มือที่ง้างดาบขึ้นสูงหยุดชะงักลงอย่างกะทันหันทันทีที่เห็นรูปโฉมของคนตรงหน้าอย่างเต็มตา เขาก็หน้าเสียไปในทันที
เพราะเขาเพิ่งเห็นใบหน้านี้เมื่อหนึ่งชั่วยามก่อนเท่านั้น
“ท่านเทพนักรบท่านชูดาบเยี่ยงนี้ หมายความว่าอย่างไร? ข้าเคยล่วงเกินท่านรึ?” คนตรงหน้ากล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเย็นเยียบ ทั้งน้ำเสียงก็เรียบเฉยแต่ไม่รู้ว่าเป็เพราะคิดไปเองหรือไร แต่ตู้เหว่ยกลับรู้สึกราวคนตรงหน้าพูดไปพลางพลางก็ประกายรอยยิ้มบางๆ ออกมาด้วย
ในที่สุดตู้เหว่ยก็ได้สติกลับมาจากความตกตะลึงในตอนแรกจากนั้นความละอายใจอันแสนมหาศาลก็ปะทุขึ้นมาแทนที่
ม้าใต้หว่างขาเป็สัตว์สายพันธุ์พิเศษที่มีชื่อเสียงของแผ่นดินต้าเว่ยทั้งยังเป็สิ่งที่เขาได้รับพระราชทานมาจากองค์จักรพรรดิหลังสร้างผลงานใหญ่ในาสำเร็จมันมีนามว่าปีกปักษา เป็หนึ่งในม้าที่ดีที่สุดของแผ่นดินเลยทีเดียวเดิมเขาคิดว่าด้วยฝีเท้าอันแสนรวดเร็วของเ้าม้าตัวนี้ เขาต้องนำหน้าฉู่ซีฟงและทิ้ง่ห่างจากฉู่ซีฟงได้อย่างแน่นอน ดังนั้น เมื่อพบว่ามีคนยืนอยู่เบื้องหน้าเขาก็ตัดความเป็ไปได้เื่ที่คนตรงหน้าออกไปทันที เขาจึงแสดงท่าทางน่าขันราวกับนกน้อยเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนายพรานเมื่อครู่ออกมานั่นเอง
แน่นอนเื่นี้นับเป็เื่ที่น่าอายเหลือเกินทั้งเื่ที่ม้าของเขาถึงที่หมายช้ากว่าฉู่ซีฟงที่เดินเท้าและเื่ท่าทีระแวดระวังเมื่อครู่ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครู่เขายังเกือบจะเหวี่ยงดาบใส่พวกเดียวกันอีกหากเื่ใดเื่หนึ่งไปถึงหูของเพื่อนทหารผู้ใดผู้หนึ่งเสียพวกเขาต้องเอาเื่นี้มาพูดวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากไปอีกนานแน่ๆ
ตู้เหว่ยเป็คนรอบคอบ ระมัดระวังแต่ก็กลัวเสียหน้ามากเช่นกัน
ดังนั้น เขาจึงฝืนข่มใจให้สงบแล้วหัวเราะแห้งๆ ออกมา แสร้งทำราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเลิกดูถูกความสามารถของคนตรงหน้าในที่สุด
ตู้เหว่ยครองตำแหน่งเทพนักรบแห่งแผ่นดินต้าเว่ยมานานกว่าสิบปีแล้วหากเขาเป็คนหยิ่งผยองเกรงว่าคงสิ้นชีพในดินแดนตะวันตกหรือาใดาหนึ่งในดินแดนทางเหนือไปเสียนานแล้วทว่าเขาไม่ได้ตาย เขายังมีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็พายุหิมะของดินแดนทางเหนือหรือทะเลทรายของดินแดนตะวันตก ก็มิอาจกลบฝังร่างของเขาลงได้แม้แต่ในเมืองฉางอันที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลและกับดักเขาก็ยังใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์แบบมาโดยตลอดทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ใช่คนประมาทหรือวู่วามเหมือนที่รูปลักษณ์ภายนอกแสดงให้เห็น
เื่การสืบคดีของเมืองหลานหลิงในครั้งนี้หาใช่งานที่ดีไม่ ไม่ว่าใคร หากยังพอจะมีสมองอยู่บ้างต่างก็ต้องคิดได้อยู่แล้วว่าคนที่กล้าทำเื่เช่นนี้ใกล้ตัวองค์จักรพรรดิแห่งแผ่นดินต้าเว่ยย่อมไม่ใช่คนที่จะสามารถต่อกรได้ง่ายๆ อยู่แล้ว การหายตัวไปของยอดนักปราบโจรโกซานหยุนกับโหวเยน้อยแห่งตระกูลกู่ เป็เครื่องยืนยันในข้อนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
