เช้าวันรุ่งขึ้น
ภายในเมืองปาหวาง ผู้คนต่างพากันยืนออที่ตลาดบริเวณประตูทิศตะวันออกผมถือดาบหนามที่เพิ่งนำไปซ่อมมุ่งหน้าออกนอกเมือง เช้านี้ผมต้องอัปให้ถึงเลเวล 18 ให้ได้จากนั้นก็รีบเก็บให้ถึงเลเวล 20 โดยเร็วที่สุดจึงจะสามารถเปลี่ยนอาชีพได้หลังจากผู้เล่นเปลี่ยนอาชีพแล้วจะสามารถเรียนรู้สกิลของอาชีพนั้นๆ ได้เช่นอาชีพฮีลเลอร์ พวกฮีลเลอร์ฝึกหัดจะสามารถเรียนรู้สกิลการห้ามเื สกิลบทกวีแต่หลังจากเปลี่ยนอาชีพฮีลเลอร์จะสามารถเรียนรู้สกิลรักษาชีวิตและสกิลการไหลเวียนของเืสำหรับสกิลรักษาชีวิตเลเวล 1 จะฟื้นฟู HP ได้ 150 พอยต์ ส่วนเลเวล 2 จะฟื้นฟูได้300 พอยต์ซึ่งถือว่ามีความสามารถในการเพิ่มเืได้มากกว่าสกิลการห้ามเืถึง 3 เท่า!
เมื่อออกจากประตูเมืองแล้วผมก็สำรวจแผนที่เนื่องจากผมไม่สามารถเก็บเลเวลโดยไม่มีจุดมุ่งหมายได้่เวลาที่เก็บเลเวลผมจะสะสมสมุนไพรเลเวล 3 สำหรับหลอมโอสถเลเวล 3 ไปด้วยซึ่งยาเลเวล 3 ที่ผู้เล่นหลอมจะสามารถฟื้นฟู HP ได้ 200 พอยต์ ในขณะที่ยาเลเวล 3 จาก NPC ฟื้นฟูได้เพียง 150 พอยต์อีกทั้งยังถูกขายในราคาที่แพงถึง 5 เหรียญเงินต่อขวดดังนั้นยาที่ได้รับการหลอมจึงเป็สิ่งที่ผู้คน้า ผมจึงต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ั้แ่ที่เยว่ชิงเฉี่ยนซื้อยาของผมเมื่อคราวนั้นผมก็ไม่เห็นว่าในเมืองปาหวางจะมีใครที่มีสกิลการหลอมโอสถถึงเลเวล 3 เลยสักคน บางทีผมอาจเป็คนแรกก็ได้นี่แหละจึงเป็โอกาสอันดีในการทำธุรกิจของผม
……
[โอสถดวงดาราเจ็ดดวง] :ฟื้นฟู HP 200 พอยต์ (ใช้หญ้าดวงดาราเจ็ดดวง 3 ชิ้น น้ำยาปลุกจิติญญา 3 ขวด เตาหลอม 1 ใบ)
โอสถเลเวล 3 ใช้วัตถุดิบหลักคือหญ้าโอสถดวงดาราเจ็ดดวงซึ่งมีอยู่ทั่วป่าฝน มีหุบเขาเล็กๆชื่อว่าหุบเขาดวงดาราเจ็ดดวง หากไม่มีอะไรผิดแผกไปจากเดิมที่นั่นจะมีหญ้าดวงดาราเจ็ดดวงเยอะที่สุด และอยู่ห่างจากเมืองหลักออกไปประมาณ 30นาที สถานที่ที่ห่างไกลขนาดนั้นผู้เล่นทั่วไปต่างก็ไม่เต็มใจจะเดินทางไป แต่ถ้าจะเดินทางไปจริงๆก็คงต้องไปเป็กลุ่ม เพราะหากไปเพียงลำพังก็มีโอกาสถูกมอนสเตอร์โจมตีระหว่างทางได้
สายลมพัดผ่านป่าจนใบไม้พลิ้วไปมาทำให้เกิดเสียงซ่าๆผมกำลังเดินผ่านเส้นทางเล็กๆ เข้าไปในป่า ตอนนี้ผมเลเวล 16 แล้วและมาพร้อมกับการสวมใส่ไอเท็ม ตอนนี้ค่าสถานะของผมคือ HP 250 พอยต์ และค่าการโจมตี 117 พอยต์คิดดูแล้วก็น่าจะพอให้สามารถเดินทางไปยังหุบเขาดวงดาราเจ็ดดวงได้
ระหว่างทางผมพยายามหลีกเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากับเ้านกขนสีเงินเลเวล 15 ในเวลานี้ผมแบกดาบหนามไว้บนหลังท่าทางจึงดูน่าขำไม่น้อย เพราะแทบจะไม่มีผู้เล่นคนไหนที่สวมใส่เสื้อคลุมแต่ดันแบกดาบหนักให้เห็นเลยสักคน
หลังจากเดินอยู่นาน 20 กว่านาที เมื่อผมเงยหน้าก็เจอกับปากทางเข้าหุบเขามรกตซึ่งบนแผนที่ระบุไว้ว่าเป็หุบเขาดวงดาราเจ็ดดวง ที่นี่แหละ!
