หากหลัวเลี่ยและหอการค้าฟ้านเทียนไม่ได้บาดหมางกัน เยาวชนที่ถูกส่งมาจากแคว้นอื่นก็อาจไม่จำเป็ต้องเป็ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นนี้ แต่ครั้งนี้เพื่อที่จะเอาใจหอการค้าฟ้านเทียน แคว้นต่างๆ จึงส่งเยาวชนที่มีฝีมือมากที่สุดมาทั้งห้าคน
ครั้งนี้จึงนับว่าหลัวเลี่ยได้เผชิญหน้าและต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งจากสิบแคว้นด้วยตนเองอย่างแท้จริง
หากหลัวเลี่ยยังสามารถเอาชนะได้ ทั้งสิบแคว้นคงไม่อาจสู้หน้าใครได้แล้ว
แน่นอนว่าทั้งสิบแคว้นไม่คิดว่าหลัวเลี่ยจะชนะ
ไม่ว่าทั้งเก้าแคว้นจะทำการประลองอย่างไรก็ไม่มีใครคัดค้าน มีเพียงท่าทีจากแคว้นจินหลานเท่านั้นที่ทำให้คนจากเก้าแคว้นที่เหลือโห่ร้องขึ้น แม้แต่ในใจของชาวจินหลานก็เต็มไปด้วยความละอายและขุ่นเคือง
เพราะหลัวเลี่ยเข้าประลองครั้งนี้ในตำแหน่งยุวราชันแห่งแคว้นจินหลาน
เดิมทีที่หลัวเลี่ยมาที่นี่ก็เพราะจะมาช่วยแคว้นจินหลาน แต่ตอนนี้คนจากแคว้นจินหลานกลับมุ่งเป้าไปทำร้ายเขาเสียเอง นับเป็เื่ที่น่าละอายอย่างยิ่ง
เหตุการณ์นี้ทำให้หลิวจื่ออั๋งโกรธมาก เขารู้ว่าผู้ที่อยู่เื้ัแผนการนี้คงเป็หอเซียวเหยา และการกระทำของหอเซียวเหยาเช่นนี้คล้ายจะเป็การเตือนหลิวจื่ออั๋งที่ให้การช่วยเหลือหลัวเลี่ย
หลัวเลี่ยตอบโต้ต่อเหตุการณ์นี้โดยเดินไปที่ตำแหน่งตรงกลางสนามประลองอย่างใจเย็น
ผู้คนที่คึกคักจากรอบๆ สนามประลองเงียบลง
ทุกคนมองไปที่หลัวเลี่ยอย่างพร้อมเพรียงกัน
หลัวเลี่ยยืนอยู่ตรงกลางคนเดียว เขาเอามือไพล่หลังและยิ้มอย่างสบายๆ “ข้ารอที่จะประลองกับทั้งสิบแคว้นด้วยตัวคนเดียวมานานแล้ว”
ผู้ชมทุกคนแตกตื่น
หลัวเลี่ยรอที่จะประลองกับทั้งสิบแคว้นมานานแล้ว
บางคนไม่เชื่อ แต่ก็มีบางคนพูดว่าดูเหมือนหลัวเลี่ยจะเคยพูดประโยคดังกล่าวนี้ในคืนไหว้พระจันทร์ที่เขาอวิ๋นเยว่ นี่เป็การบ่งบอกว่าหลัวเลี่ยคิดเื่นี้มานานแล้ว
“บ้าไปแล้ว!”
