การต่อสู้ของเยี่ยเฟิงและกับหยางลู่ก็จบลงอย่างกะทันหันด้วยการแทรกแซงของผู้าุโจากสำนักหลัก!
สิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องประหลาดใจที่สุดคือ ผู้าุโที่เดินทางมาจากสำนักหลักได้ประกาศต่อสาธารณชนว่า การแข่งขันครั้งนี้จบลงด้วยผลเสมอกัน!
หยางลู่ที่อยู่ในอาการโคม่านั้นย่อมไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกงุนงงคือ เยี่ยเฟิงซึ่งยังมีสติอยู่กลับไม่แสดงความไม่เห็นด้วยกับผลลัพธ์นี้! กลับกันเขารู้สึกโล่งอกด้วยซ้ำ!
มีเพียงเซียวหลิงอวิ๋นและผู้าุโบนอัฒจันทร์ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เื่นี้!
หากผู้าุโของสำนักหลักเข้ามาห้ามไม่ทันการ หลังจากหยางลู่ฟันดาบนี้ออกไป ตัวนางก็อาจจะหนีไม่พ้นการที่พลังปราณในกายถูกสูบออกไปจนสิ้นและหมดสติในที่สุด ส่วนเยี่ยเฟิงก็อาจจะได้รับาเ็สาหัส หรืออาจถูกสังหารจนตายคาที่เลยก็เป็ได้!
ด้วยความกังวลในเื่นี้ ผู้าุโของสำนักหลักจึงเข้าไปหยุดการประลองดังกล่าวทันที!
เยี่ยเฟิงนั้นเป็อัจฉริยะที่หาได้ยาก หยางลู่เองที่เป็ผู้ใช้วิชาอัญเชิญสัตว์อสูรกลืนิญญา ต่างถือเป็บุคลากรทรงคุณค่าเช่นเดียวกัน! การที่อัจฉริยะทั้งสองต้องาเ็สาหัสหรือล้มตายเพราะงานประลองใหญ่แบบนี้ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ผู้าุโของสำนักอย่างเขา้าเห็น!
หลังจากเ้าสำนักชื่อถิงเทียนออกมาอธิบาย บรรดาศิษย์ที่มาชมจึงสงบลงได้ในที่สุด!
ชื่อเสียงของหยางลู่พุ่งสูงขึ้นไปอีกระดับ!
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม การประลองรอบสิบคนจึงดำเนินต่อไป!
หยางลู่ สาวงามผู้โด่งดังต้องถอนตัวออกไป ทำให้ผู้ชมจำนวนมากทั้งรู้สึกตื่นเต้นและเสียดายในเวลาเดียวกัน การประลองรอบที่เหลือไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นอีกแล้ว!
แม้แต่การประลองนัดที่เซียวหลิงอวิ๋นพบกับเยี่ยเฟิงซึ่งเดิมทีควรจะเป็การประลองที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่เนื่องจากเยี่ยเฟิงยังไม่ฟื้นจากความกลัวจากการต่อสู้กับหยางลู่ จึงพ่ายแพ้ไปอย่างรวดเร็ว
จนในที่สุด การประลองของศิษย์ระดับกลางในเขตใต้ก็ได้สิ้นสุดลง!
เซียวหลิงอวิ๋นได้ตำแหน่งชนะเลิศอย่างสมศักดิ์ศรีด้วยสถิติที่ชนะรวดทั้งหมด!
แม้ว่าหยางลู่จะไม่สามารถเข้าร่วมการประลองสองนัดสุดท้ายได้ แต่คู่ต่อสู้ของนางอีกทั้งสองนัดที่เหลือก็แสดงให้เห็นถึงจิตใจอันกว้างขวางในฐานะศิษย์ชาย ขอยอมแพ้ทันที!
ดังนั้นผลการแข่งขันคือ หยางลู่และเยี่ยเฟิงได้อันดับสองร่วมกัน!
