เมื่อได้ยินหยางเฉินพูดเช่นนี้เฉียงเวยพลันคิดไปว่าตัวเองหูฝาดไป เธอจึงถามขึ้นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่า
"คุณสามีกำลังชวนฉันออกไปข้างนอกหรือคะ"
"ใช่ อ้าท่านหญิงเฉียงเวยไม่อยากออกไปทานมื้อค่ำกับพนักงานออฟฟิศตัวน้อยๆ อย่างผมใช่มั้ยครับ?" หยางเฉินแสร้งพูดขึ้นด้วยท่าทางเสียใจ
เมื่อแน่ชัดแล้วว่าเธอไม่ได้หูฝาดไปใบหน้าของเฉียงเวยจึงเต็มไปด้วยความปีติยินดี และกระตือรือร้นเป็อย่างมากราวกับว่าเื่ที่กำลังเกิดขึ้นทั้งหมดไม่ใช่เื่จริง
"ถ้างั้น... ฉันขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ"
แม้จะเป็ผู้หญิงแต่เห็นได้ชัดว่าเฉียงเวยนั้นแต่งตัวเร็วกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ เธอเพียงแค่เปลี่ยนชุดกระโปรงยาวสีม่วงรองเท้าส้นสูงเข้าชุด แต่งหน้าง่ายๆ ไม่ถึงสิบนาทีเฉียงเวยก็เดินออกมาจากบาร์มาพร้อมหยางเฉิน
"เราจะไปที่ไหนกันดีคะ คุณสามี?"เฉียงเวยกะพริบตาเอ่ยถามหยางเฉินอย่างยั่วยวน
หยางเฉินคิดสักพักก่อนกล่าวว่า
"ผมจำได้ว่าคุณมีรถเราขับไปกินอาหารไกลๆ กันดีมั้ย"
เฉียงเวยเผยดวงตาใสกระจ่างเธอหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรออกทันที
"เสี่ยวจ้าว ให้คนเอารถที่ฉันเพิ่งซื้อเมื่อปีที่แล้วมาจอดที่หน้าบาร์หน่อย ฉันต้องใช้มัน"
ไม่นานนักรถคันหนึ่งก็หยุดลงตรงหน้าบาร์คนขับรถเปิดประตูออกมาพร้อมโค้งคำนับให้เฉียงเวยจากนั้นส่งกุญแจให้ด้วยสองมือ
เฉียงเวยรับกุญแจมาก็ส่งตรงให้หยางเฉินทันทีพร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
"คุณสามีขับนะคะฉันขับไม่เป็"
หยางเฉินแปลกใจเล็กน้อยเพราะรถโลตัสคันนี้เป็รถที่ค่อนข้างหายากในประเทศจีน ซึ่งในต่างประเทศนั้นยกให้รถคันนี้อยู่ในระดับไฮเอนด์ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นคล่องตัว เป็ที่ต้องตาต้องใจสาวๆ
นี่เป็ครั้งแรกที่หยางเฉินได้เห็นมัน ถึงแม้ว่าหลินรั่วซีจะมีรถหรูมากมายเก็บไว้ในบ้าน แต่ก็ยังไม่มีรถคันนี้ไว้ใน
"คุณได้มันมายังไงเหรอ?" หยางเฉินเปิดประตูรถพลางเอ่ยถาม
เฉียงเวยพาตัวเองเข้าไปนั่งข้างคนขับด้วยท่าทีที่สง่างามดุจนางพญา และยกมุมปากยิ้มขึ้นอย่างอายๆ
"ฆาตกรรม วางเพลิง ลักพาตัวฉันยังพอเข้าใจ แต่เื่รถนี่ฉันไม่มีความรู้เลยจริงๆ พวกเขาส่งรูปรถมาให้ฉันดูฉันเห็นว่ามันสวยดีเลยเลือกคันนี้มา"
หยางเฉินกล่าวอย่างไม่พอใจว่า
"เป็สาวเป็แส้อย่าพูดเื่แก๊งมาเฟียสิคนผ่านไปผ่านมาได้ยินเข้าจะมองไม่ดีเอา"
แล้วที่นี่ไม่ใช่ฐานของแก๊งมาเฟียหรือไง!? เฉียงเวยขบกัดริมฝีปากบางแต่ก็ยังคงพยักหน้า
หยางเฉินขับรถโลตัสไปตามทางหลวงมุ่งหน้าเข้าสู่เขตชานเมืองริมทะเลสาบที่มีร้านภัตตาคารหรูหราจำนวนมาก
ไม่นานนักหยางเฉินก็หยุดรถลงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเขาจับมือเฉียงเวยไว้พร้อมกล่าวว่า
"ผมช่วยเปิดประตูให้นะครับ"
กล่าวจบหยางเฉินก็เดินอ้อมไปอีกด้านหนึ่งของรถแล้วแล้วเปิดประตูพร้อมทำท่าทางเชิญชวนออกมา
"เชิญครับคุณผู้หญิง"
พนักงานต้อนรับในร้านอาหารเห็นภาพตรงหน้า ก็ยังคงมีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยใจบริการประดับอยู่บนใบหน้า เพราะพวกเขาต่างคุ้นเคยกับฉากเหล่านี้เป็อย่างดี