“ข้าไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่กลัวหอการค้าฟ้านเทียน ที่แท้เขาก็เป็คนที่มีความมั่นใจมาก แต่ผู้ที่เขาจะต่อสู้ด้วยในครั้งนี้เป็ถึงเยาวชนระดับแนวหน้าของทั้งสิบแคว้นเลยนะ เขาจะไหวหรือ”
“ยากที่จะเดาได้ เ้ามองที่เยาวชนลึกลับจากแคว้นเฉียนซานสิ เขาต้องเป็คนที่หอการค้าฟ้านเทียนส่งมาแน่”
ผู้คนที่อยู่ในสนามประลองล้วนส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์
เยาวชนจากทั้งเก้าแคว้นบนลานประลอง เมื่อได้ยินสิ่งที่หลัวเลี่ยพูดก็ยิ่งโกรธมากขึ้น พวกเขารับไม่ได้กับการดูถูกพลังของพวกเขาจากคำพูดของหลัวเลี่ย ดังนั้นพวกเขาจึงค่อยๆ เตรียมพร้อมเพื่อต่อสู้กับหลัวเลี่ย
มีเพียงกลุ่มผู้ประลองจากแคว้นเดียวที่ยังคงมีท่าทางสงบนิ่ง
พวกเขาสี่คนผู้เป็ตัวแทนจากแคว้นจินหลาน ซึ่งรวมซือสิ่งหลงด้วยล้วนคงท่าทางเรียบนิ่ง
ทั้งสี่ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน
ซือสิ่งหลงกล่าวว่า “หลัวเลี่ย คู่ต่อสู้ของเ้าคือคนจากทั้งเก้าแคว้น”
“หืม?”
หลัวเลี่ยมองไปที่พวกเขาทั้งสี่อย่างโง่งม
ซือสิ่งหลงพูดว่า “นี่เป็คำสั่งขององค์ชาย ข้าจึงต้องทำตาม แต่เพราะพวกข้าทั้งสี่คนเป็ตัวแทนจากแคว้นจินหลาน หากต้องโจมตีเ้าที่เป็ตัวแทนจากแคว้นจินหลานเช่นกันก็ดูจะไม่เหมาะสม เมื่อทางหนึ่งคือคำสั่งจากองค์ชาย และอีกทางหนึ่งคือความอยู่รอดของแคว้น ข้าจึงทำได้เพียงไม่ขอเข้าร่วมการประลองนี้”
ตอนนี้ชาวจินหลานกำลังโกรธมาก พวกเขารู้สึกละอายใจมาก แต่เมื่อนึกได้ว่าอย่างน้อยคนในกลุ่มก็ไม่ทำร้ายกันเอง พวกเขาจึงสามารถเงยหน้าขึ้นมาได้บ้าง
อย่างน้อยแคว้นจินหลานก็มีผู้ชายที่ดี เป็นักรบที่แท้จริง!
องค์ชายสามและองค์ชายเก้าโกรธจนเกือบจะพุ่งไปหาทั้งสี่คนนั้น
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลัวเลี่ยก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะเขากลัวความแข็งแกร่งของคนทั้งสี่ แต่เป็เพราะคนทั้งสี่นี้ได้รู้กระจ่างแล้ว
ทุกคนไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อผลตอบแทน
“ต่อให้มีหรือไม่มีพวกเ้าทั้งสี่ พวกข้าตัวแทนจากแคว้นไป๋หยวนก็สามารถเอาชนะหลัวเลี่ยได้”
“ฆ่าเขา!”
เยาวชนมากฝีมือทั้งห้าคนจากแคว้นไป๋หยวนเป็กลุ่มแรกที่เริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาเป็ผู้นำและพุ่งตัวตรงไปเพื่อฆ่าหลัวเลี่ย
หลัวเลี่ยรู้ว่าเขากำลังจะเผชิญหน้ากับกลุ่มเยาวชนที่โดดเด่นที่สุดจากทั้งเก้าแคว้น ไม่มีใครกล้าพูดว่าพวกเขามีไพ่ลับหรือไม่ ดังนั้นไม่ว่าหลัวเลี่ยจะมั่นใจแค่ไหนก็จะประมาทพวกเขาไม่ได้
เขาไม่รอที่จะเป็ฝ่ายถูกโจมตี แต่ชิงเป็ฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน
ท่ามกลางเสียงคำรามของัแห่งท้องทะเล ทันใดนั้นหลัวเลี่ยก็ปรากฏตัวขึ้น เขาดูคล้ายัสีน้ำเงิน เขาพุ่งไปข้างหน้าสามถึงห้าก้าว และปรากฏตัวต่อหน้าเยาวชนทั้งห้าจากแคว้นไป๋หยวน
นี่คือวิชาก้าวั!
