หลังได้รับอนุญาตจากเนี่ยเทียนไห่ ดวงตาของผู้าุโใหญ่ก็มีแววยินดีวาบขึ้น ฆ่าหลานชายของตนเองแล้ว จะปล่อยไปง่ายๆ ได้อย่างไร? เขาจะให้เนี่ยเฉินตายโดยไร้ที่ฝัง เซ่นสังเวยิญญาบน์ของหลานชายตนเอง
สายตาของเนี่ยเทียนไห่เหม่อลอยในพริบตา มีเศษเสี้ยวความสำนึกเสียใจ หากตนเองพบว่าเนี่ยเฉินเป็คนที่ต้องใช้เวลาหล่อหลอมนานกว่าจะประสบความสำเร็จ ตระกูลเนี่ยจะเป็ฉันใด
ในสายตาของเนี่ยเทียนไห่มีเพียงผลประโยชน์
เขาในเวลานี้ยังไม่มีความผูกพันกับเซียวเฉินแม้แต่น้อยเหมือนเดิม ทว่าทุกอย่างล้วนเริ่มต้นด้วยผลประโยชน์
“ท่านพ่อ หรือท่านคิดจะให้เนี่ยเฉินหวนคืนมา ยอมรับบรรพชนกลับเข้าตระกูล?” เนี่ยอวิ๋นเหอออกจากห้องโถงหน้า มองเนี่ยเทียนไห่พลางส่งเสียงถามด้วยน้ำเสียงปนความจริงจังเล็กน้อย ดวงตาเปลี่ยนเป็แฝงอารมณ์ผิดปกติ
เนี่ยเทียนไห่ไม่เอ่ยวาจา ทำให้ดวงตาของเนี่ยอวิ๋นเหออึมครึม
เนี่ยอวิ๋นเหอเอ่ยช้าๆ “ท่านพ่อ ท่านนึกว่าเนี่ยเฉินยังจะกลับมาอยู่อีกหรือ? ตอนแรกพวกเราไล่เขาออกจากตระกูลเด็ดขาดเพียงไร จากนั้นยังส่งนักฆ่าไปล่าสังหาร แม้ท่านมิได้กระทำ แต่ท่านกลับไม่ห้ามปราม บัดนี้เนี่ยเฉินแสดงพร์ให้เห็น ท่านก็คิดจะให้เขายอมรับบรรพชนกลับเข้าตระกูล ขอเพียงเนี่ยเฉินไม่ใช่คนโง่ จะไม่กลับตระกูลเนี่ยเด็ดขาด”
“เขาเก็บความแค้นที่มีต่อตระกูลเนี่ยไว้ในใจมาสิบกว่าปี ถึงขั้นน่าสะพรึงแต่แรก พวกเรามิอาจรับเนี่ยเฉินไว้ ได้แต่ฆ่าทิ้ง!” เนี่ยอวิ๋นเหอเอ่ยถึงตรงนี้ เจตนาสังหารในดวงตาพลุ่งขึ้น แสดงความปรีชาสามารถออกมา
เนี่ยเทียนไห่ถอนหายใจ
“หากพวกเราไม่สังหารเขา พอเนี่ยเฉินปีกกล้าขาแข็ง ถึงตอนนั้นคือเภทภัยมหันต์ต่อตระกูลเนี่ย”
คำพูดของเนี่ยอวิ๋นเหอทำให้ท้ายที่สุดแล้วเนี่ยเทียนไห่ก็ยอมประนีประนอม
“อวิ๋นเหอ เช่นนั้นก็ไปทำตามความประสงค์ของเ้าเถอะ”
มุมปากของเนี่ยอวิ๋นเหอโค้งขึ้นเป็รอยยิ้ม
“ท่านพ่อ วางใจเถอะ ข้าจะไม่ให้เขาคุกคามตระกูลเนี่ยได้”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากเซียวเฉินกลับถึงเมืองอวิ๋นไห่แล้ว เขาก็อาศัยอยู่ที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง อีกไม่ถึงครึ่งเดือนก็จะมีการคัดเลือกของสถานศึกษาห้าแห่ง เขาวางแผนว่าจะทำให้พลังฝึกปรือรุดหน้าไปอีกก้าวใน่เวลานี้เพื่อ่ชิงการได้เข้าเรียนในสถานศึกษาเซิ่งเต้าที่แข็งแกร่งที่สุดในสถานศึกษาห้าแห่ง
