หากเป็ฉินเฟิงเมื่อก่อนเขาจะต้องกระตือรือร้นอยากจะดื่มด่ำกับสาวฝรั่งเศสให้จุใจไปเลยแต่ว่าเขาในตอนนี้หมดความสนใจในผู้หญิงพวกนั้นแล้ว เขาโบกมือ “ไม่จำเป็ที่ฉันมาที่นี่เพราะธุระส่วนตัวเท่านั้น”
ธุระอีกแล้ว?
ผู้จัดการหลิวจ้องอย่างงงงวยครั้งล่าสุดที่นายน้อยฉินมาช่วยหยุนเซียว เขาก็บอกว่ามี ‘ธุระส่วนตัว’ที่ต้องจัดการหลังจากนั้นผู้จัดการหลิวก็ไม่เห็นเขามาสโมสรหวงเจียอีกเลยจนกระทั่งวันนี้เขารู้สึกว่าฉินเฟิงไม่ใช่นายน้อยร่ำรวยที่ี้เีเหลวไหลอย่างเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
ร่างของฉินเฟิงมีบรรยากาศความเข้มแข็งและคำพูดก็ชัดเจนได้ใจความที่สำคัญที่สุด รอยยิ้มลามกนั่นก็หายไปเช่นกัน
“นายน้อยฉินครับ ธุระแบบไหนเหรอครับ?” ฉินเฟิงเปลี่ยนไปมากดังนั้นผู้จัดการหลิวจึงไม่กล้าล้อเล่นมั่วๆ ได้ เขาจึงจริงจังขึ้น
“ผู้จัดการหลิว ผู้หญิงเพื่อนร่วมชั้นที่ฉันให้อยู่ที่นี่เป็ยังไงบ้าง?”
“โอ้ นายน้อยฉิน คุณควรจะพูดแต่แรกนะครับ คุณทำให้ผมกังวลแทบตาย”เมื่อเขาได้ยิน ‘ธุระส่วนตัว’ ของฉินเฟิงคือหลินเป้ยเป้ยรอยยิ้มของผู้จัดการหลิวก็กลับมาทันที
‘ธุระส่วนตัว’ ก็เหมือนเมื่อก่อนนี่เองและนายน้อยฉินก็ยังเป็นายน้อยเสเพลอย่างเมื่อก่อนดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะมาเล่นกับสาวมหาวิทยาลัย
“ผู้หญิงคนนั้นเชื่อฟังมากครับ เธอกลับมาหลังมหา’ ลัยเลิกทุกวัน ออกจากมหา’ลัยในเวลาตรงเป๊ะ และใช้เวลาที่เหลืออยู่ในห้อง แม้จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่มีประสบการณ์นายน้อยฉินครับ วันนี้คุณต้องได้รื่นเริงทั้งวันแน่เลย”
เมื่อเขาเห็นผู้จัดการหลิวยิ้มจนตาแทบจะปิดฉินเฟิงก็ตบหัวไปดอกหนึ่ง “จริงจังหน่อยนายบริการให้เธอพอใจตามที่ฉันขอไว้หรือเปล่า?”
