ฉินเฟิงผิดหวังเล็กน้อยอารมณ์ของเขาจมดิ่งราวกับตกเหววัตถุขนาดใหญ่ลึกลับต่อหน้าเขาเริ่มเคลื่อนไหวทำให้ฉินเฟิงผงะด้วยความใ
ตัวมันใหญ่มากน่าสยดสยองเหลือคณานับและสายตาของมันก็ดุดันมันว่ายตรงมาทางฉินเฟิงอย่างรวดเร็วพร้อมกับกรงเล็บและเขี้ยว
เมื่อมันเคลื่อนไหวกระแสน้ำของทะเลก็เปลี่ยนพื้นที่ที่เขาว่ายน้ำอยู่เกิดคลื่นล้อมรอบตัว เป็คลื่นขนาดใหญ่โตไม่มีที่สิ้นสุดฉินเฟิงตัวแข็งจนลืมหายใจ
แต่เนื่องจากเขาอยู่ใต้น้ำจึงเป็ธรรมดาที่จะหายใจไม่ได้
เขาไม่ได้ใจนลืมหนีแต่เขาตะลึง
ขณะที่ระยะห่างระหว่างเขากับเ้าสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่นั้นค่อยๆลดลง ฉินเฟิงก็เห็นมันได้ชัดเจนว่ามันดูเหมือนอะไรมันเป็เต่าทะเลตัวใหญ่อย่างกับเรือยอชท์และหลังของเต่าทะเลก็เป็งูที่ตัวหนาอย่างกับคนแลบลิ้นสีแดงออกมา
ถ้าคนธรรมดาเจอกับสัตว์ประหลาดอย่างนี้กลางทะเลคงเป็ลมไปแน่นอนอย่างไรก็ตามฉินเฟิงรู้สึกตื้นตันไม่ใช่ว่านี่คือเต่าดำที่เขาเพิ่งปล่อยไว้ที่ตีนเขาโค้งงูหรอกเหรอ? ผ่านไปแค่ไม่กี่วันและไอ้เ้านี่มันก็โตถึงขนาดนี้แล้ว!ฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะแผ่เมตตาให้กับปลาเล็กปลาน้อยและกุ้งที่มันกินเข้าไป
“นายท่านเต่าดำยกระดับจากสัตว์เลี้ยงน่ารักขั้นต้นเป็สัตว์เลี้ยงปลุกพลังขั้นต้นแล้ว!”เสียงของเ้าหมูน้อยดังออกมา
ครั้งนี้ฉินเฟิงรู้สึกตัวและกำลังจะเรียกเต่าดำแต่เขาเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังอยู่ใต้น้ำเมื่อเขาเปิดปากพูดจึงกลืนน้ำทะเลไปคำใหญ่
“บุ๋งๆๆ”
เต่าดำมาอยู่ข้างฉินเฟิงขาทั้งสี่ของเต่าทะเลกระพืออย่างมีความสุขก่อให้เกิดน้ำวนเล็กๆขณะเดียวกันงูสามเหลี่ยมก็เลื้อยลำตัวที่หนาเท่าคนมาพันรอบฉินเฟิงและพาเขาขึ้นหลังของเต่าทะเลมันแลบลิ้นสีแดงและเริ่มเลียหน้าของฉินเฟิง
ฉินเฟิงรู้สึกขยะแขยงกับกลิ่นคาวปลาถ้าไม่ใช่ความจริงที่เขาอยู่ใต้น้ำและอ้าปากไม่ได้ฉินเฟิงคงไม่รู้ว่าจะอ้วกไปกี่รอบ
“บุ๋งๆๆ” ฉินเฟิงรำคาญ เขาจ้องงูสามเหลี่ยม เขาอ้าปากที่ทำได้แค่เสียงบุ๋งๆที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจว่ากำลังพูดอะไร
เ้างูสามเหลี่ยมพยักหน้าอย่างยินดีมันรีบไปที่ผิวทะเลปฏิกิริยาของเต่าดำช้ากว่านิดหน่อยมันแค่เข้าใจและใช้ขาขนาดใหญ่ว่ายอย่างเชื่องช้าขณะที่รู้สึกถึงงูสามเหลี่ยมที่กำลังดึงมันขึ้นจากน้ำ
