“ไม่ได้พบกันนานเลยนะ….” เสียงสตรีล่องลอยผ่านสายลมมาพร้อมกับกลิ่นหอม
จื่อต้าหลงหันไปดู ก็พบเห็นหลิวสุ่ยเยว่ กำลังเดินมาทางเขา
“นั่นสิไม่ได้พบกันนานเลย ได้ยินมาว่า ท่านเข้าสู่ขั้นลมปราณจิตแล้ว?” จื่อต้าหลงถามยิ้มๆ
“ใช่แล้ว….”นางตอบเสียงเรียบ
“ข้าได้ยินมาว่าท่านคิดท้าประลองสิบยอดยุทธ เป็เื่จริงรึไม่?” จื่อต้าหลงถาม
“เป็เื่จริง…..”
“ข้านับถือท่านจริงๆ แม่นางหลิว ในสายตาข้า… ท่านช่างเป็สตรีที่ห้าวหาญยิ่งนัก” จื่อต้าหลงกล่าวชมเชย
“ท่านเลือกใครเป็คู่ต่อสู้งั้นรึ?” จื่อต้าหลงถาม
“เซ่อเหยียน…”
แม้เซ่อเหยียนนั้น อยู่ในขั้นปราณจิตขั้นที่หนึ่งก็จริง แต่กว่าเขาจะบรรลุระดับนี้อายุก็ปาไปสามสิบกว่าปีแล้ว นับว่าเป็รุ่นเก๋าคนนึงในสำนัก
“ท่านแน่ใจหรือว่าจะเอาชนะได้?” จื่อต้าหลงถาม
“แพ้ชนะ….. อยู่ที่ตัวข้ากำหนด….” หลิวสุ่ยเยว่ตอบด้วยน้ำเสียงไพเราะเสนาะหู
“แพ้ชนะ…. อยู่ที่ตัวเราคาดหวังสิ่งใดจากการต่อสู้นี้ หากเลือกที่จะหนีการต่อสู้ วิถียุทธจะมีปม ทำให้ไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้… ช่างล้ำลึกยิ้งนัก ….อึ้ก!” จื่อต้าหลงกล่าววาจาอย่างเมามาย
“ไม่นึกเลยว่าคุณชายจื่อจะเข้าใจสิ่งที่ข้ากำลังคิด…..” หลิวสุ่ยเยว่กล่าวพลางยกแขนเรียวบางขึ้นมาจากนั้นจึงใช้มือทัดผมที่ยุ่งเหยิงจากสายลมเล็กน้อย กริยาท่าทางของหญิงสาวงดงามราวกับนางฟ้า์ ไม่ว่าผู้ใดพบเห็นเข้าล้วนย่อมต้องหลงใหล ราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด
“ช่าง… งดงามเหลือเกิน…” จื่อต้าหลงที่กำลังเมามายได้เห็นภาพนั้นถึงกับสติเลื่อนลอยพึมพำออกมา
“ใช่… ดวงจันทร์ช่างงดงามเหลือเกิน…” หลิวสุ่ยเยว่ตอบพร้อมกับหันหน้ามองมาทางจื่อต้าหลงอย่างไร้เดียงสา
“เป็อะไรไป? หน้าท่านดูแดงๆนะ ไม่สบายอย่างนั้นหรือ?” หลิวสุ่ยเยว่ถามอย่างสงสัย
“มะ…ไม่มีอะไรหรอก คนเมาสุราก็อย่างนี้แหละ ไว้ท่านได้ริ้มรส ท่านถึงจะเข้าใจ” จื่อต้าหลงรีบบอกปัดไป
“ใยดึกดื่นป่านนี้ท่านจึงไม่นอน” จื่อต้าหลงถามต่อ
“ข้ามาเดินเล่น… แล้วก็มาชมจันทร์ที่นี่อยู่บ่อยครั้ง” หลิวสุ่ยเยว่กล่าว
“เป็เช่นนี้เอง” จื่อต้าหลงพยักหน้าเข้าใจ
หลังจากที่จื่อต้าหลงเจอนางที่นี่ครั้งแรก เขาก็ไม่ค่อยได้มาที่ศาลาชมจันทร์มากเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่จะเดินทอดน่องชมบรรยากาศภายในเมืองที่มากไปด้วยผู้คนมากกว่า
“ท่านคิดเช่นไรกับงานประลองอาณาจักรลี่? จะเข้าร่วมด้วยหรือไม่?” จื่อต้าหลงถาม
