เชื่อได้สนิทใจในตอนที่เห็นเม็ดยา เขาจึงเดินออกไปจากวงล้อม และปล่อยให้ทหารลับแย่งยากันต่อไป
“ไม่ต้องแย่งกัน มีเพียงพอสำหรับทุกคน”
“อย่าแย่งกัน ต่อแถวเข้ามา”
......
เวินซีถูกพวกเขาเบียดจนแทบยืนไม่อยู่ นางเอ่ยปากพูดอย่างเ็าแต่ก็ไม่เป็ผล บางคนถึงกับยื่นมือเข้ามาตรงหน้านาง
“สืออี” นางพูดขอความช่วยเหลือ
สืออีพยักหน้า แล้วไล่ต้อนเหล่าทหารลับออกไป
“ยามีเพียงพอสำหรับทุกคน อย่าได้แย่งกัน หากยาหล่นลงพื้นจนใช้มิได้ เช่นนั้นจะแย่เอา”
“หากไม่ฟังและแย่งกันเข้ามา วันนี้ข้าจะไม่แจกยาให้ผู้ใดทั้งนั้น”
ในที่สุดคำพูดประโยคนี้ก็ได้ผล ทหารลับพากันสงบลง ค่อยๆ ต่อแถวกันอย่างเป็ระเบียบ แต่ก็ยังมีบางคนที่บ่นด่าออกมาบ้าง
เวินซีมองดูสถานการณ์ แล้วใช้โอกาสตอนที่ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น แอบเทผงพิษใส่เข้าไปในขวดยาอย่างรวดเร็ว
นางมองไปรอบๆ อย่างระวังตัว เขย่าขวดยาเบาๆ จนกระทั่งผงพิษและยาผสมเข้ากันดี จึงยิ้มอย่างพอใจ
“ต่อแถวให้ดี ข้าจะแจกยาให้ทุกคน” นางเดินออกมาจากด้านหลังของสืออี แล้วเอ่ยอย่างมีความสุข
“ได้ รีบหน่อย”
“เร็วเข้า”
......
ทหารลับมองดูขวดยาอย่างไร้ความอดทน
เวินซีเริ่มแจกยาให้ทุกคน มิได้ตกหล่น
“เดี๋ยว เ้ามิได้เหลือเวลาอีกอาทิตย์หนึ่งหรือ? เข้ามาต่อแถวด้วยเหตุใดกัน?”
“ข้าล้อมคอกก่อนวัวหาย หากมันแผลงฤทธิ์ล่วงหน้าล่ะ?”
“ยาพิษนี้มีการปรุงขึ้นมาอย่างดี จะแผลงฤทธิ์ล่วงหน้าได้เช่นไร ออกไปเสีย เอายาคืนมา ให้คนที่มีความจำเป็มากกว่าเ้า”
“ไม่มีทาง ยาตกอยู่ในมือข้าแล้วจะคืนให้ได้เช่นไร เ้ามาแย่งสิ”
“เ้าบังคับให้ข้าทำเองนะ”
“ข้ากลืนไปแล้ว”
“เ้า...”
......
เพราะว่ามีทหารลับที่พิษในตัวยังเหลือเวลาแผลงฤทธิ์อีกนานมาแอบรับยา พวกเขาจึงทะเลาะกัน
แต่เวินซีมิได้สนใจ ผู้ใดมารับยา นางก็ให้ทั้งนั้น
ไม่นานนักยาในขวดก็หมดลง
เวินซีมองดูพวกทหารลับมีความสุขที่ได้รับยาไป นางก็โค้งริมฝีปากขึ้น
หากนางมีเวลาเตรียมตัว ก็ตั้งใจว่าจะให้ยากับทหารลับในถ้ำทุกคน แต่ตอนนี้ก็ถือว่าไม่เลว เพราะกว่าเจ็ดในสิบของทหารลับทั้งหมดได้ทานยาไปแล้ว
พวกคนเหล่านี้ เกรงว่าต่อไปจะต้องเชื่อฟังเพียงนางล่ะนะ
พิษตัวนี้เพียงแค่เจอกับผงเครื่องหอมก็จะแผลงฤทธิ์ ในระยะแรกจะเ็ปรวดร้าวไปถึงหัวใจ จากนั้นร่างกายจะมีรอยแผลหนองปรากฏ ถึงแม้จะไม่ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต แต่ก็จะเ็ปจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ นอกเสียจากต้องใช้ยาถอนพิษ
“ไปกันเถิด”
เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว เวินซีก็หันไปมองสืออี
สืออีพยักหน้า ทั้งสองจึงเดินไปที่ทางออก ทุกคนมองดูพวกเขาจากไปโดยมิได้ขัดขวาง
จ้าวต้านที่หลบอยู่ในมุมมืดที่ปากถ้ำร้อนรนมาก เนื่องด้วยไม่เห็นสถานการณ์ภายในถ้ำ
หากไม่กลัวว่าจะเป็การทำลายแผนของเวินซี เขาคงจะพุ่งเข้าไปนานแล้ว
ในที่สุดก็ได้เห็นเวินซีออกมา เขาจึงรีบเข้าไปหาทันทีแล้วมองดูนางทั่วทั้งร่างกาย เมื่อแน่ใจว่านางมิได้รับาเ็ จึงวางใจลงได้
“เป็เช่นไรบ้าง?” เขาเอ่ยถามเสียงเบา
แม้จะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของนางและคาดเดาผลลัพธ์ได้แล้ว แต่เขาก็ยังอยากได้ยินจากปากของนาง
“ราบรื่นมาก” เวินซียิ้ม
“ดีแล้วล่ะ เรากลับไปพักผ่อนกันเถิด”
“อื้ม จริงสิสืออี กลับไปแล้วอย่าลืมเอาผ้าห่มไปให้หลานเยว่เฉิงด้วยล่ะ”
“ขอรับ คุณหนูเวินซี” สืออีตอบอย่างยินดี
การที่นางให้เขาไปพบหลานเยว่เฉิงเพียงคนเดียว เป็การแสดงถึงความเชื่อใจที่นางมีต่อเขา
ทหารลับของจ้าวต้านพากันมาซ่อนตัวอยู่บริเวณทางเข้าถ้ำ จากนั้นทั้งสามคนก็กลับไปถึงร้านเครื่องหอมอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เหนื่อยมาทั้งวัน เมื่อกลับถึงร้านเวินซีก็ไปนอนพักผ่อนบนเตียงทันที
ตรงกันข้าม จ้าวต้านมิได้นอนหลับเลย เขาเปิดหน้าต่าง นั่งอยู่บนโต๊ะหนังสือแล้วมองออกไปด้านนอกตลอด
จนถึงกลางดึก จ้าวซานได้เข้ามาในห้อง
เมื่อเห็นจ้าวต้าน เขาก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที
“นายท่าน เื่ที่ท่านสั่ง ข้าได้ไปทำแล้วขอรับ ติดต่อผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านจำนวนหนึ่งแล้วขอรับ”
“แต่ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่หายตัวไป เพราะะเืใจมากหลังจากที่ได้ข่าวว่าท่านตายไปแล้ว จึงยังติดต่อมิได้”
“อื้ม เื่นี้ค่อยเป็ค่อยไปได้ เรายังมีเวลา ต้วนจิงเย่อยู่ที่ใดแล้ว?” จ้าวต้านถามอย่างเ็าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม