ตามหลักแล้ว อุณหภูมิสูงขนาดนี้ที่แม้แต่เนี่ยเฉี่ยนก็ยังรับไม่ไหว เนี่ยเทียนก็ควรจะยิ่งรับไม่ไหวเข้าไปใหญ่
อีกอย่างก่อนหน้านี้ เนี่ยเทียนก็บอกแล้วว่า เขากับกระดูกสัตว์ชิ้นนั้นไม่มีการขานรับทางพลังิญญาต่อกัน หลังจากที่อุณหภูมิของกระดูกสัตว์เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เนี่ยเทียนเองก็เป็ฝ่ายปล่อยมือออกไปก่อน นี่หมายความเนี่ยเทียนไม่สามารถทนรับอุณหภูมิร้อนสูงได้
ทว่าตอนนี้ ในยามที่กระดูกสัตว์ชิ้นนั้นดูดซับพลังเปลวเพลิงจากหินเมฆอัคคีไปมากมาย อุณหภูมิไต่ขึ้นสูงถึงขีดสุดจนแม้แต่นางเองก็ยังรับไม่ไหว แต่เนี่ยเทียนกลับยื่นมือออกไปทดลองอีกครั้ง
นี่ทำให้นางแปลกใจมากพออยู่แล้ว
แต่ที่น่าตะลึงยิ่งกว่าก็คือ ตอนนี้นิ้วมือของเนี่ยเทียนที่กดลงไปบนกระดูกสัตว์สีแดงโร่นั้น กลับแน่นิ่งไม่ขยับราวกับไม่มีความรู้สึกใดๆ
เป็ครั้งแรกที่เนี่ยเฉี่ยนรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เข้าใจหลานชายคนนี้ของตัวเองเลยแม้แต่นิด
“ฟู่ว ฟู่ว!”
ภายใต้การจับสังเกตอย่างละเอียดของเนี่ยเฉี่ยน พบว่าจุดที่มือของเนี่ยเทียนัักับกระดูกสัตว์ มีประกายไฟเล็กๆ เปล่งวาบออกมา
ส่วนเนี่ยเทียนกลับเหม่อลอย ั์ตาค่อยๆ เปล่งประกายมีชีวิตชีวาผิดไปจากยามปกติ
“หรือว่าเขาค้นพบอะไรบางอย่างแล้วหรือ?” เนี่ยเฉี่ยนพึมพำเสียงเบาหนึ่งประโยคแล้วก็รีบหุบปากอย่างฉับไว กลัวว่าจะไปรบกวนเนี่ยเทียนเข้า
ประกายไฟเล็กกระจิดริดราวกับดวงดาวสีชาดดวงเล็กดารดาษ ไหลเวียนอยู่ภายในกระดูกสัตว์ท่ามกลางการรับััของเนี่ยเทียน
เขามองเห็นว่าประกายไฟเ่าั้รวมตัวเข้าด้วยกันเป็จุดหนึ่งอยู่ในกระดูกสัตว์
แสงสีแดงงดงามเ่าั้ยิ่งรวมตัวกันก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตัดสลับพริบพราวอยู่ด้านใน ยิ่งมองยิ่งลึกลับยิ่งนัก
เขารวบรวมสมาธิทั้งหมด และพยายามสอดส่องหาความลึกลับภายในนั้น
“ตูม!”
