เมื่อนารินกับดาหวันเข้าเรียนในชั้นม.ปลาย เวลาก็ผ่านไป เกิบ 2 เดือน นารินก็เริ่มมีอาการแปลกๆ แต่จริงๆ แล้ว นารินกับดาหวันก็พอจะเดาออกว่าอาการที่เป็อยู่คืออะไร ทำให้นารินถึงกับน้ำตาซึม เธอที่กำลังเริ่มดีขึ้นมานิดหน่อย ก็ต้องกลับมาเ็ปอีกครั้งเมื่อผลการตรวจพบว่า เธอกำลังมีเด็กจริงๆ นารินเครียดมาก ดาหวันที่มองไปทางคนรักก็เห็นสีหน้าที่เ็ปกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เธอเฝ้าดูแลรักษาอย่างดีจนอาการหวาดกลัว หวาดระแวงของนารินเริ่มดีขึ้น กลับมาตอกย้ำเธออีกรอบ เมื่อเด็กในท้องเธอคือลูกของแม่แท้ๆ ดาหวัน มันเป็ความสัมพันธ์ที่สับสน
นารินคือแม่ของลูก แล้ว แม่แท้ๆ ของดาหวันคือพ่อของลูก ดาหวันคือพี่สาวของลูกนารินที่เป็แม่แท้ๆ จะให้เด็กเรียกพวกเธอว่าอะไร นารินไม่ยอมกลับเข้าหอพักที่โรงเรียนจนครูที่เฝ้าหอต้องโทรไปถามคนเป็พ่อเพราะลูกสาวทั้งสองคนทำผิดกฎ ดาหวันรับสาย
“คะ ดากับรินอยู่ที่คอนโดคะ เราคงกลับเข้าหอไม่ได้อีกแล้วคะ แล้วรินเองก็คงไปเรียนไม่ได้อีกเช่นกัน รินกำลังท้องคะ ตอนนี้รินเครียดมาก ดากลัวน้องจะกลับมาคิดสั้นอีก เราจะหาทางออกยังไงกันดีคะ”
คนเป็พ่อฟังแล้วก็ใ เพราะคิดไม่ถึงจริงๆ ว่านารินจะท้อง พ่อก็คิดแล้วตอบกลับไป
“มีอยู่ 2 ทาง 1.เก็บเด็กไว้แล้วไปอยู่บ้านพักที่เชียงใหม่ 2.เอาเด็กออกซึ่งอันนั้นพ่อไม่ยินยอมให้ทำแค่พูดไว้ เอาเป็ว่า ลูก 2 คนย้ายไปเชียงใหม่เดียวพ่อให้ที่อยู่แล้วฝากบอกรินด้วย ดูแลเด็กในท้องให้ดีอย่าคิดอะไรมาก เด็กในท้องลูกก็เป็หลานพ่อ พ่อจะดูแลเอง พ่อจะรับหลานมาเป็ลูกอีกคนของพ่อ และให้พ่อแท้ๆ ของเขาเป็แม่ เราสองคนก็เป็พี่สาวของเด็กในท้องไป บอกรินว่าพ่อขอ อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าทำร้ายเด็กในท้อง เขาไม่ได้ผิดอะไร อย่าเอาความผิดไปลงที่เขาให้เขาเกิดมาอย่างปกติ และได้ใช้ชีวิตแบบเด็กปกติเถอะ”
นารินได้ยินที่พ่อของเธอพูดทุกประโยคเพราะดาหวันเปิดลำโพงเอาไว้ นารินตอบพ่อไปว่า
“คะ รินทราบว่าเด็กคนนี้ไม่ผิด รินไม่คิดจะเอาออกแน่นอน แค่คิดไม่ตกเท่านั้น แต่รินคงมองหน้าเด็กคนนี้ได้ไม่สนิทใจ วันที่เขาเกิด รินรบกวนคุณ ช่วยเลี้ยงดูแทนรินด้วย รินจะไม่สร้างความผูกพันใดๆ กับเด็กคนนี้ นอกจากให้เขาอาศัยอยู่ในท้องจนคลอด เราสองแม่ลูกถือว่าขาดจากกัน รินจะไม่เป็ทั้งแม่ หรือ พี่สาว ให้เด็กคนนี้รินทำใจยอมรับไม่ได้จริงๆ คุณจะคิดว่ารินใจร้าย รินก็ยอม เพราะคนที่ทำให้เด็กคนนี้มีตัวตนขึ้นมา ใจร้ายกับรินมากกว่าหลายเท่า”
เมื่อนารินพูดจบเธอก็ตัดสายพ่อไป ทำให้ดาหวันต้องต่อสายไปใหม่และออกไปคุยนอกห้อง เพราะเธอยังไม่รู้ว่าบ้านพักอยู่ที่ไหน พอรู้ดาหวันก็เก็บของใส่กระเป๋าเดินทาง และขับรถพานารินไปยังบ้านที่พ่อบอกไว้ซึ่งมันอยู่ในตัวเมือง ไม่ห่างจาก โรงพยาบาลมากนัก
