เมื่อพาหลงอวี้มาถึงที่พักของฉือเสียวเสว่แล้ว ผู้ฝึกยุทธ์ที่นำทางมาผู้นั้นได้ขอตัวลา
“สหายฉือ เ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะมา?”
หลงอวี้เอ่ยถาม
“สหายหลงอวี้ ข้ารู้ว่าเ้ามาจากลัทธิสยบฟ้า แล้วยังรู้จักกับหลิงหานแห่งูเาตระกูลหลิงด้วย ข้าเป็สหายของเขาเช่นกัน”
ฉือเสียวเสว่ลุกขึ้นยืนแล้วแย้มยิ้มอย่างจริงใจ
“ผู้ฝึกยุทธ์พเนจรในยุทธ์จักรอย่างพวกเรานั้นหูตาค่อนข้างไวกันอยู่แล้ว อีกทั้งปราณหยินทีู่เาตระกูลหลิงตอนนี้ก็สลายไปหมดแล้วด้วย เกรงว่าเื่นี้คงจะมีความเกี่ยวข้องกับเ้าด้วยไม่มากก็น้อยสินะ”
“สหายฉือร้ายกาจ”
หลงอวี้หรี่ตาลง
“สหายหลงไม่ต้องกังวลไป ข้าฉือเสียวเสว่ผู้นี้ไม่ได้คิดร้ายอะไรกับเ้าหรอก”
ฉือเสียวเสว่โบกมือ
“ข้ารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเ้ากับขุนพลน้อยหลงจี๋ไม่ค่อยดีสักเท่าไร แต่พวกเราผู้ฝึกยุทธ์พเนจรนั้นก็ได้แต่ต้องฉวยโอกาสนี้ช่วยเหลือมันเอาไว้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นพวกเราไม่มีทางได้ทรัพยากรการฝึกฝนอะไรเลยเป็แน่ เื่นี้ข้าหวังว่าสหายหลงอวี้จะเข้าใจ”
“เื่นี้ข้าไม่ใส่ใจหรอก”
หลงอวี้ส่ายหน้า ไม่ได้สนใจอะไร
“ว่าแต่สหายฉือเ้าคิดจะทำอย่างไรกับูเาตระกูลหลิงหลังจากนี้หรือ?”
“ไม่ได้คิดอะไร”
ฉือเสียวเสว่หัวเราะ
“ข้าคนนี้ไม่ชอบปักหลักอยู่ที่เดิม ูเาตระกูลหลิงนั่นข้าคงจะมอบให้ผู้อื่นแทนล่ะมั้ง”
“อย่างนี้นี่เอง”
หลงอวี้มองออกว่าฉือเสียวเสว่ผู้นี้คงจะพเนจรไปทั่วจนเคยชิน หากให้เขาอยู่ที่เดิมนานๆ อาจจะทำให้เขาเบื่อตาย
“สหายน้อยหลงอวี้เ้าวางใจเถอะ หลิงหานสหายเ้าต้องไม่เป็อะไรแน่”
ฉือเสียวเสว่พูดไปพลาง สีหน้าเริ่มตึงเครียด
“แต่โอสถทองคำัทะยานที่สหายน้อยเ้าได้รับไป ข้าเกรงว่ามันจะมีปัญหา!”
คำพูดนี้ทำให้หลงอวี้สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ฉือเสียวเสว่เองก็มองออกว่าโอสถทองคำัทะยานมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล!
“สหายฉื่อ พอจะอธิบายได้ไหม?”
หลงอวี้เอ่ยถาม
“ข้าก็ไม่รู้รายละเอียดเช่นกัน แต่ว่า...”
ฉือเสียวเสว่หรี่ตาลง
“ข้าได้ยินมาว่า จั่วหวังเหย่ฉู่เฉาเซิงนั้นเชี่ยวชาญเื่การควบคุมใจคนมากที่สุด บางทีในโอสถทองคำัทะยานนี้อาจจะมีความลับที่บอกใครไม่ได้อยู่ก็เป็ได้ แต่รายละเอียดข้าเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ แต่สหายน้อยหลงอวี้ เ้าต้องระวังตัวให้ดี อย่าไปเสียท่าให้มันเข้าล่ะ”
“ขอบพระคุณสหายฉือมาก ข้าจะระวัง”
หลงอวี้พยักหน้ารับ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พลังฟ้าดินที่บรรจุอยู่ภายในโอสถทองคำัทะยานนั้นเข้มข้นสุดขีด มันมีความสำคัญกับหลงอวี้อย่างสุดแสน
หากกินมันเข้าไป หลงอวี้จะยกระดับขึ้นสู่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สองได้อย่างแน่นอน!
