คำพูดของิอวี่ ทำให้ทุกคนตะลึงไปกันหมด
ไม่ว่าความสามารถของเขาจะเป็อย่างไร แต่อย่างน้อยในเื่ “ความไม่กลัวตาย” ผู้ชมทุกคนก็ชื่นชมิอวี่จากใจจริงๆ
โจวไคผู้ซึ่งได้รับาเ็ทั้งร่างกายและจิตใจที่ยืนดูอยู่ก็ถึงกับหัวเราะออกมา
เขารู้ว่าความสามารถของตัวเองนั้นสู้ิอวี่ไม่ได้ แต่จ้าวหานเหรินย่อมทำได้ ทำให้โจวไคจินตนาการว่าตัวเองนั้นคือจ้าวหานเหรินที่เล่นงานฉีกิอวี่ออกเป็ชิ้นๆ ก็เท่ากับตัวเขาได้ฉีกิอวี่ออกเป็ชิ้นๆ ด้วย!
พอคิดได้แบบนี้ โจวไคก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมา
บนลานประลอง
“เ้าลองพูดอีกทีสิ” พอจ้าวหานเหรินได้ยินิอวี่พูด ท่าทางของเขาก็เ็าขึ้นมา รอบตัวเขาในระยะรัศมีสามเมตรก็แผ่รังสีอำมหิตออกมา
ท่าทีของิอวี่เองก็เริ่มนิ่ง คำพูดของเขาเมื่อครู่ก็เป็แค่คำพูดประชดกลับไปเท่านั้น ก่อนหน้านี้โหยวอู่เยวี่ยฉวยโอกาสตอนเขาไม่ได้ตั้งตัวลอบโจมตีเขา แต่จ้าวหานเหรินกลับบอกให้เขาคุกเข่าให้กับโหยวอู่เยวี่ยต่อหน้าทุกคน
แล้วเขาผิดอะไร? ถูกหยามเกียรติขนาดนี้จะไม่มีอารมณ์ได้อย่างไรกัน?
ทุกคนคิดว่าิอวี่ไม่โกรธ นั่นเป็เพราะเขาพยายามข่มอารมณ์ความบ้าคลั่งของเขาเอาไว้ แล้วค่อยะเิออกมาทีเดียว!
ลมปราณในร่างกายของิอวี่เดือดไปทั่วตัว เขาพูดด้วยความเ็าว่า “ข้าว่า คำว่า ‘สมคบคิดกัน’ นี่เหมาะมากที่จะใช้กับพวกเ้าสองคน”
“คุกเข่าลง!”
“ชึ่บ!”
จ้าวหานเหรินชักดาบออกมา เขาปรี่เข้ามาหาิอวี่แทบจะในทันที และฟันดาบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดไปที่ส่วนล่างของิอวี่ หากโดนดาบนี้เข้าไป ขาของิอวี่คงจะหายไปในพริบตา แม้แต่จะยืนิอวี่ก็คงไม่มีโอกาสแล้ว
ิอวี่สะบัดข้อมืออย่างแรงแล้วพลิกกระบี่ด้วยความเร็วในระดับสูงสุด เพื่อบังดาบของจ้าวหานเหรินเอาไว้
ดาบของจ้าวหานเหรินเป็ศาตราวุธระดับหก “ดาบหลิงเฟิง” เป็อาวุธในระดับเดียวกับกระบี่เฟิงโหวของิอวี่ ไม่ว่าจะเป็เนื้อเหล็ก น้ำหนัก ระดับความคม ไม่ได้ด้อยไปกว่ากระบี่เฟิงโหวเลย
ิอวี่ยอมรับในความเร็วและความแม่นยำของดาบของจ้าวหานเหริน ซึ่งนับว่าเป็คนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาได้เจอมาแล้วในเวลานี้ แต่ว่า พอดาบนี้ถูกฟันลงมามันกลับทำให้ความโกรธที่ิอวี่ข่มเอาไว้นั้นะเิออก!
“ดาบนี้ ข้าจะจำเอาไว้”
ลมปราณสังหารของกระบี่พลุ่งพล่านไปบนกระบี่เฟิงโหว ิอวี่ปัดดาบของจ้าวหานเหรินด้วยท่าทางเ็าและแทงกระบี่ของเขาออกไปด้วยความโมโห
“เ้ายังมีหน้าตอบโต้อีกหรือ?”