แต่เขาก็รู้เช่นกันว่า ่เวลาสั้นๆ นี้จะไม่สงบสุข
เนื่องจากเขาสังหารเนี่ยอวิ๋นเฟิง
ตระกูลเนี่ยต้องไม่เลิกราง่ายๆ แน่ ทว่าเซียวเฉินกลับไม่นำพา เขาจดจำทุกเื่ราวก่อนหน้านี้ใส่ใจมาตลอดและไม่สำนึกเสียใจที่ฆ่าเนี่ยอวิ๋นเฟิงในวันนี้ ต่อให้ล่วงเกินตระกูลเนี่ยล่วงหน้าก็ตาม
“ตระกูลเนี่ย คิดจะฆ่าข้า ก็ต้องดูว่าพวกเ้ามีความสามารถหรือไม่” เซียวเฉินเย้ยหยัน จากนั้นนำผลึกเสวียนหลายสิบก้อนออกมาฝึกปรือ
สำหรับคัมภีร์หงสาานิรวาณ เซียวเฉินมีความตั้งใจเป็พิเศษ อย่างไรนั่นก็เป็เคล็ดวิชาขั้นศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ
อย่าว่าแต่บรรลุนิรวาณขั้นเก้าเลย เกรงว่าแค่บรรลุนิรวาณขั้นสามก็เพียงพอให้ตนเองเผชิญหน้ากับตระกูลเนี่ยแล้ว
ดังนั้น เขาวางแผนจะทะลวงนิรวาณขั้นสอง
นิรวาณขั้นหนึ่งชำระแก่นล้างไขกระดูก หล่อกายหลอมจิต ส่วนนิรวาณขั้นสองเป็การเริ่มต้นคัมภีร์หงสาานิรวาณ ดังนั้น เซียวเฉินคิดจะทะลวงนิรวาณขั้นสองใน่นี้ ถึงไม่สำเร็จก็มีประสิทธิภาพเหนือธรรมดาต่อตนเอง
ตูม!
ผลึกเสวียนถูกเซียวเฉินดูดซับอย่างบ้าคลั่ง พลังเสวียนด้านในหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของเซียวเฉินอย่างเร็วรี่ แล้วร่างกายของเขาก็เริ่มปรากฏภาพเปลวเพลิงและพลังเสวียนหลอมรวมอีกครั้ง
เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เซียวเฉินยังคงฝึกปรือดังเดิม ยามนี้ พลังเสวียนและเพลิงแห่งหงสาาประหนึ่งหล่อหลอมเข้าด้วยกันบนร่างของเขา ส่วนความสามารถของเขาก็รุดหน้าไปอย่างว่องไว
สามวัน เซียวเฉินเหยียบย่างเข้าสู่ขั้นแรกกำเนิดห้าชั้นฟ้าระดับกลาง
วิ้ง วิ้ง!
เซียวเฉินลืมตาช้าๆ สิ้นสุดการฝึกวิชาแต่ละครั้ง ดวงตาของเขาจะมีเปลวเพลิงเต้นระริกทุกครั้ง จากนั้นก็มอดดับ เขาอดยิ้มขื่นมิได้
“ฝึกยากสมกับเป็เคล็ดวิชาขั้นศักดิ์สิทธิ์จริงๆ”
เซียวเฉินไม่แข็งขืนอีก จากนั้นหันกายเดินออกไป ทว่าเพิ่งย่างออกจากประตูห้อง คนตระกูลเนี่ยก็เข้ามารับหน้า หลังจากเห็นเงาร่างของเซียวเฉิน สีหน้าคนตระกูลเนี่ยก็แปรเปลี่ยนเป็เย็นเยียบทันควัน เอ่ยบริภาษว่า “คนผิดเนี่ยเฉิน ตามพวกเรากลับไปรับโทษที่ตระกูลเนี่ย”
สายตาของเซียวเฉินเย็นเยียบ
“ข้าไม่ใช่คนตระกูลเนี่ยแล้ว จะตามพวกเ้าไปทำไม? ไสหัวไป!”