ผู้จัดการหลิวหดรอยยิ้มกลับทันที“นายน้อยฉินครับ คุณอุตส่าห์แนะนำเื่นี้เป็การส่วนตัวแล้วผมจะไม่ฟังได้อย่างไร? ผมดูแลเพื่อนร่วมชั้นสุดสวยของคุณเหมือนกับคุณหนูทุกวันอาหารทั้ง 3 มื้อของเธอเป็อาหารชั้นเลิศและมีประโยชน์ผมส่งหมอนวดหญิงเพื่อทำสปาให้เธอทุกคืน และเราก็ไปรับส่งเธอที่มหา’ลัยด้วยลีมูซีนทุกวัน ดังนั้นไม่ต้องห่วงครับไม่มีใครกล้าปฏิบัติไม่ดีกับองค์หญิงน้อยหลินเป้ยเป้ยแน่นอน”
ฉินเฟิงค่อนข้างผ่อนคลายกับสิ่งที่ผู้จัดการหลิวทำเขาตบบ่าผู้จัดการหลิว “ดีมาก เดี๋ยวไปหาหัวหน้าแผนกการเงินและใส่เงิน 100,000หยวนเป็ชื่อฉันแล้วกัน”
ผู้จัดการหลิวมองดูฉินเฟิงจากไปเขาซาบซึ้งใจจนอยากจะร้องออกมา ฉินเฟิงเป็คนตรงไปตรงมาโคตรน่าหลงใหล
ฉินเฟิงยืนอยู่หน้าห้องสวีท888และรู้สึกเสียใจนิดหน่อย
นี่เคยเป็สถานที่หลักของความเสเพลั้แ่ที่เขาเป็ผู้ใหญ่มา เขาอยู่ในห้อง 888 มากกว่าตำหนักฉินของคุณภาพชิ้นใหม่ของสโมสรหวงเจียจะผ่านการตรวจสอบจากเขาก่อนสาวสวยทุกคนจะผ่านการทดสอบกับเขาก่อนที่จะถูกพามาสโมสรหวงเจีย
หลังจากยืนอยู่สักพักฉินเฟิงก็กดออด
หลินเป้ยเป้ยรู้ว่าฉินเฟิงจะมาเธอกำลังอาบน้ำอยู่ตอนที่ออดดัง หัวใจของเธอเต้นระรัว เธอไม่สนฟองสบู่ที่ยังอยู่บนตัวของเธอเธอใส่ผ้าคลุมสีขาวและวิ่งไปเปิดประตู
ประตูถูกเปิดและฉินเฟิงก็ตะลึงเมื่อเขาเห็นสาวสวยอ่อนช้อยต่อหน้าเขา
เธอใส่แค่ผ้าคลุมและผมที่เปียกก็แผ่ไปทั้งไหล่ ไหปลาร้าที่งดงามของเธอถูกเปิดเผยและมีกลิ่นฟองสบู่ที่ชวนหลงใหลอยู่บนตัว
เห็นได้ชัดว่านี่เป็การใช้ร่างกายที่เปียกปอนยั่วยวนผู้คนทักษะของฉินเฟิงในการต้านทานหลินเป้ยเป้ยนั้นไม่สูง เมื่อเขาเห็นเธอเขาก็อยากลงมือจู่โจม
“ฉินเฟิง!” เวลาที่ฉินเฟิงชื่นชมสาวสวยเขาไม่เคยอายเพราะเขาไร้ยางอายอยู่แล้ว
ใบหน้าของหลินเป้ยเป้ยแดงก่ำเธอเรียกฉินเฟิงอย่างแ่เบา “เข้ามาก่อนสิ”
หลินเป้ยเป้ยพาฉินเฟิงเข้ามาในห้องทำไมถึง...มีความรู้สึกแบบนี้กัน?
หลังจากเข้าห้องฉินเฟิงก็รู้สึกตัว เขาข่มความคิดชั่วร้ายและนั่งลงบนเตียงเขาััผ้าปูเตียงเบาๆ และรู้สึกถึงความคุ้นเคย
หลินเป้ยเป้ยปิดประตูเธอดูเหมือนกับดอกบัวตูมทั้งสดใหม่และน่ารื่นรมย์เธอก้มหัวและเดินหาฉินเฟิงอย่างเอียงอายโดยไม่รอความเห็นพ้องเธอนั่งบนตักของเขาทันที
“เป้ยเป้ย ธะ...เธอจะทำอะไรน่ะ?” ฉินเฟิงกังวลใจทันที
หลินเป้ยเป้ยรู้สึกสบายใจหลังจากได้ยินฉินเฟิงเรียกเธอว่า‘เป้ยเป้ย’ เมื่อเธอเห็นเขามีสีหน้าใ เธอก็ป้องปากและยิ้มเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้“นายน้อยฉินคะไม่ใช่ว่าคุณเป็ถึงนายน้อยเ้าสำราญอันดับหนึ่งแห่งเมืองเว่ยเฉิงเหรอคะ? ฉันไม่เห็นคุณแค่ไม่กี่วัน ตอนนี้คุณก็สงบเสงี่ยมแบบพระซะแล้วเหรอ?”