จ้าวิเจี้ยนที่ถูกทำร้ายจนพิการนั้นแพ้ในสองนัดรวดหลังจากไม่ได้กลับมาปรากฏตัว ถูกตัดสินว่าแพ้และได้อันดับสี่ไป!
แต่จ้าวิเจี้ยนผู้ซึ่งเส้นลมปราณทั่วร่างกายถูกเซียวหลิงอวิ๋นทำลายไปถึงแปดส่วนนั้นย่อมไม่มีทางกลับมาปรากฏตัวเพื่อรับรางวัล!
ส่วนอันดับถัดมาั้แ่ห้าถึงสิบ ได้แก่ หวังอี้ จางอวิ๋น หลิวิเฉวียน ตงฟางไฉ่อวิ๋น หม่าไข่ หลิวฉงเฉวียน
...
ต่อไปจะเป็การมอบรางวัลสำหรับผู้ที่ได้สิบอันดับแรกของในแต่ละเขตและแต่ละระดับ จากนั้นจะให้เวลาพักห้าวัน แล้วจึงเป็การต่อสู้รอบสิบอันดับแรกของทั้งห้าเขตในสำนัก!
ในขณะที่กำลังจะมอบรางวัลนั้น จู่ๆ ก็เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดขึ้นบนท้องฟ้าอีกครั้ง ชายชราสองคนร่อนลงมาจากบนฟ้า ชายชราเคราแพะร่างสูงใหญ่ถึงกับใเมื่อเห็นทั้งสองท่าน
ผู้าุโสูงสุดมาเยือนพร้อมกันถึงสองท่าน
เซียวหลิงอวิ๋นเองก็รู้สึกสับสนเช่นกัน ผู้าุโสูงสุดทั้งสองคนของสำนักดาบิญญาเมฆามาที่นี่เพื่อเขาโดยเฉพาะ เพื่อพาเขาที่เป็นักยุทธ์ระดับห้าไปฝึกวิชาที่สำนักหลักก่อนกำหนดอย่างนั้นหรือ?
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เซียวหลิงอวิ๋นถึงกับเหงื่อกาฬแตกพลั่กไปทั้งตัว ตัวเขาแสดงความสามารถยิ่งใหญ่และโอ้อวดมากเกินไปแล้ว รู้อย่างนี้ควรทำตัวให้โดดเด่นน้อยลงกว่านี้อีกสักหน่อยดีกว่า!
ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนให้เวลาเซียวหลิงอวิ๋นเพียงสามชั่วยาม ภายในสามชั่วยามต่อมา หนึ่งในนั้นจะมาพาเขาไปยังสำนักหลักทันที!
เซียวหลิงอวิ๋นผู้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดภายในก้าวเดียว ความสามารถไปเข้าตาของเหล่าผู้มีอำนาจสูงสุดในสำนักิญญาเมฆา ทำให้ผู้าุโสูงสุดทั้งสองในสำนักหลักต้องเดินทางมารับเขาด้วยตัวเอง ทำลายกฎเกณฑ์ที่สำนักตั้งเอาไว้มานานหลายพันปีเพื่อให้เขาได้เข้าไปฝึกวิชาในสำนักหลักก่อนกำหนด เื่นี้ได้สร้างความใให้กับทุกคนในสำนักแห่งนี้ราวกับะเิลูกใหญ่!
อัจฉริยะคืออะไร นี่ต่างหากคืออัจฉริยะ อัจฉริยะอย่างแท้จริง!
...
ว่านฮวนมองร่างที่สูงสง่าและแข็งแกร่งของเซียวหลิงอวิ๋นซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตาของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อนมากมาย โลกนี้ช่างไม่แน่นอนจริงๆ นางไม่คาดคิดเลยว่าภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน เซียวหลิงอวิ๋นจะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับลอกคราบ
“เ้าแซ่เซียว ตอนนี้เ้าคิดว่าตนเองแน่มากแล้วหรือ ฮ่าๆ ถึงเ้าจะได้รับความโปรดปรานจากผู้าุโสูงสุดของสำนักหลัก แต่เ้าคิดว่าจะสามารถข่มเหงหญิงสาวผู้อ่อนแออย่างข้าได้อย่างไม่เกรงกลัวใครอย่างนั้นหรือ หากเ้าแน่จริงก็เข้ามาสิ เข้ามาเลย มาสิ มาตีข้าสิ ตีข้าให้ตายไปเลยสิ!”