เซียวเฉินไม่มีความรู้สึกดีต่อคนตระกูลเนี่ยเลยสักนิด จึงไม่มีสีหน้าดีๆ ให้พวกเขา
คนตระกูลเนี่ยต่างมีสีหน้าปั้นยากต่อท่าทีของเซียวเฉิน
“เนี่ยเฉิน เ้าฆ่าหลานชายของผู้าุโใหญ่ หากตอนนี้เ้ายอมให้จับกุม จะละเว้นทัณฑ์ทางกาย ไม่เช่นนั้นจะสังหารเสียตรงนี้”
ประโยคเดียวสามารถจุดเพลิงโทสะในใจของเซียวเฉินขึ้นทันควัน
“ไว้หน้าแล้วไม่รับ คนตระกูลเนี่ยล้วนเป็เช่นนี้ หากพวกเ้าไม่ไปก็อยู่ที่นี่ให้หมดเถอะ” เซียวเฉินสืบเท้าหนึ่งก้าว เปลวเพลิงในมือพวยพุ่ง ฟาดหนึ่งฝ่ามือ ไฟลุกโชติ่ในพริบตา ร้อนแรงผิดธรรมดาปานอัคคีเทวะ
ผู้เข้มแข็งของตระกูลเนี่ยเห็นเซียวเฉินกล้าลงมือก็หน้าเขียวคล้ำ “บังอาจ จับกุมมัน สังหารทิ้งเสียตรงนี้”
ตูม!
พริบตา ผู้เข็มแข็งตระกูลเนี่ยทั้งหมดลงมือล้อมปราบเซียวเฉิน
เซียวเฉินเย้ยหยัน “คนมากจะมีประโยชน์อะไร แค่เศษสวะกลุ่มหนึ่งเท่านั้น มาเท่าไรข้าก็ฆ่าเท่านั้น” ระหว่างเอ่ยวาจา เขาก็โจมตีด้วยฝ่ามือหงสาโค่นคนจำนวนมาก
ความสามารถของเซียวเฉินในตอนนี้ ต่อให้เป็ผู้เข้มแข็งขั้นแรกกำเนิดเจ็ดชั้นฟ้าเขาก็สู้ได้ นับประสาอะไรกับคนขั้นแรกกำเนิดสี่ชั้นฟ้ากลุ่มหนึ่งตรงเบื้องหน้า
ฟู่ ฟู่!
เปลวเพลิงลุกโชน หงสาผุดขึ้นเื้ัเซียวเฉิน หงสาทะนงตน พ่นอัคคีเทวะ เผาไหม้ทุกสิ่งประหนึ่งทะเลเพลิง ผู้เข้มแข็งของตระกูลเนี่ยทุกคนถูกเพลิงผลาญ
เปลวเพลิงนั้นราวกับเผาไหม้พลังเสวียนได้ พอติดร่างก็ไร้หนทางกำจัด ถึงขั้นน้ำก็ไม่มีทางดับได้ เห็นได้ว่าเพลิงแห่งหงสานี้ทรงอานุภาพมากเพียงใด
“อ๊า...”
ผู้เข้มแข็งตระกูลเนี่ยซึ่งเดิมทีเหิมเกริมถูกเปลวเพลิงของเซียวเฉินเผาจนร้องโหยหวนอย่างเ็ป เกลือกกลิ้งทั่วพื้น ทว่าเปลวเพลิงกลับไม่มอดดับ ครู่หนึ่งก็มีผู้เข้มแข็งขั้นแรกกำเนิดหลายคนถูกเผาตาย ทุกคนที่เห็นต่างพรั่นพรึง
ส่วนผู้เข้มแข็งของตระกูลเนี่ยเ่าั้ต่างแตกตื่นหวาดกลัว
เหตุใดเซียวเฉินจึงร้ายกาจถึงเพียงนี้?
เซียวเฉินทำมุทรากระบี่ [1] ประกายกระบี่วูบวาบ ดั่งเซียนลงสู่หล้า โจมตีจนผู้เข้มแข็งขั้นแรกกำเนิดของตระกูลเนี่ยทั้งหมดล่าถอยติดต่อกัน ทันใดนั้น มีสี่ห้าคนถูกสังหารในกระบี่เดียว ล้มจมกองโลหิต ทว่าเซียวเฉินกลับมีสีหน้าเรียบเฉยไม่หวั่นไหว
จนกระทั่งผู้เข้มแข็งของตระกูลเนี่ยถูกสังหารหมด
เซียวเฉินจึงเก็บกระบี่ยาวในมือกลับและหันกายเดินจากไป
ทุกคนเห็นผู้เข้มแข็งของตระกูลเนี่ยสิ้นชีพ ในใจอดหวาดกลัวไม่ได้
คิดไม่ถึงว่าเซียวเฉินจะสังหารผู้เข้มแข็งขั้นแรกกำเนิดสิบกว่าคนของตระกูลเนี่ยได้ ความสามารถของเขาน่ากลัวถึงขั้นนี้ั้แ่เมื่อใด?