ฉินเฟิงหัวเราะออกมาเขาไม่ได้เปลี่ยนไปแต่ตลอดมาเขาตั้งใจรักษาระยะห่างจากหลินเป้ยเป้ยฉินเฟิงไม่อยากทำให้เด็กสาวที่สวยและละเอียดอ่อนแบบนี้ต้องมีมลทิน
เธอเหมือนกับดอกบัวที่บานสะพรั่งออกจากโคลนตมทำได้แค่เชยชมจากด้านข้าง แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เธอมีมลทินได้
หลินเป้ยเป้ยเป็แบบนี้และสวี่รั่วโหรวก็เป็แบบนี้
ทุกอย่างที่ฉินเฟิงทำได้คือคอยปกป้องพวกเธออย่างเงียบๆแน่นอนว่าเขาต้องมีเวลาที่จะแต๊ะอั๋งเธอเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็รางวัล
“เป้ยเป้ย สบายดีหรือเปล่า? ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอที่มหา’ลัยใช่ไหม?” บรรยากาศดูหวานแหววนิดหน่อยและฉินเฟิงก็เริ่มการสนทนา
ั์ตาที่สวยงามของหลินเป้ยเป้ยเปียกชื้นทันทีเธอมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาของฉินเฟิงและโผเข้าอ้อมกอดของเขา
กลิ่นกายหอมลอยเข้าจมูกและมีบางอย่างนุ่มนิ่มกดทับไปกับตัวเขา
“เป้ยเป้ย มีอะไรหรือเปล่า?” ฉินเฟิงผลักหลินเป้ยเป้ยเบาๆเธอเหมือนกับปลาหมึกที่กอดฉินเฟิงแน่น
“มีใครรังแกเธอเหรอ?” ฉินเฟิงััหลังของหลินเป้ยเป้ยและเริ่มปลอบโยนเธอ
น้ำตาไม่กี่หยดร่วงลงสู่คอของฉินเฟิงหลินเป้ยเป้ยกัดฟันและส่ายหัว
ฉินเฟิงรู้จักนิสัยของหลินเป้ยเป้ยเขารู้ว่าเธอทำงานพาร์ทไทม์ั้แ่ยังเด็กเธอใช้เงินเพื่อเป็ค่าโรงพยาบาลและค่ารักษาของแม่ อีกทั้งยังต้องเกื้อหนุนครอบครัวของเธอและจ่ายค่าเล่าเรียนในเวลาเดียวกัน
เธอมองดูเหมือนกับหลินไต้อวี้ที่ทั้งสวยและอ่อนแอแต่เธอมีใจหนักแน่นเหมือนกับนักรบหญิงอยู่ภายใน
ต้องมีอะไรผิดปกติบางอย่างถึงทำให้เธอร้องไห้ได้ขนาดนี้ฉินเฟิงใช้แรงของเขาผลักเธอออก เขาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอและเริ่มเคร่งเครียด“เป้ยเป้ย บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น...เกิดอะไรขึ้นกับหน้าของเธอ? ดูเหมือนว่าด้านนี้มันจะบวมกว่านิดหน่อยนะ”
หลินเป้ยเป้ยจ้องเขาด้วยแววตาที่สวยงามเหมือนกระจกเธอมองดูฉินเฟิงใกล้ๆ “ฉินเฟิง ฉันไม่เป็ไร เมื่อเร็วๆ นี้ฉันเริ่มมาส์กหน้าใหม่ผิวมันระคายเคืองเลยบวมนิดหน่อย ฉันแค่คิดถึงคุณมากๆ มันเลย...”
