ทุกครั้งที่ซ่งอวี้มา ล้วนมีหลี่เฉิงติดตามมาด้วย แต่ครั้งนี้นางมาตามลำพัง อีกทั้งสีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก เป็เพราะเหตุใด เพียงครุ่นคิดก็พอจะคาดเดาได้แล้ว
ซ่งอวี้ยกมุมปากขึ้น เดิมทีนางอยากจะพูดบางสิ่ง แต่เมื่อเห็นแววตาของท่านจ้าวก็กลืนเหตุผลต่างๆ กลับเข้าไป
"ท่านหมอ แววตาเฉียบแหลมยิ่งนัก" ท่ามกลางแววตาที่จ้องมองมานั้น ในที่สุดซ่งอวี้ก็ปลดเปลื้องการเสแสร้งของตนเอง ไม่แกล้งทำเป็เข้มแข็งอีก สีหน้าของนางย่ำแย่ยิ่งกว่าเมื่อครู่
ท่านจ้าวเดินนำซ่งอวี้เข้าไปด้านในห้องโถง จากนั้นให้ลูกศิษย์ยกน้ำชามาให้ซ่งอวี้ ดูจากสีหน้าของนางแล้ว คงเป็เหมือนที่เขาคิดจริงๆ
"มา เ้าหนูซ่ง ชิมดูสิ ว่าชาของข้ารสชาติเป็อย่างไร? ปกติยามข้ามีเื่หงุดหงิดใจ ข้าก็จะชงชาหนึ่งกา ดมกลิ่นหอมของชา หลังจากนั้นเื่น่าปวดหัวเ่าั้ก็ไม่น่าปวดหัวเท่าใดแล้ว"
แน่นอนว่าชาที่ใช้ต้อนรับแขกล้วนเป็ชาชั้นดี ถึงแม้ซ่งอวี้จะไม่เคยศึกษาเื่ชามาก่อน แต่นางเข้าใจข้อนี้เป็อย่างดี ซ่งอวี้ยกถ้วยน้ำชาขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาโชยเข้ามาในจมูก มีความสดชื่นเล็กน้อย ทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุ้ยฮวา
"ชาของท่านหมอย่อมเป็ชาชั้นดี แต่น่าเสียดาย ข้าเป็คนหยาบกระด้าง สนใจแต่เื่หาเงินเลี้ยงชีพ การจิบน้ำชาที่สง่างามเช่นนี้ วันนี้เป็ครั้งแรกของข้า"
ซ่งอวี้รู้ว่าท่านจ้าวเชิญนางดื่มชาเพราะเห็นว่าสีหน้าของนางเศร้าหมอง จึงอยากจะปลอบใจ แม้จิตใจของนางจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่นางก็ไม่อาจทำลายน้ำใจของผู้อื่นได้
ทว่าท่านจ้าวกลับหัวเราะเสียงดังแล้วพูดขึ้น "แค่เพียงดื่มชาเท่านั้น สง่างามไม่สง่างามอะไรกัน ยกตัวอย่างเช่นใบชานี้ เ้ารู้สึกว่าสง่างาม แต่มันก็เป็เพียงใบชาที่ผ่านการคั่วในความร้อน เมื่อพูดอย่างละเอียดแล้ว ไม่แตกต่างอะไรกับการทำอาหาร"
ท่านจ้าวยกถ้วยน้ำชาขึ้น มองไปด้านหน้า น้ำเสียงของเขาเปี่ยมไปด้วยความหลักแหลม "การคั่วชาต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน เก็บใบชา ผึ่งใบชา คัดเลือกใบชา คั่วใบชา นวดใบชา นำใบชาไปอบแห้ง สุดท้ายยังต้องเลือกก้านออกมา หากนำกรรมวิธีเหล่านี้มาเปรียบเปรยกับชีวิตมนุษย์ ใกล้เคียงกันมากใช่หรือไม่?"
"ชีวิตของมนุษย์มีเพียงไม่กี่สิบปีเท่านั้น คำว่าวาสนาสองคำนี้คอยติดตามั้แ่ต้นจนจบ วาสนาที่ได้เกิดมาเป็ญาติกัน วาสนาที่ได้ผูกมิตรกัน ล้วนเป็วาสนา แต่หากไม่นำวาสนาเหล่านี้ไปผึ่ง ไปคัดเลือก ไม่เด็ดก้านออกมา เพียงเื่เล็กน้อยก็ทำให้แยกจากกันได้ เ้าว่าใช่หรือไม่?"
