สังเวียนับรรพชนได้รับการปกป้องด้วยไปด้วยจิติญญาัที่หนาแน่นราวกับตั้งอยู่ท่ามกลางหมอกหนา
ด้านนอกเป็พื้นที่ที่ได้รับการปกป้องโดยอัจฉริยะตระกูลไห่หลายพันคน ที่นำโดยปรมาจารย์ชั้นนำสี่คน หลงไป๋จาง หลงเติ้งอวิ๋น ไห่ปี้เถา และสุ่ยอวิ๋นเหยา พวกเขาต่างรอคอยการมาถึงของหลัวเลี่ย
พวกเขารู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในหุบเขาสุสานั เส้นขอบฟ้า รวมถึงการหยั่งรู้ดัชนีพลิกฟ้าที่เกิดขึ้นในแม่น้ำแห่งการรู้แจ้งของหลัวเลี่ย ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่ใ แต่พวกเขายังตื่นเต้นและกระตือรือร้นมากกับการมาถึงของหลัวเลี่ย
“มันควรจะมาแล้ว”
หลงไป๋จางกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ภายในเขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แม้จะตื่นเต้น หากมองใกล้ๆ เ้าจะพบว่ามือที่อยู่ด้านหลังของเขาประสานกันแน่นเพื่อระงับอารมณ์
“มาแล้ว!”
หลงเติ้งอวิ๋นก็ไม่มีข้อยกเว้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดอันเป็เอกลักษณ์ เขามองผ่านม่านหมอกของสังเวียนับรรพชน และเห็นหลัวเลี่ยก้าวขึ้นมาจากอีกด้านหนึ่งทีละก้าว
การปรากฏตัวของเขาทำให้อัจฉริยะรุ่นเยาว์สองคนของตระกูลไห่อิจฉาเล็กน้อย
ไห่ปี้เถา และสุ่ยอวิ๋นเหยารู้ดีว่า แม้ว่าพวกเขาจะเป็ชนชั้นสูงในสี่ทะเล แต่พวกเขาอยู่ในกลุ่มราชวงศ์และเผ่าหลินสุ่ย ดังนั้นพวกเขาจึงเสียเปรียบในการแข่งขันเพื่อชิงลมปราณของับรรพชน
“ข้ารอมานานแล้ว”
หลัวเลี่ยปีนขึ้นไปบนสังเวียนับรรพชน เขากวาดสายตามองผู้คนที่อยู่ข้างนอกท่ามกลางหมอกหนาทึบ และพูดช้าๆ
“ในที่สุดเ้าก็มา” หลงไป๋จางยิ้ม “ข้ารู้ว่าคนที่สามารถฆ่าคนสองคนได้ และทำลายกลองัของบรรพบุรุษ จะถูกหยุดโดยคนอย่างชางจื่อเฟิงได้อย่างไร ข้ารอดูอยู่ว่าเ้าจะรอดมาจากชางจื่อเฟิงได้หรือไม่ พอเห็นเ้าผ่านเส้นขอบฟ้ามาได้แล้ว ข้าจึงมารอเ้าอยู่ที่นี่”
ไม่มีอะไรพิเศษบนสังเวียนับรรพชน
เมื่อมองแวบแรก ดูเหมือนจะเป็แท่นประลองธรรมดา และไม่มีความพิเศษใดๆ
หากสังเกตดีๆ จะดูเหมือนว่าจะมีค่ายกลที่คลุมเครือของจักรวาลับรรพชนอ้าวเซียว
จิติญญาับนสังเวียนับรรพชนนั้นอุดมสมบูรณ์เป็พิเศษ
“บางทีมันอาจเป็ความผิดพลาด” หลัวเลี่ยหัวเราะเบาๆ
“พูดตามตรง พี่ใหญ่หลัวได้สร้างปาฏิหาริย์มากมายตลอดทาง แต่ในที่สุดนี่จะเป็สถานที่ที่ปาฏิหาริย์ของเ้าสิ้นสุดลง” หลงไป๋จางกล่าวอย่างหยิ่งผยองโดยไม่ปิดบังความภาคภูมิใจภายในของเขา “ท้ายที่สุดแล้ว เ้ากำลังกระตุ้นนิมิตแห่ง์ และเปิดแผ่นดินับรรพชนทะลวงท้องฟ้า หมายความว่าเผ่าัของเราจะเจริญรุ่งเรือง ถือได้ว่าเป็โชคของเผ่าัของเรา นอกจากนี้เ้ายังปลุกัชั่วร้ายที่สูญหายไปในหุบเขาสุสานั ซึ่งเป็ความดีความชอบอีกประการหนึ่ง ดังนั้นข้าจะยึดทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเผ่าัจากเ้า และจะไม่ทำร้ายเ้า ถือเป็การแทนคำขอบคุณจากเผ่าัดีหรือไม่”
หลัวเลี่ยกล่าว “เช่นนั้นก็ขอบคุณ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลงไป๋จางลึกขึ้น “เช่นนั้นก็ส่งมันมาดีๆ จะได้ไม่ต้องรบกวนความสงบสุขของสถานที่แห่งนี้”
“กลางวันแสกๆ เ้ายังกล้านอนฝันอีกหรือ” หลัวเลี่ยยิ้มเยาะ
“ข้าไม่เคยฝันกลางวัน” หลงไป๋จางยังคงยิ้ม “ในเมื่อเ้าไม่ยอมส่งมาแต่โดยดี ข้าก็คงต้องลงมือเอง” เขายกนิ้วชี้และนิ้วกลางของมือขวาขึ้นประสานกัน และจู่ๆ ก็จิ้มไปที่หัวใจของเขา
ขณะที่ดึงนิ้วออก เืสีทองหยดหนึ่งก็ลอยออกมา
หลงไป๋จางชี้นิ้วของเขาไปที่หยดเืสีทองแล้วเคลื่อนมันไปในอากาศอย่างรวดเร็ว เกิดเป็ภาพแปลกๆ ราวกับัสีน้ำเงินกลืนดวงจันทร์
“วิชาอัญเชิญ...ั...!”
