ท้องฟ้าแจ่มใสดอกไม้ผลิบาน ทุ่งหญ้าอันเขียวขจี นกขมิ้นโผบิน
ทันทีที่รถม้าออกจากประตูเมือง กู้เจิงก็แหวกม่านมองออกไปด้านนอก นางเห็นผู้คนไม่น้อย ทุกคนต่างเดินจับมือกันภายใต้แสงอาทิตย์อบอุ่น
“องค์หญิง มาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” รถม้าหยุดลง สารถีขับรถม้ารีบรายงาน
พวกกู้เจิงลงจากรถม้าก่อน ตอนที่องค์หญิงสิบเอ็ดก้าวลงจากรถม้า ทหารองครักษ์แต่งกายด้วยชุดผู้คุ้มกันกระจายตัวอยู่รอบๆ นายทหารพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “พวกเ้ามารวมตัวกันทำไม? ไม่ใช่ว่าให้พวกเ้าคอยตามอยู่ห่างๆ หรอกหรือ?”
ทหารองครักษ์มีทั้งหมดสิบคน เมื่อมีคนมากย่อมกลายเป็จุดสนใจ สีหน้าของเหล่าทหารองครักษ์ดูลำบากใจเล็กน้อย องค์หญิงมีฐานะสูงส่ง หากเป็อะไรขึ้นมา พวกเขาจะแบกรับไหวได้อย่างไร
“ถอยไปให้หมด ที่นี่มีคนเยอะขนาดนี้ ไม่น่าจะเกิดเื่อะไรขึ้น พวกเ้าคอยตามอยู่ห่างๆ จับตาดูองค์หญิงไว้ก็พอ” พระชายาตวนสั่ง
“ขอรับ” เหล่าทหารองครักษ์หลวงทำได้เพียงถอยออกไปตามคำสั่ง
กู้เจิงมองเฟิงไหลที่เดินตามนางมาโดยตลอด มีเฟิงไหลอยู่ด้วย นางก็ไม่กังวล
“คนเยอะจริงๆ ดูท่าทุกคนจะชอบมาเดินเที่ยวดูธรรมชาติกัน” องค์หญิงสิบเอ็ดเห็นรถม้าและเงาร่างผู้คนอยู่รอบด้าน นางตื่นเต้นมาก “พวกิ่หรูอยู่ที่ไหนนะ? นางมาเร็วกว่าพวกเราตั้งครึ่งชั่วยาม” นางว่าพลางมองไปรอบๆ
กู้อิ๋งก็มองไปรอบๆ เช่นกัน “คุณหนูเซี่ยร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงั้แ่เด็ก คนรับใช้ของจวนเซี่ยต้องไม่ยอมให้นางอยู่ในที่ที่มีคนแออัดแน่ พวกเราลองไปดูทางป่าด้านนั้นกันดีกว่า” นางชี้ไปอีกทางที่อยู่ไกลออกไป
กู้เจิงสงสัยว่าเหตุใดเซี่ยกงเจวี๋ยน้อยกับคุณหนูเซี่ยถึงได้มีร่างกายไม่แข็งแรง แม่ทัพเซี่ยออกจะน่าเกรงขาม และดูแข็งแรงมาก ส่วนฮูหยินเซี่ยก็ดูไม่เหมือนคนสุขภาพย่ำแย่อะไร
องค์หญิงสิบเอ็ดกับกู้เหยาะโโลดเต้นอยู่ด้านหน้า ส่วนกู้เจิงกับกู้อิ๋งเดินตามหลังไปอย่างช้าๆ
“ดีจริงๆ” กู้อิ๋งมองร่างอันแสนร่าเริงของน้องสาว “หวังว่าเหยาเอ๋อร์จะมีความสุขเช่นนี้อยู่เสมอ”
“ข้าก็หวังเช่นนั้น” กู้เจิงยิ้มแย้ม
“แต่มันจะเป็ไปได้หรือ?”