จ้าวหานเหรินยกดาบขึ้นมาบังกระบี่ของิอวี่ เขาจ้องไปที่ิอวี่แล้วพูดว่า “หากวันนี้ข้าไม่ได้ตัดหัวเ้า คงไม่อาจลบล้างความอัปยศของเยวี่ยเอ๋อร์ได้”
“เงาพายุ!”
ดาบหลิงเฟิงของจ้าวหานเหรินแปรเปลี่ยนเป็เงาดาบเก้าสาย ทั้งหมดพุ่งรวมมาที่ิอวี่จากทุกทิศทาง
เงาพายุเป็ทักษะการต่อสู้หลิงระดับกลาง การที่จ้าวหานเหรินสามารถปล่อยพลังออกมาได้ถึงเก้าสาย แสดงว่าเขาฝึกจนสำเร็จแล้ว ลมปราณดาบในแต่ละสายมันสมจริงมาก พลังดาบยังแฝงไปด้วยจิตสังหารที่บ้าคลั่งของจ้าวหานเหรินด้วย!
“ฟึ่บ!”
ิอวี่ใช้กระบี่เฟิงโหวปัดป้องอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าพลังดาบเก้าสายก็ยังบีบจนเขาต้องล่าถอย ิอวี่ไม่เคยต้องเจอสภาวะจนมุมแบบนี้มาก่อนเลย
แต่ิอวี่ที่ตกอยู่ในสภาพคับขันกลับยิ่งร้อนรนไม่อยู่นิ่ง จิตสังหารของเพลงกระบี่สังหารหนีลวนมันตื่นขึ้นมา แล้วเพาะบ่มอยู่ในร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง
พลังสังหารเจ็ดขั้นก่อตัวขึ้น จากนั้นก็ก่อตัวขึ้นอีกหนึ่งขั้น แต่ิอวี่ก็ไม่ได้สร้างมันขึ้นมาอีก เขาหันคมกระบี่ออก ลมปราณกระบี่สังหารแปดสายพุ่งออกไปรอบๆ แล้วต้านคมดาบของจ้าวหานเหรินเอาไว้
พอเห็นว่าิอวี่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ในกระบวนท่าเดียว จ้าวหานเหรินก็โกรธจัด เขาชี้ดาบของเขาออกไปแล้วตะคอกใส่ิอวี่ “ข้าจะฆ่าเ้า!”
พอพูดจบ จ้าวหานเหรินก็รวบรวมลมปราณทั้งหมดที่มีในร่างกายใส่ลงในดาบหลิงเฟิง แล้วฟันออกไป
“อินทรีสังหาร!”
ิอวี่ทำให้จ้าวหานเหรินโกรธมากแล้วจริงๆ กระบวนท่านี้ของเขาเป็กระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งมาก!
ลมปราณดาบถูกฟันออกมาราวกับพญาอินทรีสยายปีก ส่งเสียงคำรามออกมากลางอากาศ เสียงแหลมแสบแก้วหูมาก จากนั้นมันก็พุ่งเข้าไปที่่เอวของิอวี่โดย้าจะตัดเขาออกเป็สองท่อน
ทุกคนตกตะลึงกันอย่างมาก คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวหานเหรินก้าวหน้าไปถึงระดับที่น่ากลัวมาก ิอวี่สามารถรับมือได้หลายกระบวนท่าขนาดนี้ ถึงจะแพ้ก็แพ้อย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรีแล้ว ได้ตายภายใต้คมดาบของจ้าวหานเหริน ก็ถือเป็เกียรติยศอันสูงสุดของมือกระบี่อย่างิอวี่แล้ว
แต่ในเวลานี้ กระบี่เฟิงโหวของิอวี่ก็ราวกับมีชีวิต มันสั่นอย่างต่อเนื่อง ลมปราณกระบี่สังหารที่กระจัดกระจายอยู่กลางอากาศเมื่อครู่ มันกลับมาที่ตัวกระบี่ราวกับนกที่บินกลับรัง
หนึ่งเท่า สองเท่า ...
จนสุดท้าย ลมปราณสังหารทั้งแปดเท่าก็กลับมาอยู่ที่ตัวกระบี่จนหมด การที่กระบี่เฟิงโหวสั่นเครือก็เพราะมันแฝงไปด้วยพลังอันมหาศาล
และในวินาทีถัดมา ก็เกิดลมปราณกระบี่สังหารขึ้นมาอีกหนึ่งเส้นสาย กระบี่เฟิงโหวที่สั่นอยู่ก็หยุดสั่นแล้วเข้าสู่สภาวะสงบนิ่งก่อนพายุใหญ่กำลังจะมา
“เพลงกระบี่สังหารหนีลวน พลังสังหารเก้าเท่า”
“ฉึบ!”