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเต่าดำจะเชื่องช้าแต่ด้วยการว่ายแต่ละครั้งของขาทั้งสี่ขนาดใหญ่ กระแสน้ำขนาดมหึมาไหลผ่านไปการไหลของกระแสน้ำอันทรงพลังเริ่มทำให้เกิดน้ำวนใหญ่ขึ้นและหมุนเร็วขึ้นเหล่าปลาเล็กปลาน้อยและกุ้งติดอยู่ในน้ำวนแม้แต่ปลาตัวใหญ่ก็ไม่สามารถหลบหนีไปได้
ฉินเฟิงอึ้งเมื่อเห็นฉากนี้เขากำลังนั่งอยู่บนหลังของเต่าทะเลและมองดูน้ำวนที่เชี่ยวกรากอยู่รอบตัวเขานั่งอยู่ท่ามกลางความสงบในพื้นที่ตรงกลางนั้นน้ำทะเลเริ่มหายไปและฉินเฟิงก็สามารถอ้าปากหายใจได้อีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะอยู่ใต้ทะเลเขาก็รู้สึกเหมือนอยู่ริมฝั่ง ความรู้สึกแปลกๆนี้เหมือนกับตอนที่เขาอยู่ในอควาเรียม ทุกอย่างดูพิศวงและปลาที่ล้อมรอบตัวเขาก็มีรูปร่างต่างๆนานาเขารู้สึกว่าเต่าดำเป็เหมือนกับาาแห่งท้องทะเลที่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างไร้ขีดจำกัด...
หงับ!
เสียงดังนี้ทำให้ฉินเฟิงตื่นจากภวังค์
เขาที่อยู่ก้นทะเลและกำลังคิดเื่ชีวิตของาาอยู่ก็รู้สึกถึงความกดดันที่ป้องกันไม่ได้ เขามองดูอย่างหงุดหงิดและเห็นว่างูสามเหลี่ยมได้ยื่นหัวเข้าไปในน้ำวนมันอ้าปากขนาดใหญ่สีเืเพื่อกลืนอาหารรอบๆ
ดูเหมือนว่าที่เ้าสองตัวนี้คึกคักเพราะไม่ใช่ว่าอยากจะอวดฉินเฟิงแต่เพราะมันหิวและอยากหาอะไรกิน...
ใบหน้าของฉินเฟิงบึ้งลงขณะที่เงยหน้าขึ้นท่าทีของเขาเปลี่ยนไปทันทีและสายตาของเขาก็เบิกกว้าง...เขามองไปที่แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่างสวยงามท้องฟ้าสีครามและเมฆสีขาว เขารู้สึกเหมือนอยู่ต่างโลก
เขาจำได้ว่าเขายังอยู่ใต้น้ำอยู่เลยแต่ทำไมมันดูเหมือนอยู่บนฝั่งขณะที่กำลังมองขึ้นฟ้าล่ะ? เขารีบหันไปรอบๆ และตัวแข็งด้วยความใ
รอบๆตัวของเขาเป็น้ำวนขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีชั้นแยกต่างหากมากกว่าสิบเมตรรอบตัวคลื่นรอบๆ สูงห้าถึงหกเมตรฉินเฟิงนั่งอยู่ใจกลางคลื่นและรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางน้ำพุ
“เ้าเต่าดำ รีบไปทางนั้นเร็ว”
สายตาของฉินเฟิงเหลือบไปเห็นเรือของชายใส่หมวกฟางพวกเขาอยู่ที่ขอบของน้ำวนและโซเซไปมาราวกับจะพลิกคว่ำได้ตลอดเวลา
ทั้งสองที่ใส่หมวกฟางมองมาที่เต่าดำด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความใและความงุนงงโดยไม่รอให้พวกเขาได้ทันตั้งตัว เต่าทะเลก็ชะโงกหัวออกมาและคำราม
โฮก!