ไปถึงก็ค่ำพอดี พวกเธอเลยอาศัยอยู่ที่นี่ตามที่พ่อบอก ปล่อยให้เวลาผ่านไปวันๆ จนถึงกำหนดคลอด ซึ่งนารินไม่รู้เลยว่า คนเป็แม่คอยเฝ้าดูเธออยู่ห่างๆ ด้วยความห่วงใย ห่วงทั้งดาหวันลูกสาวแท้ๆ ห่วงทั้งนารินที่เป็ทั้งแม่ของลูกเธอและเป็ภรรยาของเธอ และที่ห่วงยิ่งกว่าคือเด็กที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลก เธอเองก็พึ่งคลอดลูกของสามีไปได้ไม่กี่เดือน เธอยังคงมีน้ำนมมากพอสำหรับเด็กสองคน เพราะสามีได้เล่าทุกอย่างให้เธอฟังตลอด และเธอก็ยอมรับกับสามีตามตรงว่า
ฉันก็ยังรักคุณเสมอไม่เคยเปลี่ยน แต่ฉันเองั้แ่ได้ร่วมรักผูกพันจนลึกซึ้งกับนาริน ฉันก็ไม่เคยมองว่านารินเป็ลูกสาวอีกต่อไป แต่ฉันมองในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง มองด้วยสายตาเดียวกันกับที่ดาหวันมองนารินคือฉันรักแบบภรรยา แต่ไม่กล้าพอที่จะแสดงตัวต่อหน้านาริน เพราะกลัวว่านารินจะทนเห็นฉันไม่ได้ แล้วคิดฆ่าตัวตายอีก ซึ่งทั้งฉันและดาหวันคงทนไม่ได้ แต่ฉันไม่เคยคิดที่จะเข้าไปแย่งนารินเพื่อให้มาเป็ของฉันอีก เพราะฉันมีลูกสาวถึง 2 คน คือดาหวันกับวันวิสาลูกคนเล็กที่เกิดจากคุณ และฉันก็กำลังจะมีลูกอีกคนที่กำลังจะเกิดจากนารินผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ฉันรักแบบภรรยาและรู้สึกผิดกับเธอมากที่ทำให้เธอตั้งท้อง ั้แ่อายุยังน้อยแบบนี้
เมื่อนารินเข้าห้องคลอดไป คนเป็พ่อกับดาหวันก็รออยู่ข้างนอก ทั้งที่ใจจริงดาหวันอยากเข้าไปด้วยที่สุด แต่เธอเองเข้าไปไม่ได้ ด้วยอายุที่ยังน้อย แถมเป็ผู้หญิงด้วยกันอีก คนเป็พ่อก็หันไปหาภรรยาที่อุ้มวันวิสาอยู่ในอกให้เดินออกมา
ดาหวันหันไปมองแม่ด้วยแววตาที่ผิดหวังและตัดพ้อ ว่าทำไมต้องกลับมา ทำไมถึงไม่หายไปจากชีวิตพวกเธอตลอดกาล แม่มองเห็นสายตาแบบนั้นของลูกรักก็บอกว่า
“แม่เลือกที่จะไปแล้ว แต่พ่อเขาก็ตามแม่กลับมา บอกแม่ว่ารินท้อง ให้แม่กลับมารับผิดชอบ เพราะรินไม่ยอมรับเด็กในท้องเป็ลูก แม่จำเป็ต้องกลับมา เพื่อลูกรักของแม่ทั้ง 3 คน ถึงอีกคนแม่จะไม่ได้เป็คนอุ้มท้องเขาก็ตามแต่แม่ก็คือคนที่ทำให้เขามีชีวิตขึ้นมา แม่ขอโทษ แม่รักลูกนะดาหวัน และก็รักรินมากเหมือนกัน แต่สบายใจได้ แม่ไม่คิดจะนารินให้เป็ของแม่แน่นอน แม่ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะแม่กลัวเหมือนดา กลัวว่ารินเจอหน้าแม่ จะกลับไปคิดถึงเื่คืนนั้นแล้วคิดฆ่าตัวตายอีก แม่รู้ว่า ทั้งแม่และดา คงอยู่ต่อไม่ได้ถ้าเสียผู้หญิงที่เรารักมากที่สุดไป”
แม่ยอมรับแบบไม่สนใจเลยว่าดาหวันจะรู้สึกยังไง ที่แม่คิดแบบนั้นกับนาริน แต่ดาหวันก็ไม่ได้สนใจอะไรมากกว่า เพราะเธอมั่นใจในตัวของนาริน ว่าไม่มีวันยอมรับผู้หญิงคนนี้เป็คู่ชีวิตของเธอแน่.