ิอวี่ชี้กระบี่ออกไป ทันใดนั้นเอง ลมปราณกระบี่สังหารอันน่าทึ่งก็ะเิออกมาจากปลายกระบี่ พุ่งชนไปที่ลมปราณดาบของพญาอินทรี ทำให้ลานประลองสั่นะเืไปชั่วขณะ
ในเวลาคับขัน ิอวี่เข้าถึงการสร้างลมปราณสังหารเก้าเท่าออกมา และสามารถใช้มันในการรับมือกับลมปราณสังหารพญาอินทรีของดาบหลิงเฟิงของจ้าวหานเหรินได้!
ลมปราณดาบถูกชนจนเกิดคลื่นสั่นะเื มันกระจัดกระจายออกไปราวกับสายลม ผู้ชมเหมือนรู้สึกตัวรีบถอยห่างออกไปจากลานประลอง แต่ถึงอย่างนั้น ลมก็ยังคงผ่านหน้าของพวกเขาจนทำให้พวกเขารู้สึกเ็ป
หนังหน้าของเหล่าผู้ชมราวกับกำลังเต้นระบำ นี่เป็แค่ความรู้สึกของผู้ชมที่อยู่ด้านล่างลานประลอง แล้วถ้าหากพวกเขาอยู่บนนั้น แค่คลื่นนี่ก็คงเอาชีวิตของพวกเขาไปแล้วกระมัง?
เพราะการปะทะกันบนลานประลองจนทำให้เกิดฝุ่นโขมง ทุกคนถึงได้รู้ว่า ชุดสีดำที่ิอวี่สวมอยู่นั้นมีรอยขาดอยู่หลายจุด แต่ว่าเขายังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยชี้กระบี่ออกไปด้านหน้า
“ดูเร็ว!”
ผู้ชมคนหนึ่งตกตะลึงเลยรีบชี้ไปทางจ้าวหานเหริน ทุกคนรีบหันไปดู เห็นจ้าวหานเหรินเองก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ดาบชี้มาด้านหน้า แต่ว่าบริเวณหน้าอกด้านซ้ายของเขา มันมีรูขนาดเท่ากำปั้นปรากฏเพิ่มขึ้นมา!
“เ้า ...”
จ้าวหานเหรินจับไปที่หน้าอกของตัวเอง แล้วถอยหลังทีละก้าวอย่างยากลำบาก
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาคนนี้จะแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ ถ้ารู้มาก่อน เขาจะไปกล้าล่วงเกินให้เขาไม่พอใจแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
เมื่อััได้ว่าลมปราณชีวิตกำลังไหลออก ในใจของจ้าวหานเหรินก็เกิดความรู้สึกกลัว แต่เขาไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้แล้ว ่ชีวิตของการเป็บุคคลที่มีความสามารถ สายตาที่เคารพยกย่อง ทุกอย่าง มันกำลังจะจากเขาไป
เขามองเห็นสายตาของเหล่าผู้ชมที่เต็มไปด้วยความใ ราวกับว่าการที่เขายังอยู่ตรงนั้น มันกำลังจะกลายเป็หินขวางทางสำหรับิอวี่ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเขาทุกอย่างในเมื่อก่อนนั้นกำลังจะถูกชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแย่งชิงไป!
“ ... ไม่!”
จ้าวหานเหรินเกิดความอาฆาตแค้นในใจ แต่จุดจบของเขาถูกกำหนดเอาไว้แล้ว อารมณ์ความโกรธความแค้นมันอัดแน่นในใจ และสุดท้ายเขาก็ล้มลงกับพื้นอย่างไร้ลมหายใจ
“กรี๊ด!”
เสียงกรีดร้องของโหยวอู่เยวี่ยดังขึ้นจากห้องพักรอที่อยู่บนชั้นสอง นางเอามือปิดปากอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าิอวี่จะเอาชนะคนที่นางมองว่ามีพร์สูงอย่างจ้าวหานเหรินได้
จ้าวหานเหรินเป็ผู้ชายที่โหยวอู่เยวี่ยเคารพนับถืออย่างมาก ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้ให้ความอุ่นใจปลอดภัยกับนางอย่างมากมาย ความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้ทำให้นางรู้สึกใจสั่นทุกครั้งจนยอมศิโรราบ
แต่ในตอนนี้ ถึงแม้คนที่ิอวี่เอาชนะไปได้นั้นคือจ้าวหานเหริน แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็ได้เอาชนะความศรัทธาของโหยวอู่เยวี่ยไปด้วยเช่นกัน!