หลินเป้ยเป้ยรู้ความขัดแย้งระหว่างฉินเฟิงกับอวี่เหวินเสียงครั้งล่าสุดที่สนามกีฬาทั้งสองคนสู้กันและมีแผนว่าจะสู้กันให้ตาย
สุดท้ายแล้วเธอก็เป็ห่วงฉินเฟิงเธอกลัวว่าหลังจากที่เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขาจะไปก่อปัญหาให้กับอวี่เหวินเสียงและก็จะเป็ปัญหากับเขาภายหลังเธอ...ไม่อยากเป็ต้นเหตุให้ฉินเฟิงต้องมีปัญหา
ฉินเฟิงตะลึงนิดหน่อยเขาคิดว่าท่าทีของหลินเป้ยเป้ยดีขึ้นกับเขาเพราะเขาช่วยเธอหลายครั้งแต่เขาไม่เคยคิดว่าท่าทีของเธอจะดีขึ้นมากขนาดนี้
คำพูดของหลินเป้ยเป้ยชัดเจนว่าเป็การสารภาพรักกับเขา...เว้นแต่ว่าเขาทำอะไรกับเธอไปและจำไม่ได้
“ฉินเฟิง ทำไมคุณถึงไม่มามหา’ ลัยล่ะ?” หลินเป้ยเป้ยเปลี่ยนหัวข้อเพราะกลัวว่าฉินเฟิงจะพูดเื่ของอวี่เหวินเสียง
ฉินเฟิงขยับขาและกอดหลินเป้ยเป้ยเพื่อให้เธอได้นั่งสบายขึ้น“พอดีมีเื่สำคัญที่ฉันต้องจัดการน่ะ ฉันเลยไม่ได้ไปมหา’ ลัย”
“เื่สำคัญอะไรเหรอ?” หลินเป้ยเป้ยดูเหมือนลูกแมวที่เชื่อฟังเธอค่อยๆ โน้มเข้าไปในอ้อมอกของฉินเฟิงและรู้สึกถึงความปลอดภัย
เธออดไม่ได้ที่จะถามเื่ของฉินเฟิงในใจของเธอไม่รู้ว่าฉินเฟิงจะแบ่งปันเื่สำคัญกับเธอหรือเปล่า...ตำแหน่งที่เธออยู่ในใจของเขาต้องเป็แบบไหนถึงจะสามารถคุยกันทุกเื่ได้?
“ก็เื่ครอบครัว” ไม่ใช่เพราะว่าหลินเป้ยเป้ยไม่มีสถานะสูงในใจของเขาฉินเฟิงถึงไม่พูดรายละเอียด แต่เพราะเขาใส่ใจหลินเป้ยเป้ยจริงๆเขาจึงไม่อยากให้เธอรู้เื่าระหว่างตระกูลฉินกับตระกูลฮ่าว
นี่อาจจะนำปัญหามาให้เธอโดยไม่จำเป็
สีหน้าของหลินเป้ยเป้ยหม่นหมองทันที“งั้น คุณจะกลับมาที่มหา’ ลัยหรือเปล่า?”