แต่ต่อให้เขาจะรอบคอบหรือระวังตัวมากขนาดไหน แต่อย่างไรเสีย เขาก็เป็ถึงเทพนักรบแห่งแผ่นดินต้าเว่ยย่อมรู้สึกดูแคลนฉู่ซีฟง คนรุ่นหลังที่มีอายุน้อยกว่าตนถึงหนึ่งระดับอยู่เป็แน่แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีสมองที่เฉลียวฉลาดมากเช่นกันเพราะทันทีที่ได้ประจักษ์ในความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉู่ซีฟงเขาก็สลัดความดูแคลนในจิตใจทิ้งไปทันที
เขาจัดให้ฉู่ซีฟงกลายเป็คนที่อยู่ในระดับเดียวกันในที่สุดตู้เหว่ยะโลงมาจากหลังม้า ไม่ได้นั่งอยู่บนนั้นแล้วทอดมองลงมาราวกับผู้ที่อยู่เหนือกว่าอีกต่อไป แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาไม่ได้ดูถูกฉู่ซีฟงเหมือนแต่ก่อน
แน่นอน ระดับเดียวกันในที่นี้หมายถึงท่าทีที่ทั้งสองมีต่อกันเท่านั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น หรือร่วมมือกันอย่างจริงใจอาจกล่าวได้ว่า เพราะเหตุผลบางประการ ทั้งสองจึงไม่มีวันร่วมมือกันอย่างแน่นอน
เพราะแท้จริงแล้วการสืบคดีที่ดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษในครั้งนี้ สามารถส่งผลไปถึงเื่ราวที่สลับซับซ้อนได้นั่นเองยกตัวอย่างเช่นเื่ประมุขของแผ่นดินต้าเว่ยและเื่อนาคตของเผ่ามนุษย์ในอีกร้อยปีข้างหน้า
เมื่อหลายปีก่อนองค์จักรพรรดิแต่งตั้งให้องค์ชายใหญ่ขึ้นเป็องค์รัชทายาทแห่งแผ่นดินซึ่งนับเป็เื่ธรรมดา เพราะการแต่งตั้งบุตรคนโตให้เป็คนสืบทอดราชบัลลังก์นับเป็ธรรมเนียมที่สืบทอดมาช้านานแล้ว ทางด้านขุนนางทั้งหลายไม่ว่าจะเป็ชนชั้นสูงหรือสามัญชนทั่วไป ทั้งเมืองน้อยใหญ่ภายในแผ่นดินไม่มีใครคัดค้านต่อเื่นี้เลยสักคน เพราะในสายตาของพวกเขานี่นับเป็เื่ธรรมดา เป็เื่ที่สมควรแล้ว
แต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเมื่อองค์จักรพรรดิมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆต่อให้พระองค์จะดูคล้ายเป็เพียงชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเท่านั้นแต่คนที่พอจะมีความรู้ มีความเฉลียวฉลาดอยู่บ้างย่อมดูออกอยู่แล้วว่ามหาจักรพรรดิแก่ชราลงทุกที แม้พระองค์จะพยายามปกปิดมากเท่าไหร่แต่ชีพดาราที่หมองแสงลงทุกวันก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่มิอาจเก็บซ่อนเอาไว้
องค์จักรพรรดิแข็งแกร่งเกินไปทั้งยังชราภาพมากเกินไปแล้ว พระองค์ทรงครองตำแหน่งจักรพรรดิมานานนับร้อยปีแล้วและองค์ชายใหญ่ก็รอมานานเกือบห้าสิบปีแล้วเช่นกัน
ห้าสิบปีที่ผ่านมา องค์ชายใหญ่ตรากตรำทำงานหนักตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และให้ความเคารพต่อทุกคนมาโดยตลอดทำให้คนในใต้หล้าพึงพอใจเป็อย่างมากองค์จักรพรรดิเองก็รู้สึกพึงพอใจในตัวบุตรชายไม่ต่างกัน แต่ในตอนนี้ในที่สุดก็กำลังจะได้ครองตำแหน่งที่ใฝ่ฝันมานานแสนนานแล้ว ทว่านั่นกลับทำให้องค์รัชทายาทรู้สึกร้อนรนและทนรอไม่ไหวอีกต่อไป จึงเริ่มยื่นมือเข้าไปแทรกแซงเื่ทางการเมืองและเริ่มแสดงความคิดเห็นที่ค้านกับองค์จักรพรรดิออกมามากขึ้นเรื่อยๆทว่าเื่ที่ทำให้องค์จักรพรรดิทนไม่ได้คือการที่องค์รัชทายาทสนิทสนมกับเสนาบดีซือหม่าสวี่มากจนเกินไปนั่นเอง