ซ่งอวี้ถือถ้วยชาแล้วคิดตาม นางคิดว่านางเข้าใจสิ่งที่ท่านจ้าวอยากจะบอกนางแล้ว
ท่านจ้าวเปรียบเทียบวาสนาของมนุษย์กับกรรมวิธีต่างๆ ในการผลิตชา เพื่อจะบอกนางว่า วาสนาไม่ได้มาง่ายๆ จำต้องทำทีละขั้นทีละตอน หากยอมแพ้กลางทางเพียงเพราะเื่เล็กๆ น้อยๆ เช่นนั้นย่อมได้ไม่คุ้มเสีย
ท่านจ้าวสังเกตสีหน้าของซ่งอวี้ตลอดเวลา เมื่อเห็นว่านางคล้ายจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าอย่างชื่นชม "เข้าใจแล้วหรือ?"
หญิงสาวคนนี้ฉลาดหลักแหลมและมองทะลุปรุโปร่ง ไม่ใช่คนธรรมดา หากให้โอกาสนาง วันข้างหน้า ชีวิตต้องโชติ่อย่างแน่นอน เวลานี้ร้านยาถงอันรู้จักกับนางเพียงผิวเผิน เพียงพูดให้คำแนะนำเท่านั้น สำหรับเขาแล้วถือเป็เื่เล็กน้อย แต่กลับทำให้ซ่งอวี้ประทับใจร้านยาถงอัน วันข้างหน้ารอนางได้ดิบได้ดี พวกเขาย่อมได้ผลประโยชน์
แม้ท่านจ้าวจะคิดถึงส่วนได้ส่วนเสียของร้านยาถงอัน แต่คำชื่นชมของเขาที่มีต่อซ่งอวี้มาจากใจจริง
"คำพูดของท่านจ้าวราวกับตีแสกกลางหน้า ข้าเข้าใจแล้วเ้าค่ะ ขอบคุณท่านจ้าวมาก"
ตอนที่ซ่งอวี้เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ความเสียใจและความเศร้าบนดวงหน้าของนางลดลงไปมากแล้ว แทนที่ด้วยความหนักแน่นและความมั่นใจ แม้หลี่เฉิงจะไม่ทิ้งคำพูดใดๆ เอาไว้ แต่หากเพราะเื่นี้ทำให้นางคิดว่าหลี่เฉิงเป็บุรุษไร้หัวใจทรยศหักหลังความสัมพันธ์ ก็ถือเป็การไม่ยุติธรรมกับหลี่เฉิง
ภาพตอนที่หลี่เฉิงทำเพื่อนางถึงขั้นยอมถูกงูกัดยังคงตราตรึง อีกทั้งหลังจากนั้นเขาก็บอกกับนางว่า 'ข้ารักเ้า' ด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความรู้สึกของเขาจริงแท้และน่าตื้นตัน นางไม่เชื่อว่าทั้งหมดนี้จะเป็เื่โกหก
"พรหมลิขิตไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ข้าย่อมรักษาอย่างดีเ้าค่ะ" นางจะหาหลี่เฉิงให้เจอ หลังจากนั้นจะถามเขาว่าเหตุใดวันนี้จึงไปไม่ลา
เมื่อถึงเวลานั้น แม้จะเป็เพียงถ้อยคำเ็านางก็จะไม่เสียใจ อย่างน้อยนางก็ได้ให้คำตอบกับตัวเอง
เมื่อมีเป้าหมายในใจแล้ว สีหน้าของซ่งอวี้ก็ดีขึ้นมาก นางรู้สึกขอบคุณท่านจ้าวจากใจจริง "ท่านจ้าว น้ำใจของท่าน ข้าซ่งอวี้จดจำเอาไว้แล้ว วันข้างหน้าหากท่านจ้าวมีสิ่งใดให้ข้าช่วยเหลือ ได้โปรดอย่าเกรงใจ ข้าย่อมช่วยเหลือโดยไม่ปฏิเสธ"
พูดจบ ซ่งอวี้ก็เดินอมยิ้มออกไป
ท่านจ้าวมองตามหลังซ่งอวี้ กระทั่งนางลับสายตาไปเขายังคงไม่ละสายตา แล้วพูดขึ้น "คุณชายน้อยคิดอย่างไรขอรับ?"
คุณชายคนหนึ่งเดินออกมาจากประตูด้านหลัง ซึ่งก็คือคุณชายที่ปรากฏตัวอยู่ในร้านยาถงอันเมื่อคราวก่อน ตอนที่ซ่งอวี้มาเดิมพันกับท่านจ้าว เวลานี้ท่านจ้าวเรียกเขาว่าคุณชายน้อย
"สตรีไม่เป็รองบุรุษ" คุณชายน้อยเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าฉายรอยยิ้ม สะบัดพัดในมือเบาๆ สีหน้าไหวหวั่น "ท่านจ้าวจะควบคุมนางได้หรือ?"
