ในบรรดาวิทยายุทธ์ขั้นพิเศษทั้งเก้าวิชาของลัทธิสยบฟ้า มีสองวิชาเป็ท่าร่าง ส่วนที่เหลือล้วนเป็วิชาสายโจมตี สายป้องกัน หรือเป็ทั้งโจมตีและป้องกันในหนึ่งเดียวเช่นวิชาคลื่น์ทะลวงและปราณขาวไพศาล
“วิชาท่าร่างขั้นพิเศษ นอกจากก้าวประชิดขอบฟ้า ก็ยังมีอีกวิชาที่ชื่อิญญาเคลื่อน ดูแล้วน่าจะเหมาะสมกับข้ามากกว่า”
หลงอวี้ตรวจสอบเนื้อหาวิชาท่าร่างขั้นพิเศษทั้งสองวิชา พลางไตร่ตรองในใจ
วิทยายุทธ์ขั้นพิเศษ ก้าวประชิดขอบฟ้า หากฝึกฝนสำเร็จถึงขั้นสูงจะสามารถย่นระยะทางลงได้ ไม่เพียงแต่เคลื่อนย้ายไปปรากฏตัวตรงจุดไหนก็ได้ในระยะสั้นๆ เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในการวิ่งหนีการไล่ล่าระยะไกลด้วยเช่นกัน
และหากฝึกสำเร็จถึงขั้นสูงสุด ผลลัพธ์จะยิ่งทรงพลังมากขึ้น สามารถเคลื่อนที่ได้ไกลหนึ่งร้อยจ้างในเวลาไม่กี่อึดใจ แทบจะไม่มีใครสามารถไล่ตามได้ทัน ถ้าฝึกสำเร็จขั้นสมบูรณ์จะสามารถสร้างกำแพงขอบฟ้าขึ้นมาใช้ป้องกันตัวได้
ความสามารถในการป้องกันของกำแพงขอบฟ้าไม่เหมือนกับพวกวิชาศิลาผู้พิทักษ์หรือม่านเหล็กพิชิตมาร มันคือการเปลี่ยนระยะจากใกล้สุดแสนเป็ไกลสุดขอบฟ้า ทำให้ศัตรูแตะไม่ถึงตัว ไม่อาจโจมตีได้!
โดยทั่วไปลูกศิษย์ระดับพิเศษของลัทธิสยบฟ้า หากคิดจะฝึกฝนวิชาท่าร่างขั้นพิเศษ ก็จะเลือกฝึกวิชาก้าวประชิดขอบฟ้ากันอย่างแน่นอน
เพราะว่า วิชาท่าร่างขั้นพิเศษอีกวิชาหนึ่งอย่างิญญาเคลื่อนนั้น ความสามารถออกจะห่วยไปสักหน่อย
หากฝึกวิชาิญญาเคลื่อนสำเร็จถึงขั้นสูงได้ ก็จะสามารถเพิ่มระดับความเร็วให้กับตัวเองได้มหาศาล สามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็ิญญาได้ด้วย! เมื่อแปลงเป็ิญญาแล้ว ก็มีแค่ลมปราณเท่านั้นที่สามารถทำร้ายผู้ใช้ได้ อาวุธยุทโธปกรณ์ทั่วไปจะพุ่งผ่านิญญาไปทันที ไม่สามารถทำอะไรได้!
“สาเหตุที่บอกว่าวิชานี้ห่วยแตกก็เพราะ ผู้ฝึกยุทธ์ทุกคนล้วนใช้ลมปราณในการโจมตีทั้งสิ้น ไม่มีใครพึ่งพาคมดาบคมหอกในการโจมตีแล้ว”
หลงอวี้คิดในใจเช่นนั้น ทว่าดวงตาของเขากลับวาบประกาย
“เพียงแต่ว่า หากฝึกวิชาิญญาเคลื่อนถึงขั้นสมบูรณ์ จะสามารถทำให้ร่างกายตัวเองเปลี่ยนเป็ความว่างเปล่าได้ แม้จะไม่ใช่การหายตัว แต่ก็สามารถทะลุสิ่งกีดขวางทั่วไปอย่าง กำแพง ต้นไม้ หรือพื้นดินได้ ยิ่งฝึกสำเร็จมากก็ยิ่งคงสภาพการเปลี่ยนร่างเป็ความว่างเปล่าได้นานขึ้นเท่านั้น!”
จุดนี้ ทำให้หลงอวี้ถูกใจขึ้นมาทันทีเลย!