“แน่นอนว่าข้าต้องเข้าร่วม….” หลิวสุ่ยเยว่ตอบ
“ดูเหมือนงานประลองอาณาจักรลี่ ทุกสำนักจะส่งตัวแทนเข้าร่วมกันทั้งนั้นเลยสินะ คาดว่าการคัดเลือกต้องเป็ไปอย่างเข้มข้นแน่นอน” จื่อต้าหลงกล่าวสิ่งที่ตนคิดออกมา
“ท่านเองก็จะเข้าร่วมด้วยหรือ?” หลิวสุ่ยเยว่ถาม
“แน่นอนข้าเองก็จะเข้าร่วมด้วย ไม่งั้นท่านพ่อคงเอาเื่ข้าแน่ ฮ่า ฮ่า! ฮ่า!!” จื่อต้าหลงกล่าวพร้อมหัวเราะ
“ถ้าอย่างนั้น ท่านก็ต้องชิงอันดับศิษย์หลักร้อยอันดับแรกมาให้ได้ก่อน….” หลิวสุ่ยเยว่กล่าว
“คงต้องเป็เช่นนั้นร้อยอันดับแรก คงไม่ยากเกินไป” จื่อต้าหลงตอบ
การประลองรุ่นเยาว์อาณาจักรลี่ ทุกสำนักรวมถึงตระกูลชาวยุทธทั่วไปจะมีสิทธิ์ส่งตัวแทนเข้าประลองได้เพียงหนึ่งร้อยคนเท่านั้น หาก้าเข้าร่วมการประลองยุทธรุ่นเยาว์แคว้นลี่จำต้องชิงร้อยอันดับแรกมาให้ได้เสียก่อน สำนักชั้นนำในอาณาจักรลี่ ก็มีเป็สิบสำนัก อีกทั้งจะมีคนจากราชวงศ์ัครามมาร่วมชมและตัดสินให้ด้วยเพื่อความยุติธรรม
ยังมีเวลาอีกครึ่งปี ให้ได้ฝึกฝนเพื่อท้าประลองร้อยอันดับแรกของสำนักปลาทอง คงไม่ต้องรีบมากเท่าไหร่ จื่อต้าหลงคิดในใจ
ทั้งสองต่างยืนชมจันทร์อย่างเงียบๆ ดื่มสุราเมามาย ชมจันทร์กับหญิงงาม สำหรับจื่อต้าหลงนับว่าช่างสุขใจเพลิดเพลินยิ่งนัก ่เวลาดีๆแบบนี้ มีไม่บ่อย…. เวลาไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้าคงต้องขอตัว….” หลิวสุ่ยเยว่กล่าว
“ดึกมากแล้วจริงๆ งั้นเราแยกกันตรงนี้เถอะ” จื่อต้าหลงกล่าวพร้อมโบกมือลา
น่าแปลกที่หญิงสาวก็โบกมือกลับมาให้เขาอย่างอ่อนโยนด้วยเช่นกัน ไม่คิดว่าจิ้งจอกน้อยจะมีมุุมที่น่ารักเช่นนี้ด้วย ภายนอกนางดูเ็าและเข้าถึงยาก ช่างน่ารักเสียจริง จื่อต้าหลงใจสั่นอมยิ้มมองดูจนนางเดินลับสายตาไป ส่วนเขายังคงร่ำสุราพร้อมชื่นชมจันทร์ ในใจเด็กหนุ่มเริ่มว่างเปล่าและเหม่อลอย…..
เช้าวันถัดมา จื่อต้าหลงมีนัดกับ เฉิงไฉเซียว และลวี่เหริน สองหนุ่มมาหาเขาเพื่อหารือเื่ที่จะรับภารกิจใหม่ เพราะแต้มคะแนนของสำนักพวกเขาก็เอาไปรับยาระดับสูงมากันหมดแล้ว พวกเขาไปที่หอภารกิจด้วยกัน และช่วยกันค้นหาภารกิจที่ได้ผลประโยชน์กันทั้งสามฝ่าย
หอภารกิจยังคงเต็มไปด้วยศิษย์มากมาย จนในที่สุดเฉิงไฉเซียวก็พบภารกิจที่เหมาะสม นั่นคือกำจัดสัตว์อสูรลิงหัวขวาน ซึ่งมีระดับลมปราณก่อเกิดขั้นสิบ ต้องกำจัดทั้งหมดสี่ตัวและนำร่างมันมามอบให้หอภารกิจของสำนักปลาทอง จึงจะนับว่าภารกิจสำเร็จ รางวัลของภารกิจคือ เม็ดยาเลื่อนระดับขั้นสูงหกเม็ด และแต้มสำนักสองร้อยแต้ม!