แต่สำหรับเฉียงเวยอาจจะต่างออกไปเมื่อเห็นหยางเฉินปฏิบัติกับเธอเหมือนเ้าหญิง เธอก็รู้สึกอายจนแสดงออกทางสีหน้า
เื่บางเื่แม้จะรู้สึกอายแต่พวกเธอก็สนุกไปกับมัน
ทั้งสองจับมือกันเดินเข้าไปในร้านอาหารสไตล์ยุโรปยุคกลาง ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ
หยางเฉินเห็นเฉียงเวยมองไปรอบๆด้วยสีหน้าตื่นเต้น ก่อนกล่าวขึ้นว่า
"ผมพาคุณมาเปิดหูเปิดตาข้างนอกเพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย อยู่แต่ในห้องแคบๆ อย่างนั้นคงจะเบื่อแย่ จริงมั้ย"
เฉียงเวยส่ายหัว
"หากไม่ได้รู้จักกับคุณฉันคงจะเบื่อแย่ แต่ในตอนนี้ฉันมีคุณอยู่เคียงข้างแล้ว"
"ถึงผมจะไม่ได้ร้องไห้ออกมาแต่เชื่อผมเถอะ คุณทำให้ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ" หยางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
เฉียงเวยยิ้ม "ฉันไม่รู้ว่าคุณจะพาไปที่ไหนเลยไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆดูสิฉันใส่ชุดเหมือนคนบ้านนอกเลย"
"ให้ผมซื้อให้เอามั้ย? ผมไม่เห็นคุณซื้อเสื้อผ้าใหม่มานานมากแล้ว" หยางเฉินถาม
เฉียงเวยส่ายหัวปฏิเสธ
"สิ้นเปลืองเปล่าๆ ฉัน อา... แต่ถ้าคุณซื้อเสื้อเกราะกันะุให้ฉันก็จะพิจารณาดูอีกที"
ทั้งสองเดินตามบริกรไปยังโต๊ะอาหารตรงมุมหนึ่ง
เมื่อนั่งลงหยางเฉินก็ถามหาไวน์ลาฟิตปี1983 ราคาของมันทำให้บริกรสาวยิ้มเบิกบานขึ้นมาทันที
แต่เมื่อหยางเฉินสั่งสเต๊กเพิ่มอีกสามจานนั่นกลับทำให้บริกรสาวสงสัยขึ้นมา
"คุณผู้ชายคะยังมีมาสองท่านใช่มั้ยคะ?"
หยางเฉินส่ายหัวกล่าวว่า "เปล่าครับผมกินเองทั้งหมด"
ใบหน้าพนักงานเสิร์ฟเปลี่ยนไปเล็กน้อย บนหน้าผากของเธอเหมือนมีคำว่า ''ร้ายกาจ!!'' ติดเอาไว้
เฉียงเวยขมวดคิ้วและกล่าวว่า
"คุณสามี กินผักเยอะๆนะคะ กินเนื้อสัตว์มากไม่ดีต่อร่างกาย"
หยางเฉินยิ้มนุ่มนวล
"แม้ว่างานวิจัยต่างๆ จะบอกว่ากินเนื้อสัตว์มากๆนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ผมก็ชอบกินเนื้อสัตว์มาั้แ่เด็กๆ หลายปีที่ผ่านมาผมแทบจะกินเนื้อสัตว์แทนข้าว แน่นอนว่ามันอาจไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่คุณอย่าลืมสิร่างกายผมไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป..."
ในประโยคสุดท้ายของหยางเฉินแฝงไปด้วยความขมขื่นเล็กน้อย
เฉียงเวยบ่นอุบขัดจังหวะหยางเฉิน
"อย่าพูดว่าคุณไม่เหมือนคนปกติสิคะ"
เมื่อรู้ว่าหญิงสาวไม่ชอบหยางเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเขาหยิบส้อมกับมีดขึ้นมาตัดแต่งเนื้อสเต๊กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
แม้ว่าเฉียงเวยจะไม่ได้ทานอาหารในภัตตาคารบ่อยนักแต่เธอก็เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย และมีการศึกษาดังนั้นลักษณะท่าทางการกินของเธอนั้นจึงสง่างามไร้ที่ติ ปากเล็กค่อยๆ จิบไวน์แดงอย่างเป็ธรรมชาติ
ทั้งสองสนทนากันอย่างออกรส พวกเขาย้อนรำลึกไปถึงเื่ราวในอดีต ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะผ่านไปไม่นานนัก แต่ทุก่เวลาที่เกิดขึ้นล้วนเต็มไปความประทับใจ