แม้ความสามารถในการเร่งความเร็วของวิชาท่าร่างขั้นพิเศษอย่างวิชาิญญาเคลื่อน จะเทียบกับก้าวประชิดขอบฟ้าไม่ได้ แต่ถ้าใช้ต่อสู้ซึ่งๆ หน้าแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก ล้วนสามารถไปปรากฏตรงจุดไหนก็ได้ในระยะสั้นๆ เอาเป็ว่ามันทรงพลังกว่าวายุก้าวพริบตาหลายเท่า
“หากสามารถเปลี่ยนร่างกายให้เป็ิญญา สามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางได้ จะต้องเป็ประโยชน์ในวันหน้าแน่นอน”
หลงอวี้คิดในใจเช่นนั้น จากนั้นก็ตัดสินใจว่าจะฝึกวิชาท่าร่างิญญาเคลื่อน
แม้จะมีความสามารถของสัญลักษณ์ัปรภพช่วยเหลือ เขาก็ไม่กล้าฝึกวิชาขั้นพิเศษสองวิชาพร้อมกันอยู่ดี แบบนั้นจะสิ้นเปลืองเวลามากเกินไป ไม่มีความจำเป็ขนาดนั้น
หลงอวี้เชื่อว่า หลังจากที่เขายกระดับพลังแล้ว จะต้องได้พบกับวิทยายุทธ์ที่ดีกว่านี้อีกไม่น้อย ดังนั้นตอนนี้จึงไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น
“ิญญาเคลื่อน จำเป็ต้องทำให้ลมปราณแทรกซึมทุกส่วนของร่างกายั้แ่หัวจรดเท้า รวมไปถึงอวัยวะภายในทั้งหมด ระดับความยากในการฝึกสูงสุดขีด! นี่เป็อีกสาเหตุที่ทำให้ลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้าไม่้าฝึกวิชานี้”
การบังคับให้ลมปราณแทรกซึมไปทั้งตัว ทำให้อวัยวะภายในกลายเป็ความว่างเปล่าไปด้วยนั้น ไม่ต้องพูดถึงเื่ความเ็ปทรมานที่จะเกิดขึ้น ปัญหาคือร่างกายจะสามารถทนไหวหรือเปล่า เพราะผู้ฝึกวรยุทธ์ทั่วไปไม่ได้ฝึกฝนวิชาฝึกกายกันสักเท่าไร อวัยวะภายในจึงค่อนข้างจะเปราะบางเป็อย่างมาก
“ต่อให้เป็ตัวข้าในตอนนี้ ยังยากที่จะทนกับการใช้ลมปราณเปลี่ยนอวัยวะให้ว่างเปล่าได้ ต้องฝึกวิชากายาพิชิตมารให้ถึงขั้นสมบูรณ์ก่อน”
หลงอวี้คิดในใจ ดูท่าหลังจากนี้คงไม่มีเวลาว่างไปสักพักหนึ่ง
วิชากายาพิชิตมาร ขั้นต้นคือการหล่อหลอมชีพจร ขั้นกลางคือการหล่อหลอมเอ็นกระดูก ขั้นสูงคือการหล่อหลอมเนื้อหนัง จากนั้นหากคิดจะบรรลุถึงขั้นสูงสุดก็ต้องหล่อหลอมตันเถียน และการบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์จำเป็ต้องใช้ลมปราณหล่อหลอมอวัยวะภายใน!
เหนือขั้นสมบูรณ์ขึ้นไป หากสำเร็จถึงขั้นเหนือธรรมชาติจะสามารถใช้ลมปราณหล่อหลอมเส้นเืได้!
