“โฮก!”
ัขาวคำรามด้วยความเ็ป น้ำทะเลปั่นป่วน มันโผล่หัวัขึ้นมาอีกครั้ง
เคร้ง!
หลัวเลี่ยเหวี่ยงกระบี่ของเขาอีกครั้ง
ัขาวผู้น่าสงสารตกลงไปในทะเล
ัขาวที่ดื้อรั้นพยายามจะตะเกียกตะกายขึ้นมา แต่ผลก็เป็เช่นเดิม
เพียงลมหายใจเดียวหลัวเลี่ยก็โจมตีัขาวยี่สิบหกครั้ง และัขาวก็ตกลงไปในทะเลถึงยี่สิบหกครั้ง นอกจากเขาของัแล้วยังมีส่วนนูนอีกอันบนหัวัตัวใหญ่ซึ่งดูเหมือนเขาที่สามของมัน ถูกตัดขาดด้วยการโจมตีครั้งที่ยี่สิบหกของหลัวเลี่ย
คราวนี้ัขาวไม่กล้าโจมตีกลับ ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธปะปนกัน มันพึมพำเบาๆ ฟังไม่ได้ศัพท์
“เ้าพึมพำอะไร พูดดังๆ” หลัวเลี่ยตะคอก
ัขาวปิดปากทันที มันจ้องมองหลัวเลี่ยด้วยความหวาดกลัว เกรงว่าจะถูกโจมตีอีกครั้ง
หลัวเลี่ยคว้าเขาัที่เหลืออยู่แล้วยกตัวัขาวยาวสิบจั้งขึ้นจากน้ำ “เ้าบ้าไปแล้ว ตอนแรกที่ข้ามาถึงสังเวียนับรรพชน เ้ากล่าวอย่างหยิ่งยโสว่าข้าเป็ของขวัญล้ำค่าที่์มอบให้กับเผ่าั แล้วตอนนี้เป็อย่างไร หมดแรงจะทำตัวยืดหยุ่นแล้วหรือ? ทั้งยังเคยกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าหากข้ามอบสมบัติให้เ้า เ้าจะไว้ชีวิตข้า แต่เ้าเป็คนกลับคำพูด ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของเ้าหายไปไหนหมด”
“อ้างตนว่ายิ่งใหญ่ คิดจะแบกรับภารกิจสำคัญอย่างการช่วยให้เผ่าักลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เ้าเคยคิดบ้างไหมว่าแหล่งที่มาของความยิ่งใหญ่ของเผ่าัคือนิมิตที่เกิดจากข้า เหตุใดเ้าถึงได้กล้ายั่วโมโหข้า”
“สิ่งที่น่าหัวเราะยิ่งกว่านั้นคือพาพรรคพวกมาชิงเอาจิติญญาับรรพชนของข้า ไม่ใช่เพียงหนึ่งหรือสองแต่เป็ร้อยคน และเ้าทำสำเร็จหรือไม่ ก็ไม่”
หลัวเลี่ยใช้ฝ่ามือฟาดัขาวที่หน้าผาก
ในตำแหน่งนั้นมีลวดลายของับรรพชนสลักอยู่ และมีจิติญญาับรรพชนบรรจุอยู่ข้างใน
แม้ว่าจิติญญาับรรพชนจะถูกัขาวขัดเกลาไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เื่ง่ายที่จะขัดเกลาให้สมบูรณ์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว อย่างมากส่วนหนึ่งของแก่นแท้จะถูกใช้ไป และส่วนที่เหลือก็จะยังคงอยู่ในนั้น
การฟาดครั้งนี้เขาได้รวบรวมลมปราณทั้งหมดมาไว้ที่ฝ่ามือ ซึ่งทำให้หัวของัขาวเ็ปอย่างรุนแรง จนมันต้องกรีดร้องซ้ำๆ นอกจากนี้ยังทำให้ลวดลายับรรพชนเลือนไป และกลายเป็จิติญญาับรรพชน
เมื่อมันกลายเป็จิติญญาับรรพชน หลัวเลี่ยก็สามารถดึงมันกลับมาได้
ัขาวจะเต็มใจให้เขาทำเช่นนั้นได้อย่างไร?