สมองพลันะเือย่างรุนแรง เขาค้นพบอย่างกะทันหันว่ายามนี้ตัวเองได้เข้าไปอยู่ในฟ้าดินแห่งหนึ่งที่มีแสงสีมากมายหลากหลายและพิลึกกึกกือ
พื้นที่ลึกลับสีแดงสด ลูกไฟคล้ายดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งแสงแวววับ เส้นแสงสีเพลิงเส้นแล้วเส้นเล่าตัดสลับกันไปมาคล้ายงูวิเศษที่เลื้อยกายเบาๆ ทุกวินาทีจะต้องเปลี่ยนออกมาเป็ลายเส้นหนาแน่นไม่ซ้ำกัน
ท่ามกลางแสงสีแดงที่เปลี่ยนแปลงบิดเบือนไปมาของดวงดาวเปลวไฟเ่าั้ คล้ายจะแฝงเร้นไว้ด้วยพลังที่แท้จริงบางอย่างของพลังเปลวเพลิงนั้น
จิตใต้สำนึกเส้นหนึ่งของเขาราวกับกำลังเดินเตร่อยู่ท่ามกลางเปลวไฟลึกลับแห่งนี้ เพื่อัักับสัจธรรมและความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของพลังเปลวเพลิงนั้น
ทั้งจิตใจและร่างกายของเขาหลงใหลเคลิบเคลิ้มไปกับมัน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เขาััได้ว่าตัวเองกลายเป็ิญญาเพลิงล่องลอยอยู่ท่ามกลางฟ้าดินแห่งเปลวไฟที่เขาไม่รู้จักแห่งนั้น
จนกระทั่งกระดูกสัตว์ที่แดงฉานราวกับเหล็กหลอมค่อยๆ ดับแสงลงอีกครั้ง
“โครม!”
โลกแห่งเปลวเพลิงที่เต็มไปด้วยความลึกลับนั้นพลันถล่มทลายลงมา พื้นที่แห่งนั้นะเิออกกลายเป็เส้นแสงสีแดงจำนวนมากมายเกินจะนับพุ่งปะทุออกมา
จิตใต้สำนึกของเนี่ยเทียนถูกกระชากกลับจากดินแดนมหัศจรรย์มาอยู่ในกระดูกสัตว์
เขามองเห็นเืสดสีแดงฉานหยดหนึ่งแตกกระจายอยู่ภายใน จากนั้นจึงกลายมาเป็สะเก็ดไฟมากมาย ล่องลอยไปตกตามมุมต่างๆ ในกระดูกสัตว์อีกครั้ง
แล้วแสงไฟทั้งหมดก็ค่อยๆ ดับลงไปทีละดวง กระดูกสัตว์กลับมาสู่สภาพดังเดิม
พลังจิตของเขาจึงค่อยๆ กลับคืนมาอย่างช้าๆ ััได้ถึงความรู้สึกหยาบกระด้างตรงจุดที่นิ้วมือแตะโดนกระดูกสัตว์
“เฮือก!”
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งครั้ง เขาดึงนิ้วมือออกมา ดวงตาจ้องมองกระดูกสัตว์ตาไม่กะพริบ แล้วกล่าวอย่างตกตะลึงว่า “เืสดหนึ่งหยด...”
“เ้าพูดอะไรรึ?” เนี่ยเฉี่ยนที่ทนรอมานานรีบซักไซ้ทันที “มีอะไรหรือ? เกิดเื่อะไรขึ้น? เหตุใดเ้าถึงทนรับความร้อนของกระดูกสัตว์นั้นได้นานขนาดนี้?” นางรัวคำถามออกมารวดเดียวอย่างไม่หยุดปาก
“ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” เนี่ยเทียนคืนสติกลับมา แล้วพูดต่ออีกว่า “ไม่รู้ว่ามันเกิดเื่อะไรขึ้น เมื่อครู่นี้อยู่ๆ ข้ารู้สึกว่าข้าควรจะัักระดูกสัตว์ชิ้นนั้นดู จึงััมัน ทั้งยังไม่รู้สึกถึงความร้อนแผดเผาใดๆ ในทางกลับกัน... ข้ากลับรู้สึกได้ถึงความมหัศจรรย์ของมันด้วย”
“รีบเล่ามาสิ!” เนี่ยเฉี่ยนสนใจใคร่รู้เป็อย่างยิ่ง