“แม่ไม่น่าทำแบบนั้นเลยจริงๆ แม่รู้มั้ยว่าแผลที่แม่สร้างไว้กับริน มันลึกแค่ไหน ทุกวันนี้แม่คิดเหรอว่ารินลืมมันได้จริงๆ ถึงรินจะนิ่ง จะเงียบ และเ็ามากแค่ไหน แต่ยิ่งรินทำแบบนั้น คือรินยังเ็ปอยู่มากในใจลึกๆ ของริน กลางคืนเวลานอนก็ต้องเปิดไฟเพราะความหวาดกลัว ดาเห็นรินต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกทุกคืนและลุกขึ้นมานั่งร้องไห้ แต่ดาทำเป็ไม่เห็นเพราะไม่อยากให้รินคิดมากหรือกังวลเพราะดา แผลนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับรินเท่านั้นแต่มันสร้างแผลไว้ที่หัวใจดาด้วย ดาเ็ปทุกครั้งที่เห็นรินใจสลาย ่แรกๆ กว่าเราจะผ่านมันมาได้ รินกริดข้อมือตัวเองเพื่อจบชีวิตตัวเองแม่รู้มั้ย แต่ลูกของแม่ในท้องรินก็ยังคงหัวแข็งเกาะติดท้องรินไม่หลุดหายไปไหนเลย จนรินรู้ว่าตัวเองท้องถึงเริ่มดีขึ้นเพื่อที่จะรักษาชีวิตเด็กคนนี้เอาไว้ในฐานะแม่คนหนึ่ง ปากรินบอกว่าเกลียดเด็กในท้อง ไม่้าเด็ก แต่ตลอดเวลาที่อุ้มท้อง รินกลับทำตรงกันข้ามรินผูกพันกับเด็กมาก แม่คิดหรือว่ารินจะยอมยกเด็กคนนี้ให้แม่ดูแล ในเมื่อคนที่ทำร้ายรินจะเอาลูกของเธอไปเลี้ยง”
คนเป็แม่ฟัง ถึงกับน้ำตาไหล สามีเธอก็กอดปลอบใจและบอกดาหวันว่า
“ถึงยังไงแม่เขาก็สำนึกผิดและยอมกลับมารับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองก่อแล้ว รินก็ต้องยอมรับมันเพราะเด็กคนนี้รินเลี้ยงเป็ลูกตัวเองไม่ได้ ความสัมพันธ์มันซับซ้อนมากเกินไป และคิดดูสิว่าพอเขาโตขึ้นรู้ความจริงจะให้เขาเรียกพวกเราว่าอะไร ให้เขาเรียกวันวิสาว่าอะไร และที่สำคัญดาก็เรียกแม่แท้ๆ ของดาว่า แม่ และจะให้ลูกของรินเรียกแม่แท้ๆ ของดาหวันกับวันวิสาว่าอะไร แล้วสังคมละ การศึกษาละ น้องของดาที่กำลังจะเกิดมาจะรับไหวมั้ย”
พอดาหวันฟังที่พ่ออธิบาย เธอก็คิดตามเพราะเธอเองก็ไม่ใช่คนโง่ พ่อพูดถูกทั้งหมด ถึงยังไงพวกเธอยังเด็ก ยังเรียนอยู่ ไม่สามารถเลี้ยงลูกของรินเป็ลูกพวกเธอได้ เธอต้องตัดใจอย่างเดียวยอมยกเด็กให้พ่อกับแม่ ถึงจะทำได้ แต่ความจริงก็คือความจริงที่ว่า แม่ของเธอคือพ่อผู้ให้ชีวิตเด็กคนนี้จริง