เมื่อเป็เช่นนี้แล้ว พลังพื้นฐานของเขาก็จะเพิ่มสูงขึ้นถึงหนึ่งเท่า เมื่อใช้ฝ่ามือตื่นรู้สู่สังสารวัฏด้วยแล้ว เขาจะต่อกรกับยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นสี่ได้ครู่หนึ่งเลยทีเดียว!
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับิญญาแท้ขั้นที่สามทั่วไปล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลงอวี้อีกต่อไป!
ส่วนเื่ของปัญหาในโอสถทองคำัทะยานนั้น หลงอวี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่เขานั้นแตกต่างจากคนทั่วไป ที่หน้าอกของเขามีสัญลักษณ์ัปรภพอยู่
เขาใช้สัญลักษณ์ัปรภพในการดูดกลืนพลังฟ้าดินที่อยู่ในโอสถทองคำัทะยานได้ เมื่อเป็เช่นนั้น เขาไม่จำเป็ต้องกินโอสถเข้าไปเองก็นำลมปราณในโอสถมาฝึกฝนได้
แค่ดูดกลืนพลังอย่างเดียวคงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกมั้ง
หลังจากพูดคุยกับฉือเสียวเสว่เสร็จแล้ว หลงอวี้ก็ขอตัวลากลับไปยังกระท่อมไม้กลางหิมะที่เขาใช้พักผ่อน่สามวันที่ผ่านมา เตรียมเริ่มดูดกลืนพลังในโอสถทองคำ
ภายในเมืองถังกวนนั้น นอกจากพวกที่มีตำแหน่งแม่ทัพแล้ว ที่พักของทหารทั่วไปล้วนเป็กระท่อมไม้ที่ธรรมดาเรียบง่ายเช่นนี้ แต่มันก็ไม่ได้เป็ปัญหาอะไรสำหรับหลงอวี้อยู่แล้ว
‘โอสถทองคำัทะยาน โอสถระดับิญญาชั้นยอด ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าจั่วหวังเหย่ฉู่เฉาเซิงมันคิดจะทำอะไรกับข้ากันแน่!’
หลงอวี้ตาเป็ประกาย เขาที่นั่งอยู่ภายในกระท่อมไม้เพียงคนเดียวก็ได้หยิบโอสถทองคำออกมา
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเื่ไม่คาดฝัน เขาได้ใช้พลังของสัญลักษณ์ัปรภพในการสกัดกั้นไม่ให้โอสถทองคำแผ่ไอพลังฟ้าดินออกสู่ภายนอก ผู้อื่นจะได้ไม่รู้ว่าเขากำลังดูดกลืนพลังในโอสถทองคำอยู่และลงมือลอบทำร้ายเขา
เพียงไม่นานเขาก็ได้ใช้ลมปราณกระตุ้นสัญลักษณ์ัปรภพให้ตื่นขึ้น แล้วให้สัญลักษณ์ัปรภพดูดกลืนพลังฟ้าดินที่อยู่ภายในโอสถทองคำที่ถืออยู่
พลังฟ้าดินที่บริสุทธิ์สุดขีดนั้นก็ได้ถูกสัญลักษณ์ัปรภพค่อยๆ ดูดกลืนเข้าไปและกักเก็บไว้!
‘โอสถแก่นหิมะที่ฉือเสียวเสว่ได้รับเป็รางวัล เป็โอสถระดับิญญาขั้นสูง แต่โอสถนั่นผู้เฒ่าขาวเคยมอบให้ข้าแล้ว หากกินมันอีกครั้ง ประสิทธิภาพจะลดลงจากครั้งแรกไปจนเหลือเพียงครึ่งเดียว’
หลงอวี้ครุ่นคิดในใจ หากไม่เป็เช่นนั้น เขาก็อยากจะเอายุทธภัณฑ์ระดับิญญาขั้นสูงหนึ่งชิ้นไปแลกกับโอสถแก่นหิมะของฉือเสียวเสว่
ตอนที่เขาสังหารหั่วฝู่แห่งตำหนักซ่อนอัคคีไปก่อนหน้านี้ เขาได้เก็บยันต์หยกะเิอัคคีติดมือมาจากอีกฝ่ายด้วย
ยุทธภัณฑ์ระดับิญญาขั้นสูงชิ้นนี้มีมูลค่าสูงไม่เบา สามารถนำไปแลกกับโอสถระดับิญญาขั้นสูงได้หนึ่งเม็ดเลยทีเดียว!
หลงอวี้ที่ตอนนี้้ายกระดับพลังให้เพิ่มสูงขึ้น สิ่งที่เขาขาดแคลนมากที่สุดคือโอสถหรือเน่ยตานของสัตว์อสูร ส่วนเื่คอขวดของการฝึกฝนนั้น จนบัดนี้เขาก็ยังไม่เคยเจอเลยสักครั้ง
แต่ยันต์หยกะเิอัคคีจะมีประโยชน์มากที่สุดกับผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกวิทยายุทธ์ประเภทควบคุมไฟ ฉือเสียวเสว่คงไม่น่าเอาโอสถแก่นหิมะมาแลกเหมือนกัน
นี่ก็เป็หนึ่งในสาเหตุที่หลงอวี้ไม่ได้ขอแลกเปลี่ยนกับอีกฝ่าย
เมื่อสัญลักษณ์ัปรภพดูดกลืนพลังฟ้าดินในโอสถทองคำไปได้ระดับหนึ่งแล้ว หลงอวี้ก็เริ่มนำพลังฟ้าดินเ่าั้มาฝึกฝน เตรียมจะทะลวงขีดจำกัด ยกระดับให้สูงขึ้น
เมื่อรวมกับโอสถแก่นหิมะที่ได้จากผู้เฒ่าขาวั้แ่ก่อนหน้านี้ การทะลวงขีดจำกัดขึ้นสู่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สองของหลงอวี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้ว
พลังฟ้าดินอันเข้มข้นถูกสัญลักษณ์ัดูดกลืน หลังจากนั้นก็ได้เข้าไปในร่างกายของหลงอวี้และถูกตันเถียนแปรเปลี่ยนให้กลายเป็ลมปราณของตัวเอง
เมื่อลมปราณในตัวของหลงอวี้เพิ่มมากขึ้น ไม่นานก็หลั่งไหลไปทั่วทั้งตันเถียนและเส้นลมปราณในตัว
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มอัดลมปราณเข้าไปในเทียนม่ายเพื่อหล่อหลอมให้เทียนม่ายหนาและแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ทำให้เทียนม่ายเข้ากันกับฟ้าดินได้มากขึ้นกว่าเดิม
เขาใช้ลมปราณห่อหุ้มเทียนม่ายไว้อย่างแ่า ััได้ว่าตัวเขาเชื่อมต่อกับฟ้าดินผืนนี้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ
เส้นทางของผู้ฝึกยุทธ์ในแผ่นดินเทียนอวี้ เหมือนจะเป็การใช้พลังฟ้าดินมาหล่อหลอมร่างกายตัวเองจนสุดท้ายไปถึงขั้นที่หยิบยืมพลังของฟ้าดินมาใช้งานได้ หรือถึงขั้นก้าวเข้าสู่ขอบเขตวิถียุทธ์ในตำนาน ระดับคนผสานฟ้า ฟ้าคนเป็หนึ่งเดียว
หลงอวี้เปิดเทียนม่ายออกอย่างสมบูรณ์ สร้างพื้นฐานสำหรับงานฝึกฝนที่แท้จริงไว้พร้อมแล้ว!