“อาจเป็เพราะกระดูกสัตว์ชิ้นนี้ดูดซับพลังเปลวเพลิงมามากพอ ประกายไฟมากมายที่อยู่ด้านในจึงรวมตัวกันเป็รูปร่างคล้ายเืเล็กๆ หยดหนึ่ง ด้านในเืสดหยดนั้นเหมือนจะก่อตัวกันขึ้นมาเป็โลกแห่งเปลวเพลิงที่ลึกลับแห่งหนึ่ง ท่ามกลางสติอันเลือนราง ข้ารู้สึกเหมือนตัวข้าได้เข้าไปเดินอยู่ในโลกเปลวเพลิงมหัศจรรย์นั้น”
“แต่ดูเหมือนว่าหยดเืนั้นยังก่อตัวได้ไม่สมบูรณ์แบบนัก”
“ผ่านไปครู่หนึ่ง ตอนที่กระดูกสัตว์กลับคืนมาเป็ปกติ เืสดที่เกิดจากการหลอมตัวของเปลวไฟมากมายกลับแยกตัวออกจากัน ออกเป็สะเก็ดไฟเล็กๆ หายเข้าไปในกระดูกสัตว์นั้น”
“ข้ามีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่า พลังจากเปลวเพลิง... ที่กระดูกสัตว์ดูดซับเอามายังห่างไกลจากความ้ามากนัก ไม่มากพอที่จะทำให้เืสดหยดเล็กนั้นก่อตัวกันขึ้นมาสำเร็จได้อย่างแท้จริง"
“เืสดหนึ่งหยดอย่างนั้นหรือ?” เนี่ยเฉี่ยนสงสัยอย่างมาก “ในกระดูกสัตว์จะมีเืหนึ่งหยดได้อย่างไรกัน? แถมเืหยดนั้นก็ยังไม่ได้อยู่ในสภาพที่แข็งตัวแล้วด้วย มันแปลกไปหน่อยหรือไม่”
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดถึงเป็เช่นนั้น” เนี่ยเทียนแบมือออกท่าทางใสซื่อ
เนี่ยเฉี่ยนคิดไปคิดมาจึงกล่าวขึ้นว่า “ตอนนี้ข้าไม่มีหินเมฆอัคคีอีกแล้ว แต่ท่านตาของเ้าน่าจะยังพอมีอยู่บ้าง เ้ารออยู่ตรงนี้นะ ข้าจะไปหาท่านตาของเ้า!”
พูดจบเนี่ยเฉี่ยนก็เดินดิ่งออกจากห้องทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง เนี่ยตงไห่ก็เข้ามาพร้อมกับเนี่ยเฉี่ยน เขายื่นถุงผ้าใบใหญ่ที่บรรจุเต็มไปด้วยหินเมฆอัคคีส่งให้กับเนี่ยเทียน แล้วกล่าวว่า “หินเมฆอัคคีที่ข้ามีนั้นอยู่ในนี้หมดแล้ว”
หินเมฆอัคคีเป็เพียงวัตถุวิเศษในระดับต่ำเท่านั้น ตระกูลเนี่ยขุดมาหลายปี แน่นอนว่าย่อมมีเก็บไว้ไม่น้อย
เพียงแต่ว่ามีเพียงผู้ที่มีธาตุเปลวไฟในตัวเท่านั้น ถึงจะเอาหินเมฆอัคคีมาใช้ในการบำเพ็ญตบะได้ แต่เนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนต่างก็ไม่มีธาตุเปลวไฟ ดังนั้นพวกเขาจึงมีเก็บไว้ แต่ก็มีจำนวนจำกัด
“เ้าลองดูอีกที” ดวงตาเนี่ยเฉี่ยนเปล่งประกายวิบวับ
“ได้!” เนี่ยเทียนพยักหน้า
จากนั้นเขาก็ใช้กระดูกสัตว์ดึงดูดเอาพลังเปลวเพลิงออกไปจากหินเมฆอัคคีทีละก้อน ต่อหน้าเนี่ยตงไห่และเนี่ยเฉี่ยนอีกครั้ง
กระดูกสัตว์เปลี่ยนมาเป็สีแดงสว่างจ้าอย่างรวดเร็ว สะเก็ดไฟหลายลูกที่อยู่ด้านในสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“ไหนข้าขอดูหน่อย!”
กระดูกสัตว์ดูดเอาพลังเปลวเพลิงจากหินเมฆอัคคีไปหลายก้อนแล้ว ขณะที่มันกำลังร้อนแผดเผาได้ที่ เนี่ยตงไห่ก็ยื่นมือออกไปทดลองดูเช่นกัน
“เปรียะ!”