“นางมีพี่สาวสองคนอย่างพวกเราคอยปกป้อง แน่นอนว่าต้องมีความสุขแน่ๆ”
ได้ยินคำปลอบใจของกู้เจิง กู้อิ๋งก็ยิ้มออกมา ใช่แล้ว ตอนนี้พี่เขยใหญ่เป็บัณฑิตในสำนักราชเลขา วันหน้ายังมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่ง ส่วนนางคือพระชายาตวน ถ้าอยากให้น้องสาวมีความสุขไปตลอด น่าจะไม่ใช่เื่ยากกระมัง
“พี่ใหญ่ พี่สาม เดินเร็วๆ สิเ้าคะ พวกิ่หรูอยู่ทางนั้นจริงๆ ด้วยเ้าค่ะ” กู้เหยากวักมือเรียกกู้เจิงกับกู้อิ๋
เมื่อพวกนางเดินมาถึงป่าอีกด้าน ก็เห็นองครักษ์หลายคนกำลังคุ้มกันอยู่โดยรอบ ดูท่าป่าทางด้านนี้คงถูกคุณหนูเซี่ยครองไว้หมดแล้ว
ทว่าสิ่งที่ทำให้กู้เจิงประหลาดใจก็คือ คุณหนูหนิงและหวังหว่านหรงก็อยู่ด้วย หวังหว่านหรงหน้าตางดงาม เรือนร่างเปล่งกระกาย เวลายืนอยู่กับองค์หญิงและเซี่ยหมินหรูจึงไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
“ทักทายพี่ใหญ่กู้เ้าค่ะ” เซี่ยหมินหรู หนิงซิ่วอิง และหวังหว่านหรงทักทายกู้เจิง
กู้เจิงเองก็ทักทายกลับเช่นกัน
เดิมทีกู้อิ๋งกับหนิงซิ่วอิงเป็สหายกัน แต่เพราะความสัมพันธ์ของกู้เจิ้งชินจึงทำให้ไม่ได้ติดต่อกันมาพักหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรความเป็มิตรสหายกันนั้นก็ยังคงอยู่ ตอนนี้การแต่งงานของหนิงซิ่วอิงกับเยี่ยนจื่อเซี่ยนได้ยกเลิกไปแล้ว กู้อิ๋งคิดว่าหนิงซิ่วอิงน่ากำลังสับสบ นางเลยจูงมือหนิงซิ่วอิงไปนั่งคุยกันเงียบๆ อยู่อีกฝั่ง
กู้เจิงรู้สึกผิดต่อหนิงซิ่วอิงอยู่บ้าง ถึงอย่างไรก็เป็เพราะซู่เหนียงแย่งเ้าบ่าวของนางไป ต่อให้คุณหนูหนิงไม่ชอบแม่ทัพเยี่ยน แต่งานแต่งถูกยกเลิกกะทันหันเช่นนี้ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับหญิงสาวคนใดล้วนน่าขายหน้าทั้งนั้น
“ไม่ได้เจอกันหลายวัน พี่ใหญ่กู้งดงามขึ้นมากเลยนะเ้าคะ” หวังหว่านหรงกล่าวชมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
อีกฝ่ายเข้ามาพูดคุยด้วยก่อน กู้เจิงจึงต้องยิ้มทักทาย “น้องหว่านหรงเองก็สง่างามและอ่อนหวานขึ้นทุกวัน”
เฟิงไหลถึงกับต้องเหลือบตาขึ้นมองกู้เจิงแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองหวังหว่านหรง สองคนนี้ช่างแปลกจริงๆ ต่างพูดประจบประแจงอีกฝ่าย ทว่ารอยยิ้มกลับส่งไปไม่ถึงั์ตา
“จริงสิ น้องหว่านหรงก็ไม่เด็กแล้ว ไม่ทราบว่าได้หมั้นหมายกับใครแล้วหรือยัง?” กู้เจิงถาม นี่เป็คำถามที่นางสนใจมากที่สุด
“ยังเลยเ้าค่ะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังหว่านหรงแข็งค้าง
“ก็ถึงเวลาควรจะหาคู่ครองได้แล้ว ถ้าปล่อยให้นานไประวังจะไม่ได้ออกเรือนนะ?”
