เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นภรรยาชาวสวนผู้กล้าหาญ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ในคืนนั้นหลี่ชิงหลิงได้ทำอาหารรสเลิศเพื่อเป็๲รางวัลให้กับเด็กทั้งสอง

        นางหยิบกระเป๋าหนังสือที่เย็บไว้ก่อนหน้านี้ออกมามอบให้ เมื่อเด็กทั้งสองได้กระเป๋าใหม่ก็โลดเต้นอย่างมีความสุขและอยากลองใช้ดูทันที

        พวกเขาสะพาย วิ่งไปมาสองรอบ กระเป๋าหนังสือก็ยังคงอยู่บนหลังอย่างปลอดภัยไม่ร่วงหล่น

        เมื่อเห็นว่าพวกเขาชอบ หลี่ชิงหลิงก็มีความสุขเช่นกัน

        "เอาล่ะ รีบเก็บของที่จำเป็๲ คืนนี้เข้านอนแต่หัวค่ำ พรุ่งนี้ไปเรียนแต่เช้า อย่าไปสาย" หลี่ชิงหลิงลูบหัวหลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยน เร่งให้พวกเขารีบไปเก็บของ “กระเป๋าหนังสือใบนี้มีหลายชั้น ตอนเก็บของแยกประเภทได้ ตอนหยิบจะได้หยิบง่ายๆ" ถ้าใส่ไว้ในช่องเดียวกันหมดจะหาของยาก

        หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนพยักหน้าอย่างมีความสุข วางกระเป๋าหนังสือลง ใส่พู่กัน หมึก กระดาษ และหินหมึกที่พวกเขาซื้อในวันนี้ลงไป

        หลังจากเก็บของเสร็จก็ไปแช่เท้า จากนั้นจึงขึ้นเตียงนอน

        อาจจะเพราะตื่นเต้นเกินไป ทั้งคู่จึงนอนไม่หลับ

        หลี่ชิงเฟิงเรียกหลิวจือเยี่ยนเสียงเบา "จือเยี่ยน หลับหรือยัง" แค่คิดเ๱ื่๵๹ได้ไปเรียนก็นอนไม่หลับแล้ว

        เมื่อได้ยินเสียงเรียกของหลี่ชิงเฟิง หลิวจือเยี่ยนก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นและพูดว่ายัง!

        “เ๽้าก็นอนไม่หลับเหมือนกันหรือ?” เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะได้ไปเรียนจริงๆ ความตื่นเต้นนี้ทำให้อยากหลับก็หลับไม่ลง

        เขาคิดด้วยซ้ำว่านี่ใช่ความฝันหรือเปล่า กลัวว่านอนตื่นแล้วทุกอย่างจะหายไป

        หลิวจือเยี่ยนชำเลืองมองน้องสาวที่หลับสนิท ค่อยๆ ข้ามน้อง มุดเข้าไปในผ้าห่มของหลี่ชิงเฟิงและพูดเสียงเบา “อืม ข้าก็นอนไม่หลับเหมือนกัน" หลังพ่อแม่เสียชีวิต ครอบครัวเขาก็ลำบากมาก เขาไม่มีความหวังที่จะได้เรียนหนังสือ ไม่คาดคิดเลยว่าตอนนี้เขาจะมีโอกาสได้ไปเรียนอีกครั้ง

        เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก และรู้ด้วยว่าทั้งหมดต้องขอบคุณพี่เสี่ยวหลิง

        หากพี่เสี่ยวหลิงไม่ช่วยครอบครัวของพวกเขาตลอด ครอบครัวของพวกเขาอาจจะยังคงใช้ชีวิตเหมือนเมื่อก่อน

        ยิ่งไม่ต้องพูดถึงให้เขาไปสถานศึกษา

        ตอนนี้เขาดีใจจริงๆ ที่ตอนที่พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ได้ช่วยพี่ชายคนโตจัดการเ๱ื่๵๹แต่งงานครั้งนี้ ทำให้เขามีพี่สะใภ้ที่ดีแบบนี้

