เื่ดีๆ ไม่แพร่หลายในวงกว้าง แต่เื่เลวร้ายมักแพร่ไปไกลเป็พันลี้
เื่อื้อฉาวและเื่ซุบซิบนินทาได้รับความนิยมในโลกมาตลอด ตระกูลหลิงถือเป็ตระกูลร่ำรวยที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของเมืองผิง หลิงกวงเป็โรงแรมของผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ชั้นนำแห่งหนึ่งของเมือง
ถึงแม้อู๋อู๋จะพยายามปกปิดเต็มที่ แต่กระบวนการไกล่เกลี่ยที่เปิดกว้างและโปร่งใส เื่ราวที่เกิดขึ้นก็ถูกแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
หนึ่งคนเล่าให้คนสิบคนฟัง สิบคนนั้นก็แพร่กระจายออกไปเป็ร้อย ไม่นานเื่ราวก็เปลี่ยนไป
บุตรสาวแท้ๆ เพียงคนเดียวของเถ้าแก่โรงแรมหลิงกวงจ้างวานคนให้ทำร้ายผู้อื่น…
บุคคลทั่วไปมักจะเอามาพูดคุยเป็งานอดิเรกหลังรับประทานอาหารเย็น และพวกเขาต่างคิดว่าบุตรสาวของตระกูลร่ำรวยมักมีนิสัยเอาแต่ใจ
แต่บุคคลที่อยู่ในระดับเดียวกับตระกูลหลิงกลับไม่คิดเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ที่มีเื่อุ้มบุตรผิดคนของตระกูลหลิงแพร่กระจายออกมา พวกเขารู้สึกเห็นใจบุตรสาวตระกูลหลิงมาก ทั้งที่มีครอบครัวร่ำรวย แต่กลับถูกอุ้มผิดตัวไปอยู่ในชนบท ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อีกไม่นานใกล้ถึงวันเกิดของหลิงเมิ่ง ตระกูลหลิงเตรียมจัดงานฉลองวันเกิด เรียนเชิญผู้คนมากมาย และพวกเขาก็พร้อมที่จะไป
หลังจากเื่จ้างวานให้ทำร้ายคนอื่นเผยแพร่ออกไป ในใจของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะไตร่ตรองเื่นี้
แม้ว่าอันธพาลเ่าั้จะไม่ได้ทำร้ายคนผู้นั้นจนเสียชีวิต แต่ความเห็นอกเห็นใจที่มีให้หลิงเมิ่งก่อนหน้านี้ก็หายไปเกือบหมด
อู๋อู๋แทบจะะเิความโกรธ
ถึงแม้เื่หลิงเมิ่งจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนสมองจะะเิ แต่สติปัญญาของเธอยังคงอยู่ คนธรรมดาทั่วไปจะพูดอย่างไร เธอไม่คิดสนใจ แต่เธอไม่สามารถละเลยความคิดของบรรดาคู่ค้าทางธุรกิจของหลิงจื้อเฉิง
เมิ่งเมิ่งที่หายตัวไปนานถึงสิบหกปี การจะกลับเข้าสู่แวดวงนี้ไม่ใช่เื่ง่าย ตอนนี้ยังมาเกิดเื่แบบนี้อีก
ในด้านเหตุผลเธอรู้ว่าหลิงเมิ่งเป็ฝ่ายผิด แต่นิสัยของเธอมักจะให้อภัยตนเองง่าย และชอบเรียกร้องจากผู้อื่น
เมิ่งเมิ่งทำผิด แต่ซูอินโชคดีที่ไม่ได้รับาเ็ เธอเลี้ยงดูซูอินมาตั้งหลายปี หากเห็นแก่หน้าผู้ใหญ่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรซูอินก็ควรใจกว้างสักหน่อย
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าโมโหซูอิน หลังจากสอบถามอู๋อู๋จึงเริ่มดำเนินการ
วันนี้หลังจากตื่นแต่เช้าเพื่อมาออกกำลังกาย เมื่อคิดดูแล้วว่าไม่มีอะไรทำ ซูอินจึงมาช่วยงานที่ร้าน
พี่หงยังคงยุ่งเหมือนเดิม หลังสอบขึ้นชั้นมัธยมปลายทำให้มีเวลาเยอะ เมื่อได้ติดต่อกันบ่อยครั้ง ซูอินจึงได้ยินอีกฝ่ายพูดทางโทรศัพท์เป็ครั้งคราวว่า กำลังยุ่งเื่ฟ้องหย่า
บทสรุปนั้นทำให้ซูอินใอยู่นานมาก
แต่นั่นเป็เื่ส่วนตัว ในเมื่อพี่หงไม่ได้พูดถึงเื่นี้ ซูอินจึงไม่ถาม
เมื่อนึกถึงพี่หงในระยะนี้ ทุกครั้งที่ออกไปข้างนอกเธอจะแต่งตัวสวยเสมอ แม้อายุจะมากแล้ว แต่พี่หงไม่ใช่คนพิถีพิถันเื่การกิน กาลเวลาที่ตกตะกอนทำให้เสน่ห์ของเธอเพิ่มขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้
เมื่อเห็นพี่หงแต่งหน้าแต่งตัวอย่างประณีต ซูอินจึงเกิดความคิดที่จะเป็ผู้หญิงแกร่ง ยืนหยัดได้ด้วยตนเอง หากเลิกกับผู้ชาย เธอก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก ไม่รู้สึกสงสารตัวเอง และกลับมาใช้ชีวิตที่มีความสุข ปล่อยให้คนเ่าั้เสียใจไป
หลังจากเกิดแรงบันดาลใจนั้น พอเห็นพี่หงกำลังจะเดินมา ดวงตาของซูอินก็เป็ประกาย
“พี่หง สู้ๆ นะคะ!”