เมื่อเห็นว่านฮวนกำลังอาละวาด เซียวหลิงอวิ๋นก็ยิ้มเยาะในใจ ยังดีที่เขายกเลิก 'การหมั้นหมาย' อันโชคร้ายนั้นไปก่อนแล้ว...ไม่อย่างนั้นคงต้องเป็คู่บำเพ็ญกับหญิงสาวที่มีจิตใจเห็นแก่ตัวเช่นนี้...
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เด็กสาวคนนั้นเคยช่วยเหลือเ้าของร่างเดิมเมื่อครั้งยากลำบาก นางจึงไม่อยากจะโต้เถียงหรือทำร้ายนางอีกต่อไป ฮ่าๆ ข้าไม่จำเป็ต้องทำร้ายเ้าด้วยซ้ำ จากความจริงที่ว่าเ้ามาขอยกเลิก ‘การหมั้นหมาย’ ด้วยตัวเอง ก็เพียงพอที่จะทำให้เ้ารู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตแล้ว!
เซียวหลิงอวิ๋นหันหลังกลับ ก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว! น้องชายเอ๋ย หญิงสาวเช่นนี้ไม่คู่ควรกับเ้าหรอก การที่จุดจบลงเอยเช่นนี้ถือว่าเป็โชคดีของเ้าและข้าแล้ว เ้าควรจะละทิ้งเื่ของนางได้แล้วล่ะ!
หลังจากพูดเบาๆ ในใจกับเ้าของร่างเดิมนี้แล้ว เซียวหลิงอวิ๋นก็รู้สึกว่าจิตใจผ่อนคลายลงอย่างมาก ทั้งร่างกายและจิตใจของเขาล้วนเต็มไปด้วยความสุข!
“ศะ...ศิษย์พี่หลิง!” เ้าอ้วนวิ่งเข้ามาหาอย่างเร่งรีบ ข้างหลังยังมีชายวัยกลางคนอีกคนติดตามมาด้วย! ดูเ้าอ้วนมีสีหน้าเป็กังวลอย่างยิ่ง “ที่บ้านของท่านเกิดเื่แล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
“นายน้อย!” ชายวัยกลางคนที่เดินตามหลังเ้าอ้วนมาร้องเรียกเซียวหลิงอวิ๋น!
“เ้าคือ?” เซียวหลิงอวิ๋นขมวดคิ้วมองหน้าชายที่ดูฉลาดเฉลียวคนนี้!
“นายน้อย ข้าคือลุงเฉวียน หลี่เฉวียน รองพ่อบ้านของจวนโหวอย่างไรล่ะขอรับ!”
รองพ่อบ้านจวนโหว หลี่เฉวียน จู่ๆ ภาพของชายคนหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นในหัวของเซียวหลิงอวิ๋น! “ลุงเฉวียน เกิดอะไรขึ้นที่บ้านอย่างนั้นหรือ?”
...
หลังจากนั้นไม่นานนัก ม้าเกล็ดดำสี่ตัววิ่งออกจากหน้าประตูสำนักิญญาเมฆา มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกอย่างรวดเร็ว!
