ข่าวไปถึงราชวงศ์แล้วเหรอ?” โจวเย่เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
คุณชายเย่ องค์รัชทายาทมาที่นี่ด้วยตนเองในครั้งนี้ และยังคงรอท่านอยู่ในนิกายนภาสรรค์ ” ถงิกล่าวเสริม
โจวเย่พยักหน้าและกล่าวว่า "ในเมื่อเป็เช่นนี้ งั้นเราก็ไปกันเถอะ"
ถงิไม่คิดว่าโจวเย่จะตอบตกลงอย่างรวดเร็วขนาดนี้
พี่เย่! เถียนซีเว่ยรีบะโออกมาขณะที่โจวเย่กำลังจะจากไปพร้อมกับถงิ
ซีเว่ย ข้าดีใจมากที่ได้รู้จักกับเ้า หากเ้ามีปัญหาใดๆ เ้าสามารถมาหาข้าได้ตลอดเวลา และหากข้าเสร็จธุระของข้าแล้ว ข้าจะมาหาเ้า!” เขามองไปที่เถียนซีเว่ยและโจวเย่ก็ยิ้ม
เถียนซีเว่ย พูดด้วยรอยยิ้มหวาน พี่เย่ข้าจะรอท่าน !
ประโยคที่ดูเรียบง่ายแต่มีความหมายอีกอย่าง ทั้งสองพูดคุยกันด้วยความสัมพันธ์ที่คลุมเครือเป็อย่างมาก และในขณะนี้มีหลายตระกูลเริ่มอิจฉาตระกูลเถียนแล้ว
หลังจาก โจวเย่และถงิเพิ่งจากไป คนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวในเมืองเจียงนาน พวกเขาคือกองทัพอัคคีเหล็ก
จ้าวหยาง ! เ้ารู้หรือไม่ได้ทำอะไรลงไป ! เ้าจงกลับไปที่ค่ายทหารทันที ! นายกองของกองทัพอัคคีเหล็กกล่าว
การปรากฏตัวของกองทัพธงอัคคีเหล็ก และรัศมีอันเ็านั้นทำให้จ้าวหยางตกตะลึง
จ้าวหยางยังคงตกตะลึงในขณะนี้ ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำสั่งของนายกองเลย
ไม่ต้องพูดถึงจ้าวหยาง แม้กระทั้งพ่อของเขาและผู้คนในตระกูลต่างๆ ต่างสังเกตเห็นการปรากฏตัวของกองทัพอัคคีเหล็ก และมองไปยังทิศทางการจากไปของโจวเย่ด้วยสายตาที่ตกตะลึง
อารมณ์ที่ซับซ้อนต่างๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพวกเขา
ตระกูลใหญ่ๆในหลายตระกูลเสียใจอย่างยิ่ง และในขณะเดียวกัน พวกเขาก็อิจฉาตระกูลเถียนอย่างยิ่ง หากพวกเขาสามารถยืนหยัดเพื่อช่วยโจวเย่ใน่วิกฤตได้ในตอนนั้น ความเข้มแข็งของตระกูลจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต
จ้าวเทียนฉี รู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น เขาได้ทิ้งความรู้สึกแย่ๆ ไว้กับโจวเย่ และในอนาคตเขาไม่รู้ว่าโจวเย่ทำอะไรกับตระกูลของเขาหรือเปล่า
ในขณะนี้ สายตาของหลาย ๆ คนเริ่มมองไปที่ตระกูลตั๋ว
-
นอกเมือง โจวเย่กำลังเดิน เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ถงิเฝ้าสังเกตโจวเย่ และพูดในใจ "ในเวลาเพียงสองเดือน เขาได้ก้าวเข้าสู่อาณาจักรคุรุยุทธ์แล้ว พร์ของคุณชายเย่ช่างน่ากลัวจริงๆ
โจวเย่ ไม่เพียงแต่มีความเร็วในการฝึกฝนที่น่ากลัวเท่านั้น แต่ยังเป็นักปรับแต่งอาวุธระดับที่หกอีกด้วย ถงิไม่เคยเห็นอัจฉริยะที่เป็สัตว์ประหลาดเช่นนี้
คุณชายเย่ ! องค์รัชทายาทไม่เคยมาเยี่ยมเยือนนิกายนภา์เป็การส่วนตัว จะเห็นได้ว่าองค์รัชทายาทให้ความสำคัญกับท่านเป็อย่างมาก และองค์รัชทายาทดูกังวลเป็อย่างมาก องค์รัชทายาทกลัวว่าคุณชายเย่จะปฏิเสธ ถงิกล่าวและยิ้มอย่างเคารพ
องค์รัชทายาทมาหาเขาถึงที่ โจวเย่ไม่แปลกใจเลย เขาแค่ไม่คิดว่าข่าวจะไปถึงราชวงศ์ของจักรวรรดิเร็วขนาดนี้
องค์รัชทายาทเป่ยหยางซ่ง องค์ชายอันดับหนึ่งของจักรวรรดิอัคคี และต่อไปในอนาคตเขาจะกลายเป็จักรพรรดิคนต่อไป ถ้าข้าปฏิเสธ จะเท่ากับข้ามองไม่เห็นหัวของจักรพรรดิไม่ใช่เหรอ ? โจวเย่ยิ้มเล็กน้อย เขาแอบคิดในใจ
พูดให้ง่ายขึ้น ถ้าโจวเย่ปฏิเสธ เมื่อข่าวแพร่ออกไป โจวเย่ และตระกูลโจวจะไม่มีที่ให้ยืนอยู่ในจักรวรรดิอย่างแน่นอน
เว้นแต่ว่าเขาจะมีพลัังอันน่าสะพรึงกลัวเกินกว่าจักรวรรดิ !