คำขู่ที่อวี่เหวินเสียงบอกหลินเป้ยเป้ยให้ไปที่สนามกีฬาพรุ่งนี้เช้าตอนที่เขาวิ่งหนีไปทำให้หลินเป้ยเป้ยกลัวเธออยากจะรอจนกว่าฉินเฟิงจะกลับไปมหาวิทยาลัย เธอจะได้ไปพร้อมกับเขา
“ฉันไม่รู้...ฉันอาจจะไม่ได้กลับไปอีกแล้ว”
ฉินเฟิงคิดว่าหลังเดือนตุลาคมเขาอาจจะเข้าร่วมการแข่งขันผู้สืบทอดในตระกูลฉินที่เมืองหลวงเพื่อความฝันของพ่อและแม่ที่ลึกลับของเขาแม้ว่าาระหว่างตระกูลฉินกับตระกูลฮ่าวจะจบลงไปแล้วเขาก็อาจจะต้องยังอยู่ในบริษัทเพื่อเรียนรู้การจัดการและทลายขีดจำกัดในเวลาเดียวกัน
ั์ตาของหลินเป้ยเป้ยฉายแววความผิดหวังหลังจากเงียบมานานเธอก็หัวเราะขึ้นมาทันที “ฉินเฟิง วันนี้คุณว่างหรือเปล่าไปเดินเล่นกับฉันนะ”
“ได้เลย”
หลินเป้ยเป้ยอยากที่จะเดินเล่นและนี่เป็ครั้งแรกของเธอที่ได้เดินเล่นกับผู้ชายเธอหยิบเดรสของเธอเองมาสวม มันมีสีครามและยาวถึงเข่า เธอดูเหมือนผีเสื้อแสนสวยเธอจับมือของฉินเฟิงและเดินบนฟุตพาทที่คึกคักอย่างมีความสุข
ลานจัตุรัสว่านเฉิงคือถนนช้อปปิ้งที่โดดเด่นและทันสมัยของเมืองเว่ยเฉิงพื้นที่นี้อยู่ในทำเลทองใจกลางเมืองและก็เป็ที่ที่หวงเจียกรุ๊ปเข้ามาจับจองเพื่อพัฒนาโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์
วันนี้เป็วันสุดสัปดาห์ดังนั้นผู้คนจึงเดินกันแน่นฟุตพาทคนที่มาเป็คู่ส่วนใหญ่จะอายุประมาณราวๆ ฉินเฟิงและหลินเป้ยเป้ยฉินเฟิงคุ้นเคยกับถนนนี้มาก เขาพาหลินเป้ยเป้ยไปที่ร้านชาแนล
ชาแนลถูกสร้างขึ้นในปี1914ที่ปารีสโดย Gabrielle Chanel
บริษัทได้ผลิตสินค้ามากมายแตกต่างกันมีทั้งเสื้อผ้า เพชรพลอย เครื่องประดับ เครื่องสำอาง น้ำหอม กระเป๋า และอื่นๆแต่ละอย่างมีชื่อเสียงมากในทุกที่ โดยเฉพาะน้ำหอมและเสื้อผ้าแฟชั่น
นี่เป็แบรนด์เนมที่ผ่านประสบการณ์โชกโชนมากว่า80ปี จึงเป็ธรรมดาที่ผลิตภัณฑ์จะแพงมากและเป็ของหรูหราไฮโซที่ดูดี
แต่ที่เสื้อผ้าของชาแนลถูกตาฉินเฟิงเพราะมันสง่าเรียบง่าย และสละสลวย มันทำลายเทรนด์เดิมๆ บวกกับมันเป็ผลิตภัณฑ์ของร้านนี้หากหลินเป้ยเป้ยได้ใส่เธอจะต้องดูดีงามพระรามแปดแน่นอน
แม้ว่าหลินเป้ยเป้ยจะไม่มีประสบการณ์มากนักแต่เธอก็ยังรู้จักแบรนด์ดังอย่างนี้เห็นได้ชัดว่าเธออายนิดหน่อยและยืนอยู่ตรงประตูพลางสะกิดฉินเฟิงเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง เลือกตัวที่ชอบได้เลย สิ่งที่นายน้อยฉินมีก็คือเงินไงล่ะ”ฉินเฟิงเห็นความหวาดหวั่นของหลินเป้ยเปยทันที ดังนั้นเขาจึงยิ้มอย่างสบายๆออกมาเพื่อช่วยเธอกำจัดมันออก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้