“มีพร์ที่โดดเด่น ทั้งยังมีความกตัญญูรู้คุณอีก ชางไห่ ในด้านของการมองคนแล้ว สายตาของเ้ายังคงเป็เลิศอยู่จริงๆ! แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือเวลา เวลาที่เหลือให้พวกเขาเติบโตนั้นช่างสั้นเกินไปจริงๆ!” ชายชราผู้สง่างามที่สวมเสื้อคลุมสีเขียวเรียบง่าย แต่กลับแผ่ออร่าเยี่ยงเซียนกล่าวกับชายชราร่างผอมแห้ง
“ศิษย์พี่ จริงหรือที่ผังแปดทิศบอกว่ามีเวลาไม่ถึงยี่สิบปี ที่ทั่วทั้งภูมิภาคเกิงและซินจะเกิดความวุ่นวาย?” ดวงตาของชายชราร่างผอมแห้งผู้มีนามว่าิ่ชางไห่มีความสิ้นหวังปรากฏขึ้น!
“พูดให้ชัดก็คือไม่น้อยกว่าสิบปี และไม่เกินยี่สิบปี ภูมิภาคทั้งสองจะต้องเกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน ข้าเกรงว่าความวุ่นวายครั้งนี้จะมีจุดเริ่มต้นจากภูมิภาคซินของเราและภูมิภาคเกิง จากนั้นก็จะแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ ส่งผลกระทบต่ออาณาจักรที่ใหญ่กว่า สิงที่แสดงในผังแปดทิศนั้นคลุมเครือมาก แต่...” ชายชราผู้สง่างามมีแววตาเศร้าโศก “ก่อนหน้านี้ข้าเองก็ยังคลางแคลงใจในการทำนายนั้นอยู่เสมอ แอบคิดมาตลอดว่ามันคงไม่ใช่ความจริง แต่ตอนนี้เมื่อรวมกับสิ่งที่เ้าพูดและคนที่มีตัวตนลึกลับนี้ รวมถึงการได้เห็นด้วยตาของตัวเองด้วยแล้ว ข้ากล้าพูดได้เลยว่า ความวุ่นวายจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และมันจะเริ่มต้นจากอาณาจักรซินโยวของเรา!”
“ตาเฒ่าโจ๋วรื่อ จะ...เ้าหมายความว่าผู้ที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายในแว่นแคว้นต่างๆ ก็คือ...ก็คือ...” ด้วยความใอย่างมาก ิ่ชางไห่จึงไม่สามารถใช้คำที่แสดงความนับถือได้อีกต่อไป เรียกชื่อจริงของชายชราผู้สง่างามคนนี้แทน
“นอกจากผู้ที่มีสถานะเช่นนั้นแล้ว ยังจะมีใครมีพลังมากพอที่จะทำให้แว่นแคว้นต่างๆ วุ่นวายได้อีก!” มุมปากของชายชราผู้สง่างามตี๋โจ๋วรื่อปรากฏรอยยิ้มขมขื่น!
“น่ะ...น่ะ...นี่มัน” ชายชราผอมแห้งิ่ชางไห่ไม่คิดฝันมาก่อนเลยว่าเื่ราวจะพลิกผันไปในทิศทางนั้นได้!
นี่เป็โชคดีหรือโชคร้ายของสำนักิญญาเมฆากันแน่? ในเวลานี้แม้แต่เขาที่เป็ผู้ที่มีพลังในระดับาาิญญาแล้ว ยังยากที่จะบอกได้!
ชายชราผู้สง่างามราวกับรู้ว่าศิษย์น้องผู้มีพร์ที่สุดของเขากำลังคิดอะไรอยู่ จึงลดเสียงให้เบาลง “ชางไห่ เ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก ภูมิภาคเกิงและซินนั้นต่างก็สงบสุขมาเป็เวลาพันปีแล้ว ต่อให้ไม่มีคนคนนี้ ความวุ่นวายก็คงจะเกิดขึ้นอยู่ดี เพียงแต่มาได้ในเวลาที่เหมาะเจาะเท่านั้น!
่เวลาที่วุ่นวายมักมีวีรบุรุษเกิดขึ้นมากมาย และาก็จะนำพาปีศาจร้ายมาให้ นี่ก็ไม่ได้เป็แค่หายนะของอาณาจักรซินโยวของเราเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็โอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับพวกเรา รวมถึงคนหนุ่มสาวเหล่านี้ด้วย!