ขณะที่ผมกำลังวิ่งไปข้างหน้า ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังมาจากในป่า“ถึงหุบเขาดวงดาราเจ็ดดวงแล้ว นี่เป็กิจกรรมของปาร์ตี้ [1] เราครั้งแรกเลยนะห้ามทำพลาดเด็ดขาด!”
มีคนมา หลบก่อนดีกว่า!
ผมรีบะโไปหลบหลังพุ่มไม้ และก็เป็อย่างที่คิดไว้จริงๆมีกลุ่มคนกำลังเดินออกจากป่า ทั้งหมดมีจำนวน 10 คน นำหน้าโดยหัวหน้าปาร์ตี้ที่มาพร้อมกับดาบยาวบนตัวสวมเสื้อเกราะสีเทามันวาว... ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไอ้คนที่ผมคุ้นเคยเป็อย่างดีนั่นเอง เ้าซีฉู่ป้าหวางนักดาบฝึกหัด เลเวล 19!ด้านหลังของเ้านั่นดูเหมือนจะเป็คนของมันและหนึ่งในนั้นก็มีไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆ สิวะรวมอยู่ด้วยนอกจากนี้ยังมีเอลฟ์จันทราอาชีพนักธนู 2 คนซึ่งกำลังลอยอยู่กลางอากาศห่างออกไปประมาณ 10 กว่าเมตรสำรวจพื้นที่แถวนี้อยู่
ผมแอบดูสถานการณ์เงียบๆ
บนแขนของเ้าซีฉู่ป้าหวางมีเงาสีเงินลอยอยู่ซึ่งก็คือเ้านกขนสีเงินที่ซื้อไปจากผมนั่นเองตอนนี้มันเลเวล 16 แล้วดูเหมือนว่าการอัปเวลของเ้านกนี่จะรวดเร็วเหมือนกันนะเนี่ย
……
“นี่เสี่ยวจู [2] นายแน่ใจนะว่าในหุบเขาจะมีบอสจริงๆน่ะ?” ซีฉู่ป้าหวางถาม
ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆ สิวะพยักหน้า “แน่ใจสิพี่ใหญ่เมื่อเช้าประมาณ 6 โมงเพื่อนของผมถูกบอสจัดการที่นี่แหละ มอนสเตอร์ของหุบเขาดวงดาราเจ็ดดวงมีเลเวลสูงมากพวกเราก็ต้องระวังตัวมากๆ อีกอย่างฮีลเลอร์ที่เราพามาก็ถือว่าน้อยไปนิด”
“หืม?” ซีฉู่ป้าหวางมองฮีลเลอร์ 2 คนที่อยู่ข้างๆ “ฮีลเลอร์ 2 คนนี่ยังน้อยอีกเหรอ?”
ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆ สิวะยิ้ม “จะพูดยังไงดีล่ะเอาเป็ว่าถ้า้าจะฆ่าบอส ฮีลเลอร์มีความจำเป็สูงมากเพราะการห้ามเืจะต้องเกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที ไม่งั้นคนที่ได้รับาเ็อาจตายจากการเสียเืได้ผมเห็นบันทึกของพวกพี่คราวก่อนฮีลเลอร์ที่ชื่อเซียวเหยาจื้อจ้ายนั่นถือว่าห้ามเืได้ยอดเยี่ยมมากถ้าฮีลเลอร์สาวสวยของเรา 2 คนนี้ควบคุมความสามารถได้แบบเขาละก็ต่อให้ฆ่าบอสเลเวล 20 ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน”
ซีฉู่ป้าหวางหัวเราะพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต“หยุดพูดถึงเ้านั่นสักที ถ้าฉันเจอมันอีกครั้งฉันจะตัดหัวมันให้กระเด็นหลุดจากบ่า ไอ้บ้านั่นดันแย่งดาบหนามไปแถมเป็ดาบที่มีพลังโจมตีตั้ง 35พอยต์ ดูดาบในมือฉันตอนนี้สิ มีแค่ 21 พอยต์เอง!”
ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆ สิวะถอนหายใจ “พี่ใหญ่หากเราอยากจะเป็ใหญ่ที่สุดในเมืองปาหวางจริงๆ ละก็เราจำเป็ต้องเปิดรับสมาชิกที่มีศักยภาพเหมือนเซียวเหยาจื้อจ้ายนั่นนะแม้เขาจะไม่ได้มีความสามารถระดับยอดเยี่ยมและเหนือกว่าคนอื่นๆแต่เขาก็สามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อไปถึงจุดนั้นได้ พี่เองก็น่าจะรู้ว่ากิลด์ปรากกิลด์หลงเสียงต่างก็มาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองปาหวางศัตรูของเราถือว่ามีเยอะมากจริงๆ ถ้าดูจากจำนวนคน 200 กว่าคนของพวกเราดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอจะสู้กับพวกนั้นได้หรอกนะ”
ซีฉู่ป้าหวางพยักหน้า “อืม ฉันจะระวังก็แล้วกันแต่เ้าเซียวเหยาจื้อจ้ายนั่นฉันจะต้องจัดการมันให้ได้ คอยดู!”
ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆ สิวะ “...”
……
กลุ่มคนพวกนั้นเดินเข้ามาในหุบเขา ผมที่แอบมองจากไกลๆยังเห็นเงาของคนพวกนั้นปรากฏอยู่ ในขณะที่เอลฟ์จันทราอาชีพนักธนูกำลังสำรวจบริเวณรอบๆซึ่งเป็เื่ง่ายมากที่เขาจะเห็นที่ซ่อนตัวของผมผมรู้ดีว่าถ้าต้องเผชิญหน้ากับดาบของเ้าซีฉู่ป้าหวางคงไม่มีทางเอาชนะเ้านั่นได้แน่ๆ แถมตอนนี้อีกฝ่ายยังมีพวกอีกตั้ง 9 คนขืนสู้ก็เท่ากับรนหาที่ตายเปล่าๆ
หลังจากรออยู่ 10นาทีผมก็ถือดาบหนามมุ่งหน้าไปยังหุบเขาดวงดาราเจ็ดดวงแผนที่ของหุบเขาแห่งนี้ใหญ่มากถ้าลัดเลาะไปเก็บหญ้าดวงดาราเจ็ดดวงก็ไม่น่าจะเป็อะไรก็เหมือนกับคำโบราณที่กล่าวไว้ว่า ‘ออกนอกบ้านแม่ให้ออกไปทำอะไรก็ทำเก็บประสบการณ์ให้เยอะๆ แบบนี้แหละถึงจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว!’
ผมเหยียบก้อนกรวดกองหนึ่งก่อนเดินเข้าไปในหุบเขา เมื่อเดินเข้าไปแล้วพอเงยหน้าก็พบว่าภายในหุบเขามีลมเย็นๆ พัดผ่านอีกทั้งยังมีมอนสเตอร์เลเวลสูงจำนวนไม่น้อยห่างออกไปไม่กี่เมตรผมเห็นหมาป่าตัวใหญ่ซึ่งถูกปกคลุมด้วยขนสีแดงแถมยังมีเลเวลสูงอีกด้วย
[หมาป่า] (มอนสเตอร์ทั่วไป)
เลเวล:18
พลังโจมตี:77-100
พลังป้องกัน:30
HP:500
สกิล: [กรงเล็บฝ่าวายุ(LV-2) ]
แนะนำมอนสเตอร์ :หมาป่าเป็สัตว์ร้ายที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารโดยปกติแล้วมันมักจะฆ่ามนุษย์และสัตว์ตัวอื่นๆแม้ผู้พิทักษ์ของเมืองปาหวางจะส่งกองทัพมาจัดการกับพวกมันแต่เ้าหมาป่าพวกนี้ก็ยังคงออกมาอาละวาดบริเวณรอบเมืองปาหวาง