ครั้งนี้เต่าทะเลไม่ได้ดูง่วงอีกต่อไปมันโผล่หัวออกมาเมื่อมันอ้าปากมันดูน่าสยดสยองยิ่งกว่าปากสีเืขนาดใหญ่ของงูสามเหลี่ยมเสียอีกมันยกหัวด้วยความสูงส่งและคำรามเสียงสั่นะเืจนนำพาคลื่นต่างๆ มา
เต่าทะเลเป็ผู้คุมกฎของทะเลที่แท้จริงในทันทีสิ่งมีชีวิตทั่วทั้งมหาสมุทรถอยห่างจากความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า
เต่าทะเลและงูสามเหลี่ยมรวมร่างกันเป็เต่าดำซึ่งทั้งคู่มีความสามารถทั้งโจมตีและป้องกันพวกมันถูกสร้างจากสัตว์น้ำที่มีศักยภาพโดดเด่น ตอนนี้ทักษะลับ ‘สึนามิคำราม’ได้ถูกปลดปล่อยออกมาโดยเต่าทะเล
มันไม่ค่อยได้โกรธแต่เมื่อมันโกรธคลื่นจะพุ่งพรวดขึ้นสู่ท้องฟ้า
ภายใต้การโจมตีของคลื่นลูกใหม่นี้เรือของชายใส่หมวกฟางทั้งสองก็เหมือนกับใบไม้ที่ล่องลอยในลมกรรโชกมันโดนดูดเข้าสู่ใจกลางสึนามิ
ลำเรือมุ่งตรงไปยังเต่าทะเลงูสามเหลี่ยมอ้าปากกว้างและกัดไปที่ชายหมวกฟางทั้งสอง
ทั้งสองคนตั้งสติแต่สีหน้าของเขาเห็นได้ว่าไม่ยอมรับความจริง พวกเขาเป็จอมยุทธ์กำลังภายในขั้นหกซึ่งอาจมีแค่ไม่กี่คนในมณฑลยูนนานที่สามารถต่อกรกับพวกเขาได้
สองเฒ่าหยินหยางมีชื่อกระฉ่อนในยุทธจักรพวกเขาโเี้และไร้ความปรานี ใครจะรู้ว่ามีจอมยุทธ์กี่คนแล้วที่ตายด้วยเงื้อมมือของพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะพบกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าแต่พวกเขาก็มีประสบการณ์การต่อสู้มาหลายปีและมีเส้นสายพวกเขาจึงไม่เคยอับอายเช่นนี้
เมื่อทั้งสองเห็นงูสามเหลี่ยมซึ่งใหญ่พอๆกับตัวคนอ้าปากใหญ่สีเื พวกเขาไม่รู้จะสู้กลับอย่างไร
ตูมตูม!
เมื่อพวกเขาเห็นว่างูสามเหลี่ยมอยากจะกลืนทั้งคู่ในหนึ่งคำพวกเขาตัดสินใจสละเรือเพื่อหนีและะโลงสู่ทะเลลึก
ทันใดนั้นงูสามเหลี่ยมที่อ้าปากอยู่จู่ๆก็พ่นฟองน้ำกลมๆ สีดำไปที่ที่ชายทั้งสองโดดลงไป นี่เป็ทักษะต่อสู้ของงูสามเหลี่ยมฟองพิษ ฟองที่มีการสึกกร่อนรุนแรงและมีพิษร้ายแรงหากมันถูกิัของมนุษย์แม้แต่นิดเดียว ิัจะละลายหายไปทันที
“สัตว์ประหลาด ไอ้สัตว์ประหลาดนั่นมันมาจากไหนกัน?” ชายหมวกฟางทั้งสองคนไม่มีสีหน้าสงบเสงี่ยมอย่างเมื่อก่อนอีกต่อไปพวกเขามีสีหน้าหวาดกลัวและใตามลำดับ
แหมะ!
พิษสองหยดได้ร่วงลงไปที่ใบหน้าของหนึ่งในชายที่ใส่หมวกฟางผิวของเขาละลายทันที เผยกระดูกขาวโพลนที่อยู่ข้างใต้ขึ้นมา
แหมะ!
หยดพิษอีกหยดหล่นไปที่คอของอีกคนคอของเขาเริ่มละลาย และกลายเป็ตุ่มหนองสีดำมันเ็ปมากจนทั้งสองร้องโหยหวนออกมา
“รีบปล่อยแมงกายพิษเจ็ดสีเร็ว!”