เส้นทางการฝึกวิทยายุทธ์นั้น เริ่มจากขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง ขั้นสูงสุด ขั้นสมบูรณ์ และหลังจากนั้นคือขั้นเหนือธรรมชาติ
วิทยายุทธ์ใดก็ตามที่ฝึกสำเร็จถึงขั้นเหนือธรรมชาติแล้ว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นะเืฟ้าะเืดิน เพียงแต่ว่า ไม่ใช่ทุกวิชาที่จะมีขอบเขตขั้นเหนือธรรมชาติอยู่
อย่างเช่นวิทยายุทธ์ขั้นกลางอย่างวายุก้าวพริบตาหรือท่าร่างะเืเวหานั้น ขอบเขตสูงสุดที่สามารถบรรลุได้คือขั้นสมบูรณ์
“หากคิดจะฝึกวิชาิญญาเคลื่อน ก็ต้องฝึกวิชากายาพิชิตมารให้สำเร็จถึงขั้นสมบูรณ์ก่อน ทำการหลอมตันเถียน จากนั้นค่อยหลอมอวัยวะภายใน ถึงจะทำให้ร่างกายทนรับการใช้ลมปราณเปลี่ยนร่างกายให้เป็ความว่างเปล่าได้”
หลงอวี้วางแผนการฝึกฝนอย่างรวดเร็ว หากคิดจะฝึกวิชาิญญาเคลื่อน สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเพิ่มความทนทานของอวัยวะภายในก่อน ดังนั้น เพียงฝึกวิชากายาพิชิตให้ถึงขั้นสมบูรณ์ได้ก็พอ
“เหลือเวลาอีกครึ่งเดือนก่อนจะถึงวันงานชุมนุมตระกูลเฟิง... ถ้าจะฝึกวิชากายาพิชิตมารถึงขั้นสมบูรณ์ ก็เกรงว่าจะไม่เหลือเวลาให้ฝึกวิชาิญญาเคลื่อน... เพียงแต่วิชากายาพิชิตมารที่บรรลุขั้นสมบูรณ์แล้ว ต้องไม่ธรรมดาแน่ น่าจะมากพอที่จะใช้จัดการไอ้พวกที่อยู่ในเมืองอวี้กวนได้”
พอคิดว่าเฟิงฉางเกอที่อยู่ในตระกูลเฟิงเมืองอวี้กวนอาจเจอปัญหาใหญ่ หลงอวี้ก็อดเป็ห่วงไม่ได้
“ข้าต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้!”
หลงอวี้ตาเป็ประกายเด็ดเดี่ยว เขาจดจำวิธีฝึกวิชาิญญาเคลื่อนทั้งหมดไว้ในหัวอย่างแม่นยำ เตรียมนำกลับไปฝึกฝนหลังจากนี้
“สหายหลง เป็อย่างไรบ้าง จำได้แล้วหรือยัง”
ตอนนั้นเอง เสียงพูดของหลิงหานก็ดังมาจากอีกทาง ก่อนที่เขาจะเดินมาหาหลงอวี้
พอเขาเห็นสายตาของหลงอวี้กำลังจดจ้องไปที่หน้าผาส่วนของวิชาิญญาเคลื่อน ก็ใทันที
“สหายหลง เ้าอยากฝึกวิชาก้าวประชิดขอบฟ้าไม่ใช่หรือ แล้วดูวิชาิญญาเคลื่อนทำไม?”
หากหลงอวี้คิดจะฝึกวิชาก้าวประชิดขอบฟ้าละก็ หลิงหานก็พอรับได้ เพราะถึงอย่างไรความสามารถในการป้องกันของวิชานี้หลังบรรลุถึงขั้นสูงสุดแล้วก็ทรงพลังมากเหมือนกัน
แต่หากหลงอวี้คิดจะฝึกวิชาิญญาเคลื่ละก็ ไม่ว่าอย่างไรหลิงหานก็ไม่มีทางเข้าใจได้!
วิชาิญญาเคลื่อนนั้น แม้จะเป็วิทยายุทธ์ขั้นพิเศษ ทว่ากลับไม่มีใครในลัทธิฝึกฝนเลย ถ้าพูดถึงเื่ความสามารถในการเร่งความเร็ว มันยังด้อยกว่าวิทยายุทธ์ขั้นสูงบางวิชาเสียอีก
ไม่ต้องพูดถึงความยากในการฝึกวิชานี้ เรียกได้ว่าเป็วิชาที่ฝึกยากที่สุดในบรรดาวิทยายุทธ์ขั้นพิเศษทั้งเก้าวิชาเลยทีเดียว
“ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว ข้ารู้สึกว่าวิชาิญญาเคลื่อนเหมาะสมกับข้ามากกว่า”
หลงอวี้ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
“สหายหลง นี่เ้า...”
หลิงหานเบิกตาโต ไม่อาจเข้าใจได้แม้แต่น้อย หลงอวี้คิดว่าวิชานี้เหมาะสมกับตัวเองมากกว่าได้อย่างไร? ประหลาดเกินไปแล้ว!
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ข้าจะกลับไปเริ่มฝึกวิชาต่อเลย แล้วท่านล่ะ?”