ไม่ว่าจะด้านจิตใจหรือด้านความสามารถ ล้วนเป็อันดับหนึ่ง ความคิดของเขาและท่านจ้าวเหมือนกัน รู้สึกว่าสักวันหนึ่งซ่งอวี้ต้องยืนอยู่บนที่สูง หากเวลานี้ดึงตัวนางมาอยู่ด้วย ตีตราสัญลักษณ์ของพวกเขาเอาไว้ วันข้างหน้าจะต้องมีประโยชน์ล้นเหลือแน่นอน
แต่ท่านจ้าวที่เคารพเขามาโดยตลอดกลับไม่เห็นด้วยกับการกระทำเช่นนี้ของเขา "หากทำให้นางเป็หนี้บุญคุณ วันข้างหน้าย่อมเอ่ยปากง่าย นางเองก็ไม่อาจปฏิเสธ แต่หากให้นางอยู่ใต้บัญชา..."
ท่านจ้าวพูดถึงตรงนี้ก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่งแล้วค่อยพูดต่อ "ข้าขอพูดตามตรง วันข้างหน้าเ้าหนูซ่งอาจจะไม่รับใช้คุณชายน้อยด้วยใจจริงก็ได้ขอรับ"
"หื้ม?" คำตอบนี้คล้ายจะเหนือความคาดหมายของคุณชายน้อย เขาจึงถามด้วยความสงสัย "โปรดอธิบาย"
แม้เบื้องหน้าร้านยาถึงอันจะเป็เพียงสำนักแพทย์เล็กๆ ของแคว้นเทียนเฉิง แต่บรรดาผู้ที่มีอำนาจต่างรู้ดีว่า พวกเขาเพียงไม่อยากแสดงอำนาจเท่านั้น
หากด้วยอำนาจของร้านยาถงอัน ยังไม่อาจทำให้ซ่งอวี้พร้อมที่จะรับใช้พวกเขา คงเป็ไปไม่ได้กระมัง
ท่านจ้าวจิบชา เวลานี้ความร้อนของชากำลังพอดี เมื่อน้ำชาเข้าไปในปากก็หอมกรุ่นทั่วทั้งปาก "คุณชายน้อย สืบภูมิหลังของซ่งอวี้ก่อนค่อยตัดสินใจดีหรือไม่ขอรับ?"
แม้เขาจะแนะนำเช่นนี้ แต่ความเป็จริงเขาแสดงเจตจำนงของตนแล้ว
น้อยครั้งนักที่ท่านจ้าวจะมองคนพลาด แม้เบื้องหน้าซ่งอวี้จะเป็คนสุขุมถ่อมตนและไม่โอหัง คล้ายคนที่เกิดในตระกูลขั้นสูง แต่ความเป็จริงนางหยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างมาก หากคนในร้านยาถงอันสามารถเอาชนะนางด้านการรักษาได้ เช่นนั้นก็ยังคงมีความเป็ไปได้
แต่ว่าเป็ไปได้หรือ? ตอนนี้ยังไม่ครบกำหนดครึ่งเดือนที่ตกลงกันไว้ ท่านจ้าวก็อยากจะยอมแพ้แล้ว
สุนัขตัวนั้นอยู่ที่เรือนหลังของร้านยาถงอัน เขาให้คนคอยไปดูอยู่เสมอ สุนัขตัวนั้นฟื้นตัวได้เร็วกว่าสุนัขของเขา นี่คือข้อพิสูจน์ที่ดีที่สุด
แต่ความคิดของท่านจ้าวไม่ได้หมายถึงความคิดของคุณชายน้อย
เมื่อได้ยินท่านจ้าวพูดเช่นนี้ เป็จริงตามคาด คุณชายน้อยไม่สบอารมณ์เล็กน้อย บอกให้คนไปสืบ แต่กลับบังเอิญสืบเจอเื่บางอย่าง ซึ่งถือเป็เื่ดีๆ ที่ไม่คาดคิด
หลังจากซ่งอวี้กลับไปที่เรือน นางก็ไม่ได้พูดถึงหลี่เฉิงอีก ทำเหมือนชีวิตของนางไม่เคยมีคนชื่อหลี่เฉิงเข้ามาข้องเกี่ยว
ทว่าการที่นางไม่พูด ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่พูด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้