องค์รัชทายาทสนิทสนมกับขุนนางชั้นสูงแห่งแผ่นดินนี่นับเป็เื่ที่ชัดเจนมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมายความว่าอะไรมีหรือที่องค์จักรพรรดิจะปล่อยเอาไว้ ดังนั้นพระองค์จึงมีความคิดว่าจะปลดองค์ชายใหญ่ออกจากตำแหน่งรัชทายาท
และเพราะความคิดนี้ขององค์จักรพรรดิพวกคนที่ไม่สนิทสนมกับองค์รัชทายาทจึงเริ่มเลือกพรรคเลือกพวกเพื่อผลักดันคนที่จะทำให้ตนได้รับประโยชน์ได้เป็ใหญ่นั่นเอง หลังผ่านการวางแผนใช้เล่ห์กล ใส่ร้ายป้ายสี และต่อสู้มานานหลายปี ในที่สุดผู้เข้าชิงตำแหน่งก็เหลือเพียงสองมหาอำนาจเท่านั้น... องค์รัชทายาทและองค์ชายห้า
และบังเอิญที่วันนี้ฉู่ซีฟงกับตู้เหว่ย ล้วนถูกเสนอชื่อโดยมหาอำนาจทั้งสองฝ่ายจนได้สืบคดีนี้ด้วยกันทั้งคู่
ซือหม่าสวี่ที่อยู่ฝ่ายรัชทายาทสนับสนุนตู้เหว่ยส่วนองค์หญิงใหญ่ที่เป็ฝ่ายขององค์ชายห้าก็สนับสนุนฉู่ซีฟง
แทนที่จะบอกว่าเป็การสืบคดีฆ่าล้างเมืองสู้บอกว่าเป็การเดินหมากแข่งขันระหว่างมหาอำนาจฝ่ายองค์รัชทายาทและองค์ชายห้ายังเสียดีกว่า
องค์จักรพรรดิเหลือเวลาอีกเพียงไม่มากแล้วและใน่เวลาที่เหลือเพียงน้อยนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็เื่เล็กหรือเื่ใหญ่ไม่ว่าอะไร ก็กลายเป็ตัวช่วยในการตัดสินใจขององค์จักรพรรดิได้ทั้งนั้น
ตู้เหว่ยไม่รู้ว่าฉู่ซีฟงรู้หรือไม่ว่าเื่นี้สำคัญอย่างไรบ้าง แต่เพราะเขารู้เื่นี้ดี ดังนั้นไม่ว่าฉู่ซีฟงจะแสดงความสามารถที่ยอดเยี่ยมขนาดไหนออกมาพวกเขาก็ไม่อาจร่วมมือกันได้อยู่ดี
ขณะที่ตู้เหว่ยกำลังคิดเื่พวกนี้ขึ้นในใจบัดนี้ทหารในชุดเกราะสามร้อยนายต่างก็เดินเข้ามาอยู่ในรัศมีสายตาของพวกเขาเป็ที่เรียบร้อยแล้วทหารเ่าั้ยังคงก้าวเดินอย่างใจเย็นไม่ต่างไปจากเดิมพวกเขามีลมหายใจที่เป็จังหวะมั่นคง ก้าวไปพลาง พลางก็แกว่งมือไปด้วย นอกจากนี้ดูเหมือนทุกคนจะหายใจพร้อมกัน เริ่มพร้อมกัน และจบพร้อมกันไปเสียทุกครั้งแม้พวกเขาจะมีจำนวนกว่าหลายร้อยคน แต่ทั้งหมดกลับทำทุกอย่างพร้อมกัน ราวเป็คนๆเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน
ตู้เหว่ยประกายรอยยิ้มออกมาทางใบหน้าแม้ฉู่ซีฟงจะแข็งแกร่งมากเพียงใดแต่ตนมีกองกำลังพยัคฆ์แห่งแผ่นดินต้าเว่ยมาด้วยกว่าสามร้อยคนทว่าฉู่ซีฟงกลับมีเพียงซูฉางอันที่เพิ่งจะมีพลังอยู่ในระดับหลอมจิตเท่านั้นแม้จะลือกันว่าเมื่อหลายเดือนก่อนเขาสามารถเอาชนะนักรบระดับเก้าดาราถึงเจ็ดคนได้ด้วยเพียงคนเดียวก็เถอะแต่ตู้เหว่ยที่เคยผ่านโลกมามากย่อมไม่หลงเชื่อข่าวลือที่เกินจริงเช่นนี้อยู่แล้วแม้คนที่นำข่าวนี้มาเล่าให้ฟังจะเป็ตู้หงฉาง ลูกชายแท้ๆ ของตนก็ตาม