ณ ตระกูลเนี่ย
“เ้าว่าอะไรนะ? ผู้เข้มแข็งที่ตระกูลเนี่ยส่งไปถูกเนี่ยเฉินฆ่าตายหมด?” เพียงครู่เดียว ระดับสูงทุกคนในตระกูลเนี่ยต่างใกลัวอย่างบอกไม่ถูก
ความสามารถของเขาน่ากลัวถึงขั้นนี้ั้แ่เมื่อใด?
ถึงกับสังหารผู้เข้มแข็งขั้นแรกกำเนิดสิบกว่าคนได้ด้วยกำลังตัวคนเดียว
“ข้าจะนำคนไปฆ่าเ้าเดรัจฉานนี้ด้วยตนเอง” ผู้าุโใหญ่มีโทสะจนหน้าแดงก่ำ ตบโต๊ะลุกขึ้นยืน ปลดปล่อยความสามารถขั้นแรกกำเนิดเก้าชั้นฟ้าระดับสูงสุดออกมาทั่วร่าง พลานุภาพสะท้านทุกคน ณ ที่นั้น นอกจากเนี่ยเทียนไห่แล้ว ทุกคนต่างรู้สึกถึงความกดดัน
ในเวลานี้เอง เนี่ยอวิ๋นเหอพลันลุกขึ้นเอ่ยกับผู้าุโใหญ่ว่า “ผู้าุโใหญ่โปรดระงับโทสะ แม้เนี่ยเฉินจะแข็งแกร่ง แต่ตระกูลเนี่ยของเรามิอาจให้บุคคลเช่นผู้าุโใหญ่ออกหน้ากำราบเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นตระกูลเนี่ยของเราจะยังมีหน้ามีตาอันใดในเมืองอวิ๋นไห่? อีกทั้งใกล้จะถึงเวลาการคัดเลือกของสถานศึกษาห้าแห่งแล้ว เวลานี้ยิ่งเกิดเื่ไม่ได้ รอหลังการคัดเลือกของสถานศึกษาทั้งห้าเสร็จสิ้นค่อยสังหารเขาก็ยังไม่สาย ่นี้ปล่อยให้เขาะโโลดเต้นอีกหลายวันไปก่อน ถึงตอนนั้นข้าจะไปฆ่าเขาด้วยตนเอง!”
คำพูดของเนี่ยอวิ๋นเหอทำให้สีหน้าของผู้าุโใหญ่ผ่อนคลายลงมาก
จากนั้นมองเนี่ยอวิ๋นเหอแวบหนึ่งแล้วค่อยเอ่ยว่า “ทำตามความคิดของอวิ๋นเหอเถอะ ให้เขามีชีวิตอยู่อีกหลายวัน ฮึ!”
เนี่ยอวิ๋นเหอผงกศีรษะ ไม่มีใครพบเงามืดในดวงตาของเขา หากบอกว่าในตระกูลเนี่ยผู้ใดกริ่งเกรงเนี่ยเฉินเติบโตที่สุด นั่นก็คือเนี่ยอวิ๋นเหอ และคนที่อยากฆ่าเนี่ยเฉินที่สุดก็คือเนี่ยอวิ๋นเหอเช่นกัน
“เนี่ยเฉิน การเติบโตของเ้าเกินความคาดหมายของข้าจริงๆ ถึงกับมีแนวโน้มคุกคามตระกูลเนี่ยรางๆ แล้ว หากให้เ้าเติบโตต่อไปต้องสั่นคลอนตำแหน่งในตระกูลเนี่ยของข้าเป็แน่ ดังนั้น เ้าจำเป็ต้องตาย”
ดวงตาของเนี่ยอวิ๋นเหอเปล่งประกายเย็นเยียบ ปรากฏเจตนาสังหารพวยพุ่ง
---
[1] มุทรากระบี่ คือ นิ้วชี้นิ้วกลางชี้ตรงชิดกัน นิ้วโป้งกดนิ้วนางนิ้วก้อยไว้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้