สัตว์อสูรลิงหัวขวานนั้น ออกอาละวาดในหมู่บ้านทางตอนเหนือของสำนักปลาทอง หมู่บ้านทางตอนเหนือนั้นมี นับสิบ หมู่บ้าน ภารกิจนี้ถ้าสำเร็จจะถือว่าเป็การช่วยเหลือชาวบ้านได้มากมายนัก ตอนนี้ชาวบ้านไม่กล้าออกไปทำมาหากินเพราะไม่รู้ว่าวันไหนสัตว์อสูรลิงหัวขวานจะอาละวาด จึงรวมตัวกันมาขอร้องให้สำนักปลาทองช่วยเหลือกำจัดพวกมันให้
หลังจากที่พวกเขารับภารกิจมาแล้ว ก็เร่งเดินทางไปหมู่บ้านทางตอนเหนือทันที ใช้เวลาราวๆหนึ่งชั่วยามจึงถึงที่หมาย หลังจากถึงที่หมายแล้วพวกเขาก็เข้าพบผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำหมู่บ้านเล่าให้ฟังว่า ไม่รู้เพราะเหตุใดสัตว์อสูรลิงหัวขวานถึงออกมาล่านอกพื้นที่ ปกติพวกมันจะอยู่ในส่วนป่าลึกเท่านั้น เป็เหตุให้ ชาวบ้านทั้งสิบหมู่บ้านพากันหวาดกลัว ไม่กล้าออกไปทำมาหากินล่าสัตว์ป่า
ภารกิจครั้งนี้ถือว่ายากพอสมควร เพราะต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรที่มีระดับลมปราณมากกว่าตัวเองถึงสี่ตัว แต่พวกเขาก็ได้หาหวั่นเกรงไม่ เพราะจากที่ได้รับรายงานมา พวกมันไม่ได้ออกล่ากันเป็กลุ่ม พวกมันกระจายพื้นที่การล่ามากกว่า ทำให้โอกาสที่จะเจอทั้งสี่ตัวพร้อมกันนั้นยากมาก หลังจากได้รับข้อมูลมา พวกเขาก็เข้าไปยังส่วนลึกในป่าไม้แดง หลังจากเข้ามาและหาร่องรอยของมันอยู่สักพัก พวกเขาก็พบมันหนึ่งตัว มันกำลังนอนเล่นน้ำลายไหลย้อยอยู่ใต้ต้นไม้ ดูท่าแล้วหลับสบายใจเฉิบหาได้รู้ไม่ว่าทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวมากเพียงใด
“เอาอย่างไร… ลอบกัดมันเลยดีไหม?” จื่อต้าหลงกระซิบถามเสียงเบา
“บัดซบ!! ข้าไม่มีทางลอบกัดผู้ใดแน่นอน!!” ลวี่เหรินคำรามเสียงดัง
“เ้าจะเสียงดังหาพระแสงอะไรกันวะ!! เดี๋ยวมันก็ตื่นกันพอดี!!” จื่อต้าหลงคำรามเสียงดังกว่า
“บัดซบ!! พวกเ้าสองคนจะเสียงดังเกินไปแล้วโว้ยยยย!!!” เฉิงไฉเซียวคำรามด้วยสุ้มเสียงที่ดังกว่าลวี่เหรินและจื่อต้าหลงรวมกันเสียอีก!
กรร!! โฮก!!
“บ้าเอ้ยเห็นมั้ยมันตื่นจนได้ เพราะพวกเ้านั่นแหละ” จื่อต้าหลงโวยวาย
สัตว์อสูรลิงหัวขวานหันมามองทางพวกเขาพร้อมกับคำรามดังลั่น โฮกกกกก!! มันทะยานเข้ามาจู่โจมก่อน มันยิงกำปั้นใส่ทั้งสามคนในทีเผลอ ลวี่เหรินนั้นหลบออกมาได้อย่างช่ำชอง เฉิงไฉเซียวเองก็หลบกำปั้นของมันได้เช่นกัน มีเพียงจื่อต้าหลงที่อยากลองรับดูสักหมัด เขาโคจรพลังเกราะกายาขั้นสูงเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกาย เปรี้ยง!! สัตว์อสูรลิงหัวขวานชกไปยังจื่อต้าหลงเต็มแรง หมัดนี้เด็กหนุ่มโดนไปเต็มๆ เขากระเด็นไปชนต้นไม้จนหักโค่น…..