ทันใดนั้นเองพนักงานเสิร์ฟก็ถือแก้วมาร์การิต้าใบน้อย ส่งยิ้มอย่างสุภาพให้เฉียงเวยพร้อมกล่าวขึ้นว่า
"คุณผู้หญิงคะคุณผู้ชายท่านนั้นให้ฉันนำเครื่องดื่มแก้วนี้มาให้ และยังฝากข้อความให้คุณด้วย"
"ใคร? ข้อความอะไร?" เฉียงเวยยังคงไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
พนักงานเสิร์ฟกล่าวอย่างสุภาพว่า
"คุณผู้ชายท่านนั้นฝากมาบอกว่ามีเพียงมาร์การิต้าเท่านั้นที่คู่ควรกับความงามของคุณ"
เฉียงเวยรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย แต่เมื่อมองไปที่หยางเฉินที่ยังคงไม่มีปฏิกิริยาอันใดเธอก็หันกลับไปที่พนักงานเสิร์ฟอีกครั้ง
"ส่งกลับไป ฉันไม่้า"
พนักงานเสิร์ฟสาวเดินกลับไปไม่นานชายในชุดสูท รองเท้าหนัง ผมสีดำเงาวับที่หวีเก็บจนเรียบแปล้ แว่นทองคำ ในมือถือขวดไวน์ระดับโลกก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของเฉียงเวย
"คุณผู้หญิงครับ ผมชื่อเจียงเหวินเพียงเพราะผมอยากจะชื่นชมในความงามไร้ที่ติของคุณ จึงได้ส่งขวดไวน์นี้มาให้ ไม่ได้มีเจตนาจะรบกวนใดๆ"เจียงเหวินกล่าวขึ้นอย่างยิ้มแย้ม พร้อมเมินเฉยหยางเฉินไปโดยสิ้นเชิง
เฉียงเวยวางมีดและส้อมลงขมวดคิ้วเล็กน้อย
"ฉันบอกว่าไม่้าไง!"
"คุณผู้หญิงครับ หากคุณให้โอกาสผม ผมสัญญาว่าคุณจะได้มากกว่าสเต๊กขนาดยี่สิบสองออนซ์นี้อย่างแน่นอน"
เจียงเหวินกล่าวเสียดสีหยางเฉินที่ยังคงถือมีดกับส้อมอยู่ในมือ
อย่างไรก็ตามท่าทางที่มั่นใจของเจียงเหวินทำให้เฉียงเวยเริ่มจะไม่พอใจมากขึ้นทุกชั่วขณะ
หลังจากจัดการชิ้นเนื้อสุดท้ายหยางเฉินก็ใช้ผ้าสีขาวเช็ดปาก จากนั้นจึงหันมากล่าวกับเจียงเหวินว่า
"ไวน์ของนายราคาแพงมากใช่หรือเปล่า"
เจียงเหวินยังคงไม่ได้หันไปมองเขายังคงลุ่มหลงไปกับความงามของเฉียงเวย
"ลาฟิต แม้จะเป็สุดยอดแห่งไวน์แต่หากเทียบกับมาร์การิต้าขวดนี้ ย่อมไม่ใช่คู่แข่ง บอกไปคุณก็คงไม่เข้าใจหรอกครับ"
"เยี่ยมแต่ฉันก็ไม่ได้อยากรู้อยู่แล้ว"
หยางเฉินยืนขึ้นอย่างสบายๆ เอื้อมมือออกไปคว้าขวดไวน์ที่มือของเจียงเหวิน
ความแข็งแรงของเจียงเหวินมีหรือจะเปรียบเทียบกับหยางเฉินได้ขวดไวน์ตกไปอยู่ในมือของหยางเฉินทันที
"คุณจะทำอะไรน่ะ!?" เจียงเหวินอุทานออกมาอย่างใจหาย
หยางเฉินหมุนขวดไวน์เล่น พลางใช้สายตาแหลมคมพิจารณาไปั้แ่ฉลากไวน์จนถึงรอบๆ ขวด เจียงเหวินเห็นดังนั้นก็ทำได้เพียงฝืนยิ้มน้อยๆ
"เดี๋ยวนายก็รู้"
คำพูดของหยางเฉินยังไม่ทันจบลงดี ขวดไวน์ก็โบยบินขึ้นดั่งวิหคโผบินออกจากรัง!
เพล้ง!
เสียงขวดไวน์แตกดังสนั่น ของเหลวสีทับทิมสาดกระจาย ทำให้คนภายในร้านอยู่ในความตื่นตระหนก และต่างหันมามองต้นตอของเสียง!
หยางเฉินใช้ขวดไวน์แดงฟาดเข้าที่หน้าผากของเจียงเหวินเข้าอย่างจัง!
จนไม่อาจแน่ใจได้ว่าของเหลวที่ไหลออกมาจากหัวของเขาคือ สีแดงที่มาจากเืหรือไวน์แดงกันแน่!
"นายมาบอกว่าฉันกินมากและยังหน้าด้าน้าจะคว้าผู้หญิงของฉันอีก นี่ไม่เรียกว่าแส่หาเื่หรือไง?"
หยางเฉินโยนขวดที่เหลือให้เจียงเหวินและหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดมือ
ผู้คนโดยรอบมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมึนงงเจียงเหวินที่น่าสงสารกลับโดนไวน์แดงมูลค่ามากกว่าหนึ่งหมื่นหยวนของตัวเองฟาดใส่หน้าผากไปอย่างไม่ทันตั้งตัว!