        เขาตัดสินใจในใจว่าเขาจะตอบแทนพี่ชายและพี่เสี่ยวหลิงอย่างแน่นอน

        แน่นอนเลยล่ะ…

        ดวงตาของหลี่ชิงเฟิงเป็๞ประกายสดใสในความมืด เขาพูดอย่างตื่นเต้น "แต่ก่อนตอนเห็นหลี่ชิงฝูไปเรียน ข้าอิจฉามาก แต่ข้าก็รู้ว่ามันเป็๞ไปไม่ได้ เลยเลิกคิดไป ไม่คิดเลยว่าพี่จะทำให้ฝันข้าเป็๞จริง” เขาอยากจะประสบความสำเร็จ ให้พี่ได้มีชีวิตดีๆ ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน

        "ข้ารู้สึกขอบคุณพี่เสี่ยวหลิงจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เสี่ยวหลิง ข้าคงไม่สามารถไปสถานศึกษาได้ ข้าจะตอบแทนพี่เขาทั้งชีวิตเลย”

        "ข้าด้วย…"

        เด็กน้อยทั้งสองคุยกันหลายเ๱ื่๵๹ ไม่รู้ว่าคุยถึงกี่โมง คุยจนง่วงจึงหลับตาลงและผล็อยหลับไป

        ครั้งนี้หลี่ชิงหลิงไม่รู้เลย ทันทีที่เด็กสาวตื่นขึ้นก็รีบลุกขึ้นไปทำอาหารเช้า

        เดิมทีนางคิดจะทำให้เสร็จก่อนค่อยปลุกน้องชายทั้งสอง แต่ก่อนที่จะได้ปลุก น้องชายทั้งสองก็ลุกขึ้นเสียก่อน

        เห็นรอยคล้ำใต้ตาของน้องชายทั้งสอง นางก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนหรือ?

        หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนยิ้มเขินอาย บอกว่าพวกเขาตื่นเต้นเกินกว่าจะข่มตาลง

        "พวกเ๯้านี่นะ..." หลี่ชิงหลิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ บอกให้พวกเขากลับไปนอนอีกหน่อย ไว้ทำอาหารเช้าเสร็จจะไปปลุก

        "พี่ เราตื่นแล้ว ไม่ง่วงแล้ว" หลี่ชิงเฟิงยิ้มอย่างประจบประแจงที่ “ให้เราช่วยเถอะ!" ตอนนี้เขาตื่นเต้นมาก ให้เขากลับไปนอนก็นอนไม่หลับ ฉะนั้นช่วยพี่เลยดีกว่า

        หลิวจือเยี่ยนก็พยักหน้า คิดเหมือนหลี่ชิงเฟิง

        เมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองไม่อยากกลับไปนอนจริงๆ หลี่ชิงหลิงก็ไม่บังคับพวกเขา และไล่ให้พาพวกเขาไปล้างหน้า

        ขณะที่พวกเขากำลังล้างหน้า นางก็เริ่มทอดไข่เจียวและเตรียมอาหารกลางวันให้พวกเขา

        ในสถานศึกษาไม่มีโรงอาหาร ต้องนำอาหารไปเอง

        ทั้งสองล้างหน้าแปรงฟันเสร็จอย่างรวดเร็ว วิ่งกลับไปที่ห้องครัวแล้วถามหลี่ชิงหลิงว่าทำอะไรได้บ้าง

        หลี่ชิงหลิงขอให้หลี่ชิงเฟิงดูโจ๊กที่กำลังต้มอยู่ ขอให้หลิวจือเยี่ยนจุดไฟใต้หม้อใหญ่ นางจะทำแป้งทอดมันฝรั่ง

        "พี่เสี่ยวหลิง ไม่ต้องเยอะหรอก แค่แป้งทอดไข่ก็พอแล้ว มื้อกลางวันกินแป้งทอดไข่ก็พอ" หลิวจือเยี่ยนรู้ว่าหลี่ชิงหลิง๻้๪๫๷า๹ทำเยอะหน่อยเพื่อให้พวกเขาเอาไปด้วย แต่เขารู้สึกว่าเยอะเกินไป

        เมื่อหลี่ชิงเฟิงได้ยินก็รีบห้ามด้วย "ใช่ ท่านพี่ ตอนเที่ยงเรากินแป้งทอดไข่ก็พอแล้ว" ถ้ากินแบบนี้ทุกวันคงกินจนถังแตกไม่ช้าก็เร็ว

        หลี่ชิงหลิงวางแป้งทอดไข่ที่ทอดเสร็จไว้ข้างๆ เงยหน้าขึ้นมองเด็กทั้งสองแล้วหัวเราะ “ไม่ใช่แค่ของพวกเ๯้า พวกเราก็ต้องกิน” เด็กๆ กำลังโต ไม่กินให้อิ่มจะได้หรือ โดยเฉพาะต้องเดินไกลขนาดนั้น ถ้ากินไม่พอจะมีแรงเดินกลับไหม?

        เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่ชิงเฟิงรีบพูดอีกครั้ง "ถ้างั้นก็ทำส่วนของพวกพี่ก็พอ ไม่ต้องทำของเราแล้ว เราสองคนมีแป้งทอดไข่ก็พอ"

        "ตกลง..." หลี่ชิงหลิงไม่อยากพูดกับพวกเขามากนัก ดังนั้นนางจึงพยักหน้า แต่เดี๋ยวจะห่อให้พวกเขา

        หลังจากทอดแป้งทอดไข่และแป้งทอดมันฝรั่งเสร็จ โจ๊กก็พร้อมแล้ว หลี่ชิงหลิงขอให้เด็กสองคนตักโจ๊กและยกเข้าบ้านเตรียมกิน

        ทันทีที่เด็กทั้งสองออกไป นางก็ห่ออาหารกลางวันของเด็กทั้งสองลงในกล่องอาหารเล็กๆ ที่ตนทำขึ้น จากนั้นใช้ผ้าห่อปิดทับอีกหนึ่งชั้นจึงจะเอาเข้าไป

        “ข้าวกลางวันไว้ชั้นที่สองนะ ถ้าตอนกินเย็นแล้วก็ยืมไฟจากอาจารย์มาอุ่นก่อนค่อยกินก็ได้” นี่คือวิธีเดียวในยุคนี้ที่ไม่มีกล่องเก็บความร้อน

        ทั้งสองที่กำลังกินโจ๊กและแป้งทอดมันฝรั่งพยักหน้าซ้ำๆ

        “พวกเ๽้ากินไปก่อน ข้าจะไปเรียกพี่จือโม่มากิน กินเสร็จแล้วส่งพวกเ๽้าไปเรียน” หลี่ชิงหลิงวางชามโจ๊กลงบนโต๊ะ รอให้เย็นหน่อยก่อนหลิวจือโม่กิน

        หลังจากนั้นก็ไปที่สวนหลังบ้าน เห็นหลิวจือโม่ให้อาหารกระต่าย จึงเรียกเขาไปกินข้าวเช้า

        เมื่อหลิวจือโม่ได้ยินเสียงเรียกของหลี่ชิงหลิงจึงตอบรับ ดูกระต่ายกินจนเสร็จแล้วยืนขึ้น

        "ให้อาหารไก่ กระต่าย แกะหมดแล้ว ไม่ต้องให้แล้วนะ แค่ต้องลำบากเ๯้าทำความสะอาดหน่อย" เขาต้องไปส่งเด็กๆ มิฉะนั้นก็คงมีเวลาพอทำความสะอาดอยู่

        "ได้เลย ลำบากพี่แล้วนะ” หลี่ชิงหลิงเอื้อมมือไปตบเศษหญ้าบนเสื้อคลุมของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม

        หลิวจือโม่ส่ายหัว บอกว่าไม่ลำบากเลย

        แค่ให้อาหารไก่ กระต่ายและแกะลำบากอะไรกัน นางสิลำบากต้องดูแลทั้งครอบครัว

        หลี่ชิงหลิงยิ้ม บอกให้เขารีบไปกินข้าวเช้า กินเสร็จจะได้พาเด็กๆ ไปส่ง

        เขาตอบรับ ไปล้างมือและเข้าไปในบ้านเพื่อรับประทานอาหารเช้า

        ทันทีที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาถามเด็กทั้งสองว่าเก็บของเสร็จแล้วหรือยัง? ถ้าเก็บครบก็ไปได้

        ทั้งคู่พยักหน้า บอกว่าเก็บเสร็จแล้ว 

        “งั้นข้าพาน้องๆ ไปก่อน ไว้ส่งเสร็จจะกลับมา”

        "ได้เลย เดินทางระวังๆ นะ" หลี่ชิงหลิงพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นพูดกับเด็กทั้งสอง "ไปถึงแล้วห้ามซน ต้องฟังอาจารย์ เข้าใจไหม?"

        หลี่ชิงเฟิงและหลิวจือเยี่ยนพูดพร้อมกันว่าเข้าใจแล้ว

        หลี่ชิงหลิงมองดูพวกเขาทั้งสามออกไปจากลานบ้าน โบกมือให้พวกเขา รอจนกระทั่งพวกเขาออกไปไกลก่อนจะปิดประตู

        ก่อนที่นางจะปิดประตูก็ได้ยินเจิงเถียโถวเรียก "เถ้าแก่ รอสักครู่"

        เถ้าแก่? นางรอจนกระทั่งเจิงเถียโถวเดินเข้ามาหาจึงจะหัวเราะ “ลุงเถียโถว เรียกข้าเสี่ยวหลิงเถอะ อย่าเรียกเถ้าแก่เลย ฟังแล้วไม่ชิน” นางแค่จ้างเขาทำงานสองครั้ง เถ้าแก่อะไรกัน

        เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจิงเถียโถวก็เกาหัว หยิบพิมพ์เขียวที่หลี่ชิงหลิงมอบให้เขา ชี้จุดที่เขาไม่เข้าใจและถาม

        การออกแบบของหลี่ชิงหลิงนั้นค่อนข้างคล้ายกับซื่อเหอหยวนของปักกิ่ง แต่ผสมผสานกับลักษณะของบ้านในยุคเฉา เพื่อให้บ้านของพวกเขาไม่โดดเด่นจนเกินไป

        นางมองจุดที่เจิงเถียโถวไม่เข้าใจและอธิบายให้ฟังทีละอย่าง

        หลังจากอธิบายเสร็จก็ถามเจิงเถียโถวอีกครั้งว่ามีตรงไหนไม่เข้าใจอีก? ถามได้เลย

        เจิงเถียโถวมองภาพอย่างจริงจัง จากนั้นส่ายหัว เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว ไม่จำเป็๞ต้องถามอีก

        “เข้าใจก็ดีแล้ว ถ้าสงสัยอะไรระหว่างทำก็ถามข้าได้นะ”

        "ตกลง ขอบคุณเถ้าแก่” เจิงเจียโถวยิ้มซื่อๆ “เถ้าแก่อยากไปดูไหม? เผื่อมีอะไรไม่ถูกต้องจะได้ชี้ให้พวกเราดู?” อย่างไรเสีย นี่เป็๞การสร้างบ้านประเภทนี้ครั้งแรก เขาเองก็กลัวว่าจะทำไม่ถูก

        เมื่อได้ยินที่เจิงเถียโถวพูด หลี่ชิงหลิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า

        ไปดูหน่อยก็ดี เผื่อว่าจะสร้างออกมาไม่เหมือนกัน



นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้