เมื่อพวกเขาเห็นว่ามีพิษล้อมรอบอยู่ทุกหนแห่งหนึ่งในชายหมวกฟางจึงร้องะโขึ้นมา เขาเปิดชุดฉางเผ่าสีดำทันทีผีเสื้อกลางคืนขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือหลายร้อยตัวบินออกมา พวกมันมีสีดำและมีจุดสีรุ้งทั่วตัวของมัน
เมื่อพวกมันบินออกมาชายหมวกฟางก็ผิวปากที่เป็เสียงเอกลักษณ์ ผีเสื้อกลางคืนดูเหมือนจะเข้าใจเสียงผิวปากมันรวมตัวเป็กำแพงสีดำเข้าด้วยกันเพื่อปกป้องหลังของชายสองคนนั้น
แผละ!
พิษทุกหยดโดนตัวของผีเสื้อกลางคืนสีดำและเผามันด้วยการกัดกร่อนรุนแรงกำแพงผีเสื้อกลางคืนสูงห้าเมตรกลายเป็กำแพงเพลิงในอากาศทันทีปล่อยกลิ่นเหม็นรุนแรงออกมา ฉินเฟิงเกือบจะขย้อนของเสียหลายครั้ง
กำแพงไฟค่อยๆสลายไป กลิ่นเหม็นรุนแรงก็ถูกสายลมพัดพาไป ชายหมวกฟางทั้งสองหายไปจากผิวน้ำแล้ว
“เต่าดำ แกรู้หรือเปล่าว่าพวกมันไปไหน?” ฉินเฟิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
โฮกๆ!
เต่าดำคำรามสองครั้งปากของฉินเฟิงโค้งเล็กน้อยขณะที่รอให้เ้าหมูน้อยอธิบาย
“นายท่าน เต่าดำบอกว่าสองคนนั้นอาจจะอยู่ก้นทะเลแล้วแต่เต่าทะเลกับงูสามเหลี่ยมปล่อยทักษะออกมาแล้วพวกมันจำเป็ต้องใช้เวลาหลายวันเพื่อฟื้นพลังกลับคืนมาถ้านายท่านอยากจะแอบลงไปในทะเลเพื่อไล่ตามพวกมัน เราอาจจะไม่สามารถชนะมันได้”
ใบหน้าของฉินเฟิงหม่นหมองในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ที่จะตามไปฆ่าสองเฒ่าหยินหยาง
พวกเขาเป็จอมยุทธ์กำลังภายในขั้น6ซึ่งห่างชั้นกับความสามารถของฉินเฟิงในปัจจุบันนี้โขนักถ้าเต่าดำไม่ปรากฏตัวขึ้นมาเขาคงจะตายไปแล้ว
มีเหตุผลสำคัญอีกอย่างที่ต้องยอมแพ้ในการตามล่าพวกมันคือตอนนี้มีทัพเรือลาดตระเวนผิวน้ำเป็สิบลำกำลังแล่นมาทางเขาเขาคิดหาทางที่จะให้เต่าดำออกไป
ถ้ามีใครเห็นสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนเต่าดำในตำนานจีนฉินเฟิงคงไม่กล้าจินตนาการแน่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“เต่าดำ รีบออกไปเร็ว!” ฉินเฟิงนั่งอยู่บนเรือของเขาและโบกมือให้เต่าดำ
เต่าดำเงยหน้าและคำรามหลายครั้งก่อนจะว่ายน้ำลึกลงไปในทะเลอย่างไม่เต็มใจมันไวอย่างมากไม่นานหลังจากนั้นมันก็กลายเป็จุดดำเล็กๆ ไป
“นายท่าน ข้ารู้สึกถึงปราณจิตบางเบาอยู่ใกล้ๆ” จู่ๆเ้าหมูน้อยก็พูดออกมาหลังจากที่เต่าดำออกไปแล้ว
ฉินเฟิงฮึกเหิมทันทีปราณจิตสามารถเร่งฝึกกำลังภายในและช่วยยกระดับไปสู่ขั้นถัดไปได้ฉินเฟิงเพิ่งมากังวลว่าควรพัฒนาฝีมือตัวเองดังนั้นปราณจิตจึงสำคัญอย่างมากสำหรับเขา “ไหน?”
เ้าหมูน้อยโบกขาสีชมพูของมันอย่างตื่นเต้นในระบบและชี้ไปทางขวาของฉินเฟิง“ตรงนั้น ข้ารู้สึกถึงมันตอนที่นายท่านกำลังสู้กับชายแก่พวกนั้นอยู่”