ประกายไฟเส้นหนึ่งปะทุออกมาจากกระดูกสัตว์ เนี่ยตงไห่เ็ปจนร้องอุทานขึ้นมา ดึงมือกลับด้วยสีหน้าเบ้เบี้ยว
แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถทนรับความร้อนจากกระดูกสัตว์นั้นได้ จำต้องวางมือยอมแพ้ไป
“เมื่อครู่เ้าบอกว่า เนี่ยเทียนััมันได้” เขาตะลึงและแปลกใจเป็อย่างมาก
เนี่ยเฉี่ยนพยักหน้า “ใช่เ้าค่ะ”
“เนี่ยเทียน เ้าระวังหน่อย ไหนลองให้ข้าดูหน่อย” เนี่ยตงไห่กล่าวเข้มงวด
“รอก่อนขอรับ” เนี่ยเทียนส่ายหัวเบาๆ พร้อมพูดว่า “ดูเหมือนว่ายังต้องรออีกนิด รอให้แสงไฟในกระดูกสัตว์พวกนั้นเริ่มเข้ามารวมตัวกันก่อน ข้าถึงจะััมันได้ขอรับ”
“ให้มันดูดซับพลังเปลวเพลิงจากหินเมฆอัคคีต่อไป!” เนี่ยตงไห่สั่งความ
“อืม” เนี่ยเทียนหยิบหินเมฆอัคคีอีกหลายก้อนจากถุงผ้าออกมาวางบนกระดูกสัตว์ พลังเปลวเพลิงในหินเมฆอัคคีระลอกแล้วระลอกเล่าถูกดูดเข้าไปในกระดูกสัตว์
“แครก!”
หินเมฆอัคคีหลายต่อหลายก้อนเมื่อถูกดูดพลังเปลวเพลิงไปจนหมดก็ปริแตกออกเป็เสี่ยงๆ กลายมาเป็หินธรรมดาสีเทา
ดวงตาเนี่ยตงไห่ฉายแววแปลกใจ มองกระดูกสัตว์ชิ้นนั้นอย่างลึกล้ำ ทั้งยังคอยประเมินเนี่ยเทียนอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง
เขาอยากรู้มาโดยตลอดว่าในร่างของเนี่ยเทียนมีธาตุพิเศษในการฝึกบำเพ็ญตบะแฝงเร้นอยู่หรือไม่ และเขาเองก็ยังแอบปรารถนาให้วันหนึ่งเนี่ยเทียนสามารถแสดงพร์ในการบำเพ็ญตบะที่น่าตื่นตะลึงออกมาได้
ในสายตาของเขา บางทีกระดูกสัตว์ชิ้นนั้นอาจจะเป็ตัวไขความกระจ่างของเขาได้
“ได้แล้ว!”