แน่นอนว่า โจวเย่ไม่เคยคิดที่จะปฏิเสธมัน
ทั้งสองรีบไปที่ นิกายนภาสรรค์ และมาถึงในหนึ่งวัน
เมื่อรู้ว่าถงิกลับมาพร้อมกับคุณชายเย่แล้ว สาวกหลายคนของนิกายนภา์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากค้นหามาเป็เวลานานพวกเขาก็เกือบหมดแรง
เป่ยหยางซ่ง และหวังเจียงหลิวออกมาจากห้องโถงทีละคน
โจวเย่ ได้รับการสนับสนุนจากองค์รัชทายาท ซึ่งหมายความว่าสถานะของเขาสูงขึ้นเป็อย่างมาก
ขณะที่ เป่ยหยางซ่ง หวังเจียงหลิว และหวังเจิ้นซง เดินออกมา” โจวเย่ ก็ได้เห็นเป่ยหยางซ่งและคนอื่นๆ และเขาก็ทักทายพวกเขาอย่างสุภาพทันที
คุณชายเย่ไม่จำเป็ต้องสุภาพ เป่ยหยางซ่ง ยิ้มอย่างมีความสุข เขาจ้องมองไปที่โจวเย่
เข้าสู่อาณาจักรคุรุยุทธ์ั้แ่อายุยังน้อย อาจารย์แบบไหนที่สามารถปลูกฝังศิษย์ที่ไม่มีใครเทียบได้เช่นนี้ เป่ยหยางซ่งประหลาดใจ เขาพอใจมากั้แ่แรกเห็นโจวเย่
คุณชายเย่ ได้โปรด” หวังเจียงหลิว ยิ้มอย่างสุภาพ
แม้ว่าโจวเย่ จะเป็เพียงเด็กอายุสิบหกหรือสิบเจ็ดปี แต่หวังเจียงหลิว ก็ต้องก้มศีรษะเมื่อเผชิญกับความสามารถอันทรงพลัง
และเช่นเดียวกับ เป่ยหยางซ่ง แม่ว่าเขาจะเป็องค์รัชทายาทของจักรวรรดิ เขาก็ไม่กล้าที่จะเย่อหยิ่งต่อหน้าโจวเย่ แม้ว่าจักรพรรดิที่เป็พ่อของเขาจะเสด็จมาเอง เขาก็ต้องให้ความเคารพต่อโจวเย่
อัจฉริยะที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ จักรวรรดิไม่กล้ายั่วยุ ใครจะรู้ว่าเื้ัของโจวเย่นั้นแข็งแกร่งและน่ากลัวขนาดไหน?
วิธีการปรับแต่งของคุณชายเย่ ในดินแดนทิศใต้ นั้นน่าชื่นชมมาก ข้าเชื่อว่าถงิได้บอกความตั้งใจของข้ากับคุณชายเย่แล้ว และข้าหวังว่าคุณชายเย่ จะช่วยสนับสนุนเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับจักรวรรดิ” องค์รัชทายาท พูดตรงไปตรงมา ด้วยน้ำเสียงสุภาพ ปราศจากอำนาจขององค์ชาย
สายตาของหวังเจียงหลิว และหวังเจิ้นซง และคนอื่น ๆ จ้องมองไปที่โจวเย่ โดยรอให้โจวเย่พูดอย่างใจจดใจจ่อ
ห้องโถงเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
องค์รัชทายาท ข้าสัญญากับท่านได้ แต่ข้ามีเงื่อนไขหนึ่งข้อ ! โจวเย่พูดช้าๆ
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เป่ยหยางซ่งก็รู้สึกโล่งใจทันที เขามีความสุขมาก และพูดอย่างรวดเร็ว "คุณชายเย่บอกเงื่อนไขมาได้เลย"
โจวเย่พูดอย่างใจเย็น "ข้าสามารถช่วยจักรวรรดิปรับแต่งอาวุธได้ แต่ข้าสามารถช่วยปรับแต่งอาวุธได้เป็เวลาหนึ่งเดือน ซึ่งหมายความว่าข้าสามารถรับใช้จักรวรรดิได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น"
หนึ่งเดือนเหรอ?" เป่ยหยางซ่ง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าหนึ่งเดือนนั้นน้อยเกินไป
องค์รัชทายาท ข้าไม่สามารถปรับแต่งอาวุธได้ตลอดเวลา ข้ามีสิ่งที่ตัวเองต้องทำด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าหากจักรวรรดิ้าข้า ข้าจะไปช่วยเหลือทันที” โจวเย่กล่าว โดยไม่ถือตัวหรือเอาแต่ใจ
ความทะเยอทะยานของเด็กคนนี้ไม่เล็ก หัวใจของเขาไม่ได้อยู่ในจักรวรรดิ แต่อยู่ที่แผ่นดินอเวจี พร์ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้และยังเป็นักปรับแต่งระดับที่หก จักรวรรดิเล็ก ๆนี้ไม่สามารถรั้งเขาไว้ได้ หวังเจียงหลิวแอบพูดในใจ
ข้าเกรงว่าองค์รัชทายาทจะผิดหวัง” หวังเจิ้นซงส่ายหัวอย่างลับๆ หวังเจิ้นซงรู้ความคิดของเป่ยหยางซ่ง เป่ยหยางซ่ง้านำโจวเย่เข้าสู่กองทัพของจักรวรรดิ และให้โจวเย่รับใช้จักรวรรดิ
เอาล่ะ! หนึ่งเดือนก็คือหนึ่งเดือน!” เป่ยหยางซ่งคิดอยู่นานก่อนที่จะพูด อย่างไรก็ตาม โจวเย่ยังกล่าวอีกว่าตราบเท่าที่จักรวรรดิ้าเขา เขาก็จะไปช่วยจักรวรรดิทันที