เมื่อหลงอวี้ดูดกลืนพลังฟ้าดินจากโอสถแก่นหิมะที่กักเก็บอยู่ในสัญลักษณ์ัปรภพจนหมดแล้ว เทียนม่ายของเขาก็ถูกลมปราณหล่อหลอมจนหนาและแข็งแรงทนทานกว่าเดิมไม่น้อย
ต่อจากนั้นเขาก็เริ่มดูดกลืนพลังฟ้าดินของโอสถทองคำัทะยาน เริ่มบ่มเพาะเงาิญญาแท้ที่อยู่ภายในตันเถียน
ใน่ระดับิญญาแท้สามขั้นแรก การจะยกระดับขึ้นได้จำเป็ต้องทำสองอย่างคือ การหล่อหลอมเทียนม่ายและบ่มเพาะเงาิญญาแท้ ทั้งสองอย่างนี้ล้วนจำเป็ต้องใช้พลังฟ้าดินในปริมาณมหาศาลทั้งสิ้น
หากไม่ได้โอสถหรือเน่ยตานของสัตว์อสูรมาช่วย ด้วยพร์ของคนทั่วไปแล้วเกรงว่าขั้นตอนนี้คงต้องใช้เวลานานสามถึงห้าปีเลยทีเดียว
อีกทั้งคนทั่วไปที่อยู่ในระดับิญญาแท้นั้น การจะทะลวงขีดจำกัดในแต่ละขั้นล้วนต้องเผชิญหน้ากับ่คอขวดที่ยากจะผ่านไปได้กันทั้งสิ้น
‘ภายในตันเถียนของข้ามีทั้งิญญาแท้สุริยะและิญญาแท้ัปรภพ ข้าต้องบ่มเพาะิญญาแท้ทั้งสองตนก่อน ถึงจะสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สองได้’
หลงอวี้ครุ่นคิดในใจ
เมื่อเป็เช่นนี้แล้ว การที่เขาจะทะลวงขีดจำกัดขึ้นไปสู่ขั้นต่อไปได้จึงจำเป็ต้องใช้พลังฟ้าดินมากกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปหลายเท่า!
แค่ิญญาแท้ัปรภพอันทรงพลังที่ไม่รู้ว่าเป็ิญญาแท้ระดับอะไรเพียงอย่างเดียวก็จำเป็ต้องใช้พลังฟ้าดินจำนวนมหาศาลในการหล่อหลอมให้เสร็จสิ้นแล้ว
หากไม่ใช่โอสถทองคำัทะยานล่ะก็ หลงอวี้ไม่มีทางทะลวงขีดจำกัดขึ้นสู่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สองได้เร็วขนาดนี้แน่
“ิญญาแท้สุริยะ จงแข็งแกร่งขึ้น!”
หลงอวี้ดูดกลืนพลังฟ้าดินในโอสถทองคำัทะยานมาบ่มเพาะิญญาแท้สุริยะอย่างระมัดระวัง ขั้นตอนนี้จำเป็ต้องใช้สมาธิเป็อย่างมาก หากผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยอาจจะทำให้การยกระดับครั้งนี้ล้มเหลวได้
หากการยกระดับครั้งแรกล้มเหลว นอกจากจะเป็การสิ้นเปลืองพลังฟ้าดินอย่างเปล่าประโยชน์แล้ว สิ่งสำคัญคือในการยกระดับครั้งต่อไปจะต้องใช้พลังฟ้าดินมากขึ้นกว่าเดิมและทำได้ยากมากขึ้นกว่าเดิมด้วย!
หลงอวี้ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ ในการดูดกลืนพลังฟ้าดินจากโอสถเพื่อทำการทะลวงขีดจำกัดยกระดับ
ซึ่งใน่เวลานี้ไม่มีใครมารบกวนเขาเลย
สาเหตุที่เป็เช่นนี้นั้น ตอนแรกหลงอวี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ตัวเขายังรู้สึกสงสัยอยู่เลยว่าหลงจี๋ที่อยากเล่นงานให้เขาตายขนาดนั้น ทำไมถึงไม่ฉวยโอกาสที่ดีขนาดนี้ไว้?
แต่หลังจากที่สัญลักษณ์ัปรภพดูดกลืนพลังฟ้าดินจากโอสถทองคำัทะยานจนหมดแล้ว หลงอวี้ก็เข้าใจทันที
ภายในโอสถทองคำเม็ดนี้มันมีกับดักซ่อนอยู่จริงๆ ด้วย!
“เศษที่ยังเหลืออยู่พวกนี้ ดูท่าจะเป็ส่วนผสมที่ฉู่เฉาเซิงจงใจใส่เพิ่มเข้าไปแน่ๆ ข้าดูดกลืนพลังฟ้าดินเข้าไปหมดแล้ว ย่อมต้องยังเหลือเศษซากที่ไม่มีพลังฟ้าดินอยู่แล้ว”
หลงอวี้มองดูเศษซากของโอสถทองคำัทะยานในมือพร้อมกับเผยรอยยิ้มเ็า
รูปร่างของเศษซากเหล่านี้ เขาเคยเห็นในห้องสมุดของตระกูลเฟิงมาก่อน มันเป็สิ่งที่ทำขึ้นมาจากสมุนไพรประหลาดชนิดหนึ่ง มีชื่อว่า “หญ้าคุมใจ”!