“เื่นี้ไม่ต้องรบกวนให้พี่ใหญ่กู้เป็กังวลหรอกเ้าค่ะ"
“ข้าย่อมไม่ได้เป็กังวล เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับข้า”
“ในเมื่อไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ใหญ่กู้ แล้วจะเอ่ยขึ้นมาทำไมกันเ้าคะ?”
“เพราะข้ากังวลว่า มีคนอยากได้สามีของข้าอยู่ตลอดน่ะสิ” กู้เจิงตอบอย่างตรงไปตรงมา
รอยยิ้มของหวังหว่านหรงหดหายไปในพริบตา นางนึกถึงสิ่งที่ท่านพ่อพูดกับนางเมื่อไม่กี่วันก่อน นางจึงรีบเชิดหน้าขึ้นมองกู้เจิงอย่างเ็าพลางกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ขอให้พี่ใหญ่กู้รักษาเอาไว้ดีๆ นะเ้าคะ” กล่าวจบ นางก็หันกายเดินไปหาองค์หญิงสิบเอ็ด
กู้เจิงเลิกคิ้วกับท่าทางมั่นใจของหวังหว่านหรง
“ฮูหยินกังวลว่าตวนอ๋องจะคอยเป็พ่อสื่อให้คุณหนูหวังกับใต้เท้าเสิ่นอย่างนั้นหรือเ้าคะ?” เฟิงไหลถามกู้เจิงเบาๆ
“เ้ารู้ด้วยหรือ?" กู้เจิงมองนางด้วยความประหลาดใจ
“เื่ราวในเมืองหลวง บ่าวพอรู้อยู่บ้างเ้าค่ะ” บิดาบุญธรรมของนางมีเครือข่ายข่าวกรองในเมืองหลวง
กู้เจิงประหลาดใจที่เฟิงไหลกลับรู้เื่นี้ได้ แล้วนางยังจะมีอีกเื่ไหนที่ไม่รู้อีกเล่า?
“ใต้เท้าเสิ่นชอบฮูหยินปานนั้น เขาไม่มีทางสนใจหญิงอื่นหรอกเ้าค่ะ” เฟิงไหลกล่าวอีกครั้ง
“กับนางนั้นไม่เหมือนกัน” กู้เจิงพึมพำ
“พี่ใหญ่” กู้อิ๋งกับหนิงซิ่วอิงเดินมาหา “พวกเราก็ไปเดินเล่นกับพวกองค์หญิงกันเถอะเ้าค่ะ”
ดวงตาของหนิงซิ่วอิงแดงระเรื่อ พอเห็นกู้เจิงก็รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อย
กู้เหยา องค์หญิงสิบเอ็ด และเซี่ยหมินหรูกำลังเดินเล่นอยู่ริมลำธาร ป่าทางด้านนี้มองผ่านๆ อาจจะดูไม่สะดุดตา แต่ภายในกลับมีลำธารเล็กๆ และมีสวนดอกไม้ซ่อนอยู่ อีกทั้งยังมีสัตว์ป่าตัวเล็กๆ จำพวก นก กระรอก กระต่ายอีกด้วย
กู้เหยาใช้กิ่งไม้ดันหินในลำธารขึ้น “ใต้หินจะมีปูซ่อนอยู่จริงหรือ กู้เหยา เ้าอย่าโกหกข้านะ” เซี่ยหมินหรูร้องถามกู้เหยา
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน คนอื่นบอกข้ามาแบบนี้” กู้เหยาพลิกหินออกมาสามก้อนติดแล้วก็ยังไม่เห็นว่าจะมี
“ที่นี่เป็เพียงลำธารเล็กๆ จะไปมีปูได้ยังไง” กู้เจิงอดหัวเราะไม่ได้ “พวกเ้าดูสิ ในน้ำตื้นเขินไม่มีแม้แต่ปลาหรือกุ้งตัวเล็กๆ เลย”