เมื่อเห็นสาวน้อยที่สดใสตรงหน้า แววตาของอวี๋อ้ายหงก็ปรากฏความรู้สึกแปลกประหลาด
เด็กคนนี้ต้องรู้อะไรแน่ๆ
แต่ก็จริง เพราะปกติเธอไม่คิดจะปกปิด สามีภรรยาตอนยังหนุ่มยังสาวร่วมทุกข์กันมาก็มาก ร่วมสุขกันมาก็ไม่น้อย ตอนนี้เมื่อขัดแย้งกันจนเกิดการปะทะและโต้เถียง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องมีปัญหา แต่เธอกล้าพูดอย่างเต็มอกว่าหลายปีมานี้เธอไม่รู้สึกละอายใจกับสิ่งที่ตัดสินใจลงไป
การหย่าร้างไม่มีอะไรต้องปิดบัง
่เวลาที่รู้สึกปั่นป่วนในใจ อวี๋อ้ายหงคิดออกแล้ว เมื่อมองเด็กสาวใบหน้าขาวอมชมพูที่สนับสนุนและให้กำลังใจเธอ จนเธออดยิ้มไม่ได้
“เื่ยุ่งๆ นี้ใกล้จบแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นฉันจะเลี้ยงข้าวเธอมื้อใหญ่ ฉันไปก่อนนะ ดูแลร้านให้ดีล่ะ”
“รับทราบค่ะ!”
ซูอินยืนตรงยกมือทำวันทยหัตถ์ด้วยท่าที่ไม่ถูกระเบียบเท่าที่ควร
หลังจากส่งพี่หง เธอเทอาหารเม็ดรสเนื้อลงในชามอาหารรูปกระดูกให้หรงหรง เ้าสุนัขตัวน้อยแลบลิ้นสีชมพู และลงมือกินอาหารอย่างมีความสุข ส่วนซูอินก็หันไปทำความสะอาดร้าน
่ปีหลังๆ เมื่อชาติก่อนเธอกลายเป็บุตรบุญธรรมของตระกูลหลิง แต่ในความเป็จริงคือแม่บ้านประจำ ทำอาหาร ทำความสะอาด ทุกอย่างล้วนอยู่ในความรับผิดชอบของเธอ
อู๋อู๋เป็คนจู้จี้จุกจิกและตั้งความหวังอีกฝ่ายไว้สูงมาก เพื่อให้บรรลุตามความ้า อู๋อู๋เคยส่งเธอไปเรียนทำอาหารในโรงเรียนที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคการทำอาหารตะวันตกโดยเฉพาะ แน่นอนว่าจุดประสงค์ก็เพื่อฝึกฝนเธอที่ไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัย และแน่นอนว่าการกระทำนั้นทำให้อู๋อู๋ได้รับคำชื่นชมมากมายจากคนภายนอก
เมื่อผ่านการฝึกฝนเฉพาะด้าน อีกทั้งมีประสบการณ์หลายปี ความเคยชินหลายอย่างของเธอฝังลึกเข้าถึงกระดูก
การจัดเตรียมอาหารมื้อใหญ่ต้องระวังเื่สุขอนามัยเป็พิเศษ ร้านชานมข้างทางยังไม่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดขนาดนี้ แต่ความเคยชินของซูอินคือสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไข
ร้านของพี่หงมีขนาดเพียงสิบกว่าตารางเมตร แค่หมุนตัวก็หยิบจับได้ทุกอย่าง ทุกครั้งที่ซูอินเข้างานและเลิกงาน เธอจะทำความสะอาดทุกอย่างหนึ่งรอบ กวาดพื้น ถูพื้น เช็ดเคาน์เตอร์ และฆ่าเชื้อเครื่องชงเครื่องดื่ม
เธอว่างอยู่แล้ว คิดเสียว่าออกกำลังกาย
วันนี้ก็เหมือนเดิม เธอใช้น้ำจากน้ำพุแห่งจิติญญาชงน้ำเลมอนให้ตัวเอง หลังดื่มเสร็จจึงเริ่มเก็บกวาดอย่างช้าๆ
เมื่อเก็บกวาดได้สักครู่ ทั้งร้านก็สะอาดเอี่ยมอ่อง เธอล้างหน้าก่อนจะมัดผมหางม้าที่ยุ่งเหยิงใหม่ ตอนที่กำลังจะไปอุ้มสุนัขตัวน้อย ด้านนอกก็มีเสียงรถจอด
คนหลายคนสวมยูนิฟอร์มลงจากรถ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาในร้าน
“มาตรวจสุขอนามัย”
ซูอินมองคนที่สวมชุดยูนิฟอร์มเดินเข้ามาโดยที่ปลอกแขนมีข้อความระบุว่า “ครบถ้วนทุกประการ” รถคันที่จอดอยู่ด้านนอกมีสีขาวพ่นคำว่า “สุขาภิบาล” ซึ่งเป็การเข้ามาตรวจสอบอย่างกะทันหัน