ความหลงผิดทั้งหมดของเขา ซึ่งเรียกว่าความหวังในการฟื้นคืนชีพครั้งใหญ่ของเผ่าัล้วนเกิดจากจิติญญาับรรพชน เขาจึงไม่อาจยินยอมให้หลัวเลี่ยชิงมันกลับไป
เขากัดฟันและพยายามอย่างหนักเพื่อผนึกมันไว้ในตัว
“ยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ หากไม่มีใครช่วยเ้ายังจะยืนหยัดอยู่ได้อีกนานแค่ไหน”
หลัวเลี่ยผลักเขาอีกครั้ง
ัขาวที่ถูกฝ่ามือในครั้งนี้เกือบจะเป็ลม ทันทีที่พลังหายไป ลวดลายับรรพชนก็กลายเป็ภาพลวงตาเลือนราง และร่องรอยของพลังงานของจิติญญาับรรพชนก็เล็ดลอดออกมา
“จิติญญาับรรพชน กลับมาเถอะ”
หลัวเลี่ยคว้าจิติญญาับรรพชนมาไว้ในมือ และเกือบจะใช้พลังงานทั้งหมดของเขา
ลวดลายับรรพชนพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ และกลายเป็จิติญญาับรรพชน ซึ่งทั้งหมดนี้ตกไปอยู่ในมือของหลัวเลี่ย
“ไม่!!!”
ัขาวกรีดร้องทั้งน้ำตา เรียกได้ว่าละทิ้งศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจไปจนหมด เขาใช้วิธีต่างๆ มากมายรับความเสี่ยงครั้งใหญ่ แต่ตอนนี้เขากลับไม่ได้อะไรเลย หัวใจที่ภาคภูมิใจของเขาพังทลายลง ทั้งยังได้รับาเ็อีก ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ
“มันเป็ของข้า” หลัวเลี่ยกล่าวอย่างเ็า และเขาก็กลับไปที่สังเวียนับรรพชนอย่างใจเย็น
บนสังเวียนับรรพชน เสวี่ยปิงหนิงและอาชาเดือนดารัญได้ตื่นขึ้นมาจากห้วงจิตสำนึกแล้ว
แสงสีขาวที่คอยปกป้องทั้งสองไว้ก็หายไปอย่างเงียบๆ เหลือเพียงแสงัผู้พิทักษ์เท่านั้นที่ยังพอมองเห็นได้อย่างเลือนราง
เสวี่ยปิงหนิงสำรวจร่างกายของหลัวเลี่ยแล้วถามว่า “ไม่เป็ไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็ไร แค่ไก่กาตัวเล็กๆ มารบกวน” หลัวเลี่ยสะบัดนิ้วของเขา พลังงานส่วนเล็กๆ ของับรรพชนก็แยกออกและหายไปในร่างของเสวี่ยปิงหนิง
การเก็บเกี่ยวของเสวี่ยปิงหนิงในครั้งนี้ก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน ดอกไม้ประจำวันเกิดสีชมพูที่ปรากฏระหว่างคิ้วของนางทำให้นางมีการเชื่อมต่อที่ยอดเยี่ยมกับั ด้วยพลังงานส่วนหนึ่งของับรรพชนนี้ ดอกไม้ัก็ยิ่งละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น และลมหายใจของเสวี่ยปิงหนิงก็เข้มข้นขึ้นด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ หลัวเลี่ยรู้สึกประหลาดใจกับสถานการณ์นี้ เขาสงสัยว่านางเก็บเกี่ยวอะไรมาจากแม่น้ำแห่งการรู้แจ้งบ้าง
จิติญญาับรรพชนที่เหลืออยู่ถูกกลืนกินโดยับรรพชนตัวน้อยที่อยู่ในมงกุฎจักรพรรดิั และแก่นแท้ส่วนใหญ่ถูกกลืนหายไปแล้ว
ับรรพชนตัวน้อยกลับไปยังมงกุฎจักรพรรดิั และมงกุฎสีม่วงทองก็สว่าง ดูสง่างามมากและมีกลิ่นอายของจักรพรรดิ
หลัวเลี่ยถ่ายทอดจิติญญาับรรพชนที่เหลืออยู่ไปยังเสวี่ยปิงหนิงและอาชาเดือนดารัญ
“ข้าให้เ้า”
อาชาเดือนดารัญเมื่อได้รับชิ้นส่วนจิติญญาับรรพชน ทั้งยังมีกลิ่นของต้นั รวมถึงการขัดเกลาในแม่น้ำแห่งการรู้แจ้ง ทำให้จิติญญาของมันยิ่งน่าทึ่ง และภูมิปัญญาของมันก็ถูกเปิดใช้อย่างเต็มที่ เมื่อหลัวเลี่ยมอบจิติญญาับรรพชนให้มัน มันก็ส่งเสียงด้วยความดีใจ ะโขึ้นรับเอาจิติญญานั้นและกลืนลงไปทันที