หลงอวี้กล่าวขึ้น
“ข้าเองก็จะกลับไปฝึกวิชาเช่นกัน ข้าจำวิธีฝึกวิชาปราณขาวไพศาลได้หมดแล้ว”
หลิงหานพูดไปพลาง มองหลงอวี้ราวกับกำลังดูตัวประหลาดไปพลาง
ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมหลงอวี้ถึงเลือกฝึกวิชาิญญาเคลื่อน เพราะในสายตาของเขา วิชาิญญาเคลื่อนเป็วิชาที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในบรรดาวิทยายุทธ์ขั้นพิเศษทั้งเก้าวิชา
เพียงแต่หลิงหานไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านี้ เขาเชื่อว่าหลงอวี้ไม่มีทางเอาเวลาฝึกฝนของตัวเองมาล้อเล่นแน่
ในเมื่อหลงอวี้เลือกฝึกวิชานี้ นั่นหมายความว่าหลงอวี้ต้องมีเหตุผลที่ดีพอ เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่รู้เหตุผลที่ว่าคืออะไรก็เท่านั้น!
หลังจากที่ทั้งสองคนออกมาจากหุบเขา ก็พากันแยกย้ายกลับไปยังที่พักของตัวเอง
เส้นทางแห่งวรยุทธ์นั้น ทุกวินาทีล้วนมีค่า ทุก่เวลาล้วนต้องเกิดการพัฒนา!
งานประลองเจ็ดสำนักกำลังจะจัดขึ้นในอีกครึ่งปีต่อจากนี้แล้ว ฟังดูเหมือนอีกนาน แต่ความจริงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น
เพื่อผู้าุโอวี้ที่ถูกทำร้ายจนหมดสติ เพื่อเหล่าลูกศิษย์ลัทธิสยบฟ้ามากมายที่ตกตายด้วยน้ำมือของอวี่เชียนหนิง หลงอวี้และหลิงหานต้องพยายามอย่างหนัก จะปล่อยให้เสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ไม่ได้สักวินาที
.......
ณ ยอดเขาของหุบเขาสยบฟ้า ภายในกระท่อมไม้ไผ่
หลงอวี้นั่งอยู่บนเตียงไผ่ ใช้ลมปราณหล่อหลอมตันเถียน อวัยวะภายใน ยกระดับการบรรลุวิชากายาพิชิตมารให้ถึงขั้นสูงสุดและขั้นสมบูรณ์
ผู้เฒ่าขาวและผู้เฒ่าดำต่างก็กลับมาที่ยอดเขาแห่งนี้ พวกเขานั่งเล่นหมากล้อมด้วยกันทั้งวัน แต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูสบายๆ ไร้ความกังวลเหมือนก่อน กลับมีความเครียดปกคลุมอยู่ด้วยชั้นหนึ่ง
เื่ที่เกิดขึ้นที่ลัทธิพันไหมนั้น ทำให้ในใจของเหล่าผู้าุโลัทธิสยบฟ้าทั้งหลายต่างหม่นหมอง
หากลัทธิสยบฟ้าพ่ายแพ้ให้กับลัทธิพันไหมในงานประลองเจ็ดสำนัก ก็ต้องมอบเคล็ดสยบฟ้าให้อีกฝ่าย มันจะสร้างผลกระทบต่อลัทธิอย่างรุนแรงจนอาจถึงขั้นสิ้นลัทธิทีเดียว!
แม้ใน่แรกอาจจะยังไม่เห็นผลอะไร แต่เมื่อลัทธิพันไหม หรือท่านผู้นั้นได้รับเคล็ดสยบฟ้าไป ก็จะดึงดูดเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์จำนวนมากให้เข้าร่วมกับลัทธิหรือขุมอำนาจนั้นได้
นานวันเข้า ลัทธิสยบฟ้าก็จะไม่มีสายเืใหม่เข้ามาอีก ในขณะที่ขุมอำนาจของท่านผู้นั้นจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เกรงว่าลัทธิสยบฟ้าก็คงต้องสิ้นชื่อไปเองอย่างไม่อาจเลี่ยงได้
ในฐานะที่เป็ผู้าุโของลัทธิสยบฟ้าแล้ว ผู้เฒ่าขาวและดำทั้งสองคนต้องเป็กังวลอยู่แล้ว!
ยังดีที่ประมุขไป๋อวิ๋นจงได้ออกคำสั่งให้ทุ่มทรัพยากรด้านการฝึกยกระดับพลังให้กับเหล่าลูกศิษย์ระดับพิเศษเพิ่มมากขึ้น รีบพัฒนาขีดความสามารถของพวกเด็กๆ ทั้งหลายให้ได้มากที่สุดใน่เวลาครึ่งปีที่เหลืออยู่นี้ โดยเฉพาะลูกศิษย์ระดับพิเศษห้าอันดับแรก
ในงานประลองเจ็ดสำนักนั้น พวกเขาจะเป็ตัวละครหลัก!