เร็ว เร็วมาก
อย่างน้อยหลัวเลี่ยก็ฝึกฝนทักษะวิชานี้จนอยู่ในระดับถ่องแท้แล้ว ดังนั้นเขาก็นับว่าโดดเด่นในเื่การเคลื่อนตัวด้วยความเร็วเช่นกัน
เมื่อตัวคนมาถึงแล้ว หมัดก็มาถึงเช่นกัน
เยาวชนทั้งห้ากำลังวิ่งกระจัดกระจาย พวกเขารู้สึกเวียนหัวคล้ายโลกหมุน
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
หลังจากเสียงะเิดังขึ้นห้าครั้งติดต่อกัน เยาวชนทั้งห้าจากแคว้นไป๋หยวนก็กรีดร้องขึ้นพร้อมกัน พวกเขากระอักเื ก่อนลอยขึ้นแล้วตกลงที่ด้านนอกแท่นประลองทรงกลมที่สูงห้าเมตรนี้
ห้าคนนี้ล้มลงกับพื้นทีละคน พวกเขาต่างอยู่ในสภาพแน่นิ่ง
ราชครูซาเฉียนหลี่เบิกตากว้าง และพูดด้วยเสียงต่ำว่า “อันดับที่สิบ แคว้นไป๋หยวน!”
ทันทีที่เขาพูดจบหลัวเลี่ยก็เคลื่อนไหวอีกครั้ง ก่อนที่คนอื่นๆ จะเปล่งเสียงอุทานออกมา
เขาใช้วิชาก้าวั เคลื่อนไหวในอากาศอย่างรวดเร็ว
มันรวดเร็วมากจนเยาวชนมากฝีมืออีกห้าคนจากแคว้นซีเยียนที่เพิ่งเตรียมตัวเข้าโจมตี จู่ๆ พวกเขาก็รู้สึกเจ็บหน้าอก จากนั้นร่างกายของพวกเขาก็ลอยขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
หลังจากที่ร่างทั้งห้าของเยาวชนจากแคว้นซีเยียนตกลงสู่พื้น เสียงของราชครูซาเฉียนหลี่ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“อันดับเก้า แคว้นซีเยียน!”
เยาวชนมากฝีมือจำนวนสิบคนจากแคว้นใหญ่ทั้งสองถูกโจมตีในชั่วพริบตา
ผู้คนมองไปที่หลัวเลี่ย
“หลัวเลี่ยแข็งแกร่งมาก”
“มิน่าล่ะ เขาจึงกล้าพูดว่าจะเอาชนะคนจากทั้งสิบแคว้นด้วยตนเอง ช่างเก่งกาจจริงๆ”
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมในตอนแรกคนที่อยู่บนเขาอวิ๋นเยว่จึงเรียกเขาว่าัคลั่ง หากยังเป็แบบนี้ต่อไป เขาคงจะเป็คนที่ชนะในสนามประลองนี้จริงๆ และเช่นนั้นคงถือว่าเขาเอาชนะหอการค้าฟ้านเทียนได้แล้ว”
ผู้คนตื่นเต้นกับการต่อสู้นี้
หลังจากที่หลัวเลี่ยจัดการเยาวชนจากสองแคว้นติดต่อกันแล้ว ทันใดนั้นเขาก็กลับมาปรากฏตัวที่จุดศูนย์กลางของสนามประลองอีกครั้ง
เขาใช้เวลาเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่วินาที
เหตุการณ์นี้ทำให้เยาวชนจากแคว้นอื่นใมาก เพราะพวกเขากลุ่มเยาวชนทั้งหมดรู้จักกัน พวกเขาได้แต่คิดว่า แม้แต่แคว้นไป๋หยวนและแคว้นซีเยียนที่ปกติแล้วจะอยู่ในลำดับที่ห้าหรือหกในการประลอง ยังไม่สามารถตอบโต้หลัวเลี่ยได้เลย นี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของหลัวเลี่ย
“หึๆ…”
เสียงหัวเราะเย็นๆ ดังขึ้น