หลัวเลี่ยะโออกมาทีละคำ โดยมีตราัขาวอยู่บนหัว เกิดพายุปั่นป่วนทั่วท้องฟ้า น้ำทะเลหนุนสูง พร้อมกับคลื่นั์อันน่าสะพรึงกลัว
หลงเติ้งอวิ๋น ไห่ปี้เถา สุ่ยอวิ๋นเหยา และอัจฉริยะรุ่นเยาว์คนอื่นๆ เปลี่ยนสีหน้า และมองหลงไป๋จางด้วยความใ
อัจฉริยะหนุ่มหลายพันคนจากตระกูลไห่ตกอยู่ในความโกลาหล
วิชาอัญเชิญัสามารถทำได้โดยการสกัดแก่นแท้ของเืหนึ่งในสามของร่างกายแล้วรวมกับเืหยดหนึ่ง ซึ่งเป็สัญลักษณ์ของความมีชีวิตชีวา
การใช้วิชาอัญเชิญั หากไม่ระวังก็อาจตกอยู่ในอันตรายได้
หลังจากใช้มันแล้วไม่บรรลุผล หยดเืก็จะหายไป และผลลัพธ์นั้นจะทำให้เส้นทางการฝึกวรยุทธ์ของบุคคลนั้นพังทลายลงไปโดยสิ้นเชิง
นับจากนี้ไปก็ไม่สามารถฝึกวรยุทธ์หรือบ่มเพาะได้อีก
หลงไป๋จางเป็หนึ่งในอัจฉริยะชั้นนำในหมู่อัจฉริยะเผ่าั บางทีเขาอาจจะไม่สามารถเป็ผู้ครองอำนาจได้หลังจากที่เขาเข้าสู่วัยกลางคน แต่เขาเป็ความหวังที่มีแนวโน้มมากที่สุดอย่างแน่นอน
ตอนนี้เขาทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย
ต้องบอกว่าการเคลื่อนไหวของหลงไป๋จางนั้นบ้าคลั่งมาก เพราะการจะทำเช่นนี้ก็มีเพียงคนบ้าเท่านั้น
เขาไม่ทิ้งเส้นทางหลบหนีให้ตัวเองเลย
“ดีที่เ้ายังรู้” หลงไป๋จางกดฝ่ามือลงบนลวดลายที่วาดด้วยหยดเืสีทอง และะโอย่างเ็า “ออกมา!”
ครืน
ค่ายกลสั่นไหว และักลืนจันทราก็ส่งเสียงคำรามจากเบื้องบน ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น
ทันใดนั้นหมอกบนสังเวียนับรรพชนก็ม้วนตัวอย่างรุนแรง และผู้พิทักษ์แสงัก็ถอยกลับไปทางซ้ายและขวา
จิติญญาับรรพชนในทะเลแห่งจิตสำนึกของหลัวเลี่ยม้วนตัวอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และกลายเป็ท่าทางของับรรพชน ก่อนจะพยายามหลบหนีจากร่างของหลัวเลี่ย
“ข้ายังไม่เชื่อว่าเ้าจะเอาอะไรไปจากมือข้าได้”
หลัวเลี่ยไม่พอใจอย่างมาก
เขาไม่ชอบการถูกปฏิบัติเช่นนี้
ไม่ว่าความคิดของเขาจะเคลื่อนไหวไปที่ใด ร่างกายก็เต็มไปด้วยแสงสว่าง และพลังงานในร่างกายของเขาก็ระงับพลังงานัของบรรพชนที่พลุ่งพล่านอย่างรุนแรง
ใบหน้าของหลงไป๋จางซีดลงเล็กน้อย แต่เขายิ้มอย่างมีความสุขและกล่าวอย่างมั่นใจ “ข้าไม่เชื่อว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นเ้าจะสามารถสมบัติของเผ่าัได้ แต่เผ่าัของเราสามารถมันได้อย่างแน่นอน ส่งมันมา”
มือทั้งสองประสานกัน ค่ายกลักลืนจันทราถูกสร้างขึ้นอีกครั้ง มันปล่อยพลังออกมาทำให้น้ำทะเลปั่นป่วน คลื่นรอบๆ กำลังพลุ่งพล่าน พยายามกลืนจิติญญาับรรพชนของหลัวเลี่ยอย่างรุนแรง
การดูดซับจิติญญาัเป็ไปอย่างง่ายดาย เพราะมันเป็ของัอยู่แล้ว
ลมปราณับรรพชนถูกดึงอย่างแรงจนลอยออกจากทะเลแห่งจิตสำนึกของหลัวเลี่ย และกลายเป็หมอกที่ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศที่เก่าแก่