องค์หญิงสิบเอ็ดกับเซี่ยหมินหรูมองกู้เหยาด้วยสีหน้าผิดหวัง
“พวกเ้าอย่ามองข้าแบบนี้สิ ข้าบอกแล้วไง แค่ได้ยินคนอื่นพูดกัน” กู้เหยาเอ่ย นางเองก็ผิดหวังเช่นกัน
ในตอนนั้นเอง มีเสียงกีบเท้าม้าดังแว่วมา
ทุกคนหันมองไป ก็เห็นองครักษ์ที่เฝ้าอยู่นอกป่าหลีกทางให้ผู้มาใหม่ ม้าสีแดงสามตัววิ่งเข้าไปในป่า ด้านหน้าสุดคือองค์รัชทายาท ด้านหลังตามมาด้วยองค์ชายสิบสอง และยังมีเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ตามมาด้วยอีกคน กู้เจิงรู้สึกคุ้นหน้าเขาอยู่บ้าง พอเข้าไปใกล้นางถึงได้รู้ว่าเป็คุณชายสามหนิงฉีกวง
“คารวะองค์รัชทายาท” ทุกคนรีบทำความเคารพ และต่างสงสัยว่าองค์รัชทายาทมาที่นี่ได้อย่างไร
กู้เจิงแอบมองไปทางเซี่ยิ่หรู นางเห็นคุณหนูเซี่ยดีใจออกหน้าออกตา องค์รัชทายาทต้องมานางแน่ การมาเที่ยวเล่นในวันนี้มีเจตนาแอบแฝงงั้นหรือ?
“ข้ากำลังชื่นชมทิวทัศน์ในป่าฝั่งตรงข้าม ได้ยินว่าน้องสิบเอ็ดอยู่ที่นี่ เลยมาดูสักหน่อย” องค์รัชทายาทพูดกับองค์หญิงสิบเอ็ด ทว่าสายตากลับมองเซี่ยหมินหรูที่อยู่ด้านหลัง
“องค์รัชทายาท ท่านอ๋องของข้าอยู่กับองค์รัชทายาทด้วยหรือไม่เพคะ?” กู้อิ๋งเดินเข้าไปถาม
“อยู่สิ เขาจะจับกระต่ายในป่าฝั่งนั่นได้ด้วยนะ”องค์รัชทายาทแม้ว่าจะอายุยี่สิบสี่แล้ว แต่ก็ยังดูอ่อนเยาว์
กู้อิ๋งนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถาม “เหตุใดท่านอ๋องถึงต้องจับกระต่ายด้วยเพคะ?”
กู้เจิงเองก็แปลกใจ กระต่ายน้อยตัวหนึ่งเหตุใดถึงต้องให้ท่านอ๋องผู้สูงส่งจับด้วยตัวเอง
“แน่นอนว่าต้องทำตาม...” เสียงขององค์รัชทายาทหยุดชะงัก เขาเอาแต่สนใจเซี่ยหมินหรู จึงเกือบจะเผลอพูดออกไป “เขาชอบจับมันกระมัง”
กู้เหยา “...”
“ในป่าด้านนั้นมีกระต่ายด้วยหรือ? เสด็จพี่ ข้าเองก็อยากไปจับเหมือนกันเพคะ” องค์หญิงสิบเอ็ดสนใจอย่างยิ่ง
เซี่ยหมินหรูกับกู้เหยาก็มีสีหน้าคาดหวังเช่นกัน
หวังหว่านหรงมององค์รัชทายาทที่อยู่ตรงหน้าแล้วเกิดความหวั่นไหวขึ้นมาในใจ บิดาของนางเป็เพียงขุนนางขั้นสี่ นางผู้เป็บุตรสาวสายตรงน้อยนักที่จะได้มีโอกาสเข้าวังหลวง นับประสาอะไรกับการได้พบองค์รัชทายาทตัวจริง และตอนนี้เขาก็มาอยู่ตรงหน้านางแล้ว