ความเติมเต็มและความสุขที่โหยวอู่เยวี่ยได้รับจากจ้าวหานเหริน มันสลายลงไปในแค่ชั่วพริบตา!
สายตาของโหยวอู่เยวี่ยที่มองไปที่ิอวี่นั้น ก็เริ่มเปลี่ยนไป ...
แต่ด้านล่างลานประลอง โจวไคที่รอดูจ้าวหานเหรินฉีกิอวี่เป็ชิ้นๆ ตอนนี้ก็ยืนตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ เขารู้สึกว่าในใจของเขาเหมือนโดนทุบ เหมือนได้ยินเสียงหัวใจของเขานั้นแตกสลาย
“ิอวี่ ...” โจวไคกัดฟัน ธาตุไฟเข้าแทรกแล้วก็กระอักเืออกมา จากนั้นก็สลบไป
“เ้าบ้านี่ ดึงดันจะดูให้ได้ เป็อย่างไรล่ะทีนี้ คงโกรธิอวี่จนภายในแตกซ่านไปแล้วมั้งเนี่ย? ล้ม ‘ตึง’ ไปเลยทีนี้ ฮ่าฮ่า”
ผู้ชมต่างหัวเราะกันขึ้นมา แต่ไม่มีใครไปสนใจโจวไคอีกเลย คิดแค่ว่าเขาเป็พวกหนอนโง่ที่น่าสงสารเท่านั้น
“แต่จะว่าไปเ้าิอวี่ก็น่ากลัวเกินไปนะ เอาชนะจ้าวหานเหรินได้ ก็เท่ากับว่าเป็หนึ่งในสามพันอันดับแรกบนตารางนักรบของราชวงศ์ต้าิเลยนะ! คิดไม่ถึงเลยว่าเมืองอวินสุ่ยจะมีคนโหดๆ แบบนี้อยู่ด้วย” ผู้คนเริ่มพูดคุยกัน
“ดูจากปฏิกิริยาที่ว่องไวของเ้าหนูนี่ น่าจะเป็ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับกระชากิญญานะ พวกเ้าว่าเขาจะประลองต่อในรอบที่สิบแปดไหม นั่นเป็บันทึกที่เยี่ยซีทำไว้เมื่อปีที่นางอายุน้อยกว่าสิบหกเลยนะ!”
“ข้าว่า ... เป็ไปได้นะ” ผู้ชมเริ่มพูด
แต่การกระทำของิอวี่ก็เหมือนให้คำตอบกับทุกคนอย่างชัดเจน เขาเก็บกระบี่เฟิงโหว แล้วะโลงจากลานประลอง ไม่ได้คิดที่จะประลองต่อไปอีก
ล้อเล่นน่า ิอวี่ก็แค่คนที่มีอาณาจักรพลังขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่สี่ บวกกับการประลองกับอู๋ทงก่อนหน้านี้เขาก็สู้ไปแปดรอบเอง
แต่ิอวี่กลับสามารถเรียนรู้เข้าถึงพลังสังหารเก้าเท่าได้ เขาใช้ลมปราณของเขาไปจนหมดแล้ว ต่อให้ยังมีพลังเหลืออยู่ แต่ถ้าสู้ต่อไปอีกเขาต้องตายแน่
ผู้ชมด้านล่างลานประลองรู้สึกเสียดาย ดูท่า ถึงแม้เ้าหนูนี่จะสามารถไปถึงอาณาจักรพลังขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่หกระดับกระชากิญญา อายุก็สิบหกเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับลูกสาวเสนาบดีอย่างเยี่ยซีแล้ว ก็ยังคงห่างชั้นกันอยู่ ...