แก่นแท้ของจิติญญาับรรพชนถูกดูดซับไปแล้วถึงเจ็ดส่วน แต่ยังมีแก่นแท้เหลืออยู่ถึงสามส่วน นี่เป็การเก็บเกี่ยวที่น่าทึ่งอย่างยิ่งสำหรับอาชาเดือนดารัญ หากรวมถึงการหยั่งรู้ของหลัวเลี่ยในแม่น้ำแห่งการรู้แจ้งก่อนหน้านั้น หลังจากขัดเกลาแล้วก็ยังมีปราณัติดอยู่มาบ้าง เมื่อหลอมรวมกับสายเืพิเศษของมันเอง มันก็ดูดซับเข้าไปอย่างรวดเร็ว และมีปราณัเล็ดลอดออกมาจากตัวมัน
“กรรซ์”
อาชาเดือนดารัญเปิดปากส่งเสียงร้อง ทว่าเสียงของมันเป็เสียงของั
เขาสูดลมหายใจและพ่นกระแสเพลิงัออกมา
“มันมีความสามารถในการโจมตีจริงๆ” หลัวเลี่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
อาชาเดือนดารัญเอาหัวของมันมาถูกับหน้าอกของหลัวเลี่ยอย่างมีความสุข
หลัวเลี่ยตบหัวมันเบาๆ เขาลูบแผงคอสีขาวเงินของมันและยกยิ้มด้วยความพอใจ “เอาละ ข้าคิดว่าตอนนี้ไม่ควรเรียกเ้าว่าอาชาเดือนดารัญอีกต่อไป ลองมาเปลี่ยนชื่อของเ้ากันดีกว่า ชื่อที่เหมาะกับเ้า ข้าเรียกเ้าว่าอาชาัขาวเดือนดารัญดีหรือไม่”
อาชาัขาวร้องด้วยความดีใจ
การเคลื่อนไหวนี้ตกอยู่ในสายตาของอัจฉริยะหลายพันคนจากทั่วทุกมุมโลก และพวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขมขื่น บางคนถึงกับมองไปยังหลงไป๋จางซึ่งกลับมาเป็มนุษย์แล้วอย่างผิดหวัง
หลงไป๋จางแทบจะร้องไห้ เมื่อได้ยินว่าหลัวเลี่ยได้เปลี่ยนชื่ออาชาของเขาเป็อาชาัขาวเดือนดารัญ
เพราะร่างที่แท้จริงของเขาคือัขาว
เรียกว่าม้าัขาวหมายความว่าอย่างไร จะปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็วัวเป็ม้าหรือไร?
ัขาวผู้สง่างามซึ่งเป็อัจฉริยะอันดับต้นๆ ของเผ่าั จริงๆ แล้วถูกปฏิบัติเหมือนม้า คงไม่ต่างจากการถูกเปรียบเทียบว่าเป็สัตว์เลี้ยงของผู้อื่น นี่เป็การกลั่นแกล้งกันเกินไปหรือไม่
“เ้าไม่ชอบหรือ?” หลัวเลี่ยมองไปยังหลงไป๋จางอย่างเ็า
ใบหน้าของหลงไป๋จางแดงก่ำและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่เขาไม่กล้าโกรธ เขากังวลมากว่าหลัวเลี่ยจะทุบตีเขาอีกครั้ง
อัจฉริยะหนุ่มชั้นนำทั้งสี่คนเงียบไป
“หลัวเลี่ย เ้าโอหังเกินไปแล้ว”
เสียงเ็าดังขึ้น
คนที่กล่าวออกมาคือหลงจวิน ซึ่งอยู่ในแถวหน้าของอัจฉริยะนับพันรองจากหลงไป๋จางและหลงเติ้งอวิ๋น
หลงไป๋จางและคนอื่นๆ ลืมไปว่าพวกเขายังมียอดฝีมือที่มีความสามารถนับพันคน
มีปรมาจารย์อัจฉริยะนับพันคนที่อยู่ใน่เริ่มต้นของระดับหยินหยาง พวกเขาจะกลัวหลัวเลี่ยที่มีตัวคนเดียวได้อย่างไร ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็คงไม่สามารถรับมือกับผู้คนนับพันได้
“จิติญญาับรรพชนเป็ของเผ่าัของเรา มงกุฎของจักรพรรดิั รวมถึงกิ่งก้านและใบทั้งหมดของต้นัเป็ของเผ่าัของเรา เ้าไม่เพียงแต่เก็บมันไว้กับตัวเองเท่านั้น แต่เ้ายังมอบให้ม้าของเ้า นี่เป็ความอัปยศอดสูต่อเผ่าั นี่เป็การเหยียดหยามที่ร้ายแรงที่สุดต่อเผ่าพันธุ์ของเรา” หลงจวินกล่าวอย่างเ็า
“ดังนั้นข้าขอให้เ้าสละสมบัติในมือของเ้าแล้วคืนมันให้กับเผ่าั ไม่อย่างนั้นข้าคงได้แค่ขอโทษที่ต้องลงมือกับเ้า”
ปรมาจารย์อัจฉริยะนับพันคนต่างเดินหน้าข่มขู่หลัวเลี่ย