ทั้งหรูเยียน หนีอิ่ง เด็กสาวที่มีวิชาอัญเชิญสัตว์อสูรกลืนิญญาได้ั้แ่อายุยังน้อย และเด็กหนุ่มสองสามคนในสำนัก รวมถึงคนคนนี้ด้วย เปรียบเสมือนดวงดาวส่องสว่าง ดวงดาวกำลังส่องประกาย นับั้แ่ท่านปรมาจารย์หลิงอวิ๋นได้ก่อตั้งสำนักขึ้นทีู่เาเจี้ยนหลิงซานมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านมาได้เก้าพันเก้าร้อยแปดสิบสามปี นอกเหนือจากรุ่นของท่านปรมาจารย์หลิงอวิ๋นแล้ว ตลอดหลายชั่วอายุคน เคยมีผู้ที่มีพร์โดดเด่นและดวงดาวที่สุกสว่างมากมายเช่นนี้หรือ?
ไม่ใช่แค่เพียงพวกเราเท่านั้น เ้าจงดูสำนักใหญ่อีกสี่แห่งในอาณาจักรซินโยวสิ ่สิบถึงยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ต่างก็มีคนหนุ่มสาวที่มีพร์โดดเด่นปรากฏตัวขึ้นมากมาย นี่ก็เป็อีกหนึ่งลางบอกเหตุล่วงหน้า!”
“เฮ้อ!” ิ่ชางไห่ถอนหายใจออกมายาวๆ ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาก็เปล่งแสงน่ากลัวออกมาสองดวง พลังของเขาเพิ่มสูงขึ้นและแข็งแกร่งดั่งขุนเขา “ถูกต้อง นี่ไม่เพียงแต่จะเป็โอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับเด็กหนุ่มสาวกลุ่มนี้เท่านั้น แต่ยังเป็โอกาสของพวกเราเหล่าผู้าุโด้วย มือของข้าอดใจรอที่จะได้ต่อสู้กับพวกต่างแดนที่แข็งแกร่งเ่าั้ไม่ไหวแล้ว มีเพียงการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างความเป็ความตายเท่านั้น ที่ข้าจะสามารถก้าวข้ามกำแพงและบรรลุขึ้นไปสู่พรมแดนใหม่!”
“ฮ่าๆๆ นี่สิถึงจะสมกับเป็น้องชางไห่ของข้า ถึงพวกเราคนเฒ่าคนแก่ทั้งหลายยากที่จะก้าวข้ามไป แต่ข้าก็เชื่อมั่นในตัวเ้า!”
“ศิษย์พี่ ท่านกับท่านเ้าสำนัก รวมถึงศิษย์พี่หญิงเยาเยวี่ยก็ยังมีโอกาส ศิษย์พี่อย่าลืมว่าเรายังมีเ้าหนุ่มนั่นอยู่!”
“ยาก ช่างยากเหลือเกิน ว่านซานยังมีความหวัง แต่ข้ากับเยาเยวี่ยแล้ว เกรงว่า... พวกเราทั้งสองคนมีอายุขัยเหลือเพียงสามสิบปีเท่านั้น คงจะรอไม่ไหวแล้ว!”
“ศิษย์พี่ เมื่อสองปีก่อนท่านบอกเองไม่ใช่หรือ ว่ายังมีอายุขัยเหลืออยู่ห้าสิบปี? แล้วนี่... ระ... หรือว่าเป็เพราะการใช้ผังแปดทิศทำนายครั้งนี้...” ิ่ชางไห่ไม่ได้พูดต่อ ตัวเขาเข้าใจดีว่าการใช้ผังแปดทิศทำนายครั้งนี้ทำให้ศิษย์พี่สูญเสียพลังและเืลมปราณไปอย่างมาก ทำให้อายุขัยสั้นลง!
แลกมากับการที่สำนักมีเวลาให้เตรียมตัวล่วงหน้าสิบถึงยี่สิบปี