ดาหวันน้ำตาไหล อย่างโกรธแค้นแม่แท้ๆ ของเธอเอง ถึงดาหวันจะเข้าใจ และรักแม่มาก แต่เธอก็ผิดหวังมากเช่นกัน ที่ต้องทนเห็นคนที่เธอรักเ็ปในทุกๆ คืน แม้แต่เวลาที่อุ้มท้องใช่ว่า อาการนอนผวาจะหายไป มันก็ยังคงมีอยู่ แค่น้อยลง ดาหวัน หันกลับไปพูดกับแม่ว่า
“อย่าได้คิดจะกลับเข้ามาแตะต้องผู้หญิงของดาอีกเป็ครั้งที่สอง ไม่งั้นแม่จะไม่ได้เห็นหน้าลูกของแม่สักคนไปตลอดชีวิต เพราะดาจะพาน้องทุกคนที่แม่ให้กำเนิดมาไปเลี้ยงดูพวกเขาเอง แม่รู้จักดาหวันลูกสาวของแม่ดีใช่มั้ย ว่าคนอย่างดาหวัน พูดแล้วทำได้”
เมื่อแม่ฟังคำพูดที่ลูกสาวขู่เธอ คนเป็แม่กอดวันวิสาไว้แน่นเพราะกลัวดาหวันจะพรากเธอไปจากอก เพราะดาหวันเดินเข้ามาทำท่าจะอุ้มวันวิสา แต่สีหน้าลูกสาวกลับเปลี่ยนเป็อ่อนโยนเมื่อเห็นหน้าน้องสาวคนสวยเป็ครั้งแรก คนที่รักเด็กแบบดาหวันก็อ่อนลงทันที และขอแม่อุ้มน้อง
“แม่คะ ขอดาอุ้มยัยเด็กแก้มป่องหน่อยคะ น่าฟัดจริงๆ น้องสาวพี่”
แม่เห็นว่าลูกสาวคนโตของเธออ่อนลง ก็มองหน้าสามี ก่อนจะส่งให้ดาหวันอุ้ม เมื่อเธอได้อุ้มก็ทั้งรักและดีใจที่มีน้องสาวแท้ๆ เป็ของตัวเอง ถึงจะอายุห่างกันถึง 16 ปีก็ตาม เธอบอกกับน้องสาวแรกเกิดเป็คำสัญญาว่า
“ถ้าวันไหนเธอรู้สึกเบื่อ หรือ ท้อแท้ในชีวิต เธอจำเอาไว้นะว่า เธอยังมีพี่สาวอีก 2 คนที่ยินดีจะคอยดูแลเธอเสมอ และถ้าวันใด แม่เกิดทำให้เธอผิดหวังจนทนอยู่ด้วยไม่ได้ให้เธอบอกพี่ พี่จะรีบมารับเธอทันทีไม่ต้องทนอะไรทั้งนั้น อย่าได้ทนเ็ปอยู่ลำพัง เพราะเธอมีพี่น้องถึง 4 คน จำเอาไว้ พี่ขอสัญญากับเธอ วันวิสาน้องรักของพี่”
คนเป็แม่ฟังแล้ว ทั้งดีใจและใจหาย ที่ลูกสาวคนโต ชั่วชีวิตนี้ คงไม่มีวันให้อภัยเธอแน่ และไม่ต้องหวังว่าจะได้ลูกสาวคนโตของเธอกลับคืนมาอีก แม้แต่อ้อมกอด ดาหวันก็ไม่สามารถให้แม่ของเธอได้อีก ดาหวันส่งวันวิสาคืนให้แม่ไป แล้วกระซิบข้างหูแม่ว่า
“จำให้ขึ้นใจนะคะคุณแม่ วันวิสาคือลูกสาวแท้ๆ ของแม่ อย่าได้คิดทำอะไรล้ำเส้นมากกว่าความเป็แม่อีกเป็ครั้งที่สอง เพราะคราวนี้ ดาจะฆ่าแม่ด้วยมือดาเอง เพราะน้องสาคือน้องสาวแท้ๆ ของดา ไม่ใช่น้องสาวแบบนาริน”
คำพูดของดาหวัน และสายตาที่จริงจัง มองมาทางเธอด้วยความเ้าคิดเ้าแค้น ทำให้เธอถึงกับรีบถอยหลังจนเกิบจะล้ม ดีที่สามีประคองเธอไปนั่ง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้