ฤทธิ์ยาของหญ้าคุมใจนั้นมีผลเหมือนกับชื่อของมัน นั่นก็คือสามารถควบคุมจิตใจของผู้ที่กินมันเข้าไปได้
หากเป็คนทั่วไปล่ะก็ เมื่อได้รับโอสถทองคำัทะยานมาเป็รางวัลแล้ว จะต้องรีบกินเข้าไปด้วยความปีติยินดีอย่างเปี่ยมล้นแน่นอน ซึ่งหลังจากนั้น ผู้ที่กินมันเข้าไปก็จะกลายเป็หุ่นเชิดที่ไร้ซึ่งความคิดของจั่วหวังเหย่ ฉู่เฉาเซิง!
“ที่แท้ก็วางแผนไว้แบบนี้นี่เอง น่าเสียดายที่เ้าคงคาดไม่ถึงแน่ว่าข้ามีสัญลักษณ์ัปรภพอยู่”
หลงอวี้หัวเราะอย่างเ็า
เขาไม่คิดเลยว่าตัวตนของเขาที่เพิ่งจะถูกเปิดเผยออกไปได้ไม่นาน จะทำให้จั่วหวังเหย่ฉู่เฉาเซิงคิดจะลงมือกับเขาแล้ว
หากครั้งนี้มันทำสำเร็จล่ะก็ อย่างนั้นฉู่เฉาเซิงคงได้ใจแน่ เพราะบุตรชายของยอดขุนพลหลงจ้ายเทียนในอดีตได้กลายเป็สุนัขรับใช้ที่เชื่อฟังคำสั่งของมัน!
แต่น่าเสียดายที่การลงมือครั้งแรกของฉู่เฉาเซิงนั้นล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงแล้ว!
หลงอวี้โยนเศษของหญ้าคุมใจทิ้งไปทันทีอย่างไม่ลังเล ต่อจากนั้นก็เริ่มขั้นตอนสุดท้ายของการทะลวงขีดจำกัด
พลังฟ้าดินทั้งหมดในโอสถทองคำัทะยานมันได้ถูกหลงอวี้ดูดกลืนเข้าไปทั้งหมดแล้ว
พลังฟ้าดินของโอสถทองคำสามส่วนนั้นได้ถูกหลงอวี้นำมาบ่มเพาะิญญาแท้สุริยะ ทำให้มีความแข็งแกร่งระดับิญญาแท้ขั้นที่สอง
ส่วนพลังฟ้าดินที่เหลืออีกเจ็ดส่วนนั้นได้ถูกนำมาบ่มเพาะิญญาแท้ัปรภพทั้งหมด!
เห็นได้ชัดเลยว่า เมื่อเข้าสู่ขอบเขตวิถียุทธ์ระดับิญญาแท้แล้ว การยกระดับของหลงอวี้ก็จำเป็ต้องใช้พลังฟ้าดินมากกว่าผู้ฝึกยุทธ์ทั่วไปถึงสองสามเท่า!
“ฉู่เฉาเซิง ข้าต้องขอบใจโอสถที่เ้าให้มาจริงๆ”
หลงอวี้หัวเราะเ็า พลังฟ้าดินที่กักเก็บไว้ภายในตัวเขาทั้งหมดได้ห่อหุ้มิญญาแท้ัปรภพไว้ ทำการบ่มเพาะให้มันแข็งแกร่งมากขึ้น
พลังของสุริยะสยบฟ้าที่ผ่านการบ่มเพาะมาแล้ว สามารถปล่อยแรงกดทับสยบฟ้าได้ทรงพลังมากขึ้นกว่าก่อนหน้านี้หนึ่งเท่าเป็อย่างน้อย
ิญญาแท้ัปรภพตอนนี้ได้ถูกหลงอวี้บ่มเพาะจนแข็งแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน หากปล่อยมันออกมาล่ะก็ แม้แต่ผู้ที่มีวิถียุทธ์ระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่ก็ยังถูกข่มขวัญจนหมดสติได้อย่างสมบูรณ์!
แน่นอนว่าหากไม่จำเป็จริงๆ หลงอวี้จะไม่มีทางปล่อยมันออกมาเด็ดขาด เพราะว่าตัวตนของมันนั้นชั่วร้ายเกินไป
และหลังจากผ่านไปหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนแล้ว ในที่สุดหลงอวี้ก็ทะลวงขีดจำกัดเสร็จสมบูรณ์
ขอบเขตวิถียุทธ์ของเขาตอนนี้ ก้าวสู่ระดับิญญาแท้ขั้นที่สองแล้ว!