……
จากที่เห็นสถานะของมอนสเตอร์ตัวนี้ทำให้ผมตกตะลึงไปชั่วขณะเ้าสัตว์ชนิดนี้ไม่ควรจะไปโจมตีมัน ผมควรเดินอ้อมไปจะดีกว่า การโจมตี -100 พอยต์เป็อะไรที่ผมไม่สามารถป้องกันได้ดังนั้นผมจึงตัดสินใจกระชับดาบหนามในมือก่อนจะเดินข้ามพุ่มไม้ไประหว่างที่เดินลัดเลาะไปทางขวาเพื่อเข้าไปในหุบเขาผมก็พยายามหลบหลีกมอนสเตอร์นับร้อยที่อยู่ในป่า
ไกลออกไปบนพื้นดินซึ่งเต็มไปด้วยหญ้าเปิดโล่งเ้าซีฉู่ป้าหวางและคนอื่นๆ ก็กำลังจัดการกับมอนสเตอร์อยู่ซีฉู่ป้าหวางเปล่งเสียงคำรามด้วยความโกรธพร้อมกับดาบในมือที่สาดประกายแสงสีทองถึงหกสายสวบๆ! ก่อนจะโจมตีเ้าหมาป่าอย่างต่อเนื่องถึงสองครั้งจนทำให้เืของมันลดลงไปเกือบ -300พอยต์ ให้ตายเถอะพระเ้า นักดาบที่ใช้พลังอย่างสุดกำลังนี่เจ๋งดีแฮะโดยเฉพาะสกิลโจมตีต่อเนื่องของเ้านั่นช่างสวยงามและทรงพลังจริงๆ น่าอิจฉาชะมัด!
ขณะเดียวกันเมื่อหันกลับมาดูสกิลของตัวเองนอกจากสกิลดาบแห่งความโกลาหลแล้ว ถ้า้าสกิลโจมตีหลักๆก็ทำได้เพียงต้องสร้างมันขึ้นเองเท่านั้น แต่การสร้างสกิลก็ไม่ใช่เื่ง่ายเลยหากไม่มีความเข้าใจรวมถึงการปฏิบัติก็ไม่สามารถสร้างมันได้อีกทั้งดูเหมือนว่าในเกมตอนนี้จะมีแค่ 2-3 คนเท่านั้นที่สร้างสกิลของตัวเองได้
แต่ก็ช่างมันเถอะ หาเงินก่อนดีกว่า มองในแง่ดีถึงอย่างไรตอนนี้ก็ถือเป็่นาทีทองของผมนั่นแหละ...
กลุ่มของพวกซีฉู่ป้าหวางยังคงเก็บเลเวลอย่างต่อเนื่องขณะที่ผมเดินไปทางทิศตะวันตกของหุบเขาเพื่อเก็บหญ้าที่พื้นเงียบๆ เวลาผ่านไปไม่นานบนหินูเาตรงหน้าก็เกิดแสงแวววาวจนทำให้ผมใจเต้นแรง เยี่ยมไปเลยในที่สุดผมก็เจอหญ้าดวงดาราเจ็ดดวงแล้ว ผมถือดาบแล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็วเป็ไปอย่างที่คิดไว้เลย ระหว่างหินูเามีสมุนไพรที่ส่องแสงเจ็ดสีอยู่ตรงหน้าลักษณะเหมือนผลองุ่นที่กำลังแขวนอยู่ มันคือหญ้าดวงดาราเจ็ดดวงเลเวล 3 จริงๆ ด้วย!
หลังจากเก็บหญ้าใบไม้สีเงินได้จำนวนมากสกิลเก็บสมุนไพรของผมก็เพิ่มเป็เลเวล 3 ในที่สุด ผมหยิบพลั่วขึ้นมาขุดรากของหญ้าดวงดาราอย่างระมัดระวังซึ่งนี่คือหลักการพื้นฐานของการรวบรวมสมุนไพรของเหลวที่อยู่ในพืชจะถูกทิ้งไว้ที่รากส่วนที่ถูกนำไปใช้ปรุงยาจึงเป็รากเสียส่วนใหญ่สำหรับองุ่นเจ็ดสีของหญ้าดวงดาราเจ็ดดวงตรงหน้านี้ ผมว่าจะขุดไปให้หมดเลย
หลังจากขุดทุกอย่างขึ้นมาแล้วเสียงจากระบบก็ดังขึ้น
ติ๊ง!