และเวลานี้เอง เนี่ยเทียนสังเกตเห็นว่าประกายไฟเล็กๆ ในกระดูกสัตว์ที่กระจัดกระจายได้เข้ามารวมเป็ก้อนเดียวกันอีกครั้ง
เขายื่นมือออกไปอย่างเด็ดเดี่ยว ใช้ปลายนิ้วกดลงบนกระดูกสัตว์นั้นอีกครั้ง
พริบตาเดียว จิตััของเขาก็คล้ายถูกดึงดูดเข้าไปในกระดูกสัตว์นั้นอีกรอบหนึ่ง
สะเก็ดไฟมากมายเปล่งแสงวาววับอยู่ท่ามกลางจิตััของเขา พวกมันเข้ามารวมตัวกันอย่างรวดเร็วราวกับดาวเปลวไฟนับร้อยนับพันดวง
และเพียงชั่วพริบตาเดียว เืสดหยดหนึ่งที่หายไปก่อนหน้านี้ได้เกาะตัวกันขึ้นมาสำเร็จอีกครั้ง พลังจิตของเขาจึงถูกดูดดึงเข้าไปในโลกแห่งเปลวเพลิงลึกลับนั้นอีกครั้งหนึ่ง
สีหน้าของเขากลายมาเป็เลื่อนลอยและเคลิบเคลิ้ม ทว่าดวงตากลับเริ่มส่องประกายระยิบระยับ
“ก่อนหน้านี้ก็เป็เช่นนี้!” เนี่ยเฉี่ยนพูดเบาๆ
เนี่ยตงไห่แอบประทับใจกับตัวเอง แม้แต่ลมหายใจยังถี่รัวขึ้นมาเล็กน้อย คล้ายพยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้นในใจเอาไว้
จิตสำนึกของเนี่ยเทียนลอยละล่องอยู่ในโลกที่มีลูกไฟและเส้นแสงสีแดงบิดเบือนผลัดเปลี่ยนรูปร่างอย่างต่อเนื่อง เขาใช้จิตัักับมันอย่างละเอียด
ครั้งนี้เขารู้สึกได้ว่าโลกมหัศจรรย์ใบนี้กว้างใหญ่ยิ่งกว่าก่อนหน้านั้น จุดแสงไฟที่ล่องลอย เส้นแสงสีแดงที่บิดเบือนก็เหมือนจะยิ่งชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังคว้าจับมันเอาไว้ได้
ราวกับว่าพื้นที่ลึกลับที่เขาไม่รู้จักแห่งนี้ เมื่อได้ดึงดูดพลังเปลวเพลิงที่มากเพียงพอเข้าไป มันก็จะกลายมามีสภาพที่สมบูรณ์แบบ
ท่ามกลางความรู้สึกเลือนราง เขาเหมือนได้ทำความเข้าใจกับวิชาเปลวเพลิงลึกลับนี้ ทำความเข้าใจกับสัจธรรมความมหัศจรรย์จากพลังของไฟจากเส้นแสงสีแดงและลูกไฟที่เคลื่อนไหวล่องลอยอยู่ตลอดเวลา
เพียงแต่ว่า ต่อให้ดึงดูดพลังเปลวเพลิงมาจากหินเมฆอัคคีของเนี่ยเทียนแล้ว ทว่าโลกลึกลับใบนั้นก็เหมือนจะยังไม่สามารถก่อตัวขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ได้
และก็ด้วยเหตุนี้ ขณะที่เขาทำความเข้าใจกับความมหัศจรรย์ลึกซึ้งของมันจึงััได้ว่ามีหลายอย่างที่ขาดหายไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง โลกเปลวเพลิงลึกลับแห่งนี้ก็พังทลายลงอีกครั้ง จิตััของเขาจึงถูกกระชากกลับคืนทันที
เขามองเห็นว่าหยดเืสดแตกตัวออกจากกันอีกครั้ง กลายมาเป็แสงไฟจุดเล็กๆ ตกตะกอนอยู่ในกระดูกสัตว์ ส่วนกระดูกสัตว์ก็กลับคืนสู่สภาพปกติอย่างช้าๆ
“เป็อย่างไรบ้าง?” เนี่ยตงไห่ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เนี่ยเทียนดึงจิตัักลับมา ครุ่นคิดคำพูดที่ควรจะใช้ครู่หนึ่งก็ตอบว่า “เืสดหยดนั้นจำเป็ต้องใช้พลังเปลวเพลิงที่มากกว่าเดิมมาก่อตัว ข้าััได้ว่าในเืหยดนั้นแฝงเร้นไว้ด้วยเวทมนตร์คาถาเปลวเพลิงลึกลับบางอย่าง หรือไม่ก็เป็ความลับบางอย่างของพลังเปลวเพลิงนั้น”
“ดี!” เนี่ยตงไห่มีสีหน้าฮึกเหิม “ข้าจะไปหาหินเมฆอัคคีมาให้เ้าเพิ่ม! ภายใน่เวลานี้ เ้าคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของกระดูกสัตว์ให้ดี จดจำรายละเอียดทุกความผิดปกติทั้งหมด!”
“ทราบแล้วขอรับ” เนี่ยเทียนกล่าว
------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้