เพราะเท่าที่ตนเห็นในวันนี้ซูฉางอันเพิ่งจะมีปราณดาราเพียงดวงเดียวเท่านั้นแม้นว่าข่าวลือก่อนหน้านี้เป็ความจริง เยี่ยงนั้นก็แสดงว่าครึ่งปีมานี้จอมดาราแห่งงานหลอมดาวคนนี้ไม่ได้ก้าวหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อยแต่พลังที่เขาใช้แสดงในงานหลอมดาวล้วนเป็พลังที่มั่วทิงอวี่ทิ้งเอาไว้ให้ทั้งนั้น เดิมทีเขายังเกรงว่าซูฉางอันจะกลายเป็คู่แข่งและอุปสรรคในเส้นทางแห่งพลังของลูกชายตนแต่มาตอนนี้ เมื่อได้พบเขาด้วยตัวเอง ตู้เหว่ยจึงปลดความกังวลทิ้งไปจนหมด เพราะใครๆก็รู้ ว่าคู่ต่อสู้ที่ไม่อาจก้าวหน้า ต่อให้จะแข็งแกร่งถึงเพียงไรก็ไม่จำเป็ต้องรู้สึกหวาดกลัวเลยสักนิด
ตู้เหว่ยมองไปที่ท้ายขบวนของกองกำลังพยัคฆ์อย่างจงใจจากนั้นก็หันกลับมามองฉู่ซีฟง แล้วประกายความเสียดายออกมาทางใบหน้า“ดูเหมือนคุณชายซูจะหายไปนะ หรือเขาจะพลัดหลงระหว่างทาง”
เขาไม่ใช่คนใจแคบอะไรขนาดนั้นและไม่ได้มีนิสัยชอบหยามคนอื่นเพื่อกู้หน้าตัวเองกลับมาด้วย
แต่ประสบการณ์การนำทัพมานานกว่าสิบปีทำให้เขาเข้าใจเื่หนึ่ง...การโจมตีที่หัวใจ ได้ผลมากกว่าการใช้กำลังเป็ไหนๆ
เมื่อครู่เขาเสียท่าให้ฉู่ซีฟงไปแม้นั่นจะไม่ทำให้เขาได้รับาเ็ตามร่างกายก็จริงแต่ก็ทำให้ความฮึกเหิมของพวกเขาลดลงไปมิใช่น้อย ดังนั้นเขาจึง้าจะกู้หน้ากลับคืนมาด้วยการพูดหยามซูฉางอันนั่นเอง
ครั้งนี้เขามั่นใจเต็มร้อยเลยว่าซูฉางอันต้องตามไม่ทันแน่ๆเขามองเห็นเต็มตาว่าซูฉางอันมีพลังอยู่ในระดับไหนกันแน่ต่อให้จะมีปราณดาราของมั่วทิงอวี่ก็ตามแต่ทหารในกองกำลังพยัคฆ์ล้วนมีพลังอยู่ในระดับอรุณรุ่งกันทุกคนทั้งยังมีวิชาลับแห่งแผ่นดินต้าเว่ยอีก แม้ดูเหมือนพวกเขาก้าวเดินธรรมดาเท่านั้นทว่าความจริงแล้ว พวกเขาเดินทางเร็วมากจริงๆ เื่การเดินทางของพวกเขานับว่ารวดเร็วไม่แพ้นักรบระดับไท่ยีเลยก็ว่าได้
ดังนั้น เขาเชื่อว่าในครั้งนี้เขาไม่มีวันแพ้แน่
ทว่าบางครั้ง กับบางเื่ความเปลี่ยนแปลงก็มักจะมีมากกว่าที่คิดเอาไว้เสมอ
ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้ในที่สุดตู้เหว่ยก็เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ว่าอะไรคือการปรับตัวตามไม่ทัน...
ชั่ววินาทีที่สิ้นประโยคก็มีมือข้างหนึ่งชูออกมาจากขบวนทหาร
จากนั้น จู่ๆก็เกิดความวุ่นวายขึ้นในขบวนทหารที่เป็ระเบียบเรียบร้อยตรงหน้าราวอะไรบางอย่างกำลังพยายามจะแทรกตัวออกมาจากขบวนอย่างไรอย่างนั้นประมาณสิบอึดใจต่อมา ในที่สุดหัวของใครบางคนก็โผล่ออกมาจากช่องว่างระหว่างหัวหน้ากองสองคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของขบวนจากนั้นเ้าของหัวก็แทรกตัวออกมาจากกลุ่มคนผ่านช่องแคบๆ อย่างยากลำบากเขาจัดระเบียบเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยเพราะการเบียดผ่านขบวนเมื่อครู่จากนั้นก็ยืดตัวตรง แล้วส่งยิ้มไปให้ตู้เหว่ยท่ามกลางสายตาประหลาดใจของอีกฝ่ายเขายิ้มยิงฟันขึ้น “ขอบคุณที่ใต้เท้าตู้อุตส่าห์เป็ห่วง ข้าน้อยไม่ทำให้ผิดหวังข้ามาถึงแล้วขอรับ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้