หลัวเลี่ยคว้ามันด้วยมือของเขา และพลังงานทั่วร่างกายของเขาก็พุ่งสูงขึ้น ทั้งหมดมากันที่มือขวาของเขาและก่อตัวเป็ผนึก ปิดกั้นพลังงานของับรรพชน
“เ้าจะเอามันไปไม่ได้หรอก” หลงไป๋จางะโอย่างสิ้นหวัง แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้หลงเติ้งอวิ๋นจึงกล่าวว่า “การใช้วิธีนี้ทำให้ไป๋จางเสียเปรียบ หากเขา้าผ่านอุปสรรคของสังเวียนับรรพชน ความแข็งแกร่งของเขาจะอ่อนแอลงอย่างมาก”
“พลังัเป็สมบัติของเผ่าัของข้า จะยอมให้เ้าใช้มันได้อย่างไร” หลงเติ้งอวิ๋นตบไหล่หลงไป๋จาง และพลังัที่น่าสะพรึงกลัวก็หลั่งไหลเข้ามาช่วยหลงไป๋จาง
ชั่วครู่ต่อมา จู่ๆ ักลืนจันทราก็ขยายใหญ่ขึ้น ราวกับว่านี่คือร่างจริงๆ
ัสีน้ำเงินค่อยๆ กลืนดวงจันทร์ข้างแรมเข้าปาก
การกลืนจันทร์ข้างแรมก็เหมือนกับกลืนพลังงานของับรรพชน พลังงานของับรรพชนจะหนีจากการควบคุมของหลัวเลี่ยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“มีคนตั้งสิบคนพยายามจะแย่งชิงพลังับรรพชนของข้าไป หากปล่อยให้พวกเ้าทำจนสำเร็จ ข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” พลังปราณในมือขวาของหลัวเลี่ยลดลงทันที เขาเกือบจะปล่อยมือและปล่อยให้จิติญญาับินหนีไป
ลมปราณที่ถ่ายโอนโดยเขาถูกป้อนเข้าสู่มือซ้ายของเขา
มือซ้ายของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์!
เขาคว้ามือซ้ายไว้ตรงหน้า “หากเ้ากล้าชิงมันไป ข้าสาบานว่าเ้าจะกลายเป็ชายที่โชคร้ายที่สุดในโลก”
จู่ๆ หลงไป๋จางและคนอื่นๆ ก็ส่งเสียงดัง พวกเขาไม่พอใจอย่างมากกับการใช้วิชาแปลกประหลาดของหลัวเลี่ย เพราะคนที่ถูกส่งออกไปในครั้งนี้ล้วนเป็อัจฉริยะด้านการต่อสู้ แต่ก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ
ก่อนหน้านี้เขาแค่คิดถึงความเจริญรุ่งเรืองของเผ่าัเท่านั้น เขา้าที่จะชิงเอาจิติญญาับรรพชนของหลัวเลี่ยมาเพื่อการฟื้นคืนชีพครั้งใหญ่ของเผ่าั คือบรรพชนัทะลวงท้องฟ้า และ้าที่จะเติบโตเป็ความหวังของเผ่าั และเป็ผู้นำการฟื้นคืนชีพครั้งใหญ่ของเผ่าั แต่ตอนนี้เขาลืมเื่นี้ไปแล้ว
หากเขาล้มเหลว จะเป็การตัดเส้นทางการบ่มเพาะของเขาออกไป แล้วหลงไป๋จางจะเป็เช่นไร เขาจะทนได้อย่างไร แต่เขาละทิ้งสิ่งที่เรียกว่าความภาคภูมิใจของเขาทันที และะโ “หลงจวินส่งคนมาช่วยข้า” หนึ่งในนั้นคืออัจฉริยะหนุ่มชั้นยอดหลายพันคนจากตระกูลไห่ที่รออยู่ด้านหลัง
ัหนุ่มตอบสนอง และนำอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของเผ่าัหลายร้อยคนบินเข้ามา จากนั้นก็โจมตีอย่างสุดกำลังทันที
อัจฉริยะหนุ่มจำนวนหนึ่งร้อยสองคนจากเผ่าัเข้าร่วมกองกำลัง และพลังของวิชาอัญเชิญัก็เพิ่มขึ้นยี่สิบถึงสามสิบเท่า พลังการกดขี่นั้นเกินกว่าที่หลัวเลี่ยสามารถรับมือได้ ปราณับรรพชนในที่สุดก็แยกตัวออกจากหลัวเลี่ยทีละน้อย ด้วยการควบคุมที่แข็งแกร่งของหลงไป๋จางมันจึงลอยไปหาเขาทีละน้อย