ความอยู่รอดของลัทธิตกอยู่ในกำมือของพวกเขาแล้ว
เื่เหล่านี้ตกอยู่ในสายตาหลงอวี้ เพียงแต่สำหรับเขาแล้ว นอกจากพยายามฝึกฝนยกระดับพลังของตัวเอง ก็ไม่มีวิธีอื่นอีก
“หลังจากกินโอสถอวี้ซานเข้าไป พลังพื้นฐานของข้าที่แต่เดิมมีอยู่หนึ่งร้อยยี่สิบแปดแรงม้าพยศ ตอนนี้ได้เพิ่มเป็หนึ่งร้อยห้าสิบแรงม้าพยศ เป็ขีดจำกัดสูงสุดของขั้นแปดแล้ว หากคิดจะทะลวงขีดจำกัดขึ้นสู่ขั้นเก้า ตอนนี้ยังต้องใช้เวลาอีกนาน”
“แต่วิชากายาพิชิตมารกลับฝึกฝนได้ง่ายดาย เพียงแค่ ระหว่างการฝึกจะเ็ปหน่อยก็เท่านั้น...”
หลงอวี้กัดฟันคิดเช่นนั้น
ลมปราณภายในร่างกายแทบเดือดพล่าน กำลังหล่อหลอมตันเถียนของเขาอยู่ ซึ่งขั้นตอนนี้มีความสำคัญเป็อย่างมาก หากผิดพลาด มันอาจทำให้เกิดอาการลมปราณแตกซ่าน วรยุทธ์สูญสลายกลายเป็สวะไร้วรยุทธ์ไปทันที
สำหรับคนทั่วไป ความเ็ปจากการหล่อหลอมตันเถียนนั้นเทียบเท่ากับการปีนูเามีดดาบลงทะเลเพลิง!
แต่สำหรับหลงอวี้ ก็แค่เ็ปนิดหน่อยเท่านั้น
ภายใต้การหล่อหลอมลมปราณ ตันเถียนของหลงอวี้แข็งแกร่งและทนทานขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาใกล้จะบรรลุวิชากายาพิชิตมารถึงขั้นสูงสุด
ห้าวันผ่านไป ตันเถียนของหลงอวี้ที่ผ่านการหล่อหลอมมานับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดก็มาถึงจุดเปลี่ยน เริ่มตุบเต้นไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ทุกครั้งที่เต้น ก็จะเกิดการถ่ายเทลมปราณภายในตันเถียนไปยังชีพจรทั่วร่างกาย หมุนเวียนเหมือนกับโลหิต!
“การหล่อหลอมตันเถียน ไม่เพียงแต่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับตันเถียนเท่านั้น แต่ยังทำให้ลมปราณในร่างกายไหลเวียนเป็วัฏจักร เพิ่มความเร็วในการฟื้นฟูลมปราณขึ้นด้วย!”
หลงอวี้รู้สึกทึ่ง เขาไม่เคยคิดเลยว่าการหล่อหลอมตันเถียนจะให้ผลลัพธ์เช่นนี้
ถ้าอย่างนั้นหากตันเถียนแข็งแกร่งขึ้น ลมปราณภายในร่างกายก็จะเกิดการฟื้นฟูจนมีใช้ตลอด ไม่ต้องกลัวเื่ลมปราณหมดเลยน่ะสิ?
แน่นอนว่า ตันเถียนของหลงอวี้ในตอนนี้ยังห่างไกลจากระดับนั้นอีกมากโข แต่หลังจากหล่อหลอมเสร็จ ลมปราณภายในตัวเขาก็จะมีความเร็วในการฟื้นฟูเพิ่มสูงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ราวหนึ่งเท่าตัว
“หล่อหลอมตันเถียนเสร็จแล้ว วิชากายาพิชิตมารก็บรรลุถึงขั้นสูงสุดแล้วเหมือนกัน ตอนนี้ใช้กระบวนท่า ‘ฝ่ามือเหล็กไหลพิชิตมาร’ ได้แล้ว!”
หลงอวี้คิดในใจ
ฝ่ามือเหล็กไหลพิชิตมาร เป็กระบวนท่าโจมตีที่สามารถใช้ได้หลังจากฝึกวิชากายาพิชิตมารสำเร็จถึงขั้นสูงสุด เป็การอัดพลังเหล็กไหลพิชิตมารให้กลายเป็ฝ่ามือแล้วซัดออกไป อานุภาพไม่ธรรมดา!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้