ยุวราชันแห่งแคว้นเฉียนซานที่สวมเสื้อคลุมยิ้มและพูดว่า “ไม่เลว เดิมทีข้าคิดว่าเ้าคงไม่มีค่าพอที่จะให้ข้าลงมือด้วยตนเอง แต่นึกไม่ถึงว่าเ้าจะมีพลังที่น่าสนใจอยู่บ้าง เช่นนั้นข้าจะทดสอบเ้า หากเ้าผ่านบททดสอบนี้ก็หมายความว่าเ้ามีค่าพอที่จะให้ข้าลงมือจริงๆ”
หลัวเลี่ยมองไปที่คนคนนี้อย่างเ็า
นี่คือคนที่หอการค้าฟ้านเทียนส่งมาหรือ เขาบ้าไปแล้ว
“ชาวจินหลานที่เป็ตัวแทนเข้าประลองทั้งสี่คนนั้นเป็ลูกผู้ชายจริงๆ พวกเขาขัดคำสั่งองค์ชายของตัวเองเพื่อช่วยเหลือเ้า นับว่าพวกเขาเสียสละอย่างแท้จริง เช่นนั้นแล้วหากพวกเขาถูกโจมตี เ้าก็ควรจะช่วยเหลือเพื่อตอบแทนพวกเขาใช่หรือไม่” ยุวราชันแห่งแคว้นเฉียนซานหัวเราะอย่างเยือกเย็น
ทันทีที่เขาพูดจบ กลุ่มเยาวชนจากสี่แคว้นก็รีบไปหาพวกซือสิ่งหลงและอีกสามคนพร้อมกัน
เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังใช้กฎศีลธรรมโจมตีหลัวเลี่ย
ซือสิ่งหลงและพวกพ้องของเขาใจกว้างแล้ว แล้วหลัวเลี่ยจะใจกว้างหรือไม่
หากหลัวเลี่ยไปช่วยซือสิ่งหลง เขาก็จะเสียเวลาในการเดินหน้ากำจัดกลุ่มเยาวชนอื่นๆ
และเขาอาจตกอยู่ในวงล้อมของกลุ่มเยาวชนทั้งหมด
ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำของยุวราชันแห่งแคว้นเฉียนซานก็สามารถพลิกสถานการณ์ของหลัวเลี่ยโดยทันที
แม้ว่าซือสิ่งหลงและพวกพ้องของเขาจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่พวกเขาสามารถต่อสู้ได้ดีในกรณีตัวต่อตัว ทว่าเมื่อถูกรุมโดยคนยี่สิบคนจากทั้งสี่แคว้น ด้วยจำนวนคนที่มากเช่นนี้ เมื่อเทียบกับพวกเขาทั้งสี่คนแล้วนับว่าโอกาสชนะมีน้อยนัก
เมื่อรู้ว่ารับมือได้ยาก พวกซือสิ่งหลงจึงหันหลังชนกัน พวกเขาจะสู้ในฐานะตัวแทนแห่งแคว้นจินหลาน
“คิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่พวกเราได้ร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน”
“ปกติตอนที่ต่อสู้กันพวกเราก็ผลัดกันชนะอยู่แล้ว เช่นนั้นครั้งนี้เราก็แพ้ไปด้วยกันเถอะ”
“ถ้าถูกโจมตี เ้าก็ถอยหลังมา ให้พวกมันล้มหน้าคว่ำแล้วกัน”
ซือสิ่งหลง เฉิงปู้กุย และหูหยางอีต่างหัวเราะออกมา จากนั้นพวกเขาก็เริ่มโจมตีอย่างดุเดือด
หูหยินอีะโขึ้นว่า “หลัวเลี่ย เ้าและพวกข้าไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พวกข้าไม่ได้ต่อสู้เพื่อเ้า และเ้าก็ไม่ต้องต่อสู้เพื่อพวกข้า ข้า ข้า...”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ คนทั้งสนามประลองก็เงียบลงอีกครั้ง
เนื่องจากหลัวเลี่ยเริ่มลงมือแล้ว และคราวนี้เขาก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้