ข้อความจากระบบ : ยินดีด้วย ท่านได้เก็บสมุนไพร [หญ้าดวงดาราเจ็ดดวง]2 ชิ้นสำเร็จแล้ว
และเป็ไปอย่างที่คิดไว้ หลังจากเก็บสมุนไพรขึ้นมาผมก็ได้รับของถึง 2 ชิ้น อืม... งั้นขุดต่อไปดีกว่าดูเหมือนว่าแผนการขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ในการหลอมโอสถเลเวล 3 ของผมจะอยู่ไม่ไกลแล้ว!
……
ระหว่างที่ผมขุดรากของหญ้าดวงดาราเจ็ดดวงอยู่นั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นด้านหลังทำให้ผมต้องรีบหันกลับไปดู พระเ้าห่างจากด้านหลังผมไปประมาณ 10เมตรตอนนี้มีหมาป่าตัวหนึ่งโผล่ออกมา มันกำลังจ้องผมด้วยสายตาโกรธแค้นและพร้อมจะฆ่าผมให้ตาย!
ชิ้ง!ผมรีบชักดาบหนามก่อนจะเรียกใช้สกิลดาบแห่งความโกลาหลเพื่อโจมตีศัตรูสกิลนี้ช่วยเพิ่มพลังโจมตีขึ้นจากเดิม 10% ซึ่งทำให้พลังโจมตีเป็ 11.7 พอยต์ หลังจากที่มีการเพิ่มระดับให้สูงขึ้นรวมถึงไอเท็มต่างๆ พลังการโจมตี10% นี้ถือเป็สิ่งสำคัญและเป็สาเหตุที่ทำให้สกิลที่ถูกสร้างขึ้นเองอย่างสกิลดาบแห่งความโกลาหลของผมอยู่ในระดับSS ซึ่งระดับ SS นั้นต่ำกว่าระดับ SSSก็จริง แต่ก็ยังถือว่าเป็สกิลระดับเทพไม่ใช่หรือ?
ผมโจมตีไปที่หัวของเ้าหมาป่าทำให้เกิดเสียงกระทบดังขึ้น
“-142!”
ช่างเป็การโจมตีที่ยอดเยี่ยมจริงๆในเวลาเดียวกันกรงเล็บของเ้าหมาป่านั่นก็เกิดพลังงานสีแดงเืลอยขึ้นมาดูเหมือนว่าสกิลกรงเล็บฝ่าวายุ เลเวล 2 จะออกมาแล้วสินะ แล้วมันก็โจมตีที่ไหล่ของผมอย่างแรงโอ๊ย ปวดแสบปวดร้อนจริงโว้ย ช่างเป็ความรู้สึกราวกับมีก้อนอิฐอยู่บนไหล่อย่างไรอย่างนั้นในเวลาเดียวกันเืของผมก็ลดลงไป -119 พอยต์
ผมยืดแขนแล้วใช้สกิลห้ามเืเพื่อฟื้นฟูเื 100 พอยต์พร้อมกับโจมตีหมาป่าอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ดูเส้นทางการโจมตีของมันแล้วผมก็รีบหลบหลีกอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอเพราะผมยังไม่สามารถหลบการโจมตีได้ ทำให้เืของผมลดลงอีก -71 พอยต์
ผมหลบการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทว่ามีแต่ความล้มเหลวซ้ำซากในที่สุดผมจำต้องยอมรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นความเร็วของหมาป่าตัวนี้สูงมากจริงๆ อย่างไรก็เหนือกว่าผมอยู่ดี ความสามารถของผู้เล่นนั้นถูกจำกัดด้วยคุณสมบัติที่มีเอาเถอะ ไม่หนีแล้วดีกว่า ก้มหน้ายอมรับความจริงก็แล้วกัน
……
เสียงคำรามของหมาป่าดังขึ้นพร้อมกับร่างของมันที่ลงไปนอนกองอยู่บนพื้นก่อนที่เหรียญจะดรอปลงมา
ทันใดนั้นผมก็พบว่าคุณสมบัติของหญ้าดวงดาราเจ็ดดวงติดอยู่บนผาหินดังนั้นถ้าผมเดินผ่านบริเวณผาหินก็ถือว่าไม่เป็ไรแล้ว ตราบใดที่โชคของผมยังไม่หมดผมก็คงไม่ต้องไปเจอกับกลุ่มของเ้าซีฉู่ป้าหวางนั่น
………………………………………………………………………………………….
[1]ปาร์ตี้ คือการรวมกลุ่มกันของผู้เล่นเพื่อทำเควสต์หรือเก็บเลเวลร่วมกัน
[2]เสี่ยวจู แปลว่าเ้าหมูน้อย