เพราะต่อให้เสือดาวจะมีความเร็วแค่ไหนก็วิ่งได้แค่บนบกเท่านั้น แต่พญาเหยี่ยวบนท้องฟ้าสามารถบินไปยังโลกกว้างได้ ซึ่งทั้งสองสิ่งนั้นเทียบกันไม่ได้เลย
แต่ว่าเหล่าผู้ชมก็ยังเดินหลีกทางให้กับิอวี่โดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าอย่างไร ิอวี่ก็เป็ผู้ชนะที่พวกเขานับถืออยู่ดี
ิอวี่ปลื้มใจมาก เพราะการต่อสู้ทั้งแปดรอบทำให้เงินรางวัลเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้เขาได้เงินรางวัลไปทั้งหมดสิบล้านเก้าแสนเหรียญหยกดำ เมื่อบวกกับเงินที่ได้มาจากสมาคมใต้หล้าอีกสองล้านเก้าแสนเหรียญหยกดำ ก็เป็เงินสิบสามล้านแปดแสนหยกดำ!
นั่นก็หมายความว่า หลังจากซื้อหลิงจือโลหิตแดงแล้ว ิอวี่ยังเหลือเงินเอาไว้ใช้อีกก้อนใหญ่ สามารถซื้อยากับของที่ไว้ใช้ฝึกฝนได้อีก
พอคิดได้แบบนี้ ิอวี่ก็ออกจากเมืองใต้ดินหวังเฉิงไปอย่างรวดเร็ว เขาเตรียมที่จะไปซื้อหลิงจือโลหิตแดงในทันที
......
พอเห็นิอวี่กลับไปแล้ว ด้านหน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องอันโอ่อ่าที่อยู่บนชั้นสามของเมืองใต้ดินหวังเฉิง ชายแก่คนหนึ่งสีหน้าเคร่งเครียดหันหลังกลับมา แล้วเดินไปยืนอยู่ข้างหญิงสวมชุดสีแดงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้คนหนึ่ง
หญิงคนนี้สวมชุดคลุมสีดำปกปิด่บน มองเห็นได้แค่่สะโพกลงไปถึงขาอันเรียวขาว ส่วนสัดอันเว้าโค้งของเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบก็ถูกปกปิดไว้ด้วยกระโปรงสีแดงสั้น
ชายแก่คนนั้นก้มตัวลงเล็กน้อยแล้วก้มหน้าลง เห็นแค่ด้านหลังรองเท้าสีขาวของนางเท่านั้น โดยที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา
ไม่มีใครกล้ามองไปที่ผู้หญิงคนนั้นตรงๆ เลย เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนต้านทานความเย้ายวนดังยาพิษของนางได้เลยสักคน
นางสามารถทำให้ผู้ชายทุกคนคลั่ง แต่หากใคร้าล่วงเกินนาง ก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างเ็ปอย่างแน่นอน!
ชายแก่เช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาจากหน้าผาก เขาก้มหน้าลงแล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า “นายหญิงขอรับ จะให้ข้าน้อยส่งคนไปชิงเงินกลับมาไหมขอรับ เพราะเ้าหนูนี่ ...”
“ไม่ต้อง ให้เขาทำงานให้กับข้า ถึงจะแสดงศักยภาพสูงสุดของเขาออกมาได้” ผู้หญิงคนนั้นพูดแทรกชายแก่ขึ้นมา เสียงของนางดูใสเป็ธรรมชาติ แถมยังมีความยั่วยวนลึกลงไปถึงกระดูกแฝงอยู่ด้วย
ชายแก่ถึงกับสะดุ้งแล้วพูดว่า “นายหญิงหมายความว่า ... หากส่งคนไปชิงเงินสิบล้านกลับมาเราก็จะได้แค่สิบล้าน แต่หากให้เขากลายมาเป็คนของเมืองใต้ดินหวังเฉิงของเรา ทำสัญญาตลอดชีพ เขาก็จะทำเงินให้กับนายหญิงได้อีกร้อยเท่าพันเท่าไปตลอดชีวิต! ท่านก็จะนั่งสุขสบาย ถึงเวลานั้น เงินที่เขาพยายามหามาเืตาแทบกระเด็นเจ็ดส่วนก็ต้องเป็ของท่านอยู่ดี วิธีนี้ยอดเยี่ยมมากเลยขอรับ!”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มหวาน “คนจากเมืองเล็กๆ ไม่มีทางต้านทานพลังอำนาจเงินได้หรอก ผู้ดูแลซ่ง เ้ารู้ใช่ไหมว่าต้องทำอย่างไร”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!” ชายแก่ที่ถูกเรียกว่าผู้ดูแลซ่งโค้งคำนับ จากนั้นก็ถอยหลังหายไปกับความมืด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้