กรมอนามัยมักจะส่งคนมาสุ่มตรวจ ซูอินจึงไม่คิดอะไร
เธอเชิญพวกเขาเข้ามาอย่างเป็ธรรมชาติ นำชาที่พี่หงมักจะดื่มออกมาจากเคาน์เตอร์ เทใส่แก้วแบบใช้แล้วทิ้งให้ทุกคนคนละหนึ่งแก้ว
“อากาศร้อน พวกคุณอาคงเหนื่อย ดื่มชาสักหน่อยนะคะ”
เมื่อทำสิ่งที่ตนเองควรทำหมดแล้ว ซูอินจึงถอยออกไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบของพวกเขาอยู่เงียบๆ
ผู้นำทีมเข้ามาตรวจสอบคือสหายของหลิงจื้อเฉิง ภรรยาของเขามีความสัมพันธ์อันดีกับอู๋อู๋ เมื่อวานหลังจากที่ได้รับประทานอาหารตะวันตกกับอู๋อู๋ก็พูดคุยเื่นี้กัน ภรรยาไม่ได้ปิดบังเขา เล่าถึงต้นสายปลายเหตุอย่างชัดเจน
เขามักจะดื่มเหล้ากับหลิงจื้อเฉิงบ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็เพียงการช่วยเื่เล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเขาก็ตกปากรับคำอย่างเต็มใจ มาทำงานวันนี้เขาเรียกคนอื่นๆ มาด้วยสองสามคน จากนั้นจึงขับรถมาที่นี่
เื่การตรวจสอบด้านสุขอนามัย คนที่มีประสบการณ์ต่างรู้กันทั้งนั้นว่า หากมีการตรวจสอบไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพบปัญหาอย่างแน่นอน
ทว่าร้านชานมแห่งนี้กลับทำลายความเข้าใจนั้นของเขาจนหมด
เมื่อเข้ามาในร้านและกวาดสายตามอง ไม่ว่าตรงไหนที่มีกระจกก็แวววาวไปเสียหมด แค่มองก็รู้ว่าสะอาด เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด วัตถุดิบที่ใช้ล้วนสดใหม่ เครื่องชงเครื่องดื่มก็ผ่านการฆ่าเชื้อ แม้แต่ยางตรงขอบตู้เย็นก็สะอาดสะอ้าน
ประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีในการบังคับใช้กฎหมายไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงเมื่อใช้กับร้านนี้
หากไม่ใช่เพราะรู้จักนิสัยของอู๋อู๋ เขารู้ดีว่าหล่อนไม่มีทางปิดบังเขา เ้าหน้าที่ด้านกฎหมายต่างคิดว่าจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้ากับทางร้านแน่ๆ
ร้านเล็กๆ ที่มีขนาดเพียงสิบกว่าตารางเมตร เดินตรวจตราหลายรอบก็ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้รู้สึกว่ามีปัญหา
อย่าว่าแต่ปัญหา ร้านนี้สามารถถูกเลือกให้เป็ร้านสุขอนามัยตัวอย่างของเมืองได้เลย ไม่ใช่แค่ในเมือง เขาเคยเข้าไปตรวจสอบในมณฑล ก็ยังไม่เคยเจอร้านไหนที่สะอาดเช่นนี้มาก่อน
เปิดประสบการณ์ใหม่อย่างแท้จริง!
เมื่อได้รับการยืนยันสามผ่าน[1]ว่าไม่มีปัญหา เ้าหน้าที่ด้านกฎหมายจึงทำได้เพียงกลับไป
เมื่อเห็นรถของสุขาภิบาลกลับไป แววตาของซูอินฉายประกายความสงสัย ทำไมเธอรู้สึกว่ามันคือการจงใจ อีกทั้งเมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบปัญหา พวกเขาก็ดูผิดหวังมาก
แต่ก็จริง การที่พวกเขาไม่พบปัญหาก็เท่ากับไม่สามารถทำโทษ ในเมื่อหาลำไพ่พิเศษไม่ได้ก็ต้องเสียใจเป็ธรรมดา
เมื่อคิดได้เธอก็รีบเก็บเื่นั้นไว้ภายหลัง
-------------------------------------------------------------
[1] การยืนยันสามผ่าน หมายถึง ผ่านทั้งสามหัวข